Categories
ความรู้ สัตว์จืด สัตว์น้ำ สัตว์น้ำเค็ม

สัตว์น้ำ น่ารู้ สิ่งมีชีวิตที่สำคัญอย่างหนึ่งของโลก

สัตว์จืด

สัตว์น้ำ น่ารู้

อย่างที่ทุกคนทราบกันดีว่าบนโลกใบนี้มีพื้นน้ำมากกว่าพื้นดิน แต่ท่านทราบหรือไม่ว่าสัตว์น้ำทุกตัวนั้นไม่ได้อยู่แค่ในทะเล เนื่องจากยังอาศัยอยู่ในแหล่งน้ำจืดรวมไปถึงหนองน้ำอื่นๆอีกด้วย และ สัตว์น้ำ หนึ่งในประเภทของสัตว์โลก  ก็ไม่ได้มีแค่สิ่งมีชีวิตที่เป็นจำพวกปลา เนื่องจากยังมีสาหร่าย ฟองน้ำและสิ่งมีชีวิตอื่นๆมากมายที่ถูกจัดอยู่ในจำแนกของ สัตว์น้ำ น่ารู้ 

สัตว์น้ำ น่ารู้ การปรับตัวต่อวิกฤติของโลก จากอยู่บนบก สู่การอพยพลงน้ำ

หลายท่านคงจะได้ยินถึงวิกฤติและสถานการณ์อุกกาบาตพุ่งชนโลกที่ทำให้มีการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่นั่นก็คือการที่ไดโนเสาร์สูญพันธุ์ โดยสถานการณ์ครั้งนั้นมีผลกระทบรุนแรงต่อสัตว์และสิ่งมีชีวิตมากมายหลากหลายประเภท รวมไปถึงสัตว์เลื้อยคลานหรือสัตว์บก โดย สัตว์น้ำ น่ารู้ นั้นถือว่าเป็นสัตว์ที่มีวิวัฒนาการมาจากสัตว์เลื้อยคลานและเป็นสัตว์ที่มีกระดูกสันหลังมาก่อน พยามปรับตัวและเปลี่ยนแปลงวิธีการดำรงชีวิตเพื่อให้อยู่รอดได้ในสภาพแวดล้อมในขณะนั้น จึงกลายมาเป็น สัตว์น้ำ วิวัฒนาการสูง มาหลาย 1,000,000 ปี แน่นอนว่ากว่าจะมาเป็นสัตว์น้ำทุกวันนี้ก็ถือว่ามีการเปลี่ยนแปลงที่หลากหลายรูปแบบมากมาย เพราะสภาพแวดล้อมของบนบกและในน้ำนั้นมีความแตกต่างกันไปทำให้สัตว์เรานั้นจำเป็นจะต้องเปลี่ยนสรีระร่างกายรวมไปถึงการหากินด้วย เมื่อก่อนอาจจะมีขา จนตอนนี้ขาได้หายไปกลายเป็นคลีบและหางแทน สัตว์น้ำ สิ่งมีชีวิตในธารา ที่มีมากมายหลากหลายประเภท ซึ่งแต่ละประเภทนั้นก็จะมีความแตกต่างกันไปในเรื่องของการดำรงค์ชีวิต รวมไปถึงแหล่งที่อยู่อาศัย เช่น

