Categories
ความรู้ สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ สัตว์น้ำ สัตว์บก สัตว์ปีก

10 อันดับสัตว์สงวน ทำไมถึงต้องสงวนไว้ เคลียร์ทุกคำถามไว้แล้วที่นี่

สัตว์สงวน คือสัตว์ที่ได้ขึ้นบัญชีเป็นสัตว์หายากตามกฎหมาย พระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า เป็นได้ทั้งสัตว์ที่สูญพันธุ์ไปแล้วและสัตว์ที่ใกล้จะสูญพันธุ์ เพื่อปกป้องเผ่าพันธุ์สัตว์เหล่านี้ให้สามารถดำรงชีวิตและขยายพันธุ์ต่อไปได้ ซึ่งจะมีการแก้ไขและอัปเดตรายชื่อสัตว์ต่าง ๆ ตามกฎหมายแต่ละฉบับ จะมีสัตว์ชนิดไหนบ้างที่ขึ้นบัญชีเป็นสัตว์สงวนของไทย ไปติดตามกันเลย

รวมลิสต์รายชื่อ สัตว์สงวน ของไทย ความรู้รอบตัวที่ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ควรรู้

สัตว์สงวน ตามพระราชบัญญัติฉบับเดิมและตราพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 ได้กำหนดไว้ว่า สัตว์ป่าสงวน หมายถึง สัตว์ป่าหายากหรือสัตว์ป่าที่ใกล้สูญพันธุ์จำเป็นต้องสงวนและอนุรักษ์ไว้อย่างเข้มงวดตามที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติ ซึ่งมีรายชื่อสัตว์สงวนทั้งสิ้น 19 ชนิด เช่น

นกเจ้าฟ้าหญิงสิรินธร (PSEUDOCHELIDON SIRINTARAE)

PSEUDOCHELIDON SIRINTARAE

สัตว์ป่าสงวน ในตระกูลนกนางแอ่น ลักษณะเด่นคือขนสีดำเหลือบเขียว ขนที่สะโพกเป็นสีขาว มาพร้อมกับขนคู่ที่ยื่นเป็นแกนออกมาบริเวณหาง มีสีขาวรอบดวงตา กระจับปากสีเหลืองอมเขียว สัตว์สงวน ที่เคยพบได้ที่บึงบอระเพ็ด จ.นครสวรรค์ ในช่วงเดือนพฤศจิกายนจนถึงเดือนมีนาคม

ละองหรือละมั่ง (CERVUS ELDI)

CERVUS ELDI

สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่มีลักษณะคล้ายกวาง โดยละองคือชื่อเรียกเพศผู้ ส่วนละมั่งคือชื่อเรียกของเพศเมีย เป็น สัตว์สงวน ที่ยังพบเห็นได้ในไทย โดยจะมี 2 สายพันธุ์ คือพันธุ์ไทยและพันธุ์พม่า เป็นสัตว์ที่เราเคยได้ยินว่ามีการ ล่าสัตว์สงวน ชนิดนี้ค่อนข้างเยอะจากกลุ่มผู้คนที่แอบลักลอบล่าสัตว์ ทำให้ต้องขึ้นทะเบียนเป็นสัตว์สงวนตามกฎหมายจนถึงในปัจจุบัน

นกชนหิน (HELMETED HORNBILL)

HELMETED HORNBILL

นกชนหิน หรือนกเงือกชนิดหนึ่ง ที่จะมีจุดเด่นอยู่ที่สันบนปาก ลำตัวใหญ่ จะงอยปากยาว มีขนหาง 1 คู่ที่ยาวกว่าขนหางปกติ ประมาณความยาวตั้งแต่จะงอยจนถึงขนหางคู่นี้ยาวถึง 120 เซนติเมตร เป็นนกที่เหล่านักล่าสัตว์จะนิยมล่าเพื่อเก็บจะงอยมากสลักเพื่อตกแต่งและทำเป็นเครื่องประดับ

นกแต้วแล้วท้องดำ (PITTA GURNEYI)

PITTA GURNEYI

นกสงวนในไทย ขนาดเล็ก ที่มีสีสันสวยงาม เพศผู้จะมีสีน้ำเงินแกมฟ้าเด่นบริเวณหัวและท้ายทอย หน้าผากดำ คอขาว ใต้ปีกสีเหลืองสดใส หางสีฟ้าส่วนเพศเมีย จะมีหัวและท้ายทอยสีน้ำตาล รอบตาสีดำ ส่วนล่างเป็นสีขาวอมเหลืองพาดลายตามขวาง นกหายากพบได้ตามป่าดิบชื้นทางภาคใต้ บริเวณ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาประ-บางคราม จ.กระบี่

นกกระเรียน (GRUS ANTIGONE)

GRUS ANTIGONE

นกขนาดใหญ่ มีความสูงเฉลี่ย 2 เมตร ความยาวช่วงปีกประมาณ 2.5 เมตร สัตว์สงวนไทย ที่อาศัยรวมกันเป็นฝูง หากินตามแหล่งน้ำตื้น ๆ นอกจากขนาดใหญ่จะเป็นลักษณะเด่นของนกชนิดนี้แล้ว ลำคอสีแดงสดที่ยาวออกมาก็เป็นจุดเด่นอีกอย่างหนึ่งของนกชนิดนี้ที่สามารถสังเกตเห็นได้ง่าย ๆ เช่นกัน

แมวลายหินอ่อน (PARDOFELIS MARMORATA)

PARDOFELIS MARMORATA

สัตว์สงวน ขนาดกลางที่อาศัยอยู่ในป่า จุดเด่นอยู่ที่ลายบนลำตัวที่มีลักษณะคล้ายหินอ่อน ขนสีน้ำตาลอมเหลือง หางเป็นพวงขนยาวเด่นชัด มีโอกาสพบเห็นได้ตามป่าดงดิบเทือกเขาตะนาวศรีและป่าแถบภาคใต้ เป็นสัตว์ที่ออกหากินในตอนกลางคืนจึงมีสายตาที่เฉียบคมมากกว่าสัตว์อื่น ๆ เป็นสัตว์ที่นักล่าชอบจับมาทำเป็นสัตว์เลี้ยง รวมถึงขายส่งออกนอกประเทศเป็นจำนวนมาก

ควายป่า (BUBALUS BUBALIS)

BUBALUS BUBALIS

สัตว์ป่า ที่มีลักษณะคล้ายควายบ้าน แต่ใหญ่กว่า ว่องไวกว่า เขาใหญ่กว่าและดุกว่าปกติ เป็นสัตว์ใกล้สูญพันธุ์เนื่องจากการล่าเพื่อนำเขาขนาดใหญ่และสวยงามมาเป็นของตกแต่ง ปัจจุบันพบในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง จ.อุทัยธานี และตามป่าโปร่ง ทุ่งหญ้าโล่งใกล้แหล่งน้ำ

กวางผา (NAEMORHEDUS GRISEUS)

NAEMORHEDUS GRISEUS

สัตว์สงวน ที่มีโอกาสพบเจอบนยอดดอยม่อนจอง ดอยอินทนนท์และดอยเชียงดาว จ.เชียงใหม่ แต่มีความว่องไวในการหลบหนี ทำให้ผู้คนที่เห็นมักจะต้องโชคดีและอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เงียบสงบมาก ๆ มีลักษณะคล้ายแพะ ขนสีเทาหรือน้ำตาล มีแถบดำพาดกลางหลัง มีความยาวลำตัวประมาณ 80-120 เซนติเมตร สูงประมาณ 50-70 เซนติเมตร

พะยูน (DUGONG)

DUGONG

สัตว์ทะเลที่มีโอกาสเป็น สัตว์สูญพันธุ์ โดยมีลักษณะคล้ายแมวน้ำ อ้วนกลม มีครีบหน้าที่ใช้พยุงตัวและขุดหาอาหารจำพวกหญ้าทะเลในแถบชายฝั่งและน้ำตื้น มีจุดเด่นอยู่ที่ฟันคู่หน้าคล้ายงาช้างเพื่อใช้สำหรับต่อสู้และขุดหาอาหาร 

ปลาฉลามวาฬ (WHALE SHARK)

WHALE SHARK

สัตว์หายาก ที่อาศัยอยู่ตามทะเลเขตร้อนและอบอุ่น เป็นปลาที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ตัวที่โตเต็มที่มีความยาวสูงสุดถึง 15 เมตร จุดเด่นของฉลามวาฬคือจะมีจุดกลม ๆ สีขาวหรือสีเหลืองกระจายอยู่ตามแนวลำตัว ซึ่งจะเป็นเหมือนเอกลักษณ์ปรำจะตัวที่แตกต่างกันไป เป็นปลาที่นักดำน้ำมีโอกาสพบเจอได้ตามชายฝั่งทะเลของไทยทั้งชายฝั่งอ่าวไทยและอันดามัน

บทสรุป

สัตว์สงวน ที่ล้มตายและกำลังจะสูญพันธุ์นั้นเป็นเรื่องที่น่าเศร้าและน่าเสียดาย สัตว์ทุกชนิด ทุกตัวล้วนมีความสำคัญต่อระบบนิเวศ ดังนั้นมนุษย์ไม่ควรที่จะเข้าไปคุกคามหรือตามล่าสัตว์เหล่านี้แบบที่เราเห็นข่าว ไม่ว่าจะเป็น นาก หรือสัตว์อื่น ๆ ก็สมควรที่จะได้รับการ อนุรักษ์สัตว์ป่า เพื่อให้สัตว์เหล่านี้ได้ดำรงชีวิตและสืบทอดเผ่าพันธุ์ต่อไป animal2you.com

