วาฬสีน้ำเงิน พี่เบิ้มแห่งโลกใต้ทะเล

วาฬสีน้ำเงิน พี่เบิ้มแห่งโลกใต้ทะเล

คุณรู้หรือไม่ว่า วาฬสีน้ำเงิน หรือ ปลาวาฬสีน้ำเงิน ที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นพี่เบิ้มใหญ่แห่งท้องทะเล แม้ว่าพวกมันจะอาศัยอยู่ใต้ท้องทะเลลึก แต่ในความจริงแล้ววาฬสีน้ำเงินมีบรรพบุรุษที่เป็นสัตว์บกสี่ขาก่อน แต่ถ้าเรื่องนี้ยังทำให้คุณรู้สึกตื่นเต้นไม่พอ หากเราจะบอกคุณว่าวาฬสีน้ำเงินเป็นสัตว์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดมาตั้งแต่สมัยดึกดำบรรพ์ แม้แต่ไดโนเสาร์ก็ยังมีขนาดเล็กกว่าพวกมันเสียอีก

ประวัติของวาฬสีน้ำเงิน

ประวัติของวาฬ : วาฬเป็นสัตว์ทะเลที่มีบรรพบุรุษมาจากสัตว์ 4 ขา ตั้งแต่เมื่อ 65 ล้านปีก่อน

จากที่เรารู้กันอยู่แล้วว่า วาฬสีน้ำเงิน เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดใหญ่ที่สุดในท้องมหาสมุทร พวกมันถูกจัดอยู่ในกลุ่มวาฬบาลีน ที่มีแผ่นกระดูกไว้คอยกรองอาหารจากน้ำทะเล ซึ่งอาหารของวาฬสีน้ำเงินได้แก่ แพลงตอนหรือสัตว์ทะเลขนาดเล็ก และแน่นอนพวกมันถูกจัดอยู่ในกลุ่มวาฬที่ไม่มีฟัน จากประวัติของวาฬที่ค้นพบว่า วาฬเป็นสัตว์ทะเลที่มีบรรพบุรุษมาจากสัตว์ 4 ขา ตั้งแต่เมื่อ 65 ล้านปีก่อน จนถึงเมื่อ 10 ล้านปีก่อนพวกมันกลายเป็นสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ และด้วยวิวัฒนาการของวาฬทำให้พวกมันกลายเป็นสัตว์น้ำที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกจนถึงปัจจุบัน และด้วยการที่วาฬเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ออกลูกเป็นตัว ใช้เวลาการตั้งท้องเป็นปี ที่ทำให้เราเชื่อว่า วาฬ ไม่ได้เป็นปลา เหมือนที่หลายๆ คนเรียกพวกมันจนติดปากว่า ปลาวาฬ

วาฬสีน้ำเงิน

าฬสีน้ำเงินที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก มีความยาวถึง 34 เมตร

เคยมีการค้นพบวาฬสีน้ำเงินที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ที่มีความยาวถึง 34 เมตร และมีน้ำหนักได้ถึง 200 ตัน นั่นทำให้เราจะสามารถเจอพวกมันได้ตามท้องมหาสมุทรขนาดใหญ่ ทั้งมหาสมุทรแปซิฟิก มหาสมุทรแอตแลนติก ไปจนถึงมหาสมุทรอินเดีย หากจะทำให้คุณจิตนาการได้ถึงขนาดอันมโหฬารของมัน คุณอาจจะนึกถึงน้ำหนักลิ้นของมันที่เทียบเท่ากับน้ำหนักของช้างตัวใหญ่ๆ หนึ่งตัวแล้ว หรือขนาดของหัวใจวาฬสีน้ำเงิน ที่ใหญ่พอให้มนุษย์ลงไปว่ายน้ำได้ และแม้ว่า วาฬสีน้ำเงิน จะกินแพลงตอนที่เป็นสัตว์ทะเลตัวเล็กเป็นอาหาร แต่พวกมันสามารถกินแพลงตอนได้ถึง 4 ตันต่อวันเลยทีเดียว

ถึงแม้ว่าวาฬสีน้ำเงินจะเป็นพี่เบิ้มที่น่าเกรงขามแห่งท้องทะเล แต่พวกมันก็ยังคงถูกมนุษย์ล่า ทั้งเพื่อเอาไขมันหรือน้ำมันมาใช้เป็นอาหารไปจนถึงการล่าเป็นประเพณี ที่ทำให้จำนวนประชากรวาฬสีน้ำเงินลดลงอย่างน่าตกใจ นี่เป็นเหตุผลที่ทำให้กลุ่มอนุรักษ์วาฬต้องทำงานอย่างหนัก เพื่อคุ้มครองกลุ่มวาฬที่เหลืออยู่ ไปจนถึงเพื่อรักษาระบบนิเวศของท้องมหาสมุทรให้มีความสมดุล และคงอยู่ตลอดไป