เราจะมาทำความรู้จักกับ 10 สัตว์มีพิษที่อันตรายที่สุดในโลก ในปี 2024 ซึ่งแต่ละชนิดมีลักษณะเฉพาะตัว และพิษที่รุนแรง สามารถทำให้คุณเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ การรู้จักสัตว์มีพิษไว้ จะช่วยให้ทุกคนได้ระมัดระวังตัว และอยู่ให้ห่างจากสัตว์มีพิษเหล่านี้ หากบังเอิญไปเจอหรือไปโดนเข้าก็รีบปฐมพยาบาลและรีบหาหมอให้ไว ก่อนที่มันจะสายเกินไป
อันดับที่ 1 : แมงกะพรุนกล่อง (Box Jellyfish)
แมงกะพรุนกล่อง (Box Jellyfish) ได้ฉายาว่าเป็น สัตว์น้ำที่มีพิษร้ายแรงที่สุดในโลก พิษของมันสามารถทำให้หัวใจหยุดเต้นในไม่กี่นาที แมงกะพรุนกล่อง (Box Jellyfish) เป็นสิ่งมีชีวิตที่ดูเงียบสงบ ล่องลอยเคลื่อนไหวไปตามกระแสน้ำอย่างอ่อนโยน แต่แท้จริงแล้ว มันคือภัยร้ายที่ซ่อนตัวอยู่ใต้ท้องทะเล แมงกะพรุนกล่องถือเป็นหนึ่งในสัตว์ที่มีพิษรุนแรงที่สุดในโลก แค่การสัมผัสเพียงเสี้ยววินาทีก็อาจทำให้ชีวิตของคุณเปลี่ยนไปตลอดกาล
พิษของแมงกะพรุนกล่อง สามารถทำลายระบบประสาท ระบบหัวใจ และระบบหายใจได้อย่างรวดเร็ว ความเจ็บปวดที่เกิดจากการสัมผัสกับหนวดของมันนั้นเหมือนกับการถูกไฟเผาผิวหนังจนถึงกระดูก ความเจ็บปวดนี้สามารถทำให้เกิดอาการช็อกและหัวใจล้มเหลวได้ในทันที และในบางกรณี มันสามารถคร่าชีวิตคนได้ภายในเวลาเพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น
ถิ่นที่อยู่อาศัยของแมงกะพรุนกล่อง ประเทศไทยสามารถพบแมงกระพรุนกล่อง ได้เกือบทุกจังหวัดชายทะเล ทั้งฝั่งทะเลอ่าวไทยและทะเลอันดามัน
อันดับที่ 2 : งูไทปัน (Inland Taipan)
งูไทปัน (Inland Taipan) เป็นสิ่งมีชีวิตที่ถูกขนานนามว่า “งูที่มีพิษรุนแรงที่สุดในโลก” การกัดเพียงครั้งเดียวสามารถฆ่าคนได้ถึง 100 คน แม้จะมีขนาดไม่ใหญ่มากนักและดูสงบนิ่งไม่ดุร้าย แต่ในความเงียบของมันนั้นแฝงไว้ด้วยอันตรายและการโจมตีที่รวดเร็วมากจนคุณแทบมองไม่ทัน
พิษของงูไทปัน สามารถคร่าชีวิตได้ภายในเวลาเพียง 45 นาทีถ้าหากไม่ได้รับการรักษาทันที พิษของมันมีฤทธิ์รุนแรงมากกว่างูชนิดอื่นๆ บนโลกนี้หลายเท่า มันสามารถทำลายระบบประสาท ระบบเลือด และทำให้เกิดการอุดตันของหลอดเลือดจนถึงหัวใจล้มเหลว มันสามารถกัดเหยื่อได้หลายครั้งในเวลาเพียงไม่กี่วินาที โดยแต่ละครั้งที่มันกัด ปริมาณพิษที่ปล่อยออกมาแต่ละครั้งนั้นมากพอที่จะทำให้เหยื่อล้มลงทั้งยืนได้ภายในเวลาอันรวดเร็ว
ถิ่นที่อยู่อาศัยของงูไทปัน (Inland Taipan) งูชนิดนี้พบได้ในเขตแห้งแล้งของออสเตรเลีย ซึ่งแม้จะไม่ดุร้าย แต่พิษของมันก็น่ากลัวมาก
อันดับที่ 3 : ปลาปักเป้า (Pufferfish)
ปลาปักเป้า (Pufferfish) สัตว์น้ำที่ดูน่ารักและไร้พิษภัยในสายตาของใครหลายคน แต่ในความเป็นจริงแล้ว มันเป็นหนึ่งในสัตว์ที่อันตรายที่สุดในโลก ความน่ารักกลมโตของมันเป็นเพียงภาพลวงตาที่ปกปิดความโหดร้ายของพิษที่มันซ่อนอยู่ภายใน
พิษของปลาปักเป้า คือ “เทโทรโดท็อกซิน” (Tetrodotoxin) ซึ่งเป็นสารพิษที่รุนแรงมากกว่าไซยาไนด์ถึง 1,200 เท่า เพียงแค่ปริมาณเล็กน้อยก็สามารถทำให้มนุษย์เสียชีวิตได้ และที่น่ากลัวกว่านั้นคือ พิษนี้ยังไม่มีวิธีรักษาเฉพาะ ถ้าหากได้รับพิษเข้าไป จะทำให้เกิดอาการชา หมดสติ และอาจทำให้หัวใจหยุดเต้นในเวลาอันรวดเร็ว
ในบางวัฒนธรรมเช่นที่ญี่ปุ่น ปลาปักเป้าเป็นอาหารสุดพิเศษที่รู้จักกันในชื่อ “ฟุกุ” (Fugu) แม้ว่าจะมีเชฟที่ได้รับการฝึกฝนอย่างหนัก เพื่อที่จะปรุงอาหารจากปลาปักเป้าได้อย่างสะอาดปลอดภัย แต่ก็ยังคงมีความเสี่ยงที่พิษจะหลงเหลืออยู่ในเนื้อปลา ผู้ที่กินเข้าไป ก็อาจต้องเสี่ยงชีวิตกับพิษที่ซ่อนอยู่ในอาหารนั้น
อันดับที่ 4 : แมงมุมบราซิล (Brazilian Wandering Spider)
แมงมุมบราซิล (Brazilian Wandering Spider) เป็นแมงมุมที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งใน สัตว์ที่มีพิษร้ายแรงที่สุดในโลก แมงมุมชนิดนี้ถูกพบได้ในป่าเขตร้อนของบราซิลและบางส่วนของอเมริกาใต้ แม้ว่าขนาดของมันจะไม่ใหญ่โต แต่พิษของมันสามารถทำให้มนุษย์เสียชีวิตได้ในเวลาอันสั้น
พิษของแมงมุมบราซิล พิษที่ปล่อยออกมาจากเขี้ยวเล็กๆ ของมันมีสารพิษที่เรียกว่า neurotoxin ทำให้เกิดอาการปวดแสบร้อนรุนแรงบริเวณที่ถูกกัด พิษยังทำลายระบบประสาท ทำให้เกิดอาการหายใจลำบาก กล้ามเนื้อเป็นอัมพาต อาการที่ตามมาคือ หายใจไม่ออก คลื่นไส้ อาเจียน เหงื่อออกมาก และในกรณีที่แย่ที่สุดอาจเสียชีวิตได้ภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง
แมงมุมบราซิลยังเป็นแมงมุมที่มีพฤติกรรมที่แปลกประหลาด มันไม่สร้างใยเพื่อจับเหยื่อ แต่กลับเดินเพ่นพ่านตามพื้นดิน และชอบซ่อนตัวในที่มืดหรือในรองเท้า เสื้อผ้า ของใช้ในบ้าน ซึ่งนั่นทำให้เราอาจถูกกัดได้
อันดับที่ 5 : หมึกบลูริง (Blue-Ringed Octopus)
หมึกบลูริงหรือหมึกสายวงน้ำเงิน สัตว์ทะเลที่ซ่อนความน่ากลัวอย่างไม่น่าเชื่อ มันเป็นหนึ่งในสิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเลที่มีพิษรุนแรงที่สุดในโลก ความสวยงามของวงแหวนสีฟ้าบนตัวของมันอาจจะดูสวยงามน่าสัมผัส แต่หากโดนเข้าไปคุณจะรู้ว่าความตายอาจอยู่ใกล้แค่เอื้อม
หมึกบลูริงถือเป็นสัตว์ที่มีพิษรุนแรงและสามารถฆ่ามนุษย์ได้ในเวลาไม่กี่นาที พิษของมันไม่มีวิธีรักษาและสามารถทำให้เกิดอัมพาตหรือการหายใจล้มเหลวเฉียบพันได้ คุณสามารถพบเจอหมึกบลูริงได้ทั่วทะเลไทย ทั้งทะเลอันดามันและอ่าวไทย
