ควายที่แต่เดิมเป็นสัตว์ป่าที่มนุษย์ได้จับมาฝึกฝน เลี้ยงดูเพื่อการใช้แรงงาน ทำให้ควายกับมนุษย์มีความผูกพันกันจนถึงปัจจุบัน คุณน่าจะเคยได้เห็น ควาย หรือ อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับควายมาแล้วมากมายไม่ว่าจะเป็นในแง่ของประวัติศาสตร์ หรือ การประกอบอาชีพหลักของประเทศไทยของเรา อย่างการทำนา แต่ปัจจุบัน ควาย เป็นมากกว่านั้น เพราะพวกมันได้เป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมการท่องเที่ยวของประเทศด้วย
หากเราจะพูดถึงประวัติควาย ง่ายๆ ตามลักษณะที่เราเห็นก็คือ พวกมันเป็นสัตว์ประเภทเคี้ยวเอื้อง ที่มีขนาดใหญ่ มีสีดำและมีเขาโค้ง ควายเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม และมีอายุขัยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 25 ปี นอกจากนั้น คำว่า ควาย ตามพจนานุกรมยังกล่าวไว้อีกว่า ควาย หมายถึง คนโง่ เซ่อ หรือคนตัวใหญ่ที่ไม่ฉลาด ที่เรามักจะได้เห็นอยู่ทั้งในคำพังเพย อย่างเช่น คำเปรียบเปรยที่ว่า โง่เป็นควาย หรือสุภาษิตต่าง ๆ เช่น สีซอให้ควายฟัง เสี้ยมเขาควายให้ชนกัน เป็นต้น นั่นทำให้คำว่าควายถือเป็นคำที่ส่อถึงความไม่สุภาพด้วย ทำให้มีการใช้คำว่า “กระบือ” หรือ “ทุย” ในการใช้เรียกควายแทน เพื่อเป็นการไม่แสดงการดูถูกสัตว์ที่มีคุณประโยชน์กับชาติ ทั้งในด้านประวัติศาสตร์ หรือการประกอบอาชีพ มาตั้งแต่สมัยโบราณ
อย่างไรก็ตามแม้ว่ายุคสมัยจะเปลี่ยนไป วิวัฒนาการของโลกก้าวไปจนมีการใช้เครื่องมือต่าง ๆ เข้ามาช่วยแทนการใช้ควายไถนาแล้ว แต่ควายก็ยังคงไม่หมดประโยชน์ไปเลยแม้แต่น้อย เพราะมีนักธุรกิจหัวใสบางส่วนได้ใช้ควายมาเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมธุรกิจการท่องเที่ยว ทั้งในเชิงวัฒนธรรม หรือ สำหรับการพักผ่อนหย่อนใจ อย่างเช่นที่ หมู่บ้านอนุรักษ์ควายไทย ฟาร์มควายนมเชิงท่องเที่ยว คันนาค่าเฟ่ เป็นต้น
โดยเฉพาะ ควายเผือก ที่มีลักษณะโดดเด่น ซึ่งควายเผือกเหล่านี้เกิดจากการกลายพันธุ์ หรือความผิดปกติทางพันธุกรรม ซึ่งพวกมันจะมีสีขาวอมชมพูตลอดทั้งตัว รวมถึงเขาของมันด้วย และต้องยอมรับว่าควายเผือกทำให้การท่องเที่ยวชมควายดูน่าสนใจมากขึ้นไปอีก เพราะนอกจากควายเผือกเป็นควายที่หาดูได้ยากเลยทีเดียว
อีกปัจจัยที่ทำให้การท่องเที่ยวชมควายได้รับความนิยมก็คือ การที่ควายไทยใกล้สูญพันธ์แล้ว เนื่องจากควายไม่ได้รับความนิยมในหมู่เกษตรกรในการเลี้ยงควายไว้ใช้งานอีกต่อไป ทำให้ปัจจุบันเราสามารถหาดูควายได้ยากขึ้น ซึ่งควายส่วนใหญ่มักจะถูกเลี้ยงไว้ตามคาเฟ่ หรือฟาร์ม ทำให้พ่อแม่ ผู้ปกครองได้มีโอกาสนำบุตรหลาน ออกไปชมสัตว์ที่ใกล้สูญพันธุ์นี้มากขึ้น
โดยแบ่งออกเป็น สัตว์ปีก สัตว์บก สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ สัตว์น้ำ สัตว์เลื้อยคลาน จากนั้นก็บอกถึงลักษณะและพฤติกรรมเด่น ๆ หรือ ฉายาของสัตว์นั้น ๆ