สัตว์น้ำเค็ม
  • สัตว์น้ำ หนึ่งในประเภทของสัตว์โลก ที่อาศัยอยู่ในแหล่งน้ำจืด อาศัยอยู่ในแม่น้ำ หนอง ห้วย ที่มีความเข้มข้นของปริมาณน้ำต่ำกว่า 0.05 ลักษณะของสิ่งมีชีวิตที่อยู่ในแหล่งน้ำนี้นั้นจะมีเกล็ดปกคลุมอยู่ทั่วตัว ซึ่งจะไม่ยอมให้น้ำซึมผ่านนอกจากบริเวณที่เป็นเหงือก จะมีการแลกเปลี่ยนก๊าซหายใจเท่านั้นที่น้ำผ่านได้ โดยธรรมชาติปลาน้ำจืดจะไม่ค่อยดื่มน้ำเลย แตกต่างจากปลาทะเลในแหล่งน้ำเค็ม เพราะปลาน้ำจืดจะไม่ทำให้ร่างกายมีน้ำมากเกินความจำเป็น
สัตว์น้ำจืด
  • สัตว์น้ำที่อาศัยอยู่ในแหล่งน้ำเค็ม โดยจะมีลักษณะที่ไม่แตกต่างจากปลาแหล่งน้ำจืดมากนัก แต่จะมีความปรับปรุงตัวได้ดีกว่า และที่สำคัญปลาส่วนใหญ่ที่อยู่ในแหล่งน้ำเค็มเช่น มหาสมุทร ทะเล จะมีมวลกระดูกที่หนาแน่นกว่า ลอยตัวได้ดีกว่านั่นเอง

ซึ่งโลกของเรานั้นได้รับประโยชน์มากมายของการมี สัตว์น้ำ สิ่งมีชีวิตในธารา ทั้งในเรื่องของการดำรงชีพและที่สำคัญเพื่อฟื้นฟูระบบนิเวศต่างๆให้อยู่ในสภาวะสมดุลย์ เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่เราไม่มี สัตว์น้ำ น่ารู้ อาจจะทำให้ธรรมชาตินั้นเกิดความผิดปกติได้ เนื่องจากทุกอย่างต้องพึ่งพาอาศัยกันเพราะสัตว์น้ำบางชนิดช่วยทำหน้าที่ที่ส่งผลดีต่อแหล่งน้ำที่ตนเองได้เป็นอาศัยอยู่มากมาย

 

 

 

 

GCLUB จีคลับ เว็บไซต์พนันออนไลน์ บริการคาสิโนออนไลน์ 24 ชั่วโมง ด้วยระบบที่เป็นมาตรฐานระดับสากลออกแบบมาให้ใช้งานง่าย และรวดเร็ว ไว้คอยให้บริการท่าน

Categories
สัตว์จืด สัตว์น้ำ

รู้หรือไม่ ปลากดอเมริกัน ถือเป็นปลาเศรษฐกิจโลก ขายก็ได้ เลี้ยงก็ดี

สัตว์จืด

ปลากดอเมริกัน คือ ปลาน้ำจืดชนิดหนึ่งที่ขึ้นชื่อว่าเป็นปลาเศรษฐกิจโลก และไม่ใช่แค่ประเทศอเมริกาเท่านั้นที่นิยมเลี้ยงกันอย่างกว้างขวาง ในประเทศไทยก็นิยมเลี้ยงเช่นกัน โดยจะเป็นที่รู้จักกันในชื่อ ปลากดหลวง นั้นเอง ว่าแต่ทำไมปลากดชนิดนี้ ถึงได้ขึ้นชื่อว่าเป็นปลาเศรษฐกิจโลกกันนะ? แล้วปลากดสายพันธุ์นี้ มีความสำคัญ ความแตกต่างจากปลาสายพันธุ์อื่น ๆ อย่างไร ตามมาดูกันเลย

มารู้จักกับ ปลากดอเมริกัน

ปลากด เป็นปลาน้ำจืดที่อยู่ในตระกูลปลากระดูกแข็งน้ำจืด กลุ่มปลาหนัง ในภาษากรีกมีความหมายว่าปลาหนัง หรือ แมว เนื่องจากปรกติปลาชนิดนี้จะมีหนวดถึง 4 คู่ด้วยกัน ปลากดมีรูปร่างคล้าย ๆ กับตระกูลปลาดุก ปลาสวาย มีหัวขนาดใหญ่ มีขนาดลำตัวที่ใหญ่และยาว มีสีดำหรือสีเทาอมน้ำตาล ผิวเรียบลื่น ไม่มีเกล็ด ปากกว้างและมีฟันในปาก ก้านครีบแข็ง หรือที่เรียกว่าเงี่ยงจะมีพิษในบางสายพันธุ์

