Categories
ความรู้ สัตว์บก แนะนำ

กระรอกสามสี สัตว์ป่าคุ้มครอง ขนสวยสะดุดตา หางยาวปุกปุย

กระรอกสามสี เป็นสัตว์สายพันธุ์กระรอกที่พบเห็นได้ยาก มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Callosciurus prevostii เป็นกระรอกที่ตัวใหญ่ไม่ใหญ่มากนัก มีขนาดตัวปานกลาง ลำตัวของกระรอกสามสีอยู่ที่ประมาณ 25 เซนติเมตร และหางจะมีขนหนาปกคลุมฟูฟ่อง ซึ่งความยาวของหางจะอยู่ที่ประมาณ 27 เซนติเมตร กระรอกสามสี มีลักษณะที่ค่อนข้างคล้ายคลึงกับกระรอกหลากสี จัดอยู่ในสกุลเดียวกัน มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Callosciurus finlaysonii แต่มีความแตกต่างกันที่สายพันธุ์สามสีตัวเมียจะมีเต้านม 3 คู่ ซึ่งกระรอกชนิดนี้สามารถพบได้ในทวีปเอเชีย มักอาศัยอยู่ตามธรรมชาติในป่าที่มีความอุดมสมบูรณ์

ข้อมูลทั่วไปที่น่าสนใจเกี่ยวกับกระรอกสามสีสัตว์โลกแสนน่ารัก 

กระรอกสามสี เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ซึ่งปัจจุบันจัดอยู่ในกลุ่มเสี่ยงใกล้เป็นสัตว์สูญพันธุ์ ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พุทธศักราช 2535 ให้กระรอกสายพันธุ์นี้เป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง และห้ามไม่ให้มีการเลี้ยง แต่ก็ยังมีการแอบนิยมซื้อขายเป็นสัตว์เลี้ยงอยู่

ลักษณะที่โดดเด่น

กระรอกสามสี ลักษณะที่โดดเด่นซึ่งสามารถสังเกตเห็นได้อย่างชัดเจนคือสีของขนที่มีสามสี โดนบริเวณหูและหัวจะมีสีดำ ขนหางครึ่งหนึ่งเป็นสีดำ ปลายหาเป็นสีน้ำตาล ส่วนขาขนมีสีแดงปนน้ำตาลแก่ บริเวณโคนขาหลังด้านบนมีสีขาว ขนท้องจะมีสีน้ำตาลปนแดงมีแถบสีขาวพาดจากโคนขาหลังไปยังขาหน้า กระรอกสามสี จึงประกอบไปด้วยสีดำ สีขาว และสีน้ำตาล

ถิ่นที่อยู่อาศัย

สามารถพบได้บริเวณป่าดิบชื้น หรือป่าพรุ ในคาบสมุทรมลายู ตั้งแต่ภาคใต้ของประเทศไทยลงไป พบได้แม้กระทั่งในป่าพรุ เช่น ป่าพรุโต๊ะแดง จังหวัดนราธิวาส ประเทศมาเลเซีย หมู่เกาะสุมาตรา และหมู่เกาะอินโดนีเซีย

อาหารการกิน

กระรอกสายพันธุ์นี้กินอาหารได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นผลไม้ แมลงต่าง ๆ และไข่นก เป็นต้น

ลักษณะนิสัยและพฤติกรรม

สำหรับกระรอกชนิดนี้จะชอบออกหากินในเวลาตอนกลางวัน ออกหากินตามลำพัง หรืออาจจะอยู่เป็นกลุ่มเล็ก ๆ เป็นสัตว์ที่อาศัยอยู่บนต้นไม้เป็นหลัก มีความว่องไว เคลื่อนไหวรวดเร็ว

ช่วงเวลาของการเจริญพันธุ์

กระรอกสามสี เป็นสัตว์ที่ผสมพันธุ์ตลอดปี ซึ่งฤดูผสมพันธุ์อย่างแท้จริง จะอยู่ช่วงเดือนกรกฎาคม-กันยายน กระรอกสายพันธุ์นี้มีระยะเวลาในการตั้งท้อง 40 วัน ในหนึ่งคอกจะได้ลูกอยู่ประมาณ 1 ถึง 4 ตัว น้ำหนักแรกเกิดจะอยู่ที่ประมาณ 16 กรัมเท่านั้น ตัวเล็กมาก ๆ 

ขนาดและน้ำหนัก

ถ้าเทียบกับกระรอกสายพันธุ์อื่น ๆ จะมีขนาดกลาง แต่ถ้าพูดถึงในตระกูล Callosciurus จะมีขนาดใหญ่ที่สุด โดยความเฉลี่ยวัดตั้งแต่ปลายจมูกจนถึงโคนหางจะอยู่ที่ประมาณ 20-27 เซนติเมตร หางยาวประมาณ 20-27 เซนติเมตร และขาหลังยาวประมาณ 4.5-8.0 เซนติเมตร ขาสั้นมาก แต่วิ่งเร็วจี๋เลย น้ำหนักตัวของกระรอกสายพันธุ์นี้จะมีน้ำหนักอยู่ที่ประมาณ 250-500 กรัม ตัวเบาหวิว ปีนป่ายต้นไม้ได้เร็วสุด ๆ เลย

กระรอกสามสี สิ่งมีชีวิตตัวน้อยที่ใกล้สูญพันธุ์

กระรอกสามสีถึงแม้จะเป็นสัตว์ที่สามารถผสมพันธุ์ได้ตลอดทั้งปี แต่ด้วยเหตุปัจจัยหลายอย่างทำให้กระรอกสายพันธุ์นี้เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ ไม่ว่าจะนักล่าที่อยู่ตามธรรมชาติ และการบุกรุกป่าของมนุษย์ที่ส่งผลให้กระรอกสามสีขาดแคลนอาหารและถิ่นที่อยู่อาศัย กระรอกสามสีมีลักษณะโดดเด่นตามชื่อ โดยขนทั่วตัวจะมีทั้งหมดสามสี ได้แก่ สีดำ ขาว และน้ำตาล เป็นสัตว์บกที่อาศัยอยู่ในป่า ชอบการปีนป่าย จึงนิยมอยู่บนต้นไม้ มากกว่าบนพื้นดิน สัตว์ชนิดมีขนาดตัวไม่ใหญ่มากนัก น้ำหนักเบา อาหารหลักจะเป็นพวกผลไม้ หรือเป็นพวกแมลงตัวเล็ก ๆ ที่หาได้ง่ายตามป่าเขา ปัจจุบันจัดเป็นสัตว์ที่มีความเสี่ยง เป้นสัตว์หายาก จึงถูกคุ้มครองให้เป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ไม่อนุญาตให้เลี้ยงโดยทั่วไป รวมทั้งไม่อนุญาตให้มีการเพาะพันธุ์เพื่อขาย หากจะเลี้ยงจะต้องมีการขออนุญาตอย่างถูกกฎหมาย เพื่อเป็นการอนุรักษ์ให้สัตว์ชนิดนี้คงอยู่ต่อไปในอนาคต ดังนั้นอยากให้ทุกท่านตระหนักในการรักษาสมดุลธรรมชาติไม่บุกรุกพื้นที่ป่า เพื่อลดอัตราการสูญพันธุ์ของสัตว์ที่มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นในทุกปี 

animal2you.com

บทความเพิ่มเติม

Sponsor : https://ufaball.bet/

ใส่ความเห็น