ถ้าหากพูดถึงคำว่านักล่าที่ปราดเปรียวและว่องไว หลาย ๆ คนต้องรู้จักและนึกถึง ‘เสือดาว’ หรือ เสือดำ สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่อยู่ในตระกูลเสือและแมว ที่กล่าวว่าถือกำเนิดมานานนับ 500,000 ปีมาแล้ว ความลึกลับของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมชนิดนี้มีอยู่มาก ทั้งวิถีชีวิตของมันและวิธีการล่าเหยื่อ แต่เมื่อวันเวลาผ่านไป เรามาดูกันดีกว่าว่าเกิดอะไรขึ้นกับนักล่าที่กลายมาเป็นเหยื่อในปัจจุบันนี้
คนทั่วไปมักจะคิดว่า สัตว์สองสายพันธุ์นี้ มาจากคนละสายพันธุ์กัน แต่ความจริงแล้ว สัตว์ทั้งสองชนิดนี้อยู่ในตระกูลเดียวกัน และยังสามารถเกิดจากครอกเดียวกันได้ด้วย เสือดาว จะมีลักษณะตัวเล็กกว่าเสือโคร่ง แต่ตัวใหญ่กว่าแมว ลำตัวเป็นสีน้ำตาลเหลือง มีลายจุดสีดำทั่วลำตัว ซึ่งคนในสมัยก่อนจะเรียกว่า เสือลายตลับ เสือลายจ้ำหลอด หรือเสือลายขยุ้มตีน ส่วนเสือดำ จะมีลักษณะคล้ายกันทุกประการ แตกต่างกันแค่มีขนปกคลุมสีดำทั่วตัวเท่านั้น
สัตว์สายพันธุ์นี้ จัดว่าอยู่กระจายทั่วโลกได้ไกลที่สุด เราสามารถพบสัตว์ชนิดนี้ได้ทั้งในทวีปแอฟริกา ซึ่งสายพันธุ์แอฟริกาจะมีความดุร้ายกว่า จนมาถึงทวีปเอเชียใต้ ไล่มาตั้งแต่ประเทศจีน ไทย มาเลเซีย จนถึงเอเชียตะวันออกกลาง
เนื่องจากมันจะอาศัยอยู่ในป่าทึบ ป่าโปร่งเป็นหลัก ชอบอาศัยอยู่บนที่สูง เคลื่อนที่ตามกิ่งไม้ เพื่อคอยหลบซ่อน อำพรางตัวและคอยล่าเหยื่อจากที่สูง แต่ในบางครั้ง มันก็สามารถปรับตัว และอาศัยอยู่ในพื้นที่โล่งอย่างทะเลทรายก็ได้ เนื่องจากมันสามารถทนความร้อนได้ดีกว่าเสือโคร่ง และยังทนความหนาวในระดับเทือกเขาหิมาลัยได้อีกด้วย นอกจากนี้ ยังเป็นสัตว์ที่ปราดเปรียว ว่องไว ดุ และมีพฤติกรรมที่สันโดษ ชอบอยู่ตัวเดียวลำพัง จะอยู่เป็นคู่เวลาถึงฤดูผสมพันธุ์เท่านั้น
เสือดาว มักจะกินพวกสัตว์กินพืช อย่างกวาง หมู และยังมีสัตว์เล็ก ๆ อย่างนก กระต่าย อีกด้วย หรือถ้าอาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมที่แห้งแล้งอย่างทะเลทราย มันก็จะล่างู กิ้งก่า เป็นอาหารอีกด้วย ในส่วนของสายพันธุ์แอฟริกา จะมีความแตกต่างเล็กน้อย นอกจากจะล่าพวกสัตว์กินพืชอย่าง กาเซลล์ อิมพาลา หรือหมูป่าแล้ว งูเหลือมขนาดใหญ่มันก็จับกินเป็นอาหารได้เหมือนกัน
เหยื่อของ เสือดาว นอกจากจะเป็นสัตว์กินพืชแล้ว แม้แต่ ลิง หรือค่าง สัตว์ชนิดนี้ ก็สามารถหาวิธีในการล่าเหยื่อได้อย่างแยบยล โดยมันจะค่อย ๆ ขย่มบนต้นไม้ แล้วแสร้งทำทีจะกระโดดขึ้นไปให้พวกลิงตกใจและกระโดดลงมาเพื่อหลบในพุ่มไม้ ถึงตอนนั้นก็โดนนักล่าสายพันธุ์นี้ ตะครุบเหยื่อขึ้นไปกินบนต้นไม้อย่างง่ายดายแล้ว การเลือกเหยื่อของมันจะใช้วิธีสุ่มมย่องไม่ให้เหยื่อรู้ตัวก่อนจึงค่อยโจมตีเหยื่อ แต่ถึงแม้นักล่าตัวนี้จะมีความปราดเปรียวแค่ไหน แต่ระยะเวลาในการวิ่งจะไม่นานเท่าเสือชีตาห์ หรือไฮยีน่าที่จะอยู่รวมกันเป็นฝูง ถึงแม้ว่า จะมีกิตติศัพท์เป็นนักล่าที่มีชื่อเสียงโด่งดังก็ตาม แต่ในความเป็นจริงแล้ว ลูกเสือ หรือเสือตัวเล็ก ๆ ก็เป็นเหยื่อให้สิงโต หรือฝูงหมาป่ารุมล่าได้เช่นกัน
จากข้อมูลนักวิจัยด้านสัตว์ป่า สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้กล่าวว่า กลุ่มป่าในแถบตะวันตกมีระบบนิเวศที่สมบูรณ์ ทำให้กลุ่มเสือหากินและสามารถขยายพันธุ์ได้ แต่ เสือดาว มีจำนวนลดลงไม่ถึง 200 ตัว และยังอยู่ในสถานภาพเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง เนื่องมาจากภัยคุกคามอย่างการล่าของมนุษย์เพื่อเอาหนังเสือ การบุกรุกป่าตัดไม้ ซึ่งเป็นการทำลายระบบนิเวศ ทำลายที่อยู่อาศัยของเสือ ดังนั้น เราจึงควรที่จะมีจิตสำนึกและอนุรักษ์สัตว์เหล่านี้ เพื่อให้รักษาระบบนิเวศของธรรมชาติต่อไป
โดยแบ่งออกเป็น สัตว์ปีก สัตว์บก สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ สัตว์น้ำ สัตว์เลื้อยคลาน จากนั้นก็บอกถึงลักษณะและพฤติกรรมเด่น ๆ หรือ ฉายาของสัตว์นั้น ๆ