ถิ่นกำเนิดของปลากด

ปลากดอเมริกัน เป็นปลาพื้นเมืองที่อยู่กระจายหลากหลายพื้นที่ ตั้งแต่ทวีปอเมริกาเหนือ จนไปถึงทวีปอเมริกากลาง ส่วนมากปลากดจะกระจายพันธุ์อยู่ในหลายพื้นที่ทางภาคใต้ของประเทศสหรัฐอเมริกา ในแถบรัฐจอร์เจีย รัฐเท็กซัส รัฐแคลิฟอร์เนีย โดยเฉพาะในลุ่มแม่น้ำมิสซิสซิปปี รัฐมิสซิสซิปปี และทางตอนใต้ของรัฐแคนาดา จะเจอปลากลุ่มนี้จำนวนมากเป็นพิเศษ

ปลากดกินอะไรเป็นอาหาร

โดยปกติพฤติกรรมการใช้ชีวิตของ ปลากดอเมริกัน มีนิสัยก้าวร้าว และสันโดษ ไม่ชอบอยู่เป็นฝูง เป็นกลุ่ม มันอาศัยอยู่ใต้ท้องน้ำลึก เพราะเป็นปลาที่หากินตามพื้น จะกบดานอยู่นิ่ง ๆ และไม่เคลื่อนไหวตัวเท่าไหร่ ยกเว้นแต่ว่ามันจะออกหาอาหารหรือล่าเหยื่อ ปลากดเป็นปลากินเนื้อ จึงกินได้หลากหลาย ทั้งปลาเล็ก กุ้ง แมลง และซากพืชซากสัตว์เป็นอาหาร

ปลากดกับเลือกกินอาหารตามอุณหภูมิ

การกินของปลากด จะขึ้นอยู่กับอุณหภูมิของท้องน้ำและสภาพอากาศด้วย เนื่องจากปลากดจะเจริญอาหารและเติบโตได้ดี เมื่ออยู่ในพื้นที่ที่ผิวหน้าน้ำไม่ร้อนจัด มีอุณหภูมิน้ำเย็น หรือไม่เกิน 29 องศาเซลเซียส จะทำให้ปลากดกินอาหารได้ในปริมาณมาก ส่วนในฤดูร้อน หรือวันที่อากาศร้อนจัด เหล่าปลากดจะกินอาหารน้อยลง

ฉายาปลาสายพันธุ์นี้ ปลาเศรษฐกิจโลก เลี้ยงก็ง่าย ขายก็ดี แถมกินก็อร่อย

ปลากดอเมริกัน มีความสัมพันธ์กับมนุษย์ เนื่องจากสามารถเลี้ยงเป็นปลาเศรษฐกิจได้ ทั้งในเลี้ยงเพื่อเป็นอาหาร เลี้ยงเพื่อความสวยงาม หรือจะเอาไว้ตกปลาเป็นเกมกีฬาก็ได้เช่นกัน ปลากดสายพันธุ์นี้ มีอัตราการเจริญเติบโตและขยายพันธุ์ได้รวดเร็ว อีกทั้งเนื้อปลากดยังมีรสชาติดี ทำให้เกิดการเปลี่ยนมาเป็นอาหารมีมากขึ้น และเกิดการนิยมเลี้ยงในหลาย ๆ พื้นที่ เนื่องจากปลากดชนิดนี้กระจายอยู่ในลุ่มแม่น้ำมิสซิสซิปปี ดังนั้น มลรัฐมิสซิสซิปปี จึงถือเป็นรัฐที่มีอุตสาหกรรมการเลี้ยงที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา แค่ฟาร์มเพาะมีปริมาณเนื้อที่ถึง 1,000 ไร่ขึ้นไป

