Categories
สัตว์บก

สิงโต สัตว์ดุร้ายที่อยู่ในตระกูลแมว

สิงโต เป็นสัตว์ตระกูลเดียวกันกับสัตว์เลี้ยงสุดน่ารักอย่าง แมว เห็นได้จากรูปร่างและหน้าตาของมันจะมีความคลับคล้ายคลับคลากับแมว ไม่ว่าจะเป็น มีขา 4 ขา มีหาง มีหู 2 หู มีหนวดตรงใบหน้า ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นลักษณะที่เหมือนแมวทั้งหมด เพียงแต่สัตว์ที่มีหน้าตาดุร้ายนี้ถูกสร้างมาให้มีพละกำลังที่แข็งแรง มีร่างกายที่ทรงพลังและปราดเปรียวมากกว่าแมวหลายเท่า ขนาดลำตัวของมันมีขนาดไล่เลี่ยกันกับเสือโคร่ง จึงไม่แปลกที่แมวประเภทนี้จะเป็นผู้ล่าอันดับ 1 ของห่วงโซ่อาหาร นอกจากนี้ สิงโตยังเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม เช่นเดียวกันกับแมวอีกด้วย

สิงโต เจ้าแห่งผืนป่า

สิงโต

หลายคนคงคุ้นหูกับคำว่า สิงโตเจ้าป่า เนื่องจากสัตว์ประเภทนี้ได้รับฉายาว่าเป็นเจ้าแห่งผืนป่า เป็นสัตว์ตระกูลแมวที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก พบได้มากในทวีปแอฟริกา ซึ่งจะอยู่ในพื้นที่ระดับน้ำทะเลไปจนถึงระดับสูง 3,000 เมตร คำว่า เจ้าป่า ฉายาที่หลายคนใช้เรียกแทนเจ้าสิงโต นั่นก็เพราะว่าสัตว์จำพวกนี้ชอบอยู่กันเป็นฝูง ไปไหนมาไหนเป็นครอบครัว โดยสิงโตตัวผู้หนึ่งตัวจะมีเมียหลายตัว หรือสิงโตตัวเมียหนึ่งตัวอาจจะมีตัวผู้หลายตัวก็ได้ ไม่ได้มีผัวเดียวเมียเดียว โดยเมื่อถึงฤดูผสมพันธุ์สิงโตจะใช้เวลาอยู่ด้วยกันนานถึง 2 สัปดาห์ สิงโตตัวเมียจะตั้งท้องอยู่ประมาณ 4 เดือน ลูกที่สิงโตตัวเมียคลอดออกมาจะมีน้ำหนักอยู่ที่ 1 กิโลกรัมโดยประมาณ

สิงโต

โดยสิงโต คลอดลูกครอกละ 2-6 ตัว สิงโตตัวเมียจะมีหน้าที่ช่วยกันดูแลลูกๆ ถึงแม้จะไม่ได้เป็นลูกของตัวเอง แต่หากลูกมาจากสิงโตตัวผู้ตัวเดียวกัน ตัวเมียก็จะช่วยกันเลี้ยงเหมือนเป็นครอบครัวเดียวกัน ทันทีที่ลูกสิงโตเกิดใหม่จะช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ สิงโตตัวเมียจึงต้องพาลูกอ่อนของมันไปซ่อน เพราะลูกสิงโตอาจจะโดนสิงโตตัวผู้ที่ไม่ช่พอของมันเองฆ่าเพื่อนำมาเป็นอาหารได้ สถิติย้อนหลังพบว่าลูกสิงโตในวัยแรกเกิดมีโอกาสรอดชีวิตเพียงร้อยละ 50 จากจำนวนทั้งหมด เพราะ แม้ว่าแม่ของมันจะพาลูกไปซ่อนในที่ลับแล้ว แต่เมื่อถึงเวลาออกหากินสิงโตตัวเมียก็จำเป็นจะต้องทิ้งลูกไว้เพียงลำพัง จนบางครั้งอาจมีไฮยีน่าหรือหมาป่า ได้กลิ่นลูกของมัน และจับกินลูกสิงโตเป็นอาหาร

