Categories
ความรู้ สัตว์บก

ลิงบาบูน ลิงสุดโหด ที่ไม่ได้น่ารักอย่างที่คุณคิด

มีนาคม 2022

      ลิง สัตว์สี่ขาที่เชื่อว่ามนุษย์นั้นล้วนมีวิวัฒนาการมาจากพวกมัน ซึ่งลิงนั้นมีความสามารถในการยืนหรือเดินสองขาได้เช่นเดียวกันกับมนุษย์ แถมยังมีอย่างหลากหลายสายพันธุ์กันเลยทีเดียว วันนี้เราจึงมีเกร็ดความรู้เล็ก ๆ น้อย ๆ จากลิงสายพันธุ์หนึ่งที่เชื่อว่าหลาย ๆ คนจะต้องรู้จักกันจากเรื่อง LION KING นั่นก็คือ “ลิงบาบูน” นั่นเอง จะมีเรื่องอะไรน่ารู้เกี่ยวกับลิงสายพันธุ์นี้บ้าง ไปดูพร้อม ๆ กันเลยค่ะ 

ลักษณะทั่วไปของลิงบาบูน

      ลิงบาบูน คือ ลิงที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 4 ของโลก โดยลิงบาบูน ชื่อวิทยาศาสตร์ว่า PAPIO ซึ่งลิงบาบูนจะมีความพิเศษตรงที่มีขาหน้าและขาหลังที่มีความยาวเท่ากันจึงสามารถเดินได้พร้อมกันทั้งสี่ขาเช่นเดียวกับกอริลล่า อีกทั้งยังมีความคล่องแคล่วว่องไวไม่แพ้ลิงสายพันธุ์อื่นเลย ลิงบาบูน นิสัยของมันนั้นจะมีความดุร้าย และก้าวร้าว เนื่องจากอาหารลิงบาบูนที่กินเป็นอาหารนั้นจะเป็นจำพวกเนื้อ ความดุร้ายและก้าวร้าวจึงเป็นนิสัยที่ติดตัวมันมานั่นเอง

      ในปี 2563 ที่ผ่านมา ได้มีรายงานจากสื่อข่าวในต่างประเทศว่า มีเจ้าหน้าที่พบเห็นลิงบาบูน กินลูกสิงโต ในสวนสัตว์แห่งหนึ่งบริเวณแถบทางตะวันออกเฉียงเหนือของแอฟริกาใต้ โดยก่อนที่มันจะนำลูกสิงโตขึ้นไปบนต้นไม้นั้นพบว่าลิงบาบูนและลูกสิงโตตัวนี้มีการต่อสู้กันจนลูกสิงโตทนไม่ไหวเนื่องจากร่างกายไม่แข็งแรง ดังนั้นมันจึงกลายเป็นอาหารของลิงไปโดยปริยาย ซึ่งหากใครที่เคยเห็นภาพนี้ก็อาจมองว่าคล้ายกับฉากหนึ่งในภาพยนตร์เรื่อง LION KING แต่ความเป็นจริงมันโหดร้ายยิ่งกว่านั้น

ลิงบาบูน ลิงใหญ่จอมดุร้าย ที่ไม่ควรเข้าใกล้เป็นอันขาด

      เนื่องจากลิงบาบูนเป็นสัตว์ดุร้าย การซื้อขายลิงชนิดนี้จึงไม่เป็นที่นิยมนัก เนื่องจากอาจเกิดอันตรายต่อตัวผู้ซื้อได้ อย่างไรก็ตามลิงชนิดนี้นั้นก็มีอย่างหลากหลายสายพันธุ์ ไม่ว่าจะเป็น ลิงบาบูน แก้มแดง , ลิงบาบูน คาชัคม่า , และลิงบาบูน แอฟริกา ที่ขึ้นชื่อว่าโครตโหด ถ้าใครประจันหน้ากับมันระวังจะเจ็บตัว เพราะขนาดลูกสิงโตที่ขึ้นชื่อว่าเป็นราชาเจ้าป่ายังไม่วายกลายเป็นอาหารของเจ้าลิง แล้วคนแบบเราที่วิ่งยังไม่ทันลิงก็คงจะไม่รอดเช่นเดียวกัน