ปลากดหลวง ชื่อนี้คนไทยเป็นคนตั้ง

การนำ ปลากดอเมริกัน ชนิดนี้เข้ามาในประเทศไทย เริ่มแรกเลย เกิดจากสถาบันพัฒนาแห่งเอเชีย หรือ AIT และกรมประมง ได้มีการคัดเลือกสายพันธุ์เข้ามาในไทยถึง 50 คู่ และเรียกเป็นชื่อภาษาไทยว่า ‘ปลากดหลวง’ โดยนำไปเลี้ยงและเพาะพันธุ์ในกระชัง ฟาร์ม บ่อ เขื่อน และอ่างเก็บน้ำหลายแห่ง ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืด ได้มีการทดลองเลี้ยงปลากดหลวง พบว่าปลากดหลวงนั้น มีการเจริญเติบโตที่ดีมาก มีอัตราการรอดชีวิตสูง จึงทำให้เกษตรกร เริ่มหันมาลองมาทำธุรกิจเกี่ยวกับอาหารดู พบว่าเมื่อนำมาประกอบอาหาร เนื้อปลาแน่น มีสีขาว มีรสชาติที่หวานอร่อย สามารถนำไปปรุงอาหารได้หลากหลายเมนูทีเดียว จึงเป็นที่นิยมทั้งเกษตรกรและผู้บริโภค

Categories
สัตว์จืด สัตว์น้ำ

นากสักถึงจะดูน่ารัก แต่ก็เป็นตัวจอมทำลาย

สัตว์จืด

เป็นสัตว์ที่อาศัยได้ทั้งบนบกและในน้ำมีความเก่งกาจสามารถเฉพาะตัวค่อนข้างสูง ถือว่าเป็นสัตว์ที่เอาตัวรอดได้เก่งมากๆ ไม่ว่าจะอยู่ในน้ำหรืออยู่บนบกตัวนากนั้นมีความสามารถในการหากินที่เก่งไม่เบา ด้วยความที่มีคุณสมบัติพิเศษเหนือกว่าสัตว์ชนิดอื่นทำให้ตัวนากนั้นสามารถอยู่รอดมาได้จนถึงทุกวันนี้ แต่ด้วยความที่มีความพิเศษในตัวทำให้คนจำนวนไม่น้อยสนใจและอยากจะได้ตัวนาคมาไว้ครอบครอง สิ่งที่อยากได้มากที่สุดของตัวหน้าก็คงจะเป็นหนังและขนของเขาสมัยก่อนนิยมนำมาทำเสื้อผ้า ด้วยความพิเศษของตัวหนังของเขาที่ให้ความอบอุ่นได้เป็นอย่างดี แต่ตอนนี้ตัวนากกลายเป็นสัตว์สงวนที่ไม่สามารถทำแบบนั้นได้อีกต่อไปแล้ว

ความแข็งแรงของตัวนาก

ตัวนากมีลักษณะคล้ายกับหนูตัวใหญ่บางคนที่ไม่เคยเห็นตัวนากมาก่อนก็อาจจะคิดว่าสัตว์ตัวนี้ขึ้นหนูตัวใหญ่ที่เราไม่เคยเห็น คุณลักษณะพิเศษของเขาที่เห็นเด่นชัดนั่นคือที่หุ้มมือถือถุงเท้าของเขาจะมีพังผืดคล้ายๆกับตีนเป็ด ทำให้สามารถว่ายน้ำได้อย่างรวดเร็ว เมื่อมีคนสมบัติประเภทนี้อยู่ในตัวการหาอาหารในน้ำก็ไม่ใช่เป็นเรื่องยาก เขาสามารถใช้การว่ายน้ำที่ว่องไวดักจับสัตว์น้ำได้อย่างคล่องแคล่วรวดเร็ว ปลาตัวเล็กหรือสัตว์ตัวเล็กที่หลงเข้ามาในอาณาจักรของตัวนาก ถ้าเกิดตัวนากได้หมายปองไว้แล้วไม่มีทางที่จะหนีพ้นไปอย่างแน่นอน

ตัวนากมีฟันที่แหลมคม

หลายคนคิดว่าตัวนากคงจะไม่เป็นพิษเป็นภัยแต่ก็ต้องระวังกันไว้สักเล็กน้อยด้วยความที่ตัวนากนั้นมีพลังในการทำลายล้างที่ค่อนข้างสูง ด้วยความทรงพลังของฟันและเขี้ยวที่สามารถกักไม้ขาดได้เป็นต้นๆ การขุดหรือการกัดของตัวนากนั้นสามารถที่จะทำลายได้ทุกสิ่งทุกอย่าง นอกจากที่ตัวน่าจะหากินในน้ำแล้วก็ยังหากินสัตว์และแมลงตัวเล็กจากบนพื้น บางครั้งบางทีก็ทำลายทุกสิ่งทุกอย่างโดยรอบต้นไม้น้อยใหญ่ที่โดนตัวหน้าเข้ากับทำลายก็เสียหายเป็นแถบๆเลยก็มี

กลิ่นตัวที่เฉพาะของตัวนาก

น่าแปลกเป็นอย่างมากสำหรับตัวนาก เขามีกลิ่นตัวที่เฉพาะเป็นอย่างมากเมื่อเราเข้าใกล้รัศมีเขาจะรู้ได้เลยว่าถิ่นที่อยู่ตรงนี้จะต้องมีตัวนากอย่างแน่นอน เขาเป็นสัตว์ที่มีกลิ่น ข้างแรงบางคนจะรู้สึกได้เลยว่ากินแบบนี้ไม่ถูกโฉลกกับตัวเอง เพียงแค่ได้กลิ่นตัวนากเล็กน้อยก็ทำให้เกิดอาการวิงเวียนศีรษะได้ อาจจะเป็นเพราะว่าเขากินทั้งรากไม้กินทั้งแมลงและกินทุกอย่าง เลยทำให้มีกลิ่นตัวเฉพาะก็ถือเป็นความพิเศษของตัวเข้าอีก 1 อย่างด้วยเช่นกัน

Categories
สัตว์จืด สัตว์น้ำ

ปลากัดปลาประจำชาติไทย ตั้งแต่สมัยโบราณโบราณ

สัตว์จืด

เป็นปลาที่สวยงามและเป็นปลาประจำชาติไทย ปัจจุบันมีการเลี้ยงกันอย่างแพร่หลายเรียกกันได้ว่าปลากัดนั้นเลี้ยงกันมาตั้งแต่สมัยโบราณโบราณ ย้อนกลับไปเมื่อประมาณ 30-40 ปีก่อน คนนิยมจะเลี้ยงปลากัดไทยและนำมากัดกันเหมือนกับการชนไก่หรือตีไก่อะไรประมาณนั้น เป็นเกมกีฬาที่ถือว่าได้รับความนิยมกันเป็นอย่างสูง แต่ปัจจุบันได้เรียนหายกันไปเป็นจำนวนมาก เหลือแต่เพียงการเลี้ยงเพื่อความสวยงาม และมีการผสมข้ามสายพันธุ์ให้มีความแพร่หลายของสีสันในตัวปลากัดเพิ่มมากยิ่งขึ้น

ปลากัดมีหลายสายพันธุ์

ปลากัดสัวต์น้ำประจำชาติไทย

ปลากัดนั้นจัดว่ามีหลายสายพันธุ์เป็นอย่างมาก ถ้าจะให้เรียบเรียงสายพันธุ์คงจะต้องใช้เวลาเรียบเรียงกันนานนับปี เพราะแต่ละสายพันธุ์นั้นมีการแยกย่อยกันไปอีกเป็นจำนวนมากสีสันที่ต่างกันและขนาดที่ต่างกันก็มีการเรียกชื่อของปลากัดที่ต่างกันออกไปแล้ว ปัจจุบันคนนิยมการเลี้ยงปลากัดเพื่อความสวยงามและถ้าเกิดว่าสีสันนั้น สามารถทำได้แตกต่างกว่าคนอื่นหรือเป็นสีสันที่เหนือธรรมชาติ อย่างเช่นปลากัดสีทองล้วน เมื่อกระทบกับไฟสีส้มก็จะส่องแสงเป็นสีทองประกายวิบวับราคาค่าตั๋วก็หลักหมื่นหลักแสน หรือลายธงชาติไทยเป็นความบังเอิญที่เหมือนธงชาติไทยเป็นอย่างมากทำให้ผู้คนต้องการที่จะเลี้ยงปลากัดและต้องการที่จะครอบครองเอาไว้สนนราคาค่าตัวก็หลักหมื่นด้วยเช่นกัน

วิธีการเลี้ยงปลากัด

ปลากัดสัวต์น้ำประจำชาติไทย

เป็นปลาที่เลี้ยงง่ายไม่จำเป็นจะต้องใช้เครื่องมืออะไรมากมายนัก สำหรับมือใหม่เพียงแค่หาขวดโหลมา 1 ขวด ล้างให้สะอาดใส่น้ำพักไว้ประมาณ 1 คืน ก็สามารถนำปลากัดมาเลี้ยงได้เรียบร้อยแล้ว การให้อาหารนั้นก็สุดแสนจะประหยัด จะเป็นอาหารเม็ดให้ระหว่างมื้อเช้าและมื้อเย็น หรือจะเพิ่มเป็นอาหารสดก็สามารถทำได้เช่นกัน สำหรับการเปลี่ยนน้ำไม่จำเป็นจะต้องเปลี่ยนน้ำบ่อย เนื่องด้วยปลากัดกินน้อยถ่ายน้อย 2-3 อาทิตย์เปลี่ยนน้ำสัก 1 ครั้งก็ได้

อาชีพปลากัดไม่เคยจางหาย

ปลากัดสัวต์น้ำประจำชาติไทย

คนที่เลี้ยงปลากัดเป็นอาชีพนั้นปัจจุบันก็ยังคงเลี้ยงกันอยู่อย่างต่อเนื่อง ทั้งส่งออกต่างประเทศและทั้งเลี้ยงภายในประเทศ เป็นอาชีพที่ดูเหมือนจะไม่มีอะไรหวือหวามากนัก แต่ก็ไม่ได้ตกต่ำถึงขนาดที่คนเลิกเลี้ยงกันไปเหมือนสัตว์ชนิดอื่น การเลี้ยงปลากัดถือว่าเป็นอะไรที่เลี้ยงง่ายดูแลน้อย ถ้าเทียบกับการเลี้ยงสัตว์ประเภทอื่นแล้วถือว่าเป็นการเลี้ยงที่สบายที่สุด เดินตามตลาดนัดต้นไม้หรือสัตว์ก็สามารถซื้อมาเลี้ยงไว้ที่บ้านได้ บางคนเริ่มเพลงแค่ 1 ตัวจนตอนนี้กลายเป็นบ่อเพาะพันธุ์ไปเลยก็มี

Categories
สัตว์จืด สัตว์น้ำ

แม่มะลิ ฮิปโปโปเตมัสขวัญใจคนไทย

สัตว์จืด

แม่มะลิ ฮิปโปโปเตมัสขวัญใจคนไทย

เมื่อข่าวการปิดสวนสัตว์เขาดินถูกประกาศขึ้น หลายๆ คนแม้แต่เด็กๆ ก็เกิดคำถามขึ้นว่าบรรดาสัตว์ต่างๆ จะถูกย้ายไปที่ไหน โดยเฉพาะอย่างยิ่งแม่มะลิ ที่เป็นฮิปโปโปเตมัสแห่งสวนสัตว์เขาดินที่ใครๆ ก็ต้องไปเยี่ยมเยือนเมื่อเที่ยวยังสวนสัตว์เขาดิน แม้ว่าในตอนนี้แม่มะลิได้ถูกย้ายไปยังสวนสัตว์เขาเขียวที่อาจจะกว้างขวางกว่าบ้านเดิมของมันอย่างปลอดภัยแล้ว ก็ยังมีผู้คนมากมายเดินทางไปเยี่ยมเยือนแม่ฮิปโปโปเตมัสตัวนี้ถึงสวนสัตว์เขาเขียว

ประวัติแม่มะลิ ฮิปโปโปเตมัสแห่งเขาดิน

แม่มะลิ ฮิปโปโปเตมัสขวัญใจคนไทย ขอบคุณภาพจาก https://www.matichonacademy.com/

แม่มะลิเป็นฮิปโปโปเตมัสที่เกิดตั้งแต่ปีพ.ศ. 2509 ในประเทศเยอรมนี ซึ่งจนถึงปี 2563 นี้ก็นับว่าแม่มะลิมีอายุถึง 54 ปีแล้ว ซึ่งนับว่าเป็นฮิปโปโปเตมัสที่อายุยืนยาวทีเดียวหากเทียบกับอายุขัยของฮิปโปโปเตมัสทั่วไปที่จะมีอายุขัยเฉลี่ยอยู่ที่ 40 -50 ปี และแม่มะลิก็นับว่าเป็นฮิปโปโปเตมัสที่มีอายุยืนที่สุดในประเทศไทยด้วย หลังจากที่แม่มะลิเกิดมาไม่นานก็ถูกย้ายไปยังประเทศเนเธอร์แลนด์ ที่ต่อมามีการแลกเปลี่ยนสัตว์ระหว่างประเทศของทางสวนสัตว์ ทำให้แม่มะลิถูกส่งมายังสวนสัตว์เขาดินเมื่อปี พ.ศ. 2510 และกลายเป็นซุปตาร์แห่งสวนสัตว์ตั้งแต่นั้นมา และแน่นอนว่าคำว่า “แม่” ของแม่มะลิก็มาจากการที่มันได้ให้กำเนิดลูกแก่สวนสัตว์มาแล้ว โดยแม่มะลิได้ให้กำเนิดลูกมาแล้วถึง 14 ตัว และลูกของแม่มะลิก็ได้ถูกส่งไปยังสวนสัตว์ต่างๆ ทั่วประเทศไทยเพื่อให้คนไทยได้ชื่นชม

แม่มะลิ ฮิปโปโปเตมัสผู้ใจดีแห่งสวนสัตว์

ฮิปโปโปเตมัสเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่ดุร้ายที่สุดในโลก

อย่างไรก็ตามต้องยอมรับว่าโดยธรรมชาติแล้ว ฮิปโปโปเตมัสถือเป็นสัตว์ที่ค่อนข้างดุร้าย หรืออาจกล่าวได้ว่าฮิปโปโปเตมัสเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่ดุร้ายที่สุดในโลก ซึ่งฮิปโปโปเตมัสสามารถต่อสู้กับจระเข้ได้อย่างสูสีเลยทีเดียว แต่หากเรากลับมาดูอุปนิสัยของแม่มะลิที่ถึงแม้จะเป็นฮิปโปร่างใหญ่ แต่ก็ไม่เคยมีข่าวคราวว่าแม่มะลิได้ทำอันตรายให้กับคนเลี้ยง หรือมนุษย์เลย อาจเป็นเพราะความใกล้ชิดระหว่างแม่มะลิกับมนุษย์ที่มีมาตั้งแต่แม่มะลิยังเด็ก ที่ทำให้แม่มะลิกลายเป็นฮิปโปโปเตมัสแสนใจดีแห่งสวนสัตว์ได้ไม่ยาก

อย่างที่เราได้บอกไว้แต่แรกว่าแม่มะลิได้ถูกย้ายไปยังสวนสัตว์เขาเขียวเรียบร้อยแล้ว และแน่นอนว่าสวนสัตว์เขาเขียวก็สามารถดูแลมันได้ดีพอๆ กับบ้านเดิมของมัน ซึ่งก็ดูเหมือนว่าเจ้าฮิปโปซุปตาร์ตัวนี้ก็มีชีวิตอย่างมีความสุขกับบ้านใหม่ของมันไม่น้อยเลย หากคุณคิดถึงแม่มะลิ ก็อย่าลืมไปเยี่ยมเจ้าฮิปโปโปเตมัสขวัญใจคนไทยตัวนี้ได้ที่สวนสัตว์เขาเขียวทุกวัน