Categories
ความรู้ สัตว์บก

สิงโตขาว ราชสีห์แห่งอุทยานแห่งชาติครูเกอร์ ที่น่าจับตามอง

มิถุนายน 2022

        สัตว์ที่เป็นตำนานล้วนมีอย่างหลากหลาย แต่หากจะหาสัตว์ที่เป็นดั่งเจ้าป่าและมียีนส์ในร่างกายที่ตกทอดมาจากยุคน้ำแข็งและสามารถหาชมได้ยากแล้ว ก็คงจะลืม “สิงโตขาว” ไปเสียมิได้ แล้วสิงโตขาวจะแตกต่างกับสิงโตธรรมดาอย่างไร อาศัยอยู่ที่ไหน และกินอะไรเป็นอาหารบ้าง บทความของเรามีคำตอบค่ะ

ลักษณะทั่วไปของสิงโตขาว

        สิงโตขาว คือ สิงโตประเภทหนึ่งที่ไม่ได้แตกแยกชนิดออกไปเพียงแต่มีจุดเด่นที่มีความแตกต่างจากสิงโตโดยทั่วไปอย่างเห็นได้ชัดนั่นก็คือสิงโตขาวลักษณะของมันจะเป็นขนสีขาวหรือน้ำตาลที่ออกไปทางอ่อนกว่าสีขนของสิงโตธรรมดาปกตินั่นเอง ซึ่งที่เป็นเช่นนี้นั้นเป็นผลมาจากภาวะด่างที่มีเช่นเดี่ยวกันกับเสือโคร่งขาว อีกทั้งยังไม่เกี่ยวข้องกับภาวะเผือกแต่อย่างใด เพียงแต่เป็นชื่อที่คนเรียกถนัดปากมากกว่าเท่านั้นเอง สิงโตขาวที่อยู่อาศัยจะเป็นสัตว์เฉพาะถิ่นในอุทยานแห่งชาติครูเกอร์ในประเทศแอฟริกาใต้ ดังนั้นหากอยากเห็นสิงโตขาวนี้ตัวเป็น ๆ ก็จะต้องไปเยือนถิ่นด้วยตัวเองค่ะ

        สิงโตขาวอาหารของพวกมันก็จะเป็นจำพวกเนื้อสัตว์และสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ เช่นเดียวกันกับสิงโตทั่วไปเลยค่ะ ไม่ได้มีอะไรที่แตกต่างกันเลยในเรื่องของอาหาร โดยในปัจจุบันสิงโตขาวนั้นเหลืออยู่เพียงประมาณ 300 ตัว เท่านั้น ซึ่งถือว่าน้อยมาก ๆ และเสี่ยงที่จะเป็นสัตว์ใกล้สูญพันธุ์สูงมากในขณะนี้ ดังนั้นจึงมีการปกป้องและอนุรักษ์สิงโตขาวจากมนุษย์อย่างมากที่สุด ซึ่งในประเทศไทยของเรานั้นก็มีสิงโตชนิดนี้อยู่หนึ่งตัวโดยสามารถไปชมได้ที่สวนสัตว์ขอนแก่นค่ะ

ไม่ว่าจะสิงโตขาวหรือสิงโตเผือกต่างก็เป็นสัตว์อนุรักษ์

        สิงโตขาว มีอีกชื่อเรียกหนึ่งที่ได้เกริ่นไปในตอนต้นว่าคนเรียกกันถนัดปากมากกว่านั่นก็คือ “สิงโตเผือก” ซึ่งนอกจากจะเป็นสัตว์สงวนแล้วก็ยังเป็นสัตว์ที่ชาวแอฟริกานำไปแต่งเป็นนิทานปรัมปราที่เล่าสืบต่อกันมาอีกด้วย โดยเนื้อเรื่องจะเกี่ยวข้องกับราชินีองค์หนึ่งที่อยู่ในวัยชรา แต่แล้ววันหนึ่งก็เกิดเหตุการณ์เหนือธรรมชาติขึ้น โดยมีลูกไฟตกลงมาเป็นหลุมขนาดใหญ่พร้อมกับส่งเสียงเรียกพระองค์อยู่ และเมื่อพระองค์ไปถึงก็ได้เปลี่ยนจากหญิงชรากลายเป็นสาวสวยสะพรั่งและสิงโตก็ได้ตกลูกเป็นสิงโตขนสีขาว จึงทำให้ชาวแอฟริกาใต้เชื่อว่าเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์นั่นเอง