      ลิงบาบูน ส่วนใหญ่จะมีถิ่นอาศัยอยู่ในแถบแอฟริกาใต้ ซึ่งจัดว่าเป็นลิงที่มีทั้งความใหญ่และความดุร้ายเคียงคู่กันมาอย่างน่าเหลือเชื่อ ดังนั้นหากใครที่เดินป่าแล้วดันไปเจอกับลิงชนิดนี้เข้า ก็ควรระวังตัวให้ดี อย่าไปทำให้มันโกรธ มิเช่นนั้นอาจเกิดเรื่องที่ไม่คาดฝันขึ้นกับตัวคุณก็เป็นได้

 

 

เว็บบอล

Categories
ความรู้ สัตว์เลื้อยคลาน

จิ้งเหลนลิ้นสีน้ำเงิน เจ้าลิ้นฟ้า หน้างู

มีนาคม 2022

จิ้งเหลนลิ้นสีน้ำเงิน ( Blue-tongued skink , Blue- tongued lizard หรือ BTS ) เป็นสัตวเลื้อยคลานที่จัดอยู่ในวงศ์ SCINCIDAE และอยู่ในสกุล Tiliqua สามารถแบ่งออกได้ 8 ชนิด พบว่ามีการแพร่กระจายพันธุ์อยู่ในแถบประเทศอินโดนีเซีย ออสเตรเลีย เกาะทัสมาเนีย นิวกินี และอิเรียนจายา

ปัจจุบัน จิ้งเหลนลิ้นสีน้ำเงิน หรือ บลูทั้งค์ , กิ้งก่าลิ้นฟ้า ได้กลายเป็นสัตว์เลี้ยงสุดรักสุดหวงของใครหลาย ๆ คนไปแล้ว โดยความนิยมในตัวเจ้าหน้างูนี้มีกระจายไปทั่วโลกโดยเฉพาะในกลุ่มคนที่ชื่นชอบการเลี้ยงและสะสมสัตว์แปลก ในประเทศไทยเองก็เริ่มมีการนำมาเลี้ยงกันบ้างแล้วซึ่งเหตุผลส่วนหนึ่งก็อาจจะเป็นเพราะเจ้าหน้าดุของเรานั้นเป็นสัตว์เลื้อยคลานที่มีเอกลักษณ์พาะตัว ไม่ดุร้าย สามารถจำกัดพื้นที่ในการเลี้ยงได้ง่าย และไม่ส่งเสียงดังรบกวนเพื่อนบ้านนั่นเอง

ลักษณะทั่วไปและเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับจิ้งเหลนลิ้นสีน้ำเงิน

ลักษณะทั่วไปของจิ้งเหลนลิ้นสีน้ำเงินจะมีส่วนหัวขนาดใหญ่ที่มีรูปร่างคล้ายหัวของงู จนในบางครั้งหากมองเห็นเพียงส่วนหัวที่ยื่นออกมาก็อาจจะเข้าใจผิดคิดว่าเป็นงูก็ได้ บลูทั้งค์มีเอกลักษณะเฉพาะที่โดดเด่นและน่าสนใจคือ ลิ้นสีฟ้า ซึ่งเกิดจากเม็ดสีเมลานิลจึงเป็นที่มาของชื่อ กิ้งก่าลิ้นฟ้า นั่นเอง โดยการมีลิ้นสีฟ้าสีสันแปลกตานั้นก็ทำให้มันกลายเป็นจุดสนใจของนักสะสมสัตว์แปลกทั่วโลก นอกจากจะมีหัวเหมือนงูขนาดใหญ่และมีลิ้นสีฟ้าแล้วยังมีเกล็ดตามตัวที่เรียบลื่นคล้ายงู สีสันลวดลายบนแผ่นหลังจะมีสีน้ำตาลอ่อนปนดำ ผิวช่วงท้องมีสีขาว บางสายพันธุ์มีสีดำ มีขาสั้น ๆ จำนวน 4 ขา มีนิ้วขนาดเล็ก 5 นิ้ว มีลำตัวทรงกลมอวบอ้วน และหางสั้นกลมดุ๊กดิ๊ก ช่วงปลายหางค่อนข้างเรียวเล็กน้อย