สิงโต

เมื่อลูกสิงโตมีอายุได้ราวๆ 3 เดือนจะเริ่มวิ่งเล่น และเมื่ออายุได้ 5 เดือน จะเริ่มฝึกล่าเหยื่อ โดยได้รับการฝึกฝนจากพ่อและแม่ของมัน วิธีการฝึกฝนการล่าเหยื่อของสิงโตคือ พ่อหรือแม่จะต้อนเหยื่อเพื่อให้เข้าใกล้ลูก หลังจากนั้นลูกมันก็จะฝึกฆ่า โดยเหยื่อที่ว่าจะเป็นเหยื่อขนาดเล็กเพื่อไม่ให้ลูกตกใจ หรือยากต่อการฝึกฝน เมื่อฝึกไปเรื่อยๆ สิงโตเหล่านั้นก็จะเป็นนักฆ่าอย่างเต็มตัว โดยสิงโตจะโตเต็มที่เมื่อมีอายุได้ 2 ปี สิงโตมีอายุยืนถึง 30 ปี ถ้าได้รับการเลี้ยงดูอย่างดี เช่น สิงโตที่อาศัยอยู่ในสวนสัตว์ แต่หากเป็นสิงโตที่ใช้ชีวิตอยู่บนผืนป่า ไม่มีมนุษย์คอยดูแล จะมีอายุสั้นกว่า อาจจะ 10-20 ปี เนื่องจากเมื่อสิงโตมีอายุมากก็จะค่อยๆ หมดเรี่ยวแรงในการล่าเหยื่อ และไม่มีใครคอยล่าเหยื่อให้มันกิน จนเกิดอดอยากและสิ้นใจในที่สุด

สิงโต

โดยสิงโตชอบออกล่าเหยื่อในเวลากลางคืน โดยเฉพาะเวลาที่มีพายุ ส่วนเวลากลางวันจะเป็นเวลาพักผ่อนของมัน สิงโตมักจะนอนใต้ต้นไม้หรือกลางทุ่งหญ้า ขณะนอนพักมันจะใช้เวลาในการสังเกตพฤติกรรมของเหยื่อโดยไม่คิดทำร้าย แต่เมื่อถึงเวลาเหยื่อเหล่านั้นก็จะตกไปอยู่ในท้องของพวกมัน ความโดดเด่นของสิงโตที่ต่างจากสัตว์อื่นๆ คือ มีความสูงประมาณ 1 เมตร ลีลาการเดินมีความสง่า ผ่าเผย มีฟันที่แข็งแรง ซึ่งจะเห็นได้จากการที่มันทึ้ง กัด และฉีกเหยื่อเป็นชิ้นๆ ขากรรไกรของสิงโตสามารถขบศีรษะของเหยื่อจนแตกละเอียดได้ และด้วยความที่สิงโตเป็นสัตว์ที่ออกหากินในเวลากลางคืน สายตาของมันจึงมีความแหลมคม สามารถมองเห็นเหยื่อที่อยู่ไลกได้ แม้ในกลางคืน 

การล่าเหยื่อที่ต้องพึ่งพาธรรมชาติ

สิงโต

เจ้าป่า หรือ สิงโตจะเป็นสัตว์ที่มีกลิ่นแรง ถึงแม้ว่าจะอยู่ไม่ไกลกันก็ยังสามารถได้กลิ่นของสิงโตได้ ดังนั้นสิงโตจึงมีความสามารถพิเศษเฉพาะตัว หรืออาจเรียกว่าความชาญฉลาดของมันก็ได้ นั่นก็คือสิงโตจะมีความสามารถในการซ่อนและพรางตัวไม่ให้เหยื่อเห็นได้อย่างยอดเยี่ยมกว่าสัตว์อื่นๆ แต่ไม่วายจะโดนจับได้ เนื่องจากสัตว์อื่นๆ อาจได้กลิ่นของมัน ดังนั้นมันจึงนิยมออกล่าเหยื่อในเวลามีพายุ เพื่อจะให้ลมเป็นตัวช่วยในการหาเหยื่อ โดยมันจะไปกันเป็นฝูง และจะหมอบอยู่ใต้ลม ให้ลมพัดเข้าหามัน การกระทำดังกล่าวจะทำให้สัตว์อื่นไม่ได้กลิ่นของมัน แต่มันยังคงได้กลิ่นสัตว์อื่นอยู่เช่นเดิม โดยปกติสิงโตชอบล่าเหยื่อตามทุ่งหญ้า ป่าโปร่ง หรือตามแอ่งน้ำ สัตว์ที่สิงโตโปรดปรานส่วนมากจะเป็นสัตว์ขนาดใหญ่ ได้แก่ ม้าลาย ละมั่ง หมูป่า ควาย ส่วนสัตว์เล็กที่สิงโตกิน ได้แก่ ลิง กระต่าย หนู เป็นต้น ด้วยความที่สัตว์อื่นๆ ถูกมองว่าเป็นเหยื่อของสิงโตทั้งหมด ดังนั้นก็ถือเป็นฉายาที่เหมาะสมแล้ว

อ่านบทความอื่นๆ:

ใส่ความเห็น