อ่านบทความเพิ่มเติม

Categories
สัตว์น้ำ สัตว์น้ำเค็ม

กั้งตั๊กแตน สิ่งมีชีวิตสุดแกร่งที่แสนอร่อยใต้ท้องทะเลไทย

กั้งตั๊กแตน เป็นสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กที่อาศัยอยู่ในทะเล โดยมีชื่อภาษาอังกฤษว่า Mantis shrimps ชื่อวิทยาศาสตร์ Harpiosquilla harpax ซึ่งเป็นสัตว์ที่จัดอยู่ในกลุ่มสัตว์เศรษฐกิจของไทย เนื่องจากบางสายพันธุ์สามารถนำมาประกอบเป็นอาหารแสนอร่อยได้หลากหลายเมนู คนไทยชอบกินกันมาก ๆ เนื่องจากว่าเนื้อของกั้งตั๊กแตนมีรสชาติที่อร่อย เนื้อนุ่ม สามารถนำมาปรุงอาหารได้โดยที่ไม่เสียรสชาติ จึงทำให้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก กั้งตั๊กแตนมีชื่อวิทยาศาสตร์หลายชื่อขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ของมัน โดยวันนี้อยากให้ทุกคนทำความรู้จักกับกั้งตั๊กแตนเจ็ดสีที่มีความพิเศษกว่าชนิดอื่น ๆ สวยงามสะดุดตา และมีความลับอันน่าทึ้งที่น่าค้นหา เป็นสิ่งมีชีวิตสุดแกร่งในท้องทะเล

กั้งตั๊กแตนสายพันธุ์ 7 สี ที่สายตาดีที่สุดในโลก แถมยังรัวหมัดหนักดั่งกระสุนปืน

กั้งตั๊กแตนถ้าพูดถึงสายพันธ์ธรรมดากั้งตั๊กแตนทะเลทั่วไปที่เรามักนำมากินเป็นอาหาร อาจจะไม่น่าสนใจเสียสักเท่าไหร่ ดังนั้นวันนี้จะพามาทำความรู้จักกับสิ่งมีชีวิตตัวจิ๋ว แต่หมัดหนักที่สุดในโลก มันสามารถออกหมัดได้รัว ๆ อย่างกับยิงปืน มาพร้อมกับระบบสายตาที่ดีที่สุดในโลก การมองเห็นชัดแจ๋วไม่ว่าจะในน้ำทะเลที่เค็มจัด พื้นดิน หรือบนฟ้า ไม่มีสัตว์ชนิดในบนโลกนี้จะตาดีเท่านี้แล้ว

Sea locust crayfish

ลักษณะโครงสร้างพิเศษ

กั้งตั๊กแตนสายพันธุ์เจ็ดสีนี้ เป็นสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง และมันมีความพิเศษกว่ากั้งตัวอื่น ๆ นอกจากความสวยงามของสีสันบนลำตัวที่มีมากถึง 7 สีแล้ว ยังมีดวงตาที่กลมโตกลิ้งได้อย่างอิสระรอบทิศทาง มาพร้อมกับเซลล์รับแสงมากถึง 12 สี จึงทำให้สามารถมองเห็นทุกอย่าง ทุกสิ่งแวดล้อมได้อย่างชัดเจนยิ่งกว่ากล้องวงจรปิด และที่น่าทึ่งก็คือดวงตาของมันสามารถมองเห็นแสงโพลาไรซ์ได้อีกด้วย 

สัตว์น้ำตัวจิ๋วที่มีหมัดหนักกว่าคน

นอกจากตาจะดีแล้วกั้งตั๊กแตนสายพันธุ์ 7 สีนี้ ยังมีสิ่งที่ทำให้เราชวนทึ้งได้อีก เพราะมันมีหมัดที่เร็วและแรงมาก โครงสร้างขาคู่หน้าที่คล้ายกับกำปั้นของมนุษย์ สามารถใช้จับเหยื่อ และใช้ในการโจมตีกระแทกเหยื่อได้อีกด้วย เชื่อไหมว่ากั้งตั๊กแตน 7 สีสามารถต่อยกระดองหอยแข็ง ๆ แตกได้สบายเพียงใช้เวลาไม่กี่วินาที นักวิทยาศาสตร์กล่าวไว้ว่า “แรงดีดของขาคู่หน้าของมันมีแรงมากกว่า 1000 เท่า เมื่อเทียบกับน้ำหนักตัวของมันเอง” พวกเขาเชื่อว่ามันสามารถทำให้กระจกตู้ปลาหนา ๆ แตกได้ง่าย เพียงแค่รัวไม่กี่มัด ไม่เพียงเท่านั้นยังสามารถดีดขาหนาได้รัว ๆ เร็วกว่ากระสุนปืนขนาด .22 มม. ดีดได้มากกว่า 50,000 ครั้ง โดยที่ขาหน้าไม่ได้รับการบาดเจ็บหรือกระทบเทือนใด ๆ เลย เรียกว่าเป็นสัตว์ตัวขนาดเล็ก แต่แข็งแกร่งที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้ ขนาดตัวเต็มวัย จะมีขนาดตัวยาวประมาณ 20 เซนติเมตร เท่านั้น

Sea locust crayfish2

ถิ่นที่อยู่อาศัย

กั้งสายพันธุ์นี้ไม่ชอบอาศัยอยู่ในน้ำลึก พบได้บริเวณความลึกไม่เกิน 20 เมตร ในแถบอินโต-แปซิฟิก บริเวณเกาะกวมไปจนถึงแอฟริกาตะวันออก ส่วนในประเทศไทยเองก็สามารถพบได้ในทางฝั่งอ่าวไทย และพบมากที่สุดในฝั่งทะเลอันดามัน

บทสรุป

กั้งตั๊กแตน อย่างที่ทราบกันไปแล้วว่าเป็นสัตว์ทะเลที่มีหลากหลายชนิด และสามารถพบได้ในประเทศไทย ซึ่งเป็นสัตว์เศรษฐกิจที่นิยมกินกัน แต่ไม่ได้หากินง่ายเท่ากับพวกกุ้ง กั้งตั๊กแตน ราคาจะค่อนข้างแรงมาก ซึ่งอาจจะราคาพุ่งสูงไปที่กิโลกรัมละ 1,200 บาท เลยทีเดียว ถึงแม้จะแพงแต่รับรองว่าคุ้ม เพราะเนื้อรสชาติดี ทำอาหารได้หลากหลายเมนู นอกจากสายพันธุ์ที่กินกันทั่วไปแล้ว ยังมีอีกสายพันธุ์หนึ่งที่สวยงาม

และมีความพิเศษมาก ๆ ก็คือกั้งตั๊กแตนสายพันธุ์ 7 สี เป็นสิ่งมีชีวิตที่ระบบตายอดเยี่ยมยอดมาก ทัศนียภาพกว้างขวาง และการมองเห็นชัดแจ๋วในทุกสิ่งแวดล้อม ทีเด็ดของมันคือมีขาคู่หน้า ที่เปรียบเสมือนกับกำปั้น ซึ่งแข็งแรงมาก ต่อยหนักรัว ๆ กระสุนปืนยังแพ้ ไม่น่าเชื่อเลยว่าสิ่งมีชีวิตตัวเล็กขนาดความยาวไม่ถึง 20 เซนติเมตร จะมีหมัดที่หนักทำให้กระดองหอย หรือกระจกตู้ปลาแตกได้สบาย ๆ เรียกได้ว่ากั้งตั๊กแตนสายพันธุ์เจ็ดสีนี้ เป็นสิ่งมีชีวิตมหัศจรรย์ใต้ท้องทะเล ที่แข็งแกร่งไร้เทียมทาน หาตัวเปรียบได้ยากมาก animal2you.com

บทความเพิ่มเติม

Categories
สัตว์น้ำ สัตว์น้ำเค็ม

หนอนท่อสิ่งมีชีวิตที่ไม่ใช่พืชแต่ แต่เป็นสัตว์รูปร่างประหลาดตาที่อยู่ใต้ท้องทะเล

หนอนท่อ หรือหนอนฉัตรถ้าดูจากโครงสร้างร่างกายภายนอกแล้ว หลาย ๆ คนคงคิดว่าสิ่งมีชีวิตนี้จัดอยู่ในกลุ่มพืชอย่างแน่นอน แต่ขอบอกเลยว่าคุณคิดผิด เพราะเจ้าหน้าตาประหลาดนี้ จัดเป็นกลุ่มสัตว์ที่อาศัยอยู่ภายใต้ท้องทะเลนั่นเอง รูปร่างหน้าตาของหนอนท่อจะโดดเด่น เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว มีความสวยงาม น่ามอง เปรียบเสมือนกับต้นไม้ประดับ เป็นเส้น ๆ จำนวนมากยื่นออกมาคล้ายกับขนนกบางเบา คดโค้งเป็นเกลียวสะดุดตา ซึ่งมีสีสันที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นสีขาวละมุนตา สีส้ม สีเหลือง สีฟ้า อยู่ร่วมกับปะการัง ฟองน้ำใต้มหาสมุทรอันกว้างใหญ่ไพศาล

ซึ่งหนอนท่อเป็นสัตว์ที่น่าหลงใหลมาก ๆ ส่วนใหญ่ผู้ที่ชอบเลี้ยงปลา ตกแต่งตู้ปลา นิยมที่จะนำมาประดับตู้ปลาเพื่อเพิ่มความสวยงาม มองเผิน ๆ ก็เหมือนกับต้นไม้หลากสีที่เพิ่มความมีชีวิตชีวานั่นเอง