เมื่อเจอศัตรูหรือต้องเผชิญหน้ากับสิ่งที่คิดว่าเป็นอันตรายมักจะตั้งหลักสู้โดยการแล่บลิ้นสีฟ้าสวย ๆ ของมันออกมาข่มขู่ศัตรูผู้รุกราน ซึ่งเรียกว่า ปฏิกิริยา Deimatic display เป็นปฏิกิริยาที่มีในสัตว์ต่าง ๆ หลายชนิด รวมถึงการส่งเสียงขู่และพยายามพองตัวให้โตขึ้น เมื่อโดนการคุกคามมากขึ้นเรื่อย ๆ มันก็จะยิ่งแลบลิ้นออกมาถี่มากขึ้นด้วยเช่นกัน 

สำหรับจิ้งเหลนสีน้ำเงินนิสัยนั้นเป็นสัตว์ที่เคลื่อนไหวช้า มันจะยังคงนิ่งเฉยหากยังไม่ได้รับอันตรายจากการถูกคุกคาม อาหารที่โปรดปรานจะเป็นจำพวกสัตว์ขนาดเล็กและพืชบางชนิด เช่น แมลง หนู หอยทาก หนอน และพืชบางชนิด โดยมักจะออกหากินในตอนกลางวัน กลางคืนมักจะหลบซ่อนตัวตามโขดหิน ซอกไม้ ฯลฯ 

การสืบพันธุ์และการขยายพันธุ์ของจิ้งเหลนลิ้นสีน้ำเงิน

จิ้งเหลนลิ้นสีน้ำเงินจะเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์เมื่อมีอายุได้ 2 ปี และเมื่อเข้าสู่ช่วงสืบพันธุ์ตัวผู้จะมีพฤติกรรมแปลก ๆ นั่นก็คือ การกัดคอตัวเมียให้เป็นแผล โดยเมื่อมีการผสมพันธุ์แล้วตัวเมียจะให้ลูกได้ครั้งละประมาณ 6-8 ตัว เมื่อโตเต็มที่สามารถมีขนาดได้ถึง 45 เซนติเมตร

สำหรับผู้ที่สนใจอยากเลี้ยงบลูทั้งค์ แนะนำให้เลี้ยงในตู้ที่มีขนาดประมาณ 30 แกลลอน ในอุณหภูมิที่ 75-90 ฟาเราไฮน์ ควรทำที่อยู่อาศัยคล้ายคลึงกับธรรมชาติ มีขอนไม้และต้นไม้ให้ซุกซ่อนตัวได้ด้วย และแม้ว่าสัตว์เลื้อยคลานชนิดนี้มีความต้องการรังสียูวีที่น้อยกว่าสัตว์ประเภทกิ้งก่าแต่ผู้เลี้ยงก็ยังคงต้องหาหลอดยูวีมาใส่ไว้ให้ด้วยค่ะ

นอกจากการให้อาหารแล้วก็จะต้องเตรียมน้ำสะอาดเอาไว้ให้เป็นประจำทุกวัน ควรมีการเปลี่ยนน้ำใหม่ทุก ๆ วัน ในการให้อาหารควรให้ทั้งเนื้อสัตว์และพืชผักผลไม้ปะปนกันไป หากต้องการความสะดวกก็สามารถนำอาหารกระป๋องของแมวมาให้สลับกับเนื้อสัตว์และอาหารอื่น ๆ ได้ อาทิตย์ละประมาณ 3-4 ครั้ง แต่ไม่ว่าจะเลี้ยงสัตว์ประเภทไหนผู้เลี้ยงก็ควรหมั่นดูแลเอาใจใส่และเข้าใจในธรรมชาติของสัตว์ชนิดนั้น ๆ ให้ถ่องแท้ เพื่อที่จะได้ดูแลสัตว์เลี้ยงของคุณได้อย่างถูกต้องค่ะ

 

 

เว็บบอล