Categories
ความรู้ สัตว์น้ำ สัตว์น้ำเค็ม

ปลาซีลาแคนท์ ตำนานสิ่งมีชีวิตลึกลับดึกดำบรรพ์ ผู้ครองมหาสมุทรมานานกว่า 400 ปี

สิ่งมีชีวิตสุดมหัศจรรย์ที่อยู่บนโลกนี้มาอย่างยาวนาน “ปลาซีลาแคนท์” จริง ๆ แล้วปลาชนิดนี้ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นว่าเป็นสิ่งมีชีวิตที่ได้สูญพันธุ์ไปเป็นที่เรียบร้อย จนกระทั่งในปี ค.ศ. 1938 ปลาซีลาแคนท์ได้ถูกค้นพบอีกครั้งในคอโมโรส เคนยา แทนซาเนีย โมซัมบิก มาดากัสการ์ และในกวาซูลู-นาทัลประเทศแอฟริกาใต้ ซึ่งเป็นสายพันธุ์ Latimeria chalumnae การค้นเจอครั้งนี้เป็นความบังเอิญที่ปลาได้ติดอวนชาวประมง

ซึ่งไม่น่าเชื่อเลยว่าจะเป็นปลาสายพันธุ์ที่ทุกคนคิดว่าได้สูญพันธุ์ไปแล้ว ต่อมาประวัติการค้นพบอีกครั้งหนึ่งในปี ค.ศ.1999 ที่เกาะซูลาเซวี อินโดนีเซีย ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่สอง Latimeria menadoensis ที่พบตามธรรมชาติ ส่วนในประเทศไทยเองได้ค้นพบชิ้นส่วนของซากดึกดำบรรพ์ปลาซีลาแคนท์ โดยศูนย์วิจัยและการศึกษาบรรพชีวินวิทยา มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ที่บ้านคำพอก อำเภอคำชะอี จังหวัดมุกดาหาร อายุเกือบ 400 ปี

fossil fish1

ข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับปลาซีลาแคนท์ ซากฟอสซิลสัตว์ดึกดำบรรพ์ที่สามารถค้นพบในประเทศไทย

ปลาซีลาแคนท์เป็นสิ่งมีชีวิตที่คนคิดว่าเป็นปลาที่สูญพันธุ์ไปแล้ว ตั้งแต่ช่วงปลายยุคครีเทเชียสประมาณ 65 ล้านปีก่อน แต่ว่าได้มีการค้นพบครั้งยิ่งใหญ่และพิสูจน์แล้วว่าเป็นปลาซีลาแคนท์จริง ดังนั้นจึงเป็นปลาโบราณที่ยังมีชีวิตอยู่จนถึงปัจจุบันนี้ ปลาชนิดนี้ไม่ได้หาเจอง่าย เพราะถึงแม้จะดำรงเผ่าพันธุ์อยู่ แต่ก็มีปริมาณประชากรเหลือน้อยมาก จัดอยู่ในกลุ่มเสี่ยงสัตว์สูญพันธุ์ เพราะมีชีวิตอยู่เหลือเพียงแค่ 2 สปีชีส์เท่านั้น

ลักษณะโครงสร้างร่างกาย

จากการศึกษาพบว่าปลาชนิดนี้มีลักษณะเด่นที่ครีบ ซึ่งจะเป็นพูเนื้อขนาดใหญ่ 4 ครีบ และครีบที่หางจะแตกออกแยกกันเป็น 3 พู มีเกล็ดที่บาง มีอวัยวะคล้ายตะขออยู่ด้านหน้าของกะโหลกซึ่งเป็นอวัยวะพิเศษที่ใช้ในการตรวจจับหาเหยื่อ ซึ่งถ้าหากโตเต็มที่แล้วจะมีขนาดยาวถึง 1.8 เมตร น้ำหนักมากกว่า 90 กิโลกรัมเลยทีเดียว

ถิ่นค้นพบปลาสายพันธุ์นี้

หลายคนพออ่านมาถึงตรงนี้ คงเริ่มสงสัยแล้วใช่ไหมว่าปลาซีลาแคนท์อยู่ไหน ปัจจุบันแหล่งที่อยู่มีเพียงแค่สองที่เท่านั้น ได้แก่ บริเวณชายฝั่งเกาะสุลาเวสีของอินโดนีเซีย และตามแนวชายฝั่งทางตะวันออกของทวีปแอฟริกา ซึ่งน่าสลดใจที่ว่าประชากรของมันเหลือเพียงแค่หลักร้อยตัวเท่านั้น 

ปัจจัยเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์

ปลาซีลาแคนท์มีเหตุหลายปัจจัยที่ทำให้เสี่ยงสูญพันธุ์เนื่องจากโตช้า อัตราการสืบพันธุ์ต่ำ สามารถมีลูกมีหลานได้น้อย จึงทำให้จำนวนประชากรลดน้อยลงทุก ๆ ปี ขึ้นชื่อว่าเป็นสัตว์หายาก ที่ไม่ได้พบเจอกันง่าย ๆ 

อายุขัย

จากผลการศึกษาวิจัยล่าสุดของทางฝรั่งเศส ที่ถูกตีพิมพ์ในวารสาร Current Biology พบว่าปลาชนิดนี้มีอายุขัยนานนับร้อยปี และมีข้อมูลใหม่เพิ่มเติมว่าซีลาแคนท์เป็นปลาที่โตช้ามาก ๆ เพศเมียจะเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์เมื่อช่วงอายุประมาณเกือบ 60 ปี และเพศผู้เข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ช่วงประมาณอายุระหว่าง 40-69 ปี 

fossil fish2

ปลาซีลาแคนท์ หนึ่งในฟอสซิลที่ยังคงมีชีวิตอยู่

ปลาซีลาแคนท์ ถึงแม้จะมีฟอสซิลปลาเอาไว้อวดโฉมให้คนรุ่นหลังได้เห็นว่าพวกมันเคยสวยงามและยิ่งใหญ่มากขนาดไหน แต่ปัจจุบันก็ยังเป็นปลาดึกดำบรรพ์ ที่ยังมีชีวิตอยู่ ถึงแม้จะเหลือน้อยเต็มทีอย่างน้อยก็ยังไม่สูญพันธุ์ พวกเราสามารถที่จะยังคงหาวิธีและแนวทางในการอนุรักษ์ปลาชนิดนี้เอาไว้ได้ ปลาซีลาแคนท์เป็นสัตว์น้ำที่เมื่อโตเต็มที่แล้วจะมีขนาดตัวค่อนข้างใหญ่ หากเทียบขนาดกับปลาส่วนใหญ่ที่อาศัยอยู่ในมหาสมุทร พวกมันดำรงเผ่าพันธุ์มานานกว่า 400 ปี สามารถเอาชีวิตรอดจากการสูญพันธุ์ครั้งยิ่งใหญ่ที่คร่าชีวิตสัตว์ดึกดำบรรพ์อื่น ๆ ไปมากมาย ในประเทศไทยก็มีการค้นพบซากฟอสซิลกระดูกขากรรไกรของปลาซีลาแคนท์ที่บ้านคำพอก อ.คำชะอี จ.มุกดาหาร เป้นการค้นพบครั้งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ animal2you.com

บทความเพิ่มเติม

Sponsor : https://ufaball.bet/

Categories
ความรู้ สัตว์บก

มาทำความรู้จักกับ “แมวพัลลัส” เจ้าเหมียวขนฟูฟ่อง ตังตึงแห่งป่าใหญ่ นิสัยดุร้ายไม่เกรงใจใคร

เจ้าเหมียว “แมวพัลลัส” เป็นแมวป่าสายพันธุ์หนึ่ง ที่มีลักษณะรูปร่างโดดเด่นมาก หัวจะเล็ก หน้าแป้นแล้น ปากสั้น เบ้าตาอยู่ต่ำ ร่างล่ำเตี้ย ใบหูกลมน่ารักมาก มีขนที่ยาวและหนา ส่วนใหญ่ขนจะมีสีเทาอมแดง หรือสีเทา และมีขนสีขาวอยู่ประปราย ซึ่งลักษณะของสีขนจะแตกต่างกันตามที่อยู่อาศัย และสามารถเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาลได้ นอกจากนั้นแมวพัลลัสจะมีความแตกต่างกับแมวสายพันธุ์อื่น ๆ อย่างเห็นได้ชัด คือ ที่รูม่านตาจะเป็นทรงกลม ซึ่งปกติแล้วแมวทั่วไปจะรูม่านตาเป็นช่องเรียว ถึงแม้ว่าเจ้าแมวพัลลัสนี้หน้าตาดูน่าเอ็นดู น่ารักน่าชัง แต่รู้หรือไหมว่าน้องค่อนข้างดุเอาเรื่องเลยทีเดียว ชอบทำหน้าตาไม่รับแขก ขังขัง หน้าบูดตลอดเวลา ถ้าเผลอไปอุ้มระวังกรงเล็บอันแสนแหลมคมจะสร้างบาดแผล รอยข่วน เป็นของที่ระลึกฝากไว้ให้คิดถึง สมกับฉายาตัวตึงแห่งป่าใหญ่เลยทีเดียว

rare animal2

แมวพัลลัส นักล่าสายพันธุ์โหด ตัวสั้น ดุ๊กดิ๊ก สุดคิ้วท์นี้สามารถเจอได้ที่ไหน

เชื่อไหมว่าแมวพัลลัส เป็นแมวป่าที่ไม่ได้พบเจอกันง่าย ๆ เรียกได้ว่าเป็นสายพันธุ์สัตว์หายากตามธรรมชาติ และเตือนว่าไม่ควรเข้าใกล้ เพราะน้องมีนิสัยดุมาก ถ้าตรวจดูประวัติสายเลือดจะพบว่าเป็นสายพันธุ์ที่ใกล้ชิดกับแมวดาว ซึ่งปัจจุบันแมวพัลลัส ถูกจัดให้อยู่ในระดับเสี่ยงต่อการเป็นสัตว์สูญพันธุ์ ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2002 โดยสหภาพนานาชาติเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติและทรัพยากรธรรมชาติ (IUCN) หากใครเจอถือว่าโชคดีมากเลยนะเนี่ย

rare animal1

ถิ่นที่อยู่อาศัย

แมวป่าสายพันธุ์นี้จัดอยู่ในกลุ่มสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมเหมือนกับแมวทั่วไป ซึ่งสามารถพบได้ที่เอเชียกลาง บริเวณตะวันตกของประเทศอิหร่านยาวไปจนถึงตะวันตกของประเทศจีน รวมทั้งทางตอนใต้ของรัสเซียไปจนถึงที่ราบสูงทิเบต และเทือกเขาหิมาลัย จึงเป็นแมวนักล่าเจ้าถิ่นที่พบมากในบริเวณสภาพอากาศหนาวเย็น ส่วนใหญ่จะอาศัยอยู่ในประเทศมองโกเลีย คาซัคสถาน จีน อิหร่าน อัฟกานิสถาน ปากีสถาน และไซบีเรียตอนใต้ เป็นต้น 

อาหารการกิน

น้องแมวนักล่าชนิดนี้ จะมีสัญชาตญาณในการล่าเหยื่อสูงมาก อาหารส่วนใหญ่จะเป็นกระต่ายพิกา หรือกลุ่มของสัตว์ฟันแทะ ที่หาได้โดยทั่วไป เช่น แฮมสเตอร์ เจอร์บัว และโวล เป็นต้น ไม่เพียงเท่านั้นน้อง ๆ ยังสามารถกินนก หรือพวกสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังได้อีกด้วย การล่าจะเน้นการซุ่มมองและตะครุบเหยื่อด้วยกรงเล็บอันแหลมคม แต่น่าเสียดายด้วยสรีระร่างกายที่ล่ำเตี้ย จึงทำให้วิ่งไม่เก่งมาก มักจะหลบซ่อนตัวในการหลบภัย หรือการล่าจะไม่เน้นวิ่งไล่เหยื่อเพราะวิ่งไม่ทัน

rare animal

อุปนิสัย

แมวพัลลัส เป็นสัตว์ที่ไม่ชอบสุงสิงกับใคร ไม่อยู่เป็นฝูง จะรักสันโดษมาก ชอบหากินในตอนกลางคืน และหลับในช่วงเวลากลางวัน นิสัยของน้องไม่ได้เป็นมิตรมากนัก มีสัญชาตญาณสัตว์ป่าสูง เพราะฉะนั้นจะไม่คุ้นชินกับมนุษย์ หรือสัตว์ชนิดอื่น ๆ 

แมวพัลลัส นักล่าขาสั้น สัตว์ที่ถูกจัดอยู่ในกลุ่มใกล้สูญพันธุ์

แมวพัลลัส ถึงแม้ว่าจะเป็นสัตว์บกที่จัดอยู่ในกลุ่มนักล่า อาศัยอยู่ในป่าและรักสันโดษเอามาก ๆ แต่แมวป่าชนิดนี้มีความเสี่ยงที่จะสูญพันธุ์สูงมาก เนื่องจากมีการขยายพันธุ์ในวงกว้าง อีกทั้งมีฤดูผสมพันธุ์หรือช่วงติดสัดสั้นมาก เพียงแค่ 2 วันเท่านั้นเอง ซึ่งน้อยกว่าแมวสายพันธุ์อื่น ๆ ช่วงฤดูผสมพันธุ์จะอยู่ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม และแมวพัลลัสนั้นยังเป็นแมวที่วิ่งได้ช้า

จึงทำให้วิถีการล่าของพวกเขาเป็นการย่อง ซุ่ม โจมตีเหยื่อเสียมากกว่าการวิ่งไล่ตาม สามารถกินอาหารได้หลากหลายส่วนใหญ่จะเป็นสัตว์ฟันแทะ หรือในช่วงขาดแคลนอาหารแมวพัลลัสสามารถเอาตัวรอดได้ด้วยการกินแมลงแทนสัตว์ขนาดเล็ก แมวสายพันธุ์นี้อยู่ในพื้นที่ที่หนาวจัด เช่น เทือกเขาหิมาลัย จึงมีขนที่หนามาก ๆ เพื่อใช้ในการป้องกันความหนาวเหน็บ แต่ความจริงแล้วเป็นแมวที่มีขนาดตัวเล็ก ซึ่งที่เห็นกันว่าน้องดูอ้วนท้วนสมบูรณ์มากเนื่องตากขนที่หนากว่าแมวปกตินั่นไงล่ะ จึงทำให้พวกเขาดูกลม ตัวอ้วน น่ารัก น่ากอดเหลือเกิน แต่อย่าเผลอไปอุ้มทีเดียวเชียว ไม่งั้นจะได้รอยข่วนเป็นของขวัญชิ้นโบแดงประดับผิวกายเอาไว้ให้ดูต่างหน้ากันเลยทีเดียว animal2you.com

บทความเพิ่มเติม