Categories
ความรู้ สัตว์บก

แมวเปอร์เซีย แมวที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของโลก

หนึ่งในสายพันธุ์แมวที่ได้รับความนิยมมากที่สุดทั่วโลกคือ แมวเปอร์เซีย เป็นแมวที่ถือกำเนิดในดินแดนตะวันออกกลางตามชื่อสายพันธุ์ นั่นคือ แถบเปอร์เซีย ประเทศอิหร่านและตุรกี ซึ่งมีความเชื่อว่าเป็นลูกหลานของแมวป่าอเมริกา ด้วยความที่มีใบหน้าคล้ายตุ๊กตา  แถมยังมีตัวกลม หน้ากลม มาพร้อมกับขนที่ยาวสวย ทำให้เป็นที่หมายตาของบรรดาทาสแมว ไม่ค่อยส่งเสียงรบกวน ถือว่าเป็นแมวที่เรียบร้อยที่สุดในโลกก็ว่าได้ 

แมวเปอร์เซีย ลักษณะเฉพาะตัวที่ทำให้หลายคนตกหลุมรัก

แมวเปอร์เซีย

ทาสแมวหลายคนเป็นต้องโดนตก กันหลายราย เนื่องจากเป็นแมวทที่มีใบหน้าคล้ายตุ๊กตา เป็นสายพันธุ์ที่มีโครงสร้างของลำตัวตั้งแต่ขนาดกลางไปจนถึงใหญ่ มีน้ำหนักเฉลี่ยอยู่ที่ 13-15 กิโลกรัม มีกระดูกที่ค่อนข้างใหญ่และแข็งแรง ลักษณะเฉพาะตัวที่ทำให้โดดเด่นกว่าสายพันธุ์อื่นๆ ที่เห็นได้ชัดคือ มีหัวที่ค่อนข้างกลม ตาโต หน้าผากโหนก แก้มเต็ม มีใบหูขนาดเล็กที่มีปลายมน และจมูกหัก หางสั้นตรง ขนยาวสวย มีนิสัยที่ค่อนข้างเงียบ ไม่ค่อยซุกซนเหมือนแมวสายพันธุ์อื่น ไม่ค่อยสนใจสิ่งรอบข้าง มีความใจเย็น สุขุม แต่บางครั้งก็มีแสดงนิสัยแบบเด็กๆ ออกมา จึงทำให้เป็นที่รักของเด็กๆ ด้วย

แมวเปอร์เซีย

การเลี้ยงแมวถือเป็นการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงที่ไม่ต้องกังวลอะไรมาก ด้วยลักษณะนิสัยของแมวสายพันธุ์นี้ จะไม่ค่อยทำให้ข้าวของในบ้านพังเสียหาย สามารถทำกิจกรรมร่วมกับเด็กๆ ได้ เหมาะกับบ้านที่ต้องการเลี้ยงสัตว์แต่ไม่ชอบความวุ่นวาย หรือไม่ชอบให้บ้านรก จะชอบอยู่ใกล้เจ้าของ แต่ไม่ถึงกับออเซาะทั้งวัน ความขี้อ้อนอาจไม่ขี้อ้อนเทียบกับแมวสายพันธุ์อื่นๆ อาจมีนอนตักบ้างเป็นบางครั้งและที่สำคัญยังเป็นแมวที่รักสะอาด หากทาสแมวคนไหนอยากเลี้ยงควรเตรียมกระบะทรายที่สะอาดเพียงพอต่อความต้องการของน้อง อากาศในบ้านก็ต้องคำนึงถึง เนื่องจากแมวสายพันธุ์นี้ไม่ชอบความอึดอัด อาจจะต้องเลี้ยงน้องในที่ที่มีสภาพอากาศถ่ายเทสะดวก ที่สำคัญคือควรมีเครื่องดูดฝุ่น เพราะถือเป็นอุปกรณ์ที่สำคัญในการทำความสะอาด 

เปอร์เซีย สัตว์เลี้ยงเพื่อนรัก

แมวเปอร์เซีย

หลายคนคงทราบดีว่าการเลี้ยงแมว ก็เหมือนการที่เราได้เพื่อนเพิ่มมา 1 คน ต้องคอยดูแลเอาใจใส่ ไม่ละเลย และแม้ว่าจะเป็นแมวที่ไม่ค่อยออดอ้อนออเซาะเจ้าของสักเท่าไหร่ แต่ด้วยความน่ารัก ความจงรักภักดี ความฉลาด รักสงบ ไม่ส่งเสียงดังเอะอะโวยวาย ความฉลาดแสนรู้ เหมือนว่าจะเข้าใจความรู้สึกของคนได้ดีมากด้วย ทำให้แมวเปอร์เซียไม่ได้มีดีแค่รูปลักษณ์ แต่ถือเป็นความสบายใจให้ทาสแมวได้ดีเลยทีเดียว ถือเป็นสัตว์เลี้ยงเพื่อนรัก แม้คุณจะมีความเครียด เจอเรื่องร้ายๆ จากโลกภายนอกมาอย่างไร หากคุณได้กลับบ้านมาเจอสัตว์เลี้ยงเพื่อนรัก จะทำให้ความเครียดของคุณหายไปแบบปลิดทิ้ง ด้วยเหตุผลทั้งหมดที่ได้กล่าวไป จึงไม่แปลกเลยว่าทำไมแมวสายพันธุ์นี้จึงได้รับความนิยมระดับโลก

อ่านบทความอื่นๆ:

สนับสนุนโดย:

https://sa-game.bet เว็บพนันยอดฮิตครองใจนักพนันทั้งหน้าเก่าและหน้าใหม่ เว็บที่เปิดให้บริการมาอย่างยาวทั้งในประเทศและต่างประเทศ

Categories
ความรู้ สัตว์บก

สัตว์เขตทะเลทราย ความน่าทึ่งที่ไม่อาจพบเจอได้ในเขตพื้นที่อื่นๆ

สัตว์บก

เขตทะเลทรายมีสภาพแวดล้อมที่แห้งแล้งมาก ฝนตกเพียงน้อยนิดเฉลี่ยตลอดปีต่ำกว่า 250 มิลลิเมตร ไม่เหมาะกับการดำรงชีวิต สัตว์เขตทะเลทราย ในสภาพแวดล้อม เราจะไม่ค่อยพบเจอพืชพรรณธรรมชาติในเขตพื้นที่ทะเลทราย เนื่องจากความแห้งแล้ง จึงทำให้ยากที่จะเจริญเติบโต พืชที่สามารถอยู่รอดได้ก็จะเป็นพืชที่ไม่ต้องการน้ำ หรือต้องการน้ำน้อย สิ่งมีชีวิตอื่นๆก็เช่นกัน เพื่อความอยู่รอดจึงต้องปรับตัวเข้ากับความแห้งแล้งในพื้นที่แห่งนี้ แต่ในทะเลทรายอันร้อนระอุก็มียังแหล่งน้ำ หรือโอเอซิส พบพืชพรรณที่ต้องการน้ำ สามารถเจริญเติบโตได้ อีกทั้งยังเป็นที่พักพิงของเหล่าสัตว์เขตทะเลทรายอีกด้วย

สัตว์เขตทะเลทราย มีมากมายหลายชนิดให้ทำความรู้จัก

เขตทะเลทรายไม่เหมาะกับการอาศัยอยู่ของสิ่งมีชีวิต เนื่องจากทะเลทรายมีความแห้งแล้ง เต็มไปด้วย ทราย กรวด และหิน อีกทั้งน้ำยังเป็นปัจจัยหลักในการดำรงอยู่ของสิ่งมีชีวิต แต่มีสัตว์เพียงไม่กี่สายพันธุ์ที่สามารถปรับตัวเรียนรู้ สัตว์เขตทะเลทราย ดำรงชีวิต ในสภาพแวดล้อมเช่นนี้ได้ ตัวอย่างเช่น เหล่าสัตว์ตัวเล็กจะใช้วิธีขุดรูอยู่ในชั้นดินเพื่อหลบความร้อนในเวลากลางวัน และออกหากินในเวลากลางคืนแทน สัตว์เขตทะเลทรายแต่ละชนิด ก็จะมีวิธีการปรับตัวเพื่อเอาตัวรอดแตกต่างกันไป 

อูฐ

เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่มีความอดทนสูงมาก สัตว์เขตทะเลทราย ดำรงชีวิต อยู่ได้โดยไม่กินน้ำหรืออาหารได้ยาวนานถึง 2 สัปดาห์ เพราะอูฐมีหนอกที่เก็บไขมันได้ 36 กิโลกรัม และมีร่างกายที่เก็บรักษาน้ำได้เป็นอย่างดี เมื่อโตเต็มไววัดจากบ่าจะมีขนาด 1.85 เมตร มักจะถูกใช้เป็นพาหนะในทะเลทราย

เมียร์แคท

เป็นสัตว์ในตระกูลเดียวกับพังพอน มีจมูกที่ดมกลิ่นได้ดี และมีประสาทหูที่ไวต่อเสียงระยะไกลถึง 50 เมตร มักจะอยู่รวมกันเป็นฝูงใหญ่ มีถิ่นอาศัยอยู่ในทะเลทรายคาลาฮารีทางตอนใต้ของทวีปแอฟริกา เมียร์แคทสามารถกิน และสู้เหล่าสัตว์ที่มีพิษทั้งหลายได้ 

หนูเจอร์บัว

ถือว่าเป็นสัตว์หายากชนิดหนึ่ง มักจะขุดรูอยู่ในชั้นดินทรายเพื่อหลบความร้อน ความหนาว เป็นการปรับตัวของ สัตว์เขตทะเลทราย พื้นที่ที่แตกต่าง จากเขตพื้นที่อื่นๆ กระโดดได้สูง และเดินทางได้รวดเร็วในทะเลทรายโดยการกระโดดจากขาหลังที่ยาว หนูเจอร์บัวไม่ต้องดื่มน้ำได้ แต่อาศัยความชื้นในอาหารที่กินเข้าไปแทน

แมวป่าคาราคัล

มีจุดเด่นคือ ใบหูขนาดใหญ่ เป็นตัวช่วยในการระบายความร้อนได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังกระโดดได้สูงถึง 4 ฟุต เพื่อจับเหยื่อจำพวกสัตว์ปีก มักจะหากินตามลำพัง ในช่วงเวลาเช้า และเย็น เนื่องจากจากเป็นช่วงที่อากาศเย็น แมวคาราคัลอดน้ำได้ โดยอาศัยน้ำจากตัวเหยื่อก็เพียงพอต่อการดำรงชีวิตอยู่แล้ว

สัตว์เขตทะเลทราย มีความน่าทึ่งที่ไม่อาจพบเจอได้ในเขตพื้นที่อื่นๆ การเอาตัวรอด ดำรงชีวิตของ สัตว์เขตทะเลทราย ในสภาพแวดล้อม ที่แห้งแล้งเกินว่าจะมีชีวิตอยู่รอดได้ แต่สัตว์เหล่านี้สามารถวิวัฒนาการ ปรับตัวอยู่ได้อย่างไม่น่าเชื่อ นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมพวกมันถึงมีชีวิตอยู่รอดได้ในพื้นที่อันร้อนระอุแห่งนี้

 

 

 

สมัครบาคาร่า

Categories
ความรู้ สัตว์บก

สิงโตขาว ราชสีห์แห่งอุทยานแห่งชาติครูเกอร์ ที่น่าจับตามอง

สัตว์บก

        สัตว์ที่เป็นตำนานล้วนมีอย่างหลากหลาย แต่หากจะหาสัตว์ที่เป็นดั่งเจ้าป่าและมียีนส์ในร่างกายที่ตกทอดมาจากยุคน้ำแข็งและสามารถหาชมได้ยากแล้ว ก็คงจะลืม “สิงโตขาว” ไปเสียมิได้ แล้วสิงโตขาวจะแตกต่างกับสิงโตธรรมดาอย่างไร อาศัยอยู่ที่ไหน และกินอะไรเป็นอาหารบ้าง บทความของเรามีคำตอบค่ะ

ลักษณะทั่วไปของสิงโตขาว

        สิงโตขาว คือ สิงโตประเภทหนึ่งที่ไม่ได้แตกแยกชนิดออกไปเพียงแต่มีจุดเด่นที่มีความแตกต่างจากสิงโตโดยทั่วไปอย่างเห็นได้ชัดนั่นก็คือสิงโตขาวลักษณะของมันจะเป็นขนสีขาวหรือน้ำตาลที่ออกไปทางอ่อนกว่าสีขนของสิงโตธรรมดาปกตินั่นเอง ซึ่งที่เป็นเช่นนี้นั้นเป็นผลมาจากภาวะด่างที่มีเช่นเดี่ยวกันกับเสือโคร่งขาว อีกทั้งยังไม่เกี่ยวข้องกับภาวะเผือกแต่อย่างใด เพียงแต่เป็นชื่อที่คนเรียกถนัดปากมากกว่าเท่านั้นเอง สิงโตขาวที่อยู่อาศัยจะเป็นสัตว์เฉพาะถิ่นในอุทยานแห่งชาติครูเกอร์ในประเทศแอฟริกาใต้ ดังนั้นหากอยากเห็นสิงโตขาวนี้ตัวเป็น ๆ ก็จะต้องไปเยือนถิ่นด้วยตัวเองค่ะ

        สิงโตขาวอาหารของพวกมันก็จะเป็นจำพวกเนื้อสัตว์และสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ เช่นเดียวกันกับสิงโตทั่วไปเลยค่ะ ไม่ได้มีอะไรที่แตกต่างกันเลยในเรื่องของอาหาร โดยในปัจจุบันสิงโตขาวนั้นเหลืออยู่เพียงประมาณ 300 ตัว เท่านั้น ซึ่งถือว่าน้อยมาก ๆ และเสี่ยงที่จะเป็นสัตว์ใกล้สูญพันธุ์สูงมากในขณะนี้ ดังนั้นจึงมีการปกป้องและอนุรักษ์สิงโตขาวจากมนุษย์อย่างมากที่สุด ซึ่งในประเทศไทยของเรานั้นก็มีสิงโตชนิดนี้อยู่หนึ่งตัวโดยสามารถไปชมได้ที่สวนสัตว์ขอนแก่นค่ะ

ไม่ว่าจะสิงโตขาวหรือสิงโตเผือกต่างก็เป็นสัตว์อนุรักษ์

        สิงโตขาว มีอีกชื่อเรียกหนึ่งที่ได้เกริ่นไปในตอนต้นว่าคนเรียกกันถนัดปากมากกว่านั่นก็คือ “สิงโตเผือก” ซึ่งนอกจากจะเป็นสัตว์สงวนแล้วก็ยังเป็นสัตว์ที่ชาวแอฟริกานำไปแต่งเป็นนิทานปรัมปราที่เล่าสืบต่อกันมาอีกด้วย โดยเนื้อเรื่องจะเกี่ยวข้องกับราชินีองค์หนึ่งที่อยู่ในวัยชรา แต่แล้ววันหนึ่งก็เกิดเหตุการณ์เหนือธรรมชาติขึ้น โดยมีลูกไฟตกลงมาเป็นหลุมขนาดใหญ่พร้อมกับส่งเสียงเรียกพระองค์อยู่ และเมื่อพระองค์ไปถึงก็ได้เปลี่ยนจากหญิงชรากลายเป็นสาวสวยสะพรั่งและสิงโตก็ได้ตกลูกเป็นสิงโตขนสีขาว จึงทำให้ชาวแอฟริกาใต้เชื่อว่าเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์นั่นเอง

        นกจากนี้สิงโตขาวนิสัยของมันยังค่อนข้างสงบนิ่งแต่จะเริ่มมีการต่อสู้เมื่อล่าเหยื่อ อีกทั้งยังมีความสง่าที่ในปัจจุบันเริ่มหาชมได้ยากแล้ว

บทสรุป

        สิงโตขาว เป็นสัตว์เฉพาะถิ่นที่สามารถหาชมได้แค่ในอุทยานแห่งชาติครูเกอร์เท่านั้น แต่ในปัจจุบันประเทศไทยก็มีการเปิดให้ชมสิงโตชนิดนี้ได้ที่สวนสัตว์ขอนแก่น หากใครอยากลองไปดูด้วยตาตนเองว่าขนสีอ่อนที่ว่านั้นเป็นอย่างไรก็ลองหาเวลาไปชมดูนะคะ รับรองสวยงามไม่ผิดหวังแน่นอน

Categories
ความรู้ สัตว์บก

“อัลปากา” สัตว์ชื่อแปลก แต่น่ารักที่จะทำให้คุณยิ้ม

สัตว์บก

       “อัลปากา” เชื่อว่าใครหลาย ๆ คนที่ได้ยินชื่อนี้แล้วก็คงจะเริ่มสงสัยขึ้นมาแล้วว่า มันคือตัวอะไรกัน ทำไมชื่อไม่เหมือนสัตว์เลย เป็นสถานที่หรือ ซึ่งที่จริงแล้วเขาก็เป็นสัตว์สี่ขาชนิดหนึ่งที่มีความน่ารักและน่าทะนุถนอมไม่เบาเลยล่ะค่ะ ซึ่งสัตย์ชนิดนี้มักจะเป็นที่ชื่นชอบของเด็ก ๆ อยู่ไม่น้อยเลย แถมที่ไทยเราก็มีสัตว์แบบนี้อาศัยอยู่ด้วยนะ แล้วเขาจะน่ารักแค่ไหน จะมีอะไรเด่นบ้าง บทความนี้มีคำตอบค่ะ

ลักษณะโดยทั่วไปของอัลปากา

       อัลปากา คือ สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมชนิดหนึ่งซึ่งเป็นสัตว์ในตระกูลเดียวกันกับอูฐ มักอาศัยอยู่รวมกันเป็นฝูง โดยอัลปากาชนิดนี้มีถิ่นกำเนิดอยู่ในแถบเทือกเขาแอนดีส ประเทศอเมริกาใต้ อัลปาก้า ลักษณะเด่นของมันคือจะเป็นสัตว์ที่ได้ชื่อว่าเป็นสัตว์มีขนที่มีขนนุ่มที่สุดในโลก อีกทั้งยังเป็นสัตว์ชนิดหนึ่งบนโลกที่ไม่มีฟันหน้า จะมีความสูงเต็มที่ประมาณ 180 เซนติเมตร โดยอัลปากา นิสัยของมันจะค่อนข้างเป็นมิตร เช่นเดียวกับแพะและแกะ อีกทั้งยังเป็นสัตว์ที่สามารถเลียนเสียงได้อย่างหลากหลายรูปแบบเพื่อป้องกันตัวเองจากอันตรายที่จะเกิดขึ้น

       ในปัจจุบันอัลปากาถูกนำไปเป็นสัตว์เลี้ยงภายในบ้าน โดยมีราคาต่อหนึ่งตัวที่สูงตั้งแต่หลักแสนไปจนถึงหลักล้านเลยทีเดียว ซึ่งเมื่อก่อนพวกมันจะถูกเลี้ยงในรูปแบบปศุสัตว์เพื่อนำขนของมันไปทำเป็นเสื้อผ้าและเครื่องใช้ต่าง ๆ เนื่องจากขนที่มีความนุ่มที่สุดในโลกจึงเป็นที่หมายปองของใครหลาย ๆ คน อย่างไรก็ตามการเลี้ยงสัตว์ประเภทนี้ในบ้านก็ไม่ได้สร้างความรำคาญให้แก่ผู้เลี้ยงแต่อย่างใดเพราะอาหารอัลปากาก็จะเป็นหญ้าซึ่งสามารถหาได้ทั่วไป เนื่องจากเป็นสัตว์ที่รักสะอาด ไม่มีกลิ่นเหม็นแม้ไม่ได้อาบน้ำ ซึ่งส่วนใหญ่อัลปากาจะถูกจับอาบน้ำเมื่อต้องนำไปประกวดเท่านั้น เนื่องจากการใช้เวลาเป่าขนให้แห้งนานถึง 4 ชั่วโมงนั่นเอง

สรุปแล้วมันคืออัลปากาหรือลามะ

       เชื่อว่าคงมีหลายคนที่อาจสับสนกับรูปลักษณ์ของอัลปากากับลามะอยู่ไม่น้อย ซึ่งก็ไม่แปลกที่จะมีคนคิดเช่นนั้น เพราะรูปร่างและหน้าตาของมันมีความคล้ายคลึงกันจริง ๆ แต่เนื่องจากสัตว์ทั้งสองชนิดนี้เป็นคนละประเภทกันจุดต่างของมันจึงมีอยู่ด้วยกันหลายจุดตั้งแต่หัวไปจนถึงหาง ซึ่งจะสังเกตได้อย่างชัดเจนเลยว่าอัลปาก้าจะมีขนาดตัวและอวัยวะต่าง ๆ ที่เล็กกว่าลามะอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะส่วนหูที่จะมีความเรียวเล็กกว่าลามะนั่นเอง จึงสามารถแยกออกได้ไม่ยาก อีกทั้งขนของลามะก็ยังมีความพองและนุ่มน้อยกว่า

       ในประเทศไทยของเราก็มีสถานที่สำหรับให้คุณทั้งหลายได้ไปชมอัลปากาแสนน่ารักได้อย่างจุใจนั่นก็คือที่ อัลปากา ฮิลล์ นั่นเอง ถ้าใครอยากเห็นอัลปากาตัวจริงก็ไปที่นี่ได้เลย

บทสรุป

อัลปากา เป็นสัตว์ที่มีขนนุ่มที่สุดในโลก อีกทั้งยังมีความสามารถในการส่งเสียงฮัมเพลงซึ่งแสดงถึงความสุข ทำให้ผู้ที่มาพบเห็นสามารถยิ้มได้ไปตาม ๆ กัน 

Categories
ความรู้ สัตว์บก

ลิงบาบูน ลิงสุดโหด ที่ไม่ได้น่ารักอย่างที่คุณคิด

สัตว์บก

      ลิง สัตว์สี่ขาที่เชื่อว่ามนุษย์นั้นล้วนมีวิวัฒนาการมาจากพวกมัน ซึ่งลิงนั้นมีความสามารถในการยืนหรือเดินสองขาได้เช่นเดียวกันกับมนุษย์ แถมยังมีอย่างหลากหลายสายพันธุ์กันเลยทีเดียว วันนี้เราจึงมีเกร็ดความรู้เล็ก ๆ น้อย ๆ จากลิงสายพันธุ์หนึ่งที่เชื่อว่าหลาย ๆ คนจะต้องรู้จักกันจากเรื่อง LION KING นั่นก็คือ “ลิงบาบูน” นั่นเอง จะมีเรื่องอะไรน่ารู้เกี่ยวกับลิงสายพันธุ์นี้บ้าง ไปดูพร้อม ๆ กันเลยค่ะ 

ลักษณะทั่วไปของลิงบาบูน

      ลิงบาบูน คือ ลิงที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 4 ของโลก โดยลิงบาบูน ชื่อวิทยาศาสตร์ว่า PAPIO ซึ่งลิงบาบูนจะมีความพิเศษตรงที่มีขาหน้าและขาหลังที่มีความยาวเท่ากันจึงสามารถเดินได้พร้อมกันทั้งสี่ขาเช่นเดียวกับกอริลล่า อีกทั้งยังมีความคล่องแคล่วว่องไวไม่แพ้ลิงสายพันธุ์อื่นเลย ลิงบาบูน นิสัยของมันนั้นจะมีความดุร้าย และก้าวร้าว เนื่องจากอาหารลิงบาบูนที่กินเป็นอาหารนั้นจะเป็นจำพวกเนื้อ ความดุร้ายและก้าวร้าวจึงเป็นนิสัยที่ติดตัวมันมานั่นเอง

      ในปี 2563 ที่ผ่านมา ได้มีรายงานจากสื่อข่าวในต่างประเทศว่า มีเจ้าหน้าที่พบเห็นลิงบาบูน กินลูกสิงโต ในสวนสัตว์แห่งหนึ่งบริเวณแถบทางตะวันออกเฉียงเหนือของแอฟริกาใต้ โดยก่อนที่มันจะนำลูกสิงโตขึ้นไปบนต้นไม้นั้นพบว่าลิงบาบูนและลูกสิงโตตัวนี้มีการต่อสู้กันจนลูกสิงโตทนไม่ไหวเนื่องจากร่างกายไม่แข็งแรง ดังนั้นมันจึงกลายเป็นอาหารของลิงไปโดยปริยาย ซึ่งหากใครที่เคยเห็นภาพนี้ก็อาจมองว่าคล้ายกับฉากหนึ่งในภาพยนตร์เรื่อง LION KING แต่ความเป็นจริงมันโหดร้ายยิ่งกว่านั้น

ลิงบาบูน ลิงใหญ่จอมดุร้าย ที่ไม่ควรเข้าใกล้เป็นอันขาด

      เนื่องจากลิงบาบูนเป็นสัตว์ดุร้าย การซื้อขายลิงชนิดนี้จึงไม่เป็นที่นิยมนัก เนื่องจากอาจเกิดอันตรายต่อตัวผู้ซื้อได้ อย่างไรก็ตามลิงชนิดนี้นั้นก็มีอย่างหลากหลายสายพันธุ์ ไม่ว่าจะเป็น ลิงบาบูน แก้มแดง , ลิงบาบูน คาชัคม่า , และลิงบาบูน แอฟริกา ที่ขึ้นชื่อว่าโครตโหด ถ้าใครประจันหน้ากับมันระวังจะเจ็บตัว เพราะขนาดลูกสิงโตที่ขึ้นชื่อว่าเป็นราชาเจ้าป่ายังไม่วายกลายเป็นอาหารของเจ้าลิง แล้วคนแบบเราที่วิ่งยังไม่ทันลิงก็คงจะไม่รอดเช่นเดียวกัน

      ลิงบาบูน ส่วนใหญ่จะมีถิ่นอาศัยอยู่ในแถบแอฟริกาใต้ ซึ่งจัดว่าเป็นลิงที่มีทั้งความใหญ่และความดุร้ายเคียงคู่กันมาอย่างน่าเหลือเชื่อ ดังนั้นหากใครที่เดินป่าแล้วดันไปเจอกับลิงชนิดนี้เข้า ก็ควรระวังตัวให้ดี อย่าไปทำให้มันโกรธ มิเช่นนั้นอาจเกิดเรื่องที่ไม่คาดฝันขึ้นกับตัวคุณก็เป็นได้

 

 

เว็บบอล

Categories
ความรู้ สัตว์บก

นิ่มนางฟ้าสีชมพู ตัวนิ่มสีชมพูที่ดูเหมือนซูชิ

สัตว์บก

        นิ่มนางฟ้าสีชมพู ( Pink fairy armadillo ) หรือ Pichiciego เป็นตัวนิ่มที่มีขนาดเล็ก ซึ่งถูกจัดให้เป็นสายพันธุ์ที่มีขนาดเล็กที่สุดในสัตว์สกุลเดียวกัน โดยมีความยาวตั้งแต่ส่วนหัวจนถึงส่วนสะโพกมีความยาวเฉลี่ย 9-12 เซนติเมตร มีน้ำหนักประมาณ 400 กรัม 

        ตัวนิ่มชนิดนี้จะมีเปลือกแข็งสีชมพูระเรื่ออยู่บนแผ่นหลัง โดยเปลือกสีชมพูที่ว่านี้มีความยาวตั้งแต่บริเวณปลายจมูกไปจนถึงสะโพก เมื่อมองดูแล้วลักษณะจะคล้าย ๆ กับซูชิเดินได้ซึ่งที่จริงแล้วมันคือเกราะที่เอาไว้ใช้ป้องกันตัวจากนักล่านั่นเอง ส่วนลำตัวและขาทั้ง 4 ข้างถูกปกคลุมด้วยขนสีขาว มี 4 ขา 5 นิ้ว และมีดวงตาสีดำ

        ปัจจุบันตัวนิ่มนางฟ้าสีชมพูมีจำนานลดลงอย่างมาก อันเป็นผลมาจากการถูกคุกคามจากมนุษย์และการที่ธรรมชาติถูกทำลาย คนตัดไม้ทำลายป่า ขยะล้นโลก ทำให้เกิดภาวะโลกร้อนจนเกิดวิกฤติทางธรรมชาติขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเกิดอุทกภัยในแทบทุกพื้นที่ การเกิดไฟป่าอันเนื่องมากจากอุณหภูมิที่ร้อนขึ้นและจากความมักง่ายของมนุษย์ เมื่อโลกร้อนมากขึ้นจึงส่งผลต่อสิ่งมีชีวิตทุกชีวิตบนโลกทั้งคนและสัตว์ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ตัวนิ่มมีจำนวนลดลงอย่างรวดเร็วจนเข้าสู่ภาวะใกล้สูญพันธุ์ จนในที่สุดก็ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสัตว์คุ้มครองในปี 1970

ถิ่นอาศัยและการใช้ชีวิตของนิ่มนางฟ้าสีชมพู 

        นิ่มนางฟ้าสีชมพู ” เจ้าซูชิจิ๋วตัวจ้อยมักจะสร้างบ้านโดยการขุดดินให้เป็นโพรงแล้วเข้าไปอาศัยอยู่ในนั้น โดยธรรมชาติตัวนิ่มนิสัยชอบใช้ชีวิตลำพัง ช่วงกลางวันมักจะนอนคุดคู้อยู่ในโพรงใต้ดินและจะออกหาอาหารในตอนกลางคืนทำให้พบตัวได้ยากและไม่ค่อยมีคนได้เห็นมันสักเท่าไหร่ โดยอาหารจานโปรดของเจ้าจิ๋วจะเป็นจำพวกมด รวมถึงปลวก หนอน หอยทาก และพืชบางชนิดด้วย

        แม้ว่าตัวนิ่มจะเป็นสัตว์ที่รักสันโดษสักแค่ไหนก็ตาม แต่บรรดาหนุ่ม ๆ ตัวนิ่มก็ชอบที่จะผสมพันธุ์กับตัวเมียหลายตัว และเมื่อเจออันตรายหรือถูกคุกคามมันก็จะรีบหดม้วนตัวให้เล็กลงแล้วอยู่ภายใต้เปลือกแข็งสีชมพูนั้นทันที

สรรพคุณทางยาของตัวนิ่มนางฟ้าสีชมพู

        นิ่มนางฟ้าสีชมพูและตัวนิ่มชนิดอื่น ๆ จัดว่าเป็นหนึ่งในวัตถุดิบที่นิยมนำไปทำยาจีนอย่างมากโดยในแต่ละปีมีตัวนิ่มถูกล่ามากกว่า 1 ล้านตัวต่อปี เนื่องจากตัวนิ่มสรรพคุณทางยามีอยู่หลายประการด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นการที่สามารถสลายก้อนเนื้องอกที่อาจกลายเป็นมะเร็งได้ , ช่วยหมุนเวียนเลือด , ห้ามเลือด , ช่วยขับประจำเดือนให้มาปกติ , แก้อาการปวดเมื่อย , ขับน้ำนมในสตรีหลังคลอด ฯลฯ 

        ด้วยเหตุนี้ทำให้ตัวนิ่มถูกล่ามากขึ้นจนมีจำนวนลดน้อยลงไปอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตามผู้เขียนคิดว่าการมีสุขภาพที่ดีสามารถทำได้โดยไม่จำเป็นต้องเบียดเบียนชีวิตของผู้อื่นเพียงทานอาหารที่ดีในปริมาณที่เหมาะสม พักผ่อนให้เพียงพอ หมั่นออกกำลังกาย และควรมีการตรวจสุขภาพประจำปีทุก ๆ ปี เพียงเท่านี้ก็จะช่วยให้มีสุขภาพที่ดีแล้วล่ะค่ะ

 

 

เว็บบอล

Categories
ความรู้ สัตว์บก

หมาจิ้งจอกหูค้างคาว เจ้าตัวจิ๋ว ตาแป๋ว หน้าขาว หูตั้ง

สัตว์บก

       หมาจิ้งจอกหูค้างคาว ( Bat-eared Fox ) เป็นหมาจิ้งจอกขนาดเล็กที่มีถิ่นอาศัยอยู่ในทุ่งหญ้าสะวันนา ทางตอนใต้ของทวีปอเมริกาและแอฟริกาตะวันออก มีชื่อเรียกทางวิทยาศาสตร์ว่า Otocyon megalotis จัดอยู่ในวงศ์ CANIDAE และเป็นสิ่งมีชีวิตเพียงหนึ่งเดียวที่ถูกจัดให้อยู่ในสกุล Otocyon ซึ่งสามารถแบ่งหมาจิ้งจอกสายพันธุ์นี้ออกเป็น 2 ชนิด คือ

-O.m. canescens อาศัยอยู่ในแถบเอธิโอเปีย, โซมาเลีย, เคนยา, แองโกลา, แทนซาเนีย

-O.m. megalotis อาศัยอยู่ในทางตอนใต้ของแซมเบีย, บอตสวานา, นามิเบีย , แอฟริกาใต้

ลักษณะทั่วไปของหมาจิ้งจอกหูค้างคาว

       ขนาดตัวของหมาจิ้งจอกหูค้างคาวจะมีความยาวตั้งแต่หัวจรดปลายหางเฉลี่ยแล้วประมาณ 55 เซนติเมตร และมีน้ำหนักเต็มที่ประมาณ 3-5 กิโลกรัม มีขนตามลำตัวสีน้ำตาลอมเทา ช่วงขาทั้ง 4 ข้างและปลายหางมีสีน้ำตาลเข้ม-ดำ หางมีลักษณะขนฟูเป็นพวง มีใบหูสีน้ำตาลเข้มขนาดใหญ่ลักษณะชี้ตั้งขึ้นคล้ายกับกูค้างคาวจึงมีประสาทการรับฟังเสียงที่ดีเยี่ยม ตาสีดำกลมโต หน้าเล็ก จมูกเรียงแหลม มีขนสีดำเป็นแนวเส้นลากยาวจากบริเวณช่องว่าระหว่างดวงตาทั้งสองข้างลากยาวมาถึงปลายจมูก ขนบริเวณใบหน้ามีสีขาว การมีฟันกรามบน 3 ซี่ ฟันกรามล่าง 4 ซี่ จึงทำให้สามารถขยับกรามเคี้ยวแมลงได้อย่างรวดเร็ว 

       เป็นหมาจิ้งจอกขนาดเล็ก อุปนิสัยไม่ดุร้าย หมาจิ้งจอกชนิดนี้จะโตเต็มวัยเมื่ออายุได้ 7-9 เดือน ก็จะเริ่มมีการจับคู่ผสมพันธุ์กันในช่วงฤดูหนาว ตัวเมียจะให้ลูกได้ครั้งละ 2-5 ตัว แม่สุนัขจะใช้เวลาเลี้ยงลูกของตนนานประมาณ 15 สัปดาห์

วิถีชีวิตของหมาจิ้งจอกหูค้างคาว

       หมาจิ้งจอกหูค้างคาวมีวิถีชีวิตที่เหมือนกันกับหมาจิ้งจอกทั่วไป คือ ชอบการอยู่รวมกันเป็นฝูงซึ่งเจ้าจิ้งจอกสายพันธุ์นี้ชอบที่จะสร้างฝูงขนาดเล็กที่มีสมาชิกเพียง 2-6 ตัวเท่านั้น เป็นครอบครัวเล็ก ๆ ที่อยู่ด้วยกันอย่างอบอุ่นในทุ่งหญ้าสะวันนาที่กว้างใหญ่ โดยเจ้าจิ้งจอกมักจะสร้างบ้านอันแสนสุขอยู่ในโพรงใต้ดินซึ่งเป็นทั้งที่พักหลับนอนและใช้เป็นที่หลบซ่อนตัวจากอันตรายด้วย

       นอกจากจะเป็นหมาจิ้งจอกนิสัยรักครอบครัวและรักถิ่นที่อยู่แล้ว หากคุณคิดว่าหมาจิ้งจอกคือนักล่าแสนฉลาด ดุร้าย และเป็นนักล่าเนื้อผู้แคล่วคล่องว่องไวก็อาจจะต้องคิดดูใหม่อีกที เมื่อพบว่าเจ้าจิ้งจอกไซส์มินินี้มีอาหารที่ชื่นชอบและกินเป็นหลัก คือ อาหารประเภทแมลงตัวเล็กตัวน้อย อาทิเช่น ปลวก หนอน สัตว์ฟันแทะชนิดต่าง ๆ และผลไม้บางชนิด เห็นอย่างนี้แล้วก็ทำให้รู้สึกว่าพวกมันรักสันโดษและอาหารของพวกมันช่างตะมุตะมิกว่าหมาป่าที่อยู่ในจินตนาการของเราอย่างมากเลยทีเดียว

       ใบหูใหญ่ที่มีลักษณะคล้ายกับลักษณะหูของค้างคาวนั้นเป็นที่รวมของเส้นเลือดต่าง ๆ ช่วยระบายความร้อนได้ดีและทำให้มีประสาทการรับเสียงที่ดีมากจนสามารถฟังเสียงคลานของแมลงได้ด้วย ทำให้ออกการหาอาหารจำพวกแมลงในตอนกลางคืนเป็นไปอย่างง่ายดาย ซึ่งในปัจจุบันสถานะของจิ้งจอกสายพันธุ์นี้ยังคงอยู่ในเกณฑ์ปกติไม่เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์แต่อย่างใด

 

 

เว็บพนันบอล ดีที่สุด

Categories
ความรู้ สัตว์บก

เกรินุก แอนทิโลปคอยีราฟ สัตว์คอยาวที่น่าสนใจในป่าเคนย่า

สัตว์บก

         เกรินุก ( Gerenuk , Waller ’ s gazelle , Giraffe-necked antelope ) เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในสกุล Litocranius ที่เมื่อมองเผิน ๆมีความคล้ายกับยีราฟเนื่องจากมีคอที่ยาวเหมือนคอยีราฟนั่นเอง จึงมีชื่อเรียกอีกอย่างว่า แอนทิโลปคอยีราฟ หรือ วอลเลอส์กาเซลล์ เป็นสัตว์ในวงศ์ใหญ่ BOVIDAE และวงศ์ย่อย ANTILOPINAE โดยจะมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Litocranius walleri ถูกค้นพบในทวีปแอฟริกา ซึ่งปัจจุบันสามารถพบได้ที่เขตอนุรักษ์แห่งชาติแซมบูรู ในประเทศเคนย่า 

ลักษณะ นิสัย และสถานะของเกรินุก 

         เกรินุก หรือ แอนทิโลปคอยีราฟ เจ้าสัตว์ตาสวยมีหน้าตาที่ใกล้เคียงกับกวาง ทั้งความมุ้งมิ้งและดวงตาสวยกลมโตนั้น โดยจะมีใบหูยาวลักษณะชี้กางออก มีแนวขนเป็นเส้นสีดำขึ้นบริเวณใบหูด้านใน มีขายาว-คอยาวคล้ายยีราฟ มีขนสีน้ำตาลบริเวณลำตัว ท้องมีขนสีขาว และมีขนสีน้ำตาลแดงเข้มบริเวณแผ่นหลัง มีลักษณะการกินอาหารที่แปลกแตกต่างจากสัตว์อื่น ๆ ในวงศ์เดียวกัน นั่นก็คือ มักจะยืนสองขาเพื่อเขย่งขึ้นใช้ปากแทะกัดเล็มกินใบไม้-ยอดไม้ในที่สูงซึ่งก็จะคล้ายกันกับท่าทางการกินอาหารของยีราฟนั่นเอง

         เกรินุกตัวผู้จะมีน้ำหนักเฉลี่ยประมาณ 45 กิโลกรัม มีเขาโค้งสวยงาม มีความพิเศษอีกอย่างคือ จะมีต่อมสร้างกลิ่นได้ตลอดเวลาโดยมักจะสร้างกลิ่นตลอดเวลาที่เดินไปยังสถานที่ต่าง ๆ 

         เกรินุกตัวเมียมีน้ำเฉลี่ยประมาณ 33 กิโลกรัม ไม่มีเขา รูปร่างมีขนาดเล็กกว่าตัวผู้ชัดเจน เมื่อโตเต็มวัยสัตว์ชนิดนี้สามารถสูงได้ราว ๆ 85 เซนติเมตร – 1 เมตร มีอายุขัยอยู่ได้ประมาณ 10-12 ปี ( โดยเฉลี่ย ) 

วิถีชีวิตและการสืบพันธุ์ของเกรินุก

         เกรินุก เป็นสัตว์กินพืชที่มีลักษณะทั่วไปเหมือนสัตว์ในวงศ์เดียวกัน แต่จะต่างออกไปเล็กน้อยตรงที่มีช่วงลำคอที่ยาวและช่วงขาที่ยาวมากเป็นพิเศษ มักจะอยู่กันเป็นฝูงขนาดเล็กโดยจะมีสมาชิกในฝูงประมาณ 2-6 ตัวเท่านั้น เกรินุกนิสัยในการหาอาหารคือ จะชอบออกหากินในเวลากลางวัน อาหารที่ชอบจะเป็นจำพวกใบไม้ในที่สูง โดยมักจะออกหากินตลอดทั้งวัน กินได้เรื่อย ๆ ในช่วงหน้าหนาวมักจะออกหากินในบริเวณใกล้ ๆ กับถิ่นที่อยู่เพื่อประหยัดพลังงาน 

         เกรินุกตัวผู้และเกรินุกตัวเมียสามารถสืบพันธุ์ได้ตลอดทั้งปี โดยตัวเมียจะเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์เมื่อมีอายุ 1 ปี และเมื่อตัวผู้มีอายุได้ 1ปีครึ่ง โดยจะใช้เวลาในการตั้งท้องประมาณ 7 เดือน สามารถให้ลูกได้ครั้งละ 1 ตัว ด้วยความที่สามารถให้ลูกได้เพียงครั้งละ 1 ตัว อีกทั้งใช้เวลาในการอุ้มท้องนานจึงทำให้ประชากรของแอนทิโลปคอยีราฟค่อนข้างน้อย เมื่อกลายเป็นผู้ถูกล่าจึงยิ่งทำให้จำนวนลดน้อยลงอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นสัตว์ที่ใกล้สูญพันธุ์แล้วในปัจจุบัน

 

 

คาสิโนออนไลน์ฝากถอนไม่มีขั้นต่ํา

Categories
ความรู้ สัตว์บก

แมนวูฟ หมาป่าเคราขาว ขายาว มาดเท่ ที่อยู่ในสถานะใกล้สูญพันธุ์

สัตว์บก

      แมนวูฟ หรือ หมาป่าเคราขาว ( Maned wolf ) เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่มีหน้าตาคล้ายสุนัขจิ้งจอก โดยมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Chrysocyon brachyurus เป็นสัตว์ที่จัดอยู่ในวงศ์สุนัข ( CANIDAE ) ถูกพบในทวีปอเมริกาใต้ ในแถบประเทศบราซิล ประเทศปารากวัย และประเทศโบลิเวีย

      แมนวูฟลักษณะท่อนบนจะมีความคล้ายคลึงกับสุนัขจิ้งจอกแต่รูปร่างโดยรวมใหญ่กว่าสุนัขจิ้งจอกค่อนข้างมากเลยทีเดียว ยิ่งเมื่อมองช่วงท่อนขาที่ยาวนั้นก็ยิ่งสูงใหญ่แตกต่างจากขนาดของสุนัขจิ้งจอกอย่างมาก โดยเมื่อเจริญเติบโตเต็มที่จะมีน้ำหนักเฉลี่ยประมาณ 20-25 กิโลกรัม มีความสูงที่วัดจากหัวไหล่ถึงเท้าประมาณ 3 ฟุต ตามลำตัวมีขนสีน้ำตาลอมแดง แผงคอด้านหลังไปจนถึงกลางหลังมีขนสีดำ ขาช่วงล่างไปจนถึงเท้ามีขนสีดำ บริเวณใบหน้าจากปลายจมูกถึงขอบตาล่างมีขนสีดำ ใต้คางและใบหูด้านในมีขนสีขาว หางยาวเป็นพวงขนสีน้ำตาลอมแดงปลายหางขนมีสีขาว มีใบหูตั้งขนาดใหญ่

นิสัยของแมนวูฟ หมาป่าที่ไม่ชอบอยู่เป็นฝูง

      แมนวูฟนิสัยค่อนข้างก้าวร้าว เมื่อรู้สึกตื่นตระหนกหรือรู้สึกว่ามีภัยคุกคามมักจะส่งเสียงขู่และขนแผงหลังชูชันขึ้น แมนวูฟมีนิสัยชอบปลีกวิเวกอาศัยอยู่ลำพังและไม่ชอบอยู่รวมกันเป็นฝูง ซึ่งแตกต่างจากสัตว์ในตระกูลหมาป่าทั่ว ๆ ไปที่มักจะอยู่รวมกันเป็นฝูงใหญ่ 

      หมาป่าเคราขาวเป็นสัตว์ที่หวงแหนถิ่นที่อยู่อาศัยมากหากโดนรุกล้ำอาณาเขตเมื่อไหร่เป็นต้องได้เห็นดีกัน โดยมันจะรีบขับไล่แขกที่ไม่ได้รับเชิญออกไปให้ไกลในทันที ด้วยความที่เป็นสัตว์ที่ตื่นตระหนกง่าย ขี้ระแวง และเฝ้าระมัดระวัง ทำให้ค่อนข้างเข้าถึงยาก อีกทั้งการมีใบหูขนาดใหญ่ประกอบกับขนาดความสูงของตัวจึงทำให้มันรับรู้เสียงและความผิดปกติต่าง ๆ ทั้งระยะใกล้และไกลได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้มันยังมีกลิ่นปัสสาวะที่รุนแรง ( ว่ากันว่ากลิ่นคล้ายกับกลิ่นกัญชา ) โดยมันจะใช้การปัสสาวะทำเป็นเครื่องหมายบ่งบอกอาณาเขตของตนด้วย

วิถีชีวิตของแมนวูฟ หมาป่ารักสันโดษ

      แมนวูฟชอบที่จะอาศัยอยู่เพียงลำพังตัวเดียวหรืออยู่เพียงกับคู่รักของตัวเองเท่านั้น แมนวูฟสืบพันธุ์และมีครอบครัวเช่นเดียวกันกับสัตว์ในวงศ์สุนัขทั่วไป เป็นสัตว์ที่รักความสงบ ไม่ชอบอยู่รวมเป็นฝูงใหญ่ ซึ่งปกติเรามักจะเห็นว่าหมาป่าหรือหมาจิ้งจอกมักจะอยู่รวมกันเป็นครอบครัวฝูงใหญ่ ออกล่าเป็นฝูง รวมถึงมีการเลือกตัวที่แข็งแกร่งที่สุดให้เป็นจ่าฝูงด้วย แต่สำหรับแมนวูฟนั้นจะออกหาอาหารเพียงลำพังโดยมีเป้าหมายเป็นสัตว์ที่มีขนาดปานกลางจำพวกนก หนู งู กระต่าย และมักจะออกล่าเหยื่อในช่วงกลางคืน ในช่วงเวลากลางวันมันจะนอนพักผ่อนและเฝ้าระวังที่อยู่อาศัย แต่ถึงแม้ว่าจะเฝ้าระวังสักเพียงใดมันก็ยังคงถูกคุกคามทั้งจากสัตว์ด้วยกันและจากฝีมือมนุษย์จนทำให้หมาป่าเคราขาวขณะนี้ตกอยู่ในสถานะใกล้สูญพันธุ์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

 

 

สมัครบาคาร่า888

Categories
ความรู้ สัตว์บก

Common Marmoset ลิงมาโมเสท ลิงไซส์มินิ สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่คนนิยมเลี้ยง

สัตว์บก

Common-Marmoset-ลิงมาโมเสท

      ลิงมาโมเสท( Common Marmoset ) เป็นลิงจิ๋วที่ถูกจัดอยู่ในวงศ์ Cebidae มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Collithrix jacchus มีถิ่นอาศัยอยู่ป่าเขตร้อนทางภาคตะวันออกของบราซิล ตามป่าผลัดใบและกึ่งผลัดใบ จัดเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่มีขนาดเล็กที่สุดในโลก โดยมีน้ำหนักตัวประมาณ 500-700 กรัม มีขนาดลำตัวยาวประมาณ 20-25 เซนติเมตร หางยาวประมาณ 29-30 5 เซนติเมตร มีสีขาวบริเวณด้านข้างของหัว ลำตัวมีขนสั้นสีเทาและลายสีเทาเข้ม หางยาวมีสีเทาจางสลับกับสีเทาเข้ม เสียงร้องของลิงมาโมเซทนั้นจะร้องเสียงแหลมคล้ายเสียงผิวปากหรือเสียงนกหวีด 

การเข้าสังคม การหาอาหาร และการเอาตัวรอดของลิงมาโมเสท Common Marmoset

Common-Marmoset-ลิงมาโมเสท

      ลิงจิ๋วเป็นสัตว์ที่กินอาหารได้หลากหลาย ชอบออกหากินตอนกลางวัน โดยมักจะเป็นจำพวกผลไม้ แมลง ไข่นก สัตว์เลื้อยคลานขนาดเล็ก รวมทั้งนกขนาดเล็กด้วย ลิงมาโมเสทชอบอยู่รวมกันเป็นกลุ่มประมาณ 3 ถึง 8 ตัว โดยเจ้าลิงจิ๋วจะอาศัยอยู่บนต้นไม้สามารถกระโดดจากต้นไม้กิ่งหนึ่งไปยังอีกกิ่งหนึ่งได้ในระยะที่ไม่ไกลมากนัก ช่วงกลางคืนจะซ่อนตัวตามโพรงไม้และพุ่มไม้เพื่อหลบหลีกจากศัตรูที่จะมาทำอันตราย

ช่วงการสืบพันธุ์ของลิงมาโมเสท Common Marmoset

      ลิงจิ๋วจะเข้าสู่ช่วงวัยเจริญพันธุ์ในช่วงอายุระหว่าง 15 -17 เดือน การสืบพันธุ์ของลิงมาโมเสทนั้นจะคล้ายกับการสืบพันธุ์ของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมทั่วไป ไม่มีฤดูกาลในการผสมพันธุ์ แต่หลัก ๆ คือ ระหว่างเดือนพฤษภาคม ถึง เดือนมิถุนายน และระหว่างเดือนพฤศจิกายน ถึง เดือนมกราคม 

Common-Marmoset-ลิงมาโมเสท

      ตัวเมียมักจะแสดงลักษณะทางเพศโดดเด่นเมื่อมันโตเข้าสู่ช่วงเจริญพันธุ์ ตัวผู้นั้นจะมีการคัดเลือกตัวเมียที่โดดเด่นในฝูงให้ได้รับการสืบพันธุ์ต่อไป และตัวผู้ที่โดดเด่นกว่าตัวอื่น ๆ ก็จะได้รับการผสมพันธุ์มากกว่าเช่นเดียวกัน เมื่อมีการผสมพันธุ์กันแล้วลิงตัวเมียจะมีระยะเวลาในการตั้งท้องนาน 142 ถึง 150 วัน ให้ลูกครั้งละ 1 ถึง 3 ตัว ปีละ 2 ครั้ง เมื่อแรกเกิดลูกลิงมาโมเซทที่เกิดมานั้นมักจะโดนขโมยหรือฆ่าโดยลิงจากฝูงอื่น แม้ว่าแม่ลิงจะพยายามปกป้องลูกน้อยมากสักเพียงใดแต่ก็ไม่อาจจะปกป้องลูกน้อยได้ทุกครั้งทำให้อัตราการรอดของลูกลิงมีน้อยลง

      อย่างไรก็ตามในปัจจุบันได้มีการนำลิงชนิดนี้มาเลี้ยงเป็นสัตว์เลี้ยงกันทั่วโลก และแม้จะเป็นสัตว์เลี้ยงที่มีการซื้อขายกันในราคาสูงแต่จำนวนประชากรลิงชนิดนี้กลับลดน้อยถอยลง เป็นเหตุให้ถูกจัดอยู่ในสัตว์ใกล้สูญพันธุ์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

 

 

เว็บสล็อตฝากถอนไม่มีขั้นต่ํา วอเลท