        นกจากนี้สิงโตขาวนิสัยของมันยังค่อนข้างสงบนิ่งแต่จะเริ่มมีการต่อสู้เมื่อล่าเหยื่อ อีกทั้งยังมีความสง่าที่ในปัจจุบันเริ่มหาชมได้ยากแล้ว

บทสรุป

        สิงโตขาว เป็นสัตว์เฉพาะถิ่นที่สามารถหาชมได้แค่ในอุทยานแห่งชาติครูเกอร์เท่านั้น แต่ในปัจจุบันประเทศไทยก็มีการเปิดให้ชมสิงโตชนิดนี้ได้ที่สวนสัตว์ขอนแก่น หากใครอยากลองไปดูด้วยตาตนเองว่าขนสีอ่อนที่ว่านั้นเป็นอย่างไรก็ลองหาเวลาไปชมดูนะคะ รับรองสวยงามไม่ผิดหวังแน่นอน

Categories
ความรู้ สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ

มาทำความรู้จักกับ “สิงโตทะเล” กันเถอะ

มิถุนายน 2022

       เชื่อว่าหลาย ๆ คน คงจะเคยมีโอกาสได้ไปเที่ยวชมสวนสัตว์กันมาบ้างแล้ว ซึ่งสวนสัตว์แต่ละแห่งก็จะมีสัตว์มากหน้าหลายตามาก ๆ และหนึ่งในนั้นก็คือ “สิงโตทะเล” ที่แค่ได้ยินชื่อก็คงจะเริ่มคิดถึงแมวน้ำกันขึ้นมา แต่ความเป็นจริงแล้วสัตว์ทั้งสองชนิดนี้นั้นก็มีความแตกต่างกันอยู่ ไม่ใช่สัตว์ชนิดเดียวกัน ดังนั้นก็ไม่ควรจำสลับกันนะคะ วันนี้บทความของเราก็มีเรื่องน่ารู้ดี ๆ ของเจ้าสัตว์ชนิดนี้มาฝากกันค่ะ 

สิงโตทะเล มีลักษณะอย่างไร

       สิงโตทะเล คือ สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำชนิดหนึ่ง ที่มีแหล่งอาศัยอยู่ในแถบขั้วโลกเหนือ เนื่องจากเป็นสัตว์ที่อยู่ในสถานที่ที่มีอากาศหนาว โดยสิงโตทะเลลักษณะของพวกมันจะมีความคล้ายคลึงกันกับแมวน้ำ แต่สิงโตทะเลจะมีลักษณะของใบหูที่เล็ก และมีครีบเป็นอวัยวะแทนส่วนขาที่สามารถเคลื่อนย้ายไปมาได้ นิสัยสิงโตทะเลจะมีความน่ารักและเป็นมิตร อย่างที่เราสามารถหาชมได้ตามสวนสัตว์ต่าง ๆ เนื่องจากการโชว์สิงโตทะเลนั้นเป็นที่ได้รับความนิยมมากจึงทำให้ใครหาย ๆ คนชื่นชอบกับการแสดงและเผลอยิ้มไปตาม ๆ กัน 

       สิงโตทะเล อาหารของพวกมันส่วนใหญ่จะเป็นอาหารที่สามารถหาได้จากแหล่งน้ำบริเวณที่พวกมันอาศัยอยู่ นั่นก็คือปลาและปลาหมึกนั่นเอง โดยปกติแล้วพวกมันจะมีอายุขัยอยู่ที่ประมาณ 20-30 ปีเท่านั้น อีกทั้งยังเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมเช่นเดียวกับพะยูนอีกด้วย

สิงโตทะเล กับ แมวน้ำ ต่างกันอย่างไร

       ถือว่าคำถามนี้เป็นคำถามยอดฮิตสำหรับคนที่สับสนระหว่างสิงโตทะเลกับแมวน้ำเลยก็ว่าได้ เนื่องจากสัตว์ทั้งสองชนิดนี้มีลักษณะที่คล้ายคลึงกันอย่างมาก แต่ก็สามารถจำแนกได้ง่าย ๆ เช่นเดียวกัน โดยเฉพาะบริเวณครีบที่สิงโตทะเลจะมีครีบใหญ่กว่าและสามารถเคลื่อนที่ได้ด้วยครีบเหล่านั้น แต่แมวน้ำไม่สามารถทำได้ อีกทั้งขนาดสิงโตทะเลจะอยู่ที่ 2-3 เมตร โดยสายพันธุ์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดก็คือสายพันธุ์สเตลลาร์ และด้วยความน่ารักของพวกมันนี้ทำให้มันถูกเรียกด้วยฉายาหนึ่งว่า “หมีทะเล” ซึ่งก็ถือว่าเหมาะสมกับพวกมันอย่างแท้จริง

บทสรุป 

       สิงโตทะเล เป็นสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำที่เลี้ยงลูกด้วยนมเช่นเดียวกับพะยูน จะอาศัยอยู่ในบริเวณที่มีความหนาวเย็นจัด โดยเฉพาะบริเวณขั้วโลกเหนือ เนื่องจากมีสภาพอากาศและอาหารที่พอเพียงต่อการดำรงชีวิต แต่อย่างไรก็ตามในปัจจุบันนั้นสามารถหาชมสิงโตทะเลได้ง่ายขึ้นจากสวนสัตว์นี้เอง

Categories
ความรู้ สัตว์บก

“อัลปากา” สัตว์ชื่อแปลก แต่น่ารักที่จะทำให้คุณยิ้ม

มิถุนายน 2022

       “อัลปากา” เชื่อว่าใครหลาย ๆ คนที่ได้ยินชื่อนี้แล้วก็คงจะเริ่มสงสัยขึ้นมาแล้วว่า มันคือตัวอะไรกัน ทำไมชื่อไม่เหมือนสัตว์เลย เป็นสถานที่หรือ ซึ่งที่จริงแล้วเขาก็เป็นสัตว์สี่ขาชนิดหนึ่งที่มีความน่ารักและน่าทะนุถนอมไม่เบาเลยล่ะค่ะ ซึ่งสัตย์ชนิดนี้มักจะเป็นที่ชื่นชอบของเด็ก ๆ อยู่ไม่น้อยเลย แถมที่ไทยเราก็มีสัตว์แบบนี้อาศัยอยู่ด้วยนะ แล้วเขาจะน่ารักแค่ไหน จะมีอะไรเด่นบ้าง บทความนี้มีคำตอบค่ะ

ลักษณะโดยทั่วไปของอัลปากา

       อัลปากา คือ สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมชนิดหนึ่งซึ่งเป็นสัตว์ในตระกูลเดียวกันกับอูฐ มักอาศัยอยู่รวมกันเป็นฝูง โดยอัลปากาชนิดนี้มีถิ่นกำเนิดอยู่ในแถบเทือกเขาแอนดีส ประเทศอเมริกาใต้ อัลปาก้า ลักษณะเด่นของมันคือจะเป็นสัตว์ที่ได้ชื่อว่าเป็นสัตว์มีขนที่มีขนนุ่มที่สุดในโลก อีกทั้งยังเป็นสัตว์ชนิดหนึ่งบนโลกที่ไม่มีฟันหน้า จะมีความสูงเต็มที่ประมาณ 180 เซนติเมตร โดยอัลปากา นิสัยของมันจะค่อนข้างเป็นมิตร เช่นเดียวกับแพะและแกะ อีกทั้งยังเป็นสัตว์ที่สามารถเลียนเสียงได้อย่างหลากหลายรูปแบบเพื่อป้องกันตัวเองจากอันตรายที่จะเกิดขึ้น

       ในปัจจุบันอัลปากาถูกนำไปเป็นสัตว์เลี้ยงภายในบ้าน โดยมีราคาต่อหนึ่งตัวที่สูงตั้งแต่หลักแสนไปจนถึงหลักล้านเลยทีเดียว ซึ่งเมื่อก่อนพวกมันจะถูกเลี้ยงในรูปแบบปศุสัตว์เพื่อนำขนของมันไปทำเป็นเสื้อผ้าและเครื่องใช้ต่าง ๆ เนื่องจากขนที่มีความนุ่มที่สุดในโลกจึงเป็นที่หมายปองของใครหลาย ๆ คน อย่างไรก็ตามการเลี้ยงสัตว์ประเภทนี้ในบ้านก็ไม่ได้สร้างความรำคาญให้แก่ผู้เลี้ยงแต่อย่างใดเพราะอาหารอัลปากาก็จะเป็นหญ้าซึ่งสามารถหาได้ทั่วไป เนื่องจากเป็นสัตว์ที่รักสะอาด ไม่มีกลิ่นเหม็นแม้ไม่ได้อาบน้ำ ซึ่งส่วนใหญ่อัลปากาจะถูกจับอาบน้ำเมื่อต้องนำไปประกวดเท่านั้น เนื่องจากการใช้เวลาเป่าขนให้แห้งนานถึง 4 ชั่วโมงนั่นเอง

สรุปแล้วมันคืออัลปากาหรือลามะ

       เชื่อว่าคงมีหลายคนที่อาจสับสนกับรูปลักษณ์ของอัลปากากับลามะอยู่ไม่น้อย ซึ่งก็ไม่แปลกที่จะมีคนคิดเช่นนั้น เพราะรูปร่างและหน้าตาของมันมีความคล้ายคลึงกันจริง ๆ แต่เนื่องจากสัตว์ทั้งสองชนิดนี้เป็นคนละประเภทกันจุดต่างของมันจึงมีอยู่ด้วยกันหลายจุดตั้งแต่หัวไปจนถึงหาง ซึ่งจะสังเกตได้อย่างชัดเจนเลยว่าอัลปาก้าจะมีขนาดตัวและอวัยวะต่าง ๆ ที่เล็กกว่าลามะอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะส่วนหูที่จะมีความเรียวเล็กกว่าลามะนั่นเอง จึงสามารถแยกออกได้ไม่ยาก อีกทั้งขนของลามะก็ยังมีความพองและนุ่มน้อยกว่า

       ในประเทศไทยของเราก็มีสถานที่สำหรับให้คุณทั้งหลายได้ไปชมอัลปากาแสนน่ารักได้อย่างจุใจนั่นก็คือที่ อัลปากา ฮิลล์ นั่นเอง ถ้าใครอยากเห็นอัลปากาตัวจริงก็ไปที่นี่ได้เลย

บทสรุป

อัลปากา เป็นสัตว์ที่มีขนนุ่มที่สุดในโลก อีกทั้งยังมีความสามารถในการส่งเสียงฮัมเพลงซึ่งแสดงถึงความสุข ทำให้ผู้ที่มาพบเห็นสามารถยิ้มได้ไปตาม ๆ กัน 

Categories
ความรู้ สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ

วอลรัส สัตว์ใหญ่แห่งขั้วโลกเหนือ 

มิถุนายน 2022

        เมื่อพูดถึงสิงโตทะเลและแมวน้ำแล้ว สัตว์แห่งขั้วโลกเหนืออีกหนึ่งชนิดที่เราจะลืมเขาไปไม่ได้เนื่องจากความใหญ่โตและเขี้ยวอันน่ากลัวนั้นก็คือ “วอลรัส” ที่เรียกได้ว่าเป็นสัตว์ใหญ่แห่งขั้วโลกเหนือเลยทีเดียว วันนี้บทความของเราก็มีความรู้ดี ๆ เกี่ยวกับเจ้าสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำชนิดนี้ที่ใครหลาย ๆ คนอาจยังไม่รู้จักมาฝากกันค่ะ จะมีอะไรน่าสนใจบ้าง มาดูไปพร้อม ๆ กันเลยค่ะ

ลักษณะโดยทั่วไปของวอลรัสที่คุณควรรู้

        วอลรัส คือ สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำชนิดหนึ่ง อาศัยอยู่บริเวณอาร์กติก ซึ่งเป็นบริเวณที่มีอากาศหนาวเย็น ซึ่งวอลรัสเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมเช่นเดียวกันกับพะยูนและสิงโตทะเล อีกทั้งยังมีลักษณะที่คล้ายคลึงกับสิงโตทะเลอีกด้วย แต่ก็แยกอออกได้ไม่ยาก เนื่องจากวอลรัสลักษณะของมันจะเป็นสัตว์ที่มีขนาดใหญ่ ลำตัวยาวสีน้ำตาล มีหนวดคล้ายสิงโตทะเล บริเวณผิวหนังจะมีความขรุขระ มีครีบที่ใช้ในการเคลื่อนที่ และมีเขี้ยวยาวที่ยื่นออกมานอกปาก ซึ่งสาเหตุที่มีเขี้ยวยาวนั้นก็เพื่อเรียกร้องความสนใจต่อเพศตรงข้าม อีกทั้งยังใช้เขี้ยวในการหาอาหารอีกด้วย

        อาหารวอลรัสก็จะเป็นอาหารที่อยู่ในบริเวณนั้น ซึ่งได้แก่ หอย กุ้ง รวมถึงผักอย่างแตงกวา นิสัยวอลรัสจะมีความคล้ายคลึงกับสิงโตทะเลอยู่มาก ซึ่งนั่นก็คือความน่ารักที่แผ่ออกมาจนลืมไปเลยว่าเขาเป็นสัตว์ใหญ่ที่มีเขี้ยวยาวยื่นออกมาดูน่ากลัว แต่กลับแสดงอาการน่ารักและเป็นมิตรออกมาในเวลาเดียวกันได้อย่างลงตัวนั่นเอง 

วอลรัสตัวแรกของเอเชียอยู่ที่ประเทศไทย

        วอลรัสตัวแรกของเอเชียนั้นถูกนำมาจัดแสดงครั้งแรกที่ประเทศไทย คู่กับสิงโตทะเล จึงได้เป็นโชว์วอลรัสกับสิงโตทะเลออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ ซึ่งถูกจัดขึ้นที่สวนสัตว์ซาฟารีเวิลด์นี้เอง โดยขนาดวอลรัสนั้นจะมีขนาดของลำตัวที่ใหญ่มาก ๆ จนได้ฉายาว่า “ช้างทะเล” ซึ่งขนาดตัวโดยเฉลี่ยของมันจะอยู่ที่ประมาณ 2,000 กิโลกรัม ซึ่งถือว่าเป็นสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำที่มีขนาดใหญ่ใช้ได้เลยทีเดียว อย่างไรก็ตามหากไม่พูดถึงรูปพรรณของสัตว์ชนิดนี้แล้วก็ถือว่าไม่ได้ดุร้ายอีกทั้งยังเป็นมิตรและสร้างรอยยิ้มให้แก่นักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ

บทสรุป 

        วอลรัส เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดใหญ่ จัดอยู่ในสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ สามารถพบเห็นได้มากในบริเวณอาร์กติกที่มีอากาศหนาวเย็น ซึ่งในประเทศไทยของเราก็มีสัตว์ชนิดนี้ให้ได้ชมเช่นกัน หากใครเริ่มหลงรักสัตว์ตัวนี้แล้วก็รีบบึ่งไปที่สวนสัตว์เพื่อชมความน่ารักของมันกันได้เลยค่ะ

Categories
ความรู้ สัตว์น้ำ

ปลาหินฟ้าหางเหลือง ปลาสวยงามที่เกินคำบรรยาย

มิถุนายน 2022

ปลาโลกของเรานั้นต่างก็มีหลากหลายสปีชีส์หลากหลายสายพันธุ์ ซึ่งก็มีทั้งปลาที่เป็นอาหารและแปลสวยงามที่เลี้ยงไว้ประดับตู้ โดยปลาสวยงามนั้นก็ยังมีอีกหลากหลายสายพันธุ์อีก แต่หากพูดถึงปลาสลิดแล้วสายพันธุ์สายพันธุ์ปลาสวยงามของปลาสลิดนั้นก็จะลืม “ปลาหินฟ้าหางเหลือง” ไปไม่ได้เลยค่ะ ดังนั้นวันนี้บทความของเราจะพาทุกท่านมารู้จักกับปลาชนิดนี้กันว่ามีลักษณะอย่างไร อาศัยอยู่ที่ไหนแล้วเลี้ยงได้ไหม บทความของเรามีคำตอบค่ะ

ลักษณะทั่วไปของปลาหินฟ้าหางเหลือง

ปลาหินฟ้าหางเหลือง หรือ ปลาแดมเซลหางเหลือง เป็นปลาทะเลขนาดเล็กที่มีรูปร่างและสีสันที่สวยงาม โดยจัดอยู่ในวงศ์เดียวกันกับปลาสลิดหิน ซึ่งปลาหินฟ้าหางเหลืองลักษณะของมันที่สามารถพบเห็นได้คือ จะเป็นปลาที่มีสีสันชัดเจน โดนเฉพาะสีฟ้าออกน้ำเงินทั่วลำตัว บริเวณหางจะเป็นสีเหลืองที่แผ่ออกไปอย่างสวยงาม ซึ่งลักษณะของตัวก็จะมีความคล้ายคลึงกันกับปลาสลิดหินหางเหลืองนอกเลยค่ะ อีกทั้งยังเป็นปลาที่ได้รับความนิยมในการเลี้ยงให้เป็นปลาสวยงาม เนื่องจากสีสันของมันนี้เอง

ปลาสลิดหินฟ้าหางเหลืองแหล่งอาศัยของมันจะอยู่ในบริเวณทะเลอันดามัน ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นทะเลที่มีปลาสวยงามหลากหลายสายพันธุ์ ยาวไปจนถึงในแถบฟิลิปปินส์และอินโดนีเซียกันเลยทีเดียว โดยรวมก็คือสามารถพบปลาชนิดนี้ได้ในบริเวณเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของเรานั่นเอง 

ปลาหินฟ้าหางเหลือง กับความสวยงามที่หาชมได้ยาก

ปลาหินฟ้าหางเหลือง หรือที่คนไทยมักเรียกว่า ปลาสลิดหินฟ้าหางเหลือง เป็นที่จับจองไปเป็นสวยงามวางโชว์มาก ๆ เนื่องจากสีสันของมันที่เป็นเอกลักษณ์ รวมถึงวิธีการเลี้ยงปลาหินฟ้าหางเหลืองนั้นก็ดูแลง่ายไม่ยุ่งยาก อาหารปลาหินฟ้าหางเหลืองที่พวกมันจะกินนั้นก็คืออาหารเม็ดที่มีส่วนช่วยในการคงสภาพของสีตัวมันไว้นั่นเอง โดยราคาของมันก็จะอยู่ที่ 100 บาท ขึ้นไปค่ะ

บทสรุป 

ปลาหินฟ้าหางเหลือง เป็นปลาสลิดหินสายพันธุ์หนึ่งที่นิยมนำไปเป็นปลาวางโชว์ตู่หรือปลาสวยงาม พบได้มากในบริเวณทะเลอันดามันทางตะวันออกเฉียงใต้ของทวีปเอเชีย ซึ่งเป็นปลาที่หาดูได้ยากและมีความสวยงามเฉพาะตัวในแบบที่คุณเห็นแล้วไม่สามารถละสายตาได้เลย