อันดับที่ 6 : แมงมุมแม่ม่ายดำ (Black Widow Spider)
แมงมุมแม่ม่ายดำ (Black Widow Spider) เป็นแมงมุมที่มีพิษร้ายแรง พบได้ในเขตอเมริกาเหนือและใต้ ลักษณะที่เด่นชัดที่สุดของแมงมุมแม่ม่ายดำ คือ ร่างกายสีดำที่เงาวับ พร้อมกับสัญลักษณ์รูปนาฬิกาทรายสีแดงที่ท้องของมัน สัญลักษณ์นี้เป็นการเตือนว่า “อย่าเข้ามาใกล้” เพราะถ้าคุณเผลอสัมผัสหรือรบกวนมัน พิษของแมงมุมแม่ม่ายดำอาจทำให้คุณต้องทนทุกข์ทรมานด้วยความเจ็บปวดอย่างแสนสาหัส
พิษของแมงมุมแม่หม้ายดำ มีฤทธิ์ทำลายระบบประสาท ทำให้เกิดอาการปวดแสบปวดร้อน ท้องเสีย กล้ามเนื้อหดเกร็ง และในบางกรณีอาจทำให้หัวใจหยุดเต้น พิษนี้มีความรุนแรงมากพอที่จะทำให้ผู้ใหญ่แข็งแรงรู้สึกอ่อนแอและหมดแรงได้ในเวลาเพียงไม่กี่นาทีหลังจากถูกกัด
อันดับที่ 7 : หอยเต้าปูน (Cone Snail)
หอยเต้าปูน (Cone Snail) เป็นสัตว์น้ำขนาดเล็กที่มีเปลือกแข็งและสวยงาม แต่ภายใต้ความสวยงามนั้นแฝงด้วยอันตรายที่ร้ายแรง หอยชนิดนี้มีอยู่หลายสายพันธุ์ ทุกสายพันธุ์ของหอยเต้าปูนมีพิษ แต่ระดับความรุนแรงอาจแตกต่างกันไป
แม้หอยเต้าปูนจะเป็นสัตว์น้ำที่ไม่ได้มีการเข้ามาโจมตีมนุษย์โดยตรง แต่ความสวยงามของมันทำให้คนจำนวนมากอาจไม่ทันระวังตัว และหยิบจับสัมผัสโดยไม่ตั้งใจ ส่งผลให้เกิดการถูกพิษและได้รับอันตราย
หลังจากถูกพิษ ผู้ป่วยจะเริ่มมีอาการชาในบริเวณที่ถูกพิษและอาจแพร่กระจายไปยังส่วนอื่นของร่างกาย มีอาการอ่อนแรง หายใจลำบาก และอาจเสียชีวิตได้
ปัจจุบันยังไม่มีเซรุ่มที่สามารถรักษาพิษของหอยเต้าปูนได้อย่างเฉพาะเจาะจง การรักษาส่วนมากจึงต้องเน้นการรักษาตามอาการที่เกิดขึ้น เช่น การช่วยหายใจ การให้ยากระตุ้นระบบประสาท และการเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดในโรงพยาบาล
เพื่อป้องกันอันตรายจากหอยเต้าปูน การหลีกเลี่ยงการสัมผัสหรือจับหอยเต้าปูนเป็นวิธีการป้องกันที่ดีที่สุด หากพบเห็นหอยเต้าปูนในธรรมชาติ ควรเฝ้าระวังและอยู่ห่างๆ
อันดับที่ 8 : กบลูกศรพิษ (Poison Dart Frog)
กบลูกศรพิษ หรือ Poison Dart Frog เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะกบที่มีพิษอันตรายที่สุดในโลก ลักษณะคือกบขนาดเล็กที่มีสีสันสดใส สวยงาม จนดึงดูดสายตา แต่ภายใต้ความงามนั้นซ่อนพิษร้ายแรงที่สามารถคร่าชีวิตของสิ่งมีชีวิตได้เพียงสัมผัสเดียว สัตว์เหล่านี้อาศัยอยู่ในป่าฝนเขตร้อนของอเมริกากลางและอเมริกาใต้ โดยเฉพาะในประเทศโคลอมเบีย เอกวาดอร์ และปานามา
ชื่อ “กบลูกศรพิษ” มาจากการที่ชนพื้นเมืองในอเมริกาใต้ใช้พิษของกบชนิดนี้ในการทาลูกศร เพื่อล่าสัตว์ พิษที่ถูกทาลงบนลูกศรจะทำให้สัตว์เป้าหมายหมดสติเกือบจะทันทีที่ถูกยิง ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความร้ายแรงของพิษเหล่านี้
กบลูกศรพิษมีมากกว่า 100 สายพันธุ์ โดยสายพันธุ์ที่มีพิษร้ายแรงที่สุดคือ Phyllobates terribilis หรือที่เรียกว่า “Golden Poison Dart Frog” ซึ่งมีพิษมากพอที่จะคร่าชีวิตคนได้ถึง 10 คนด้วยปริมาณพิษเพียงน้อยนิด
อันดับที่ 9 : แมงกะพรุนอิรุคันจิ (Irukandji Jellyfish)
แมงกะพรุนอิรุคันจิ (Irukandji Jellyfish) เป็นแมงกะพรุนขนาดเล็ก มีความยาวเพียง 1 เซนติเมตร มีลำตัวโปร่งใส กลมกลืนกับน้ำทะเล แมงกะพรุนชนิดนี้พบได้ในน่านน้ำเขตร้อนของออสเตรเลียและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
พิษของแมงกะพรุนอิรุคันจิ มีหนวดที่มีเข็มพิษจำนวนมากที่สามารถทำลายเซลล์และระบบประสาท เมื่อถูกพิษจะเริ่มรู้สึกเจ็บปวดที่รุนแรงไปทั่วร่างกาย มีอาการคลื่นไส้, อาเจียน, ปวดหัว, หัวใจเต้นเร็ว และความดันโลหิตสูง ในบางกรณีอาจนำไปสู่ภาวะหัวใจล้มเหลว เกิดอาการช็อกและเสียชีวิตได้
คนที่เคยถูกพิษของแมงกะพรุนอิรุคันจิเปรียบเทียบว่าความเจ็บปวดนั้นเหมือนกับถูกไฟลวกจากภายใน เป็นความรู้สึกที่ทรมานจนยากที่จะอธิบาย มันคือฝันร้ายที่ทำให้หลายคนกลัวการลงเล่นน้ำทะเลไปเลย
อันดับที่ 10 : ปลาหิน (Stonefish)
ปลาหิน (Stonefish) เป็นสัตว์น้ำที่มีลักษณะคล้ายก้อนหินหรือปะการัง เป็นหนึ่งในปลาที่อำพรางตัวเก่งที่สุด ทำให้มันสามารถซ่อนตัวในธรรมชาติได้อย่างดี ปลาหินถูกพบได้ในน้ำตื้นของมหาสมุทรอินโด-แปซิฟิก โดยเฉพาะบริเวณแนวปะการังและชายหาด แต่สิ่งที่ทำให้ปลาหินเป็นที่รู้จักและน่ากลัวไม่ใช่รูปลักษณ์ของมัน แต่เป็นพิษที่ร้ายแรงที่มันซ่อนอยู่
ปลาหินสามารถกลมกลืนไปกับสิ่งแวดล้อมรอบตัวได้ดีมาก จนทำให้คนหรือสัตว์น้ำอื่นๆ ไม่ทันระวังและเผลอเหยียบหรือสัมผัสกับมันโดยไม่ได้ตั้งใจ พิษของปลาหินถูกปล่อยออกมาผ่านหนามที่อยู่บนหลังของมัน พิษนี้มีสารที่สามารถทำลายเซลล์และระบบประสาทในร่างกายของเหยื่อได้อย่างรวดเร็ว ทำให้เลือดเป็นลิ่มและระบบการไหลเวียนของเลือดในร่างกายหยุดชะงัก
อาการที่เกิดขึ้นหลังจากถูกพิษปลาหินนั้นรุนแรงมาก ผู้ที่ถูกพิษจะรู้สึกทรมานที่สุดในชีวิต รู้สึกเจ็บปวดอย่างรุนแรงทันทีในบริเวณที่ถูกหนามแทง ความเจ็บปวดนี้จะแพร่ไปยังส่วนอื่นของร่างกาย และเกิดอาการบวม แดง มีรอยช้ำ ในกรณีที่ร้ายแรงที่สุด อาจทำให้เกิดอาการอัมพาต ช็อก หรือเสียชีวิตได้
วิธีป้องกันและหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับสัตว์มีพิษ
การป้องกันตนเองจากสัตว์มีพิษ เป็นสิ่งสำคัญที่ทุกคนควรรู้ไว้ เพื่อหลีกเลี่ยงอันตรายที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต เช่น การสวมใส่เสื้อผ้าที่ปกปิดร่างกายมิดชิด เมื่ออยู่ในพื้นที่ที่มีความเสี่ยง ตรวจสอบเช็คด้านในรองเท้าหรือเสื้อผ้าก่อนสวมใส่ และเรียนรู้วิธีการปฐมพยาบาลเกี่ยวกับสัตว์มีพิษในพื้นที่ที่คุณอาศัยหรือในพื้นที่ที่คุณกำลังจะเดินทางไป
การปฐมพยาบาลเมื่อถูกสัตว์มีพิษกัดหรือต่อย
หากถูกสัตว์มีพิษกัดหรือต่อย ควรรีบขอความช่วยเหลือจากแพทย์ทันที อย่าพยายามดูดพิษออกด้วยปาก หรือใช้วิธีการปฐมพยาบาลที่ไม่ปลอดภัย ควรทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้นโดยการล้างแผลด้วยน้ำสะอาด หลีกเลี่ยงการเคลื่อนไหวบริเวณที่ถูกกัดเพื่อลดการกระจายของพิษ และพยายามจดจำลักษณะของสัตว์ที่กัดหรือต่อย เพื่อให้แพทย์สามารถให้การรักษาได้อย่างถูกต้อง
คำถามที่พบบ่อย ที่คุณอาจกำลังสงสัย (FAQs)
1. สัตว์มีพิษชนิดไหนที่อันตรายที่สุดในโลก?
แมงกะพรุนกล่อง ถือว่าเป็น สัตว์มีพิษที่อันตรายที่สุดในโลก เนื่องจากพิษของมันสามารถทำให้หัวใจหยุดเต้นได้ในเวลาไม่กี่นาที
2. ควรทำอย่างไรหากถูกสัตว์มีพิษกัดหรือต่อย?
ทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้น เช่น ล้างแผลด้วยน้ำสะอาดและหลีกเลี่ยงการเคลื่อนไหวบริเวณที่ถูกกัด รีบโทรแจ้งสายด่วนการแพทย์ 1669 และพยายามอยู่นิ่งที่สุด เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของพิษ
3. สัตว์มีพิษชนิดไหนที่พบในประเทศไทย?
สัตว์มีพิษที่พบได้บ่อยในประเทศไทย ได้แก่ งูเห่า งูจงอาง งูแมวเซา และงูกะปะ แมงมุมแม่หม้ายดำ หมึกบลูริง แมงกะพรุนกล่อง หากเจอรีบหลีกเลี่ยงไปให้ไกลที่สุด เพราะถ้าหากโดนกัดขึ้นมาล่ะงานเข้าแน่นอน
4. อาการที่บ่งบอกว่าถูกพิษสัตว์มีพิษคืออะไร?
หากถูกสัตว์มีพิษกัดหรือเผลอไปโดนสัตว์มีพิษ คุณอาจจะมีอาการ เช่น ปวดแสบปวดร้อน คลื่นไส้ อาเจียน หัวใจเต้นผิดจังหวะ หรือมีอาการช็อก เป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าถูกพิษสัตว์มีพิษเข้าแล้วล่ะ
บทส่งท้าย
สัตว์มีพิษ เป็นภัยธรรมชาติที่เราต้องระวังตัวไว้อยู่ตลอดเวลา การรู้จักสัตว์มีพิษและวิธีการป้องกันตัวเอง ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยลดความเสี่ยงเมื่อต้องเจออันตรายจากสัตว์มีพิษ ยังไงก็อย่าลืมที่จะศึกษาและเรียนรู้เกี่ยวกับสัตว์มีพิษในพื้นที่ที่คุณอาศัยหรือไปท่องเที่ยว เพื่อให้คุณสามารถป้องกันตัวเองและแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ทันท่วงที
อ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่ animal2you.com