มาทำความรู้จักกับ หนอนท่อ สิ่งมีชีวิตแสนมหัศจรรย์และน่าทึ่งเพิ่มเติมกันเลย

เจ้าหนอนท่อ มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Spirobranchus giganteus เป็นสัตว์ทะเลที่มีความงดงามสะดุดตา ซึ่งลักษณะเกลียวที่ยื่นออกมานี้ ทำให้มองคล้ายกับต้นคริสต์มาส จัดอยู่ในกลุ่มสัตว์ที่มีวิวัฒนาการต่ำ โดยไม่มีแกนกลางลำตัว ไม่มีกระดูกสันหลัง ข้อมูลทางอนุกรมวิธานเป็นสัตว์ที่จัดอยู่ในไฟลัมแอนเนลิดา (Phylum Annelida) วงศ์ Serpulidae โครงสร้างร่างกายไม่ซับซ้อน สามารถสังเกตเห็นได้ง่าย พบได้ทั่วไปตามท้องทะเล ใต้มหาสมุทร โอดโฉมสวยงามให้นักดำน้ำได้ประทับใจ

ลักษณะทางสัณฐานวิทยา

หนอนท่อ เป็นสัตว์น้ำ ไม่มีกระดูกสันหลัง จัดอยู่ในกลุ่มของหนอนปล้อง ลำตัวเป็นทรงกระบอกขนาดเล็กที่มีลักษณะเป็นปล้อง ๆ ส่วนที่ยื่นออกมาจากศูนย์กลาง เรียกว่า “Radioles” ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับขนนก ลำตัวจะเป็นท่อนยาว ตามธรรมชาติจะมีความสูงประมาณที่ 4-8 เซนติเมตร มักจะอยู่ตามบริเวณด้านในของท่อหินปูนแข็งที่ยึดติดตามก้อนหิน แนวปะการัง มีสีสันสวยงาม ไม่สามารถเคลื่อนที่ได้ แต่เคลื่อนไหวโบกพลิ้วตามกระแสน้ำในมหาสมุทร

การดำรงชีวิต

หนอนท่อ กินอะไรหลายคนคงสงสัย เพราะเห็นจากโครงสร้างร่างกายแล้ว ดูท่าทางเหมือนไม่ได้กินอาหารเลย แต่รู้ไหมว่าสิ่งมีชีวิตนี้สามารถกินเศษตะกอน สารอินทรีย์ต่าง ๆ ที่มีขนาดเล็กในน้ำได้ ซึ่งหนอนท่อมีการกินอาหารคล้ายกับฟองน้ำ ผ่านการกรองเข้าไปในลำตัว และทำการย่อยนั่นเอง 

แหล่งที่อยู่อาศัย

สามารถพบสิ่งมีชีวิตชนิดนี้ได้ตามแนวปะการังน้ำตื้น ใต้ระดับน้ำทะเลลงต่ำสุด ซึ่งจะอาศัยในท่อหินปูนที่ฝังอยู่ตามโขดปะการัง

การสืบพันธุ์

สิ่งมีชีวิตชนิดนี้ จัดเป็นสัตว์ที่มีสองเพศในตัวเดียว แต่การปฏิสนธิ จะเป็นการปฏิสนธิภายนอก เพศเมียจะพ่นไข่ออกมาให้ล่องลอยอยู่ในน้ำทะเล จากนั้นเพศผู้จะพ่นน้ำเชื้อออกมาผสมกับไข่ เมื่อได้ตัวอ่อนแล้ว จะมีการกระจายตัวเกาะตามปะการัง จากนั้นจะสร้างสารเจาะปะการังลงไปให้เป็นท่อยาว และฝังตัวอาศัยอยู่ในนั้น และจะไม่ออกจากท่อหินตลอดวงจรชีวิตของมัน

หนอนท่อ สิ่งมีชีวิตในทะเล ที่สามารถนำมาเลี้ยงดูได้ง่าย ใช้ประดับตู้ปลาสวยอลังการมาก

อย่างที่บอกว่าหนอนท่อเป็นสัตว์ที่มีความสวยงามแปลกตา ลักษณะคล้ายกับขนนก หรือคล้ายกับต้นคริสต์มาส จึงทำให้ผู้คนนำหนอนท่อทะเลชนิดนี้มาตกแต่งตูปลา เพิ่มความสวยงาม และเมื่อต้องกับแสงไฟจะสวยมาก นอกจากนั้นหนอนท่อ ประโยชน์ช่วยในเรื่องของการรักษาคุณภาพน้ำในท้องทะเล ช่วยกรองเศษตะกอนอินทรีย์ต่าง ๆ เพื่อนำมาเป็นอาหาร ส่งผลทำให้น้ำทะเลสะอาดใส

ซึ่งถ้านำหนอนท่อมาประดับตู้ปลา ก็จะช่วยทำให้น้ำไม่เน่าเสียง่าย สัตว์ชนิดนี้สามารถเลี้ยงดูแลได้ไม่ยาก ซึ่งหนอนท่อชนิดอ่อนจะต้องปรับระดับอุณหภูมิของน้ำในตู้ปลาให้ได้ประมาณ 29-30 องศาเซลเซียส แต่หากเป็นชนิดท่อแข็งควรใช้อุณหภูมิประมาณ 25-28 องศาเซลเซียสนั่นเอง ราคา หนอนท่อจะมีเรทราคาแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับขนาด ความสวยงาม และความสมบูรณ์ ซึ่งโดยทั่วไปถ้าคัดขนาดใหญ่ ๆ จะมีราคาประมาณตัวละ 150 บาท เท่านั้น หาซื้อได้ตามร้านขายสัตว์น้ำทั่วไป บอกเลยว่าถ้าอยากให้ตู้ปลาสวย น่ามอง และเป็นมิตรต่อระบบนิเวศในตู้ปลา แนะนำว่าควรเลี้ยงสัตว์ชนิดนี้เอาไว้ animal2you.com

บทความเพิ่มเติม

Sponsor : ufaball.bet

Categories
ความรู้ สัตว์น้ำ สัตว์น้ำเค็ม แนะนำ

ทำความรู้จักกับ ฟองน้ำ สิ่งมีชีวิตสุดมหัศจรรย์ ที่อยู่โลกใต้ท้องทะเล

สิ่งมีชีวิตแสนมหัศจรรย์ใต้ท้องทะเล ฟองน้ำเป็นสัตว์ชนิดหนึ่ง ที่มีโครงสร้างร่างกายไม่ซับซ้อน ซึ่งถ้ามองอย่างผิวเผิน ดูเหมือนจะเป็นก้อนหินที่มีลวดลาย สีสันในน้ำเสียมากกว่า สัตว์ชนิดจัดอยู่ในสัตว์ที่ไม่มีกระดูกสันหลัง จากประวัติการศึกษาพบว่าถือกำเนิดมานานกว่า 600 ล้านปีเลยทีเดียว โดยมีความเชื่อว่าฟองน้ำมีจุดเริ่มต้นมาจากสัตว์เซลล์เดียวอย่างโพรโทซัว และมาอยู่รวมกันเป็นโคโลนี จนกลายเป็นกลุ่มก้อนที่มีสีสันหลากหลายสวยงามตระการตา ในปัจจุบันมีฟองน้ำมากกว่า 15,000 ชนิด ที่กระจายไปแต่ละทวีปทั่วโลก ในประเทศไทยเองก็มีอยู่หลากหลายชนิด โดยเฉพาะทะเลที่มีความอุดมสมบูรณ์ แต่เชื่อไหมว่าสัตว์ชนิดนี้สามารถอาศัยได้ทั้งในทะเล และน้ำจืด โดยมีการจัดจำแนกชนิดเพียงแค่ 7,000 ชนิดเท่านั้น การดำรงชีวิตเรียบง่าย กินตะกอนเศษต่าง ๆ ที่มีขนาดเล็กในทะเล ซึ่งเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีบทบาทสำคัญมากในระบบนิเวศทางทะเล

ฟองน้ำทะเล สิ่งมีชีวิตยุคดึกดำบรรพ์ ที่เปรียบเสมือนเครื่องกรองอากาศในระบบนิเวศทะเล

สิ่งมีชีวิตที่มีรูพรุนทั่วร่างกายอย่างฟองน้ำ ถือว่าเป็นเครื่องกรองธรรมชาติที่สามารถกรองเศษตะกอนขนาดเล็กจิ๋วต่าง ๆ ในท้องทะเลได้ นับว่าเป็นสัตว์ทะเลที่ใช้เป็นดัชนีชี้วัดคุณภาพของน้ำทะเลได้ โดยจะช่วยปรับปรุงน้ำทะเลให้ใสมากยิ่งขึ้น เห็นไหมว่าฟองน้ำ ประโยชน์ของมันน่าทึ้งจริง ๆ ไม่ได้เป็นเพียงแค่ของประดับตกแต่ง ที่เพิ่มทัศนียภาพใต้น้ำทะเลให้สวยงดงามมากขึ้นเท่านั้น

โครงสร้างและสัณฐานวิทยา

ฟองน้ำ ลักษณะเด่นจะมีรูปทรงเป็นพุ่มกลม และมีการแตกกิ่งก้านคล้ายกับต้นไม้ มีสีสันที่สวยงาม ซึ่งจัดเป็นสัตว์โบราณที่อยู่มานานมาก ๆ แต่มีวิวัฒนาการต่ำ สัตว์ชนิดนี้มีรูตามทั่วร่างกาย ซึ่งใช้ในการกรองกินอาหาร สัตว์ชนิดนี้ไม่มีระบบทางเดินอาหาร แต่สามารถย่อยผ่านเซลล์ที่เรียกว่าเซลล์ปลอกคอ (Collar cell) เนื้อสัมผัสนุ่มนิ่ม ยืดหยุ่น ไม่เสียรูปง่าย สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้อย่างหลากหลาย และถ้ามองดูแบบผิวเผินก็จะรู้สึกว่าสิ่งนี้ไม่น่าจะเป็นสิ่งมีชีวิตได้เลยด้วยซ้ำ

วิธีการสืบพันธุ์

ฟองน้ำสามารถสืบพันธุ์ได้ทั้งแบบอาศัยเพศ และไม่อาศัยเพศ ซึ่งการสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศจะมีการปฏิสนธิระหว่างเซลล์อสุจิและเซลล์ไข่ได้เป็นเซลล์ตัวอ่อนขึ้นมา ส่วนการสืบพันธุ์แบบไม่อาศัยเพศจะใช้วิธีการแตกหน่อ ซึ่งรุ่นลูกที่ได้จะมีลักษณะเหมือนกับตัวต้นแบบทุกประการ

ชนิดของฟองน้ำที่ใช้เป็นตัววัดดัชนีคุณภาพของน้ำทะเล

สำหรับชนิดที่สามารถใช้ในการวัดคุณภาพของน้ำทะเลได้มีอยู่หลากหลายชนิด เช่น Oceanpia sagittaria และ Cliona sp. ซึ่งสามารถกรองตะกอน สารอินทรีย์ต่าง ๆ และสร้างกรดย่อยสลายหินปูนได้อีกด้วย นับว่าเป็นสัตว์ใต้ท้องทะเลที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์เป็นอย่างมาก

แหล่งที่อยู่อาศัย

สามารถอาศัยได้ทั้งในทะเลน้ำเค็ม และน้ำจืด แต่ส่วนใหญ่จะอยู่ในน้ำเค็ม ซึ่งพบได้ในระบบนิเวศทะเลทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นทะเลเขตร้อน เขตอบอุ่น และเขตหนาว 

ฟองน้ำ เจ้าสิ่งมีชีวิตนุ่มนิ่ม ในท้องทะเล ที่มาพร้อมกับคุณประโยชน์นานานัปการ

ฟองน้ำอย่างที่กล่าวมาข้างต้นว่าเป็นสิ่งมีชีวิตที่ไม่มีกระดูกสันหลัง รูปร่างเป็นพุ่ม และฟองน้ำ โครงสร้างจะนุ่มนิ่ม มีความยืดหยุ่น ซึ่งปัจจุบันมีการนำฟองน้ำมาใช้ประโยชน์อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะนำมาเป็นอุปกรณ์ทำความสะอาด ขัดถูร่างกาย ทำความสะอาดครัวเรือน ใช้ทำเครื่องสำอาง และนำมาทำเป็นงานศิลปะได้ โดยตามธรรมชาติยังเปรียบเสมือนเครื่องกรองอากาศ กำจัดสิ่งสกปรกใต้ท้องทะเลเพื่อให้น้ำสะอาดใส ส่งผลดีต่อสิ่งแวดล้อม และสัตว์น้อยใหญ่ที่อาศัยอยู่ใต้น้ำ เชื่อไหมว่าการสืบพันธุ์ ฟองน้ำมีทั้งรูปแบบอาศัยเพศ และไม่อาศัยเพศ สามารถกระจายพันธุ์ได้จำนวนมากในแต่ละปี เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีมานานตั้งแต่ยุคดึกดำบรรพ์ที่มีวิวัฒนาการต่ำ ฟองน้ำดำรงชีวิตด้วยการกินตะกอนต่าง ๆ และที่น่าทึ้งงานวิจัยค้นพบว่ามันสามารถเพาะเลี้ยงแบคทีเรียเอาไว้ในตนเอง และสร้างสารจุลชีพไม่ให้แบคทีเรียทำลายเนื้อเยื่อของมัน หรือแก่งแย่งอาหาร ซึ่งเหตุผลที่ทำเช่นนี้เนื่องจากว่ามันต้องการที่จะนำแบคทีเรียมาเป็นอาหารนั่นเอง จนได้รับฉายาว่าเป็นสัตว์นักเกษตรกรรมในยุคเริ่มแรกของโลกเลยก็ว่าได้ เรียกว่าเป็นสิ่งมีชีวิตที่สามารถเอาตัวรอดและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้เหมาะสมกับโลกที่เปลี่ยนแปลงไปจนถึงยุคปัจจุบัน animal2you.com

บทความเพิ่มเติม

Sponsor : ufaball.bet

Categories
ความรู้ สัตว์น้ำ แนะนำ

กัลปังหา ความงดงามแห่งท้องทะเล

กัลปังหา มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า “Gorgonia sp.” ซึ่งเป็นสิ่งมีชีวิตสุดแสนมหัศจรรย์อยู่ใต้ท้องทะเล ทำให้โลกของทะเลน่าหลงใหล เพิ่มสีสันสวยงาม เปรียบเสมือนเป็นม่านพลิ้วไหวมองแล้วประทับใจไม่รู้ลืม กัลปังหาหลายคนอาจจะคิดว่ามันเป็นพืช แต่ที่จริงแล้วเป็นสัตว์ชนิดหนึ่งที่จัดอยู่ในกลุ่มสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง โครงสร้างร่างกายไม่ซับซ้อน รูปร่างตามธรรมชาติจะค่อนข้างคล้ายกับต้นไม้ ขนนก หรือหวี มีสีสันที่หลากหลายทั้งสีส้ม สีแดง สีขาว สีน้ำตาลเข้ม และสีแดงอิฐ เป็นต้น นอกจากนั้นบางสายพันธุ์รูปร่างยังคล้ายกับพัด จึงทำให้เรียกว่า พัดทะเล” หรือถ้าหากมีรูปร่างเป็นเส้น ๆ คล้ายกับแส้ จะเรียกว่า “แส้ทะเล” กัลปังหาจะรูปร่างได้หลายแบบ ซึ่งสามารถแผ่กิ่งก้านตามกระแสน้ำ เพื่อใช้ในการดักกรองสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กสำหรับกินเป็นอาหารนั่นเอง

ทำความรู้จักกับ “กัลปังหา” สิ่งมีชีวิตที่น่าค้นหา เจิดจรัสอยู่ในโลกใต้น้ำทะเล

หลังจากที่ได้ทำความรู้จักกับกัลปังหากันไปคร่าว ๆ แล้ว ต่อมาอยากให้ทุกคนได้ทำความรู้จักกับสิ่งมีชีวิตมหัศจรรย์ชนิดนี้กันให้มากขึ้น มันเป็นสัตว์ที่ไม่มีกระดูกสันหลัง ชอบอาศัยอยู่บริเวณที่มีกระแสน้ำไหล เนื่องจากว่าจะต้องดักจับสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กที่ไหลมากับกระแสน้ำเป็นอาหาร สัตว์ทะเลไม่มีกระดูกสันหลังชนิดนี้ดำรงชีวิตได้อย่างเรียบง่าย มีขนาดเล็ก และจัดอยู่ในกลุ่มเดียวกับปะการัง ซึ่งในทะเลประเทศไทยเองก็ยังคงมีความอุดมสมบูรณ์ของสิ่งมีชีวิตชนิดนี้ 

ลักษณะโครงสร้าง

เป็นสัตว์ชั้นต่ำที่อาศัยอยู่กันเป็นกลุ่ม โดยร่วมกันสร้างเป็นโครงร่างหรือแกนกลางขึ้นมา ความสูงอยู่ที่ประมาณ 50-150 เซนติเมตร เท่านั้น กัลปังหา ลักษณะจะคล้ายพุ่มไม้ ขนนก พัด หรือแส้ ภายในเป็นองค์ประกอบของหินปูน ทำหน้าที่เปรียบเสมือนกับกระดูกในสัตว์ชั้นสูง มีสีสันสวยงามหลากหลาย ไม่ว่าจะสีขาว สีแดง สีน้ำตาล สีแดงอิฐ แต่ไม่มีสีดำ ในส่วนของหัวจะมีหนวดซึ่งเป็นหนวดพิษเอาไว้ทำหน้าที่ในการจับกินอาหาร

การสืบพันธุ์

การสืบพันธุ์ กัลปังหา สามารถสืบพันธุ์ได้ทั้งแบบอาศัยเพศ และไม่อาศัยเพศ โดยสามารถสืบพันธุ์ได้โดยมีวิธีการดังนี้

  • แบบอาศัยเพศ : มีการปฏิสนธิภายในระหว่างเซลล์สืบพันธุ์เพศผู้และเพศเมียที่มาจากต่างโคโลนีกัน
  • แบบไม่อาศัยเพศ : เป็นการแตกหน่อ ซึ่งรุ่นลูกที่ได้จะมีลักษณะเหมือนพ่อแม่ทุกประการ

โดยภาวะปกติมักจะมีการสืบพันธุ์แบบไม่อาศัยเพศมากกว่าอาศัยเพศ ซึ่งเป็นการดำรงพันธุ์อย่างง่าย และมีอัตราการกลายพันธุ์ต่ำ 

ประโยชน์ กัลปังหา มีอะไรบ้าง?

กัลปังหา เป็นสิ่งมีชีวิตมหัศจรรย์ที่ประโยชน์หลากหลายด้าน ซึ่งเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ใต้ท้องทะเลขนาดเล็ก ทั้งยังมีความเชื่อที่ว่าสิ่งมีชีวิตชนิดนี้เป็นเครื่องรางของขลัง จึงทำให้เกิดค่านิยมแบบผิด ๆ และไม่เพียงเท่านั้นคนจีนเชื่อว่าเป็นสมุนไพรที่บำรุงร่างกาย แต่อย่างไรก็ตามความเชื่อเหล่านี้ทำให้เกิดการบุกรุกธรรมชาติของสิ่งแวดล้อมใต้ท้องทะเล และหากกัลปังหาถูกทำลาย จะส่งผลต่อสัตว์เล็กและระบบนิเวศทะเล ทำให้สัตว์ตัวเล็กตัวน้อยไม่มีที่หลบภัยจากนักล่า ไม่มีที่อยู่อาศัย ไม่มีแหล่งฟักไข่ เกิดผลกระทบทำให้ระบบนิเวศทะเลพังเสียหายได้ 

ถิ่นที่อยู่อาศัย

สามารถดำรงชีวิตได้ในบริเวณเขตทะเลลึกและตื้น ซึ่งในประเทศไทยสามารถพบได้ทั้งบริเวณอ่าวไทย และทะเลอันดามัน

สรรพคุณทางยา

ในตำรายาไทย เชื่อว่าสามารถนำมาใช้ในการสมานแผล แก้บาดแผลตามเนื้ออ่อน และแก้หนังถลอกฉีกขาดได้อีกด้วย 

กัลปังหา สิ่งมีชีวิตที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์

กัลปังหาแม้จะเป็นสัตว์ทะเลที่สามารถพบได้โดยทั่วไปในทะเลน้ำลึกและตื้น แต่ปัจจุบันพบว่าพวกมันถูกรุกราน และทำลายอย่างหนัก จากน้ำมือของมนุษย์ ทำให้เกิดภาวะขาดความสมดุลในระบบนิเวศ ตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกับปะการัง ที่เกิดสภาวะปะการังฟอกขาว ดังนั้นอยากให้ทุกคนตระหนัก และใส่ใจในสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เพื่อคงรักษากัลปังหาสิ่งมีชีวิตที่สวยงามใต้ท้องทะเลนี้เอาไว้ในอนาคต เนื่องจากกัลปังหาเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์เล็กในท้องทะเล เป็นที่หลบภัย และเป็นบริเวณฟักไข่ เพราะฉะนั้นหากถูกโดยทำลายไปจำนวนมาก จะส่งผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเลอย่างแน่นอน ดังนั้นเราควรที่จะช่วยกันอนุรักษ์เอาไว้ เพื่อให้สิ่งมีชีวิตอันแสนสวยงามนี้ ยังคงตั้งสง่าในพื้นท้องทะเล animal2you.com

บทความเพิ่มเติม

Sponsor : https://ufaball.bet/

Categories
ความรู้ สัตว์น้ำ สัตว์น้ำเค็ม

ปลาซีลาแคนท์ ตำนานสิ่งมีชีวิตลึกลับดึกดำบรรพ์ ผู้ครองมหาสมุทรมานานกว่า 400 ปี

สิ่งมีชีวิตสุดมหัศจรรย์ที่อยู่บนโลกนี้มาอย่างยาวนาน “ปลาซีลาแคนท์” จริง ๆ แล้วปลาชนิดนี้ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นว่าเป็นสิ่งมีชีวิตที่ได้สูญพันธุ์ไปเป็นที่เรียบร้อย จนกระทั่งในปี ค.ศ. 1938 ปลาซีลาแคนท์ได้ถูกค้นพบอีกครั้งในคอโมโรส เคนยา แทนซาเนีย โมซัมบิก มาดากัสการ์ และในกวาซูลู-นาทัลประเทศแอฟริกาใต้ ซึ่งเป็นสายพันธุ์ Latimeria chalumnae การค้นเจอครั้งนี้เป็นความบังเอิญที่ปลาได้ติดอวนชาวประมง

ซึ่งไม่น่าเชื่อเลยว่าจะเป็นปลาสายพันธุ์ที่ทุกคนคิดว่าได้สูญพันธุ์ไปแล้ว ต่อมาประวัติการค้นพบอีกครั้งหนึ่งในปี ค.ศ.1999 ที่เกาะซูลาเซวี อินโดนีเซีย ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่สอง Latimeria menadoensis ที่พบตามธรรมชาติ ส่วนในประเทศไทยเองได้ค้นพบชิ้นส่วนของซากดึกดำบรรพ์ปลาซีลาแคนท์ โดยศูนย์วิจัยและการศึกษาบรรพชีวินวิทยา มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ที่บ้านคำพอก อำเภอคำชะอี จังหวัดมุกดาหาร อายุเกือบ 400 ปี

fossil fish1

ข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับปลาซีลาแคนท์ ซากฟอสซิลสัตว์ดึกดำบรรพ์ที่สามารถค้นพบในประเทศไทย

ปลาซีลาแคนท์เป็นสิ่งมีชีวิตที่คนคิดว่าเป็นปลาที่สูญพันธุ์ไปแล้ว ตั้งแต่ช่วงปลายยุคครีเทเชียสประมาณ 65 ล้านปีก่อน แต่ว่าได้มีการค้นพบครั้งยิ่งใหญ่และพิสูจน์แล้วว่าเป็นปลาซีลาแคนท์จริง ดังนั้นจึงเป็นปลาโบราณที่ยังมีชีวิตอยู่จนถึงปัจจุบันนี้ ปลาชนิดนี้ไม่ได้หาเจอง่าย เพราะถึงแม้จะดำรงเผ่าพันธุ์อยู่ แต่ก็มีปริมาณประชากรเหลือน้อยมาก จัดอยู่ในกลุ่มเสี่ยงสัตว์สูญพันธุ์ เพราะมีชีวิตอยู่เหลือเพียงแค่ 2 สปีชีส์เท่านั้น

ลักษณะโครงสร้างร่างกาย

จากการศึกษาพบว่าปลาชนิดนี้มีลักษณะเด่นที่ครีบ ซึ่งจะเป็นพูเนื้อขนาดใหญ่ 4 ครีบ และครีบที่หางจะแตกออกแยกกันเป็น 3 พู มีเกล็ดที่บาง มีอวัยวะคล้ายตะขออยู่ด้านหน้าของกะโหลกซึ่งเป็นอวัยวะพิเศษที่ใช้ในการตรวจจับหาเหยื่อ ซึ่งถ้าหากโตเต็มที่แล้วจะมีขนาดยาวถึง 1.8 เมตร น้ำหนักมากกว่า 90 กิโลกรัมเลยทีเดียว

ถิ่นค้นพบปลาสายพันธุ์นี้

หลายคนพออ่านมาถึงตรงนี้ คงเริ่มสงสัยแล้วใช่ไหมว่าปลาซีลาแคนท์อยู่ไหน ปัจจุบันแหล่งที่อยู่มีเพียงแค่สองที่เท่านั้น ได้แก่ บริเวณชายฝั่งเกาะสุลาเวสีของอินโดนีเซีย และตามแนวชายฝั่งทางตะวันออกของทวีปแอฟริกา ซึ่งน่าสลดใจที่ว่าประชากรของมันเหลือเพียงแค่หลักร้อยตัวเท่านั้น 

ปัจจัยเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์

ปลาซีลาแคนท์มีเหตุหลายปัจจัยที่ทำให้เสี่ยงสูญพันธุ์เนื่องจากโตช้า อัตราการสืบพันธุ์ต่ำ สามารถมีลูกมีหลานได้น้อย จึงทำให้จำนวนประชากรลดน้อยลงทุก ๆ ปี ขึ้นชื่อว่าเป็นสัตว์หายาก ที่ไม่ได้พบเจอกันง่าย ๆ 

อายุขัย

จากผลการศึกษาวิจัยล่าสุดของทางฝรั่งเศส ที่ถูกตีพิมพ์ในวารสาร Current Biology พบว่าปลาชนิดนี้มีอายุขัยนานนับร้อยปี และมีข้อมูลใหม่เพิ่มเติมว่าซีลาแคนท์เป็นปลาที่โตช้ามาก ๆ เพศเมียจะเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์เมื่อช่วงอายุประมาณเกือบ 60 ปี และเพศผู้เข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ช่วงประมาณอายุระหว่าง 40-69 ปี 

fossil fish2

ปลาซีลาแคนท์ หนึ่งในฟอสซิลที่ยังคงมีชีวิตอยู่

ปลาซีลาแคนท์ ถึงแม้จะมีฟอสซิลปลาเอาไว้อวดโฉมให้คนรุ่นหลังได้เห็นว่าพวกมันเคยสวยงามและยิ่งใหญ่มากขนาดไหน แต่ปัจจุบันก็ยังเป็นปลาดึกดำบรรพ์ ที่ยังมีชีวิตอยู่ ถึงแม้จะเหลือน้อยเต็มทีอย่างน้อยก็ยังไม่สูญพันธุ์ พวกเราสามารถที่จะยังคงหาวิธีและแนวทางในการอนุรักษ์ปลาชนิดนี้เอาไว้ได้ ปลาซีลาแคนท์เป็นสัตว์น้ำที่เมื่อโตเต็มที่แล้วจะมีขนาดตัวค่อนข้างใหญ่ หากเทียบขนาดกับปลาส่วนใหญ่ที่อาศัยอยู่ในมหาสมุทร พวกมันดำรงเผ่าพันธุ์มานานกว่า 400 ปี สามารถเอาชีวิตรอดจากการสูญพันธุ์ครั้งยิ่งใหญ่ที่คร่าชีวิตสัตว์ดึกดำบรรพ์อื่น ๆ ไปมากมาย ในประเทศไทยก็มีการค้นพบซากฟอสซิลกระดูกขากรรไกรของปลาซีลาแคนท์ที่บ้านคำพอก อ.คำชะอี จ.มุกดาหาร เป้นการค้นพบครั้งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ animal2you.com

บทความเพิ่มเติม

Sponsor : https://ufaball.bet/

Categories
ความรู้ สัตว์น้ำ

10 อันดับ ปลา สวยงาม น่าเลี้ยงมากที่สุดปี 2023

ปลา สวยงาม (ORNAMERNTAL FISH) หมายถึง ปลาที่เลี้ยงไว้เพื่อความเพลิดเพลิน หรือเพื่อความสวยงามเท่านั้น ไม่ได้มีเป้าหมายเพื่อการบริโภคแต่อย่างใด โดยการเลี้ยงปลาชนิดนี้จะมีหลายสายพันธุ์ขึ้นอยู่กับความชอบของคนเลี้ยงเป็นหลักสำคัญ นอกจากนั้นบางชนิดยังสามารถใช้เพื่อสายประกวด ทำให้หลายคนเลือกเพาะพันธุ์ขายเพิ่มรายได้อีกหนึ่งช่องทางไปในตัว ส่วนสายพันธุ์น่าเลี้ยงได้รับความนิยมจะมีสายพันธุ์ไหนกันบ้างต้องไปเช็กกันเลย 

ปลา สวยงาม 10 ชนิดเพิ่มพลังสายมูไปในตัว

ปลา สวยงาม เมื่อทำความรู้จักกับความหมายของคำว่า ปลาสวยงาม ไปแล้ว ที่นี่มาเริ่มทำความรู้จักกับสายพันธุ์ปลาแต่ละชนิดว่าจะมีสายพันธุ์ไหนกันบ้างน่าเลี้ยง เพื่อเป็นแนวทางเริ่มต้นสำหรับคนที่กำลังมองหาสายพันธุ์ปลา เพื่อเลี้ยงไว้ในบ้าน หลังจากยังตัดสินใจไม่ได้ว่าควรเลือก ปลาเลี้ยงสวยงาม ชนิดไหนดีเหมาะกับคนเลี้ยงมากที่สุด โดยเฉพาะสำหรับมือใหม่หัดเลี้ยงปลา ดังนั้นมาดูกันต่อว่าควรรเลี้ยงปลาชนิดไหนมากที่สุดดังนี้ 

ปลากัด

raising betta fish

หลายคนเริ่มต้นเลี้ยง ปลา สวยงาม ด้วย ปลากัด เพราะเป็นชนิดที่ทน และมีความแข็งแรง ในอดีตหาได้ตามแหล่งน้ำธรรมชาติทั่วไป  และยิ่งเป็น ปลากัดไทย ซึ่งถือว่าเป็นปลาประจำชาติไทยในเวลานี้กำลังได้รับความนิยมสูงมาก และกลายเป็นตัวเลือกสำคัญของคนเลี้ยงปลาตู้มากขึ้น ด้วยความโดดเด่นของสีสัน ความพลิ้วไหวของครีบและความสง่าในตัว โดยเฉพาะในเพศผู้จะพองครีบออกมาเมื่อเจอคู่ต่อสู้ ทำให้เป็นสายพันธุ์ได้รับความนิยมสูงมาก 

ปลาคราฟ

Raising koi

ตัวเลือกน่าเลี้ยงสำหรับคนที่ต้องการเลี้ยงปลาตู้เช่นกัน หรืออาจจะมีบ่อปลาอยู่แล้ว ดังนั้น ปลาคราฟ จึงเป็นทางเลือกที่ใช่ในทันที และเหมาะกับการเลี้ยงไว้ดูเล่นอีกด้วย ด้วยจุดเด่นของตัวปลาคือสีสันบนตัวของเจ้าปลาคราฟ เพราะมีสีสันหลากหลาย อีกทั้งเลี้ยงดี ๆ รับประกันว่าน้องตัวใหญ่มาก โดยจัดอยู่ในกลุ่มปลาตะเพียน ปัจจุบันเชื่อว่าเป็นปลามงคลที่ควรเลี้ยงไว้เสริมดวง และเป็น ปลาเลี้ยง เพาะพันธุ์เพิ่มรายได้ให้กับคนเลี้ยงอีกด้วย

ปลาทอง 

feed goldfish

เมื่อคิดถึงปลาตู้มั่นใจได้เลยว่า ปลาทอง ติดโผปลาต้องเลี้ยงทันที และเหมาะกับการ เลี้ยงปลา ไว้ดูเล่นต่อเนื่องทุกเวลาและทุกวัน ด้วยจุดเด่นของปลาชนิดนี้คือเลี้ยงง่าย โตไว แถมยังเป็นปลามงคลที่นิยมเลี้ยงเพื่อเสริมชะตาอีกด้วย ส่วนปัจจุบันมีมากกว่า 200 สายพันธุ์ และแต่ละสายพันธุ์จะมีจุดเด่นแตกต่างกันออกไป ส่วนความเชื่อคือเป็นปลาที่ช่วยนำโชคลาภมาสู่คนเลี้ยง ส่วนสายพันธุ์ที่เลี้ยงกับเยอะสุดคือ “สายพันธุ์หัวสิงห์” นั่นเอง 

ปลาการ์ตูน

clown fish

สำหรับคนเลี้ยงปลาที่มีประสบการณ์เลี้ยงปลาน้ำจืดมาก่อน และเริ่มมีแนวคิดทำตู้ปลาทะเล เชื่อว่า ปลาการ์ตูน ติดโผหนึ่งในชนิดปลาที่จะเลือกมาเลี้ยงไว้ในตู้แน่นอน ด้วยความสวยงามของเจ้าปลาตัวน้อย สีสันน่ารักซึ่งหลายคนต้องดำน้ำเพื่อไปดูเจ้าตัวนี้ถึงบ้านในทะเลกันเลยทีเดียว แต่หลังจากนี้ทำให้ทุกอย่างเป็นเรื่องง่ายมากขึ้น เพียงแค่เลือกบรรจุไว้ใน ปลาเลี้ยงง่าย เท่านั้น ซึ่งหลัก ๆ ทั่วไปการเลี้ยงปลาชนิดนี้หลายคนพูดตรงกันว่าไม่ได้ยากเลย 

ปลาม้าลาย

zebra fish

ตัวเลือกน่าสนใจสำหรับคนที่กำลังมองหาปลาเพื่อจัดบ่อหรือตู้ปลาไว้ดูเล่นในบ้าน สำหรับ ปลา ม้าลาย เป็นตัวเลือกน่าสนใจมาก และเหมาะกับทุกคนชัดเจน ด้วยเป็นปลาที่สามารถเจริญเติบโตได้ทั้งในสภาพแวดล้อมหลากหลาย โดยเบื้องต้นเป็นปลาที่ความทนทานสูง ดังนั้นยากที่พวกเขาจะบอกลาโลกนี้ไปง่าย ๆ ส่วนสัดส่วนของน้องจะยาวแค่ 5 เซนติเมตร และที่ได้ชื่อว่าม้าลาย เพราะแถบบริเวณลำตัวจะมีสีขาว-ดำ และอาจจะมีสีแดงบ้าง

ปลาหางนกยูง

guppy

ช้อยส์แรกของคนอยากเลี้ยง ปลา สวยงาม แต่ไม่รู้จะเลี้ยงปลา แนะนำว่าควรเลี้ยง ปลา หางนกยูง ด้วยเป็นสายพันธุ์ที่เติบโตได้ดีทุกสภาพแวดล้อม ขยายพันธุ์ได้ง่าย โดยแทบจะเป็นไปได้ยากที่ใครเลี้ยงปลาชนิดนี้แล้วตายยกตู้ ส่วนความน่าสนใจของปลาชนิดนี้คือมักจะนิยมเลี้ยงไว้ในอ่างบัวหรือบ่อต่าง ๆ โดยเบาใจในเรื่องการติดเชื้อไปได้เลย ส่วนจุดเด่นของปลาชนิดนี้คือสีสันของครีบและหางสวยงาม โดยปัจจุบันมี 5 สายพันธุ์นิยมเลี้ยงมากที่สุด

ปลามังกร

dragon fish

สำหรับ ปลา มังกร คือปลามงคลที่นิยมเลี้ยงกันไว้ในตู้ปลา ด้วยความเชื่อว่าเป็นปลาที่มีสง่าราศีสูง เนื่องจากมีรูปร่างคล้ายกับมังกรของจีน ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นปลาที่คอยนำพาเอาโชคลาภมาให้คนในบ้านตลอดเวลา ส่วนอุปนิสัยของปลาชนิดนี้คือ ดุ ก้าวร้าว หวงถิ่นแต่ขี้ตกใจ ดังนั้นการเลี้ยงปลาตัวนี้จะต้องเลี้ยงแบบเดี่ยว ๆ มากกว่าเลี้ยงรวมกับปลาชนิดอื่น ส่วนการเลี้ยงจะต้องเลี้ยงด้วยน้ำสะอาดมากที่สุด เพราะเขาเป็นสัตว์ที่รักความสะอาดพอสมควร 

ปลานีออน

neon fish

อีกหนึ่ง ปลา สวยงาม ตัวเลือกเหมาะกับการเลี้ยงในตู้ปลา คือ การเลือกเลี้ยง “ปลา นีออน” เป็นปลาที่พบได้ในอเมริกาใต้ มีรูปทรงยาวรีคล้ายกับเมล็ดข้าวสาร  ตาโต มีครีบบางใส 7 จุด ด้วยกัน มีนิสัยรักสงบ ดังนั้นจึงนิยมเลี้ยงเป็นฝูงรวมถึงเลี้ยงร่วมกับปลาชนิดอื่นในขนาดไล่เลี่ยกันได้ ส่วนเหตุผลทำให้ได้ชื่อว่า “ปลานีออน” เพราะสีสันของลำตัวสวยงามและมีความโดดเด่น เหมือนกับหลอดไฟนีออน และจุดไฮไลท์คือควรมีไฟช่วยเพิ่มสีของลำตัวมากขึ้น

ปลาหมอสี

Cichlids

ตัวเลือกปลาตู้สำหรับเลี้ยงเชื่อว่าคงตัด ปลา หมอ สี ออกไปไม่ได้เลย เพราะเป็นปลาที่ได้รับความนิยมเลี้ยงกันมานานพอสมควร และปัจจุบันถือว่าเป็นปลาที่มาแรงต่อเนื่อง โดยมีถิ่นกำเนิดในทวีปแอฟริกา ส่วนนิสัยจะค่อนข้างดุร้าย ไล่กัดปลาตัวอื่นทันทีเมื่อเข้ามาเขตของตัวเอง ทำให้ส่วนใหญ่มักจะเลี้ยงแบบเดี่ยว ๆ มากกว่าเลี้ยงรวมกันเป็นกลุ่ม ส่วนวิธีการเลี้ยงง่าย ๆ คือ จะต้องดูแลรักษาน้ำให้ใส สะอาดเสมอเท่านั้น 

ปลาบอลลูนและปลาเสือ

Balloon fish and tiger fish

ปิดท้ายกันด้วย 2 ชนิดปลาที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน ส่วนนิสัยระหว่าง ปลา บอลลูน กับ ปลา เสือสุมาตรา จะไปคนละขั้ว ดังนั้นหากตั้งใจเลี้ยงไว้ด้วยกัน อาจจะทำได้แต่เมื่อมีลูกปลาเล็กอาจจะต้องจับแยก เพราะปลาบอลลูนจะมีไม่ค่อยมีปัญหา แต่สำหรับปลาเสือสุมาตราอาจจะไม่ใช่แน่นอน แต่ด้วยความสวยงามของทั้ง 2 สายพันธุ์ทำให้ขึ้นแท่นเป็นสายพันธุ์น่าเลี้ยงอย่างมาก รวมถึงเหมาะแก่การเลี้ยงไว้ในตู้ปลาภายในห้องสุด ๆ 

ข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจเลี้ยงปลาทุกชนิด

เมื่อมีแนวคิดว่าควรตัดสินใจเลี้ยง ปลา สวยงาม แต่ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าควร เลี้ยงปลาอะไรดี เพราะอาจจะชอบทุกสายพันธุ์ที่เลือกเอาไว้ก่อนหน้านี้ และยิ่งเป็นสายมูอาจจะมีสายพันธุ์ทดไว้ในใจเรียบร้อยแล้ว แต่ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเลือกสายพันธุ์ไหนเป็นพิเศษ ด้วยไม่มีความรู้เรื่องของการ เลี้ยงปลาอะไรดีในตู้ มากนัก ทั้งนี้เพื่อให้การตัดใจง่ายมากขึ้นมาเช็กกันว่าจะมีสายพันธุ์ไหนน่าสนใจ ด้วยทริคการพิจารณาปลาที่ต้องการเลี้ยงง่าย ๆ ดังนี้

  • จำต้องทำความรู้จักของสายพันธุ์ปลาแต่ละชนิดให้ได้ 
  • ทบทวนก่อนว่าต้องการเลี้ยงปลาเพื่ออะไร 
  • จัดเตรียมน้ำและอาหารอย่างดี และรู้วิธีการแก้ปัญหาเมื่อปลาเริ่มมีปัญหา
  • มีความรู้เรื่องของน้ำที่จะเลี้ยงว่าปลาแต่ละชนิดจะต้องใช้น้ำแบบไหน 
  • มีอุปกรณ์ช่วยเพิ่มออกซิเจนให้กับตัวปลาครบครัน 

บทสรุป

ทั้งนี้ปัจจุบันการเลี้ยง ปลา สวยงาม มีทั้งการเลือกเลี้ยง ปลาสวยงามขนาดเล็ก ขนาดกลางและขนาดใหญ่ โดยแต่ละสายพันธุ์จะมีนิสัยใจคอและพฤติกรรมตามธรรมชาติแตกต่างกันออกไป ซึ่งทำให้แต่ละสายพันธุ์เข้าสู่โหมด  ปลาน่าเลี้ยง ไปโดยปริยาย และทำให้การเลี้ยงปลาของหลายคนเริ่มสนุกมากขึ้น แต่ถึงอย่างไรก็ตามก่อนตัดสินใจเลี้ยงปลาทุกชนิดจะต้องศึกษาและทำความเข้าใจสายพันธุ์อย่างละเอียดก่อนตัดสินใจเลี้ยงจริง ๆ animal2you.com

บทความเพิ่มเติม

Categories
ความรู้ สัตว์น้ำ

ล็อบสเตอร์ อาหารจานหรูที่หลายคนอาจยังไม่รู้จักพวกเขามากพอ

บนโลกใบนี้มีอาหารจานหรูบ้างมายให้เราได้ลองชิม แต่เชื่อว่าหนึ่งในเมนูที่หลายคนชื่นชอบมากที่สุดก็คงจะเป็นล็อบสเตอร์นั่นเอง พวกมันอาจมีหน้าตาแปลกประหลาดแต่รสชาติอร่อยอย่างน่าเหลือเชื่อ แถมยังมีราคาค่อนข้างสูงอีกต่างหาก แต่หากไม่พูดถึงพวกเขาในฐานะอาหารเชื่อว่าหลายคนคงจะยังไม่รู้จักพวกเขากันสักเท่าไหร่ เราจึงจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับพวกเขาให้มากขึ้นกัน 

crustacean1

ทำความรู้จักล็อบสเตอร์ สัตว์ที่เป็นมากกว่าแค่อาหารจานหรู 

ล็อบสเตอร์เป็นพี่รู้จักในฐานะของอาหารจานหรูมากกว่าสัตว์ตัวหนึ่งเสียอีก ชื่อของพวกเขานั้นมาจากภาษาละตินที่มีความหมายถึงตั๊กแตนและแมงมุม เนื่องจากพวกเขาเป็นสัตว์เปลือกแข็งที่มีขาเป็นปล้อง จัดอยู่ในสัตว์กลุ่มปู กั้ง และกุ้งที่มีอายุขัยยืนยาวมากที่สุดอีกด้วย หากไม่ถูกล่ามาทำเป็นอาหารเสียก่อนพวกเขาสามารถมีอายุได้ยืนยาวถึง 100 ปีเลยทีเดียว โดยปกติแล้วพวกเขาไม่ได้มีสีส้มหรือสีแดงเหมือนกับที่เราเห็นมันจานอาหารแต่อย่างใด แต่พวกเขาจะมีเปลือกสีดำปนแดงหรือสีเขียวอมน้ำตาล สาเหตุที่ทำให้สีเปลือกของพวกเขากลายเป็นสีแดงหรือสีส้มเกิดจากกระบวนการปรุงอาหารต่างหาก พวกเขามีฟันในการบดอาหารและยังสามารถส่งขึ้นไปบนกระเพาะอาหารที่อยู่ด้านหลังตาทั้งสองด้านเพื่อย่อยให้ละเอียดมากขึ้นกว่าเดิมก่อนที่จะส่งอาหารเหล่านั้นไปยังกระเพาะที่ 2 ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่น่าประหลาดเป็นอย่างมาก

crustacean2

บทสรุป

ถึงแม้ว่าลักษณะภายนอกของพวกเขาจะใกล้เคียงกับกุ้งมังกรของไทยเราแต่ความจริงแล้วพวกเขาไม่เหมือนกันเลยแม้แต่น้อยเพราะพวกเขาเลี้ยงง่ายกว่าและมีก้าม สายพันธุ์ที่นิยมนำเอามาประกอบอาหารมากที่สุดคือสายพันธุ์อเมริกาและยุโรป นับเป็นหนึ่งในสัตว์หายากจึงมีราคาแพงเพราะเติบโตช้า ติดเชื้อได้ง่าย กินอาหารก็เยอะ บางครั้งก็ตายจากการลอกคราบอีกต่างหาก ดังนั้นฟาร์มเพาะเลี้ยงจึงไม่ค่อยอยากจะเพาะเลี้ยงพวกเขากันสักเท่าไหร่ และในประเทศไทยเราก็ไม่มีสัตว์สายพันธุ์นี้แต่อย่างใดดังนั้นจึงต้องนำเข้าและกลายมาเป็นสาเหตุที่ทำให้มีราคาแพง เวลานำเอาสัตว์น้ำสายพันธุ์นี้มาประกอบอาหารจึงต้องใช้ทุกส่วนไม่ว่าจะเป็นเนื้อหรือหัวก็ตาม ส่วนเปลือกของสัตว์ทะเลสายพันธุ์นี้ก็นิยมนำเอามาใช้ในการประดับตกแต่งจานเพื่อช่วยเพิ่มมูลค่าให้ดูดีมากขึ้นกว่าเดิม animal2you.com

 

บทความเพิ่มเติม

Categories
สัตว์น้ำ

จิ้งจกน้ำ สัตว์สุดแปลกที่มีหน้าตาน่ารักจนได้รับความนิยม 

ในปัจจุบันผู้คนเริ่มหันมานิยมให้ความสนใจกับบรรดาสัตว์ที่ดูแปลกตามากขึ้นกว่าเดิม เวลาเลี้ยงสัตว์เราจึงไม่ได้เห็นเพียงแค่สุนัขหรือแมวเหมือนกับในอดีตเพียงอย่างเดียวอีกต่อไปแล้ว และหนึ่งในสายพันธุ์ที่ได้รับความนิยมก็คือ จิ้งจกน้ำ นั่นเอง พวกเขาเป็นสัตว์เลี้ยงที่มีรูปร่างหน้าตาน่ารักเป็นอย่างมาก เชื่อว่าหลายคนคงตกหลุมรักพวกเขาได้อย่างง่าย และสำหรับใครที่สนใจเราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับพวกเขาให้มากขึ้นกัน 

จิ้งจกน้ำ ความแตกต่างที่มาพร้อมกับความน่ารัก 

จิ้งจกน้ำ

หากพูดถึงจิ้งจกหลายคนก็อาจจะนึกถึงสัตว์เลื้อยคลานที่ไต่อยู่ตามเพดานบ้าน แต่ที่เราจะมาแนะนำกันในวันนี้คือจิ้งจกน้ำซึ่งแตกต่างจากจิ้งจกบ้านธรรมดาทั่วไป พวกเขาได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในฐานะของสัตว์ EXOTIC  สุดแปลก ดังนั้นในช่วงนี้เราจึงเห็นผู้คนหันมาเลี้ยงพวกเขามากขึ้นกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด พวกเขาเป็นสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำกลุ่มเดียวกับซาลาแมนเดอร์

จิ้งจกน้ำ

ความจริงแล้วพวกเขามีชื่อเรียกต่างๆ มากมายอย่างเช่นหมาน้ำ แอกโซลรอเติล หรือปลาตีนเม็กซิโก นั่นก็เป็นเพราะว่าประเทศเม็กซิโกคือประเทศถิ่นกำเนิดของพวกเขานั่นเอง โดยพวกเขาจะอาศัยอยู่ในทะเลสาบบริเวณตอนกลางของประเทศ พวกเขาจะมีความยาวลำตัวประมาณ 30 เซนติเมตร อายุไขเฉลี่ยถึง 15 ปี

จิ้งจกน้ำ

ส่วนสีนั้นก็จะแล้วแต่สายพันธุ์มีทั้งสีชมพูอ่อนตาสีดำที่ได้รับความนิยมและดูคล้ายคลึงกับจิ้งจกบ้านมากที่สุด ลำตัวสีทองตาสีดำที่มีความเคร่งขรึมมากขึ้นกว่าเดิมแต่ก็ดูหรูหรา ตัวสีเทาตาสีดำที่ดูเท่ และตัวสีดำล้วนทั้งตัวที่ก็ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน สาเหตุของสีที่แตกต่างกันเกิดจากการปรับตัวเพื่อการเอาชีวิตรอดในสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกัน 

จิ้งจกน้ำ

แต่ความโดดเด่นของพวกเขาก็คือจะมีผู้อยู่บริเวณด้านหลังของศีรษะทำหน้าที่เป็นเหงือกในการหายใจ และที่สำคัญพวกเขาสามารถงอกอวัยวะใหม่มาทดแทนอวัยวะที่สูญหายหรือขาดไปได้เหมือนกับจิ้งจกอีกด้วย ไม่เฉพาะแค่แขนหรือขาแต่รวมไปถึงหัวใจและสมองอีกต่างหาก แต่ถึงจะหน้าตาน่ารักมากแค่ไหนสัตว์แปลกสายพันธุ์นี้ก็นับว่าเป็นสัตว์ที่มีความดุร้ายไม่น้อยเช่นเดียวกัน

จิ้งจกน้ำ

ดังนั้นก่อนเลี้ยงเราจึงควรศึกษาให้ดีเพราะไม่สามารถเลี้ยงกับสัตว์น้ำหรือสัตว์ชนิดอื่นได้แต่อย่างใด ส่วนอาหารพวกเขาจะกินเนื้อสัตว์อย่างเช่นปลาขนาดเล็กหรือหนอน อุณหภูมิน้ำที่เหมาะสมคือไม่เกิน 20 องศาเท่านั้น ดังนั้นถึงจะมีราคาถูกเพียงแค่หลักร้อยแต่ราคาในการดูแลรักษาพวกเขานั้นถือว่าไม่ถูกเสียทีเดียวแต่อย่างใด 

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
สัตว์น้ำ สัตว์น้ำเค็ม

เรื่องเล่าของฉลาม สัตว์น้ำที่มีขนาดใหญ่มีความหลากหลายของรูปทรง 

เรื่องเล่าของฉลาม เมื่อเอ่ยถึงฉลาม คนทั่วไปมีภาพของฉลามในใจว่ามันเป็นสัตว์ทะเลที่ดุร้าย น่ากลัว แต่ในโลกของความจริงคนเราถูกสุนัขกัดบ่อยกว่าฉลามหลายหมื่นหลายแสนเท่า ส่วนเสือในป่านั้นก็ร้ายกว่าฉลามในทะเลราว ๒๐ เท่า สถิติคนที่ถูกฉลามกัดตายในแต่ละปีประมาณ ๒๕ คน ถึงแม้สถิติการถูกฉลามงาบในแต่ละประเทศจะไม่ปรากฏ แต่ในอเมริกาได้มีการสำรวจพบว่าในปี ๒๕๔๑ คนถูกฉลามโจมตี ๕๔ ครั้ง ในปี ๒๕๔๒ มี ๕๘ ครั้ง และปี ๒๕๔๓ มี ๗๙ ครั้ง

เรื่องเล่าของฉลาม

สาเหตุที่คนถูกฉลามรังแกมากขึ้นเพราะทะเลมีคนลงเล่นน้ำมากขึ้น เวลาคนไปว่ายน้ำในบริเวณที่มันอาศัยอยู่ และในขณะนั้นมันหิว มันก็อาจนึกผิดคิดว่าคนเป็นปลาน่ากิน แต่เมื่อฟันที่แหลมคมของมันกระทบเนื้อคนมันก็รู้ทันทีว่า นั่นไม่ใช่เหยื่อที่มันต้องการ มันจึงคายแล้วว่ายน้ำหนี ทิ้งคนให้มีบาดแผลเหวอะหวะเรียบร้อย แต่สำหรับฉลามที่ดุร้าย มันใช้วิธีว่ายน้ำเข้าชนเหยื่อและอ้าปากกัดแล้วกัดอีก มีผลให้เหยื่อเสียเลือดมากจนตาย

เรื่องเล่าของฉลาม  นับว่าเป็นปลากระดูกอ่อน ที่มีความหลากหลายสูงมาก และมีขนาดใหญ่อีกด้วย

เรื่องเล่าของฉลาม

ทั่วโลกมีฉลามมากกว่า 500 ชนิด แบ่งได้เป็น 8 กลุ่มใหญ่ๆ ตามลักษณะทางกายภาพ ฉลามมีความหลากหลายของรูปทรง สีสัน และขนาด มีตั้งแต่ฉลามวาฬที่เป็นปลาที่ใหญ่ที่สุดในโลก ตัวใหญ่ที่สุดมีรายงานว่ามีความยาวถึง 20 เมตร หนักถึง 42 ตันจากไต้หวัน แลถปลาฉลามหายากมากในกลุ่มปลาฉลามหลังหนาม ที่โตเต็มที่มีความยาวไม่ถึง 20 เซนติเมตร พบเฉพาะแถบอเมริกากลาง

เรื่องเล่าของฉลาม

ฉลามแต่ละชนิดยังมีลักษณะนิสัยที่แตกต่างกันไป และพบได้ในทุกมหาสมุทรทั่วโลก แม้แต่ในแม่น้ำ ลำคลอง ปากแม่น้ำ ป่าชายเลน บางชนิดอาศัยเฉพาะในน้ำเย็น บางชนิดชอบอาศัยในน้ำอุ่น บางตัวเดินทางท่องไปทั่วโลก แต่บางตัวก็อาศัยอยู่ไม่ไกลจากบริเวณที่ตัวเองเกิด

เรื่องเล่าของฉลาม

และในส่วนของลักษณะเฉพาะทางชีววิทยาของฉลามที่แตกต่างจากปลากลุ่มอื่นๆ ส่วนใหญ่ คือพวกมันโตช้า กว่าจะเจริญเติบโตจนเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์อาจต้องใช้หลายปี ฉลามหัวบาตรใช้เวลา 15-20 ปีกว่าจะพร้อมผสมพันธุ์ และออกลูกคราวละไม่กี่ตัว ฉลามหัวบาตรออกลูกคราวละ 6-8 ตัวเท่านั้นและใช้เวลาอุ้มท้อง 10-11 เดือน ยาวนานกว่าคนเสียอีก

เรื่องเล่าของฉลาม

เรื่องเล่าของ ฉลาม นับว่าเป็นสัตว์ทะเลที่มีขนาดใหญ่ และเป็นที่เลื่องลือกันว่ามีฟันแหลมคมเป็นอาวุธประจำตัว และฉลามแต่ละชนิดยังมีลักษณะนิสัยที่แตกต่างกันออกไปอีกด้วย

อ่านบทความอื่นๆ: