Categories
สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ

เรื่องของซาลาแมนเดอร์ สัตว์ครึ่งบก ครึ่งน้ำสุดเจ๋ง

ธันวาคม 2020

ซาลาแมนเดอร์ สามารถรักษาตัวเอง หรือเยียวยาตัวเองได้ด้วยการงอกอวัยวะขึ้นมาใหม่

ซาลาแมนเดอร์ เป็นชื่อเท่ห์ๆ ของสัตว์ครึ่งบก ครึ่งน้ำ ที่หลายๆ คนน่าจะเคยได้ยินแต่ชื่อ แต่สำหรับบางคนซาลาแมนเดอร์ถือเป็นสัตว์เลี้ยงแสนคูล ที่ใครมีไว้ในครอบครองก็ดูเจ๋งสุด

การงอกใหม่ของซาลาแมนเดอร์

เรื่องของซาลาแมนเดอร์ สัตว์ครึ่งบก ครึ่งน้ำสุดเจ๋ง

ซาลาแมนเดอร์ เป็นสัตว์ที่มีกระดูกสันหลัง มีรูปร่างคล้ายตะกวด ซาลาแมนเดอร์ส่วนใหญ่มีขาหน้า 2 คู่ และมีหาง พวกมันมีลักษณะผิวหนังที่คล้ายกับสัตว์ครึ่งบก ครึ่งน้ำอื่นๆ พร้อมทั้งมีต่อมเมือกที่ผิวหนังทีาช่วยในการหายใจ และมีต่อมพิษสำหรับการป้องกันตัว รวมถึง เพื่อใช้ดึงดูดเพศตรงข้ามด้วย ในประเทศไทยจะสามารถพบเจ้าซาลาแมนเดอร์นี้ได้ตามภูเขาสูงของทางภาคเหนือหรือภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อย่างเช่น ดอยอินทนนท์ ดอยเชียงดาว ดอยสุเทพ เป็นต้น

ซาลาแมนเดอร์ตัวโตเต็มวัยแต่ละสายพันธุ์มีขนาดที่แตกต่างกันมาก ตั้งแต่ 3 เซนติเมตร ไปจนถึงขนาด 2 เมตร แต่ความน่าสนใจเกี่ยวกับซาลาแมนเดอร์ก็คือ พวกมันสามารถรักษาตัวเอง หรือเยียวยาตัวเองได้ด้วยการงอกอวัยวะขึ้นมาใหม่ ไม่ว่าจะเป็นขา หาง หรือแม้แต่การซ่อมแซมหัวใจ หรือ สมองของมันเองได้ โดยที่เนื้อเยื่อส่วนที่เสียหายของซาลาแมนเดอร์จะถูกเปลี่ยนเป็นสเต็มเซลล์ ที่เจริญเติบโตไปเป็นเนื้อเยื่อต่าง ๆ กล้ามเนื้อ เซลล์ประสาท จนสามารถทดแทนอวัยวะที่หายไปได้อย่างสมบูรณ์ ดูๆไปแล้วก็รู้สึกอิจฉาเจ้าซาลาแมนเดอร์นี่เสียจริง

ความน่าทึ่งของซาลาแมนเดอร์ 7 ปีอยู่นิ่งๆ ก็ไม่เป็นไร

ซาลาแมนเดอร์ถ้ำ หรือที่เรียกว่าตัวโอล์ม

อีกความน่าสนใจของเจ้าซาลาแมนเดอร์ก็คือ ซาลาแมนเดอร์สามารถอาศัยอยู่จุดเดิมๆ แบบไม่ขยับเขยือนไปไหนเลยได้นานถึง 7 ปี ความน่าทึ่งของซาลาแมนเดอร์สายพันธุ์นี้เป็นซาลาแมนเดอร์ถ้ำ หรือที่เรียกว่าตัวโอล์ม ที่โดยปกติแล้วจะมีลักษณะตาบอด ชอบอาศัยอยู่ตามถ้ำมืดที่มีธารน้ำไหลในแถบยุโรปกลางหรือยุโรปตะวันออก ตัวโอล์มมักจะใช้ชีวิตอย่างเชื่องช้า และสามารถมีชีวิตยืนยาวถึง 100 ปี และอีกความน่าทึ่งของซาลาแมนเดอร์สายพันธุ์นี้ก็คือ พวกมันจะมีการเคลื่อนไหวเพื่อการผสมพันธุ์ทุกๆ 12 ปีครึ่ง ที่ดูเหมือนว่าไม่น่าจะมีสัตว์สายพันธุ์ไหนนิ่งได้เท่าซาลาแมนเดอร์ถ้ำ หรือตัวโอล์มนี่อีกแล้ว

ซาลาแมนเดอร์อาจเป็นสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำที่มีหน้าตาประหลาด ทำให้เหล่าบรรดาผู้ที่ชอบเลี้ยงสัตว์แปลกนิยมมีไว้ในครอบครอง อย่างไรก็ตามหากคุณไม่แน่ใจว่ามีความพร้อมในการเลี้ยงหรือไม่ เราขอแนะนำว่าให้ปล่อยมันอยู่ตามธรรมชาติ น่าจะทำให้พวกมันมีความสุขมากกว่า

Categories
แมลง

“ยุง” ตัวยุ่ง ใครจะเชื่อว่ายุงนั่นก็มีประโยชน์เหมือนกัน

ธันวาคม 2020

“ยุง” ตัวยุ่ง ใครจะเชื่อว่ายุงก็มีประโยชน์

“ยุง” ชื่อสั้นๆ ที่ใครได้ยินก็คันแล้ว คนส่วนใหญ่เมื่อนึกถึง “ยุง” ก็คงจะรู้สึกไม่ชอบ รำคาญ รวมถึงมองว่ายุงเป็นพาหะนำเชื้อไข้เลือดออก ไข้มาลาเรียที่อาจทำให้เป็นอันตรายจนถึงชีวิตได้ แต่คุณรู้หรือไม่ว่า ยุง ไม่ได้เป็นแมลงที่เกิดขึ้นมาเพื่อสร้างความรำคาญให้คุณเท่านั้น แต่พวกมันยังมีประโยชน์กับระบบนิเวศในแบบที่คุณนึกไม่ถึงเลยทีเดียว

ลักษณะยุง เจ้าแมลงตัวยุ่ง

“ยุง” ตัวยุ่ง ใครจะเชื่อว่ายุงก็มีประโยชน์

แม้ว่าคุณสามารถพบกับ “ยุง”  ได้ทั่วโลก แต่คุณจะสามารถพบยุงมากกว่าในประเทศเขตร้อน และเขตอบอุ่น ในโลกนี้มียุงมากกว่า 4,000 ชนิด ลักษณะยุงโดยทั่วไปมีลำตัวที่อ่อนนุ่ม และเปราะบาง มีร่างกายแบ่งออกเป็น 3 ส่วนที่ชัดเจนคือ ส่วนหัว ส่วนอก และส่วนท้อง พวกมันมีลำตัวยาว 4-6 มิลลิเมตร วัฏจักรวงจรชีวิตของยุงแบ่งออกเป็น 4 ระยะที่แยกออกจากกันอย่างชัดเจน ได้แก่ 1. ระยะไข่ ที่จะพบได้ตามแหล่งน้ำต่างๆ ไปจนถึงบริเวณที่มีน้ำขัง 2. ระยะลูกน้ำ หรือ ลูกน้ำยุง ที่จะมีการลอกคราบถึง 4 ครั้งก่อนจะเข้าสู่ระยะที่ 3. คือระยะตัวโม่ง ที่จะมีลักษณะแตกต่างจากลูกน้ำยุงพอสมควร โดยใช้เวลา 3-4 วันในการเจริญเติบโตเพื่อเข้าสู่ระยะที่ 4 ที่เป็นยุง แบบตัวเต็มวัย

ในความจริงแล้วอาหารของ “ยุง” ไม่ว่าจะเป็นเพศผู้ หรือ เพศเมีย คือ น้ำหวานที่ได้จากเกสรของดอกไม่ต่างๆ แต่สำหรับยุงตัวเมีย แค่นั้นอาจจะยังไม่พอ เพราะ ยุุงตัวเมียจะยังคงต้องการโปรตีนจากเลือด ไม่ว่าจะเป็นเลือดมนุษย์ หรือ เลือดของสัตว์ นั่นขึ้นอยู่กับชนิดของยุง เพื่อพวกมันจะได้รับพลังงาน และ ช่วยให้ไข่เจริญเติบโต นั่นจึงเป็นที่มาของการที่เจ้ายุงทั้งหลายมาก่อคงามรำคาญให้กับเรา เพราะนอกจากสารเคมีที่ยุงปล่อยออกมาทำให้เรารู้สึกคันแล้ว ยุงยังเป็นพาหะนำโรคหลายชนิดที่สามารถทำให้เราป่วย จนถึงขั้นเสียชีวิตได้ แต่คุณมั่นใจแล้วหรือว่าเจ้ายุงเกิดมาเพื่อจะก่อความรำคาญให้เราเพียงอย่างเดียว?

ประโยชน์ของยุงต่อระบบนิเวศ และมนุษย์

ประโยชน์ของยุงต่อระบบนิเวศ และมนุษย์

เราขอคอนเฟิร์มว่า “ยุง”  ไม่ได้แค่เพียงจะก่อความรำคาญเป็นอย่างเดียว เพราะพวกมันมีความสำคัญต่อระบบนิเวศด้วย ซึ่งประโยชน์ของยุง คือ การที่ยุงกินน้ำหวานจากดอกไม้ ทำให้ยุงมีส่วนช่วยในการผสมพันธุ์พืชได้ไม่แพ้บรรดาผีเสื้อ ผึ้ง ไปจนถึงแมลงอื่นๆ  อีกทั้ง ยุง ที่โตเต็มวัยยังสามารถเป็นอาหารให้กับนก แมงมุม จิ้งจก รวมถึงคนในประเทศแอฟริกาด้วย นอกจากนั้นการที่ยุงกัดเรายังจะช่วยกระตุ้นให้ภูมิคุ้มกันโรคของเราทำงาน และการที่ยุงวางไข่ในน้ำนั้นจะช่วยให้น้ำไม่เน่าเสีย เพราะลูกน้ำยุงจะช่วยเพิ่มออกซิเจนให้กับน้ำได้

แต่ถึงแม้ว่า “ยุง” จะมีประโยชน์กับระบบนิเวศ หรือช่วยกระตุุ้นให้ระบบภูมิคุ้มกันโรคของเราทำงาน แต่ คุณก็ควรจะหลีกหลี่ยงการปะทะกับยุง หรือ อยู่ในที่ๆ มียุงเยอะๆ เนื่องจาก โรคภัยที่มากับยุงนั้นน่ากลัวกว่าที่คุณคิด

Categories
สัตว์เลื้อยคลาน

เขียดงู เจ้าจะเป็นงู หรือจะเป็นเขียดกันแน่นะ

ธันวาคม 2020

เขียดงู เจ้าจะเป็นงู หรือเป็นเขียดกันแน่

ในตอนนี้เราจะมาแนะนำสัตว์แปลกที่มีรูปร่างคล้ายงู แต่ความจริงแล้วคือเขียดชนิดหนึ่ง ที่เราเรียกว่า เขียดงู แต่หากคุณอยากรู้ว่าตัวไหนเป็นงู ตัวไหนเป็นเขียด คุณต้องอ่านต่อไปจนจบเพราะเรากำลังจะบอกเล่าเรื่องราวของเจ้าเขียดงู ใน เขียดงู เจ้าเป็นงู หรือเป็นเขียด ได้ที่นี่

ลักษณะเขียดงู

เขียดงู เป็นสัตว์ครึ่งบก ครึ่งน้ำในตระกูลเขียด ชอบอาศัยอยู่ในบริเวณที่ชื้นแชะ หรือตามริมแม่น้ำลำธาร และใต้ดิน หากเราดูเผินๆ พวกมันมีลักษณะที่คล้ายงูมาก แต่ถ้าคุณต้องเผชิญหน้ากับมัน อย่าเพิ่งตีหรือทำอันตรายมันนะ เพราะเขียดงูไม่ได้เป็นสัตว์มีพิษ หรือ จะทำอันตรายคุณได้ ที่น่าตื่นเต้นกว่านั้นก็คือเขียดงูเป็นสัตว์ที่มีชีวิตมาตั้งแต่สมัยดึกดำบรรพ์ ตั้งแต่จุลลาสสิค ลักษณะแตกต่างที่ทำให้พวกมันไม่เหมือนงูก็คือ พวกมันมีตาที่เล็กมากจนเราแทบจะมองไม่เห็น เขียดงูจะไม่มีเกล็ด มีลำตัวเป็นเมือกลื่นคล้ายปลาไหล

เขียดงูจะไม่มีเกล็ด มีลำตัวเป็นเมือกลื่นคล้ายปลาไหล

เราสามารถพบเขียดงูได้กว่า 200 ชนิดในบริเวณภูมิภาคเขตร้อน ลำตัวของพวกมันจะเรียวยาว มีลักษณะเป็นปล้อง มีหางที่เล็กมากจนเราแทบจะสังเกตุไม่เห็น เขียดงูส่วนใหญ่ใช้ ตา จมูก หนวด รวมถึงช่องเปิดตรงบริเวณศรีษะของบางสายพันธุ์เป็นประสาทสัมผัส

ลูกเขียดงู โตมาได้ด้วยความเสียสละของแม่

เขียดงูบางชนิดจะออกลูกเป็นไข่ แต่เขียดงูส่วนใหญ่ออกลูกเป็นตัว

แม้ว่าเขียดงูบางชนิดจะออกลูกเป็นไข่ แต่เขียดงูส่วนใหญ่ออกลูกเป็นตัว โดยตัวอ่อนของเขียดงูจะกินอาหาร และได้รับสารอาหารจากท่อลำไข่ และเมื่อลูกเขียดงู คลอดออกมาพวกมันจะยังต้องอาศัยอยู่กับตัวแม่ เพราะแม่เขียดงูจะต้องมีหน้าที่เลี้ยงดูลูกโดยใช้เนื้อของตัวมันเอง เนื่องจากลูกเขียดงูที่คลอดออกมาใหม่ๆ จะมีเฉพาะฟันน้ำนมที่ไม่แข็งแรง ดังนั้นลูกเขียดงูจะต้องกัดแทะเนื้อหนังของตัวแม่เพื่อเป็นอาหารในการเติบโต จนกว่าฟันน้ำนมของพวกมันจะหลุดไป และมีฟันแท้ที่แข็งแรงกว่าขึ้นมาแทนเพื่อที่จะอาหารเองได้ ทำให้แม่เขียดงูต้องเสียสละและยอมเจ็บ ให้ลูกๆ แทะผิวหนังของตัวเอง อีกทั้งยังต้องมีหน้าที่ในการสร้างผิวหนังของตัวเองขึ้นมาเรื่อย เพื่อให้เพียงพอต่อการเลี้ยงดูลูกๆ ของมัน

คำว่า แม่ ไม่ว่าจะเป็นคน หรือสัตว์ ก็ล้วนแล้วแต่จะต้องเสียสละเพื่อลูกทั้งนั้น มนุษย์ อาจจะต้องใช้เลือดจากอก หรือที่เรียกว่าน้ำนมในการเลี้ยงลูก แต่สัตว์อย่างเขียดงู ก็ต้องเสียสละผิวหนังของตัวเองในการเลี้ยงดูลูกเขียดงูเช่นกัน

เขียดงู ถึงแม้จะมีหน้าตาคล้ายงู แต่พวกมันไม่มีพิษ หากเราต้องเผชิญหน้ากับพวกมันโดยบังเอิญ เราก็ไม่ควรจะต้องทำร้ายมัน เพราะเขียดงูไม่มีอะไรที่จะสามารถทำร้ายเราได้เช่นกัน

Categories
สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ

อึ่งอ่าง กับการป้องกันตัวที่แสนชาญฉลาดของมัน

ธันวาคม 2020

อึ่งอ่าง กับการป้องกันตัวที่แสนชาญฉลาด

เราอาจเคยได้ยินนิทานเกี่ยวกับอึ่งอ่างที่พองตัวจนท้องแตกตายกันมาแล้วเกือบทุกคน แต่คุณรู้หรือไม่ว่านั่นคือวิถีการป้องกันตัววิธีหนึ่งของอึ่งอ่าง เราจะแนะนำให้คุณรู้จักอึ่งอ่างมากขึ้นใน อึ่งอ่าง กับการป้องกันตัวที่ชาญฉึ่ลาด

อึ่งอ่าง ชนิดและลักษณะทั่วไป

อึ่งอ่าง หรือ ที่บางคนเรียกสั้นๆ ว่า อึ่ง เป็นสัตว์ครึ่งบก ครึ่งน้ำ ที่พบได้มากในเขตทวีปเอเชีย อึ่งอ่างมีลักษณะเฉพาะตัวที่คล้ายกบ แต่ก็ไม่เหมือนกันซะทีเดียว ซึ่งโดยทั่วไปอึ่งอ่างจะมีลำตัวเป็นเมือกลื่น และมีลักษณะลำตัวที่อ้วนกลมกว่ากบ อาหาร หรือ เหยื่อของเจ้าอึ่งอ่างได้แก่ แมลงตัวเล็กๆ ที่ไม่มีพิษ มด ปลวก เป็นต้น พวกมันชอบใช้ชีวิตส่วนใหญ่ใต้ดิน พวกมันจะขุดดินลึกลงไปแล้วหลบซ่อนตัวอยู่ในนั้น และเมื่อฝนตกพวกมันจะพากันออกมาหาอาหารกินบนดิน ทำให้เราจะสามารถพบเห็นอึ่งอ่างได้ในช่วงฤดูฝนที่มีฝนตกติดต่อกันเป็นเวลาหลายๆ วัน

อึ่งอ่าง กับการป้องกันตัวที่แสนชาญฉลาด

เราสามารถพบอึ่งอ่างได้ถึง 436 ชนิด และ สามารถพบได้ 3 ชนิดในประเทศไทย ได้แก่

  1. อึ่งอ่างบ้าน หรือ อึ่งยางมีลำตัวเป็นสีน้ำตาลเข้ม แซมด้วยสีเหลืองที่ข้างลำตัว และบริเวณปากที่ส่วนหัว พวกมันมีขนาดโตเต็มที่อยู่ที่ประมาณ 7 เซนติเมตร มีลำตัวที่อ้วนกลม มีส่วนหัวกว้าง ผิวหนังเรียบลื่น แต่มีตะปุ่มตะป่ำอยู่ทั่วลำตัว
  2. อึ่งอ่างปากขวด หรือ อึ่งเผ้า เป็นอึ่งที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในบรรดาอึ่งที่สามารถหาพบในประเทศ อึ่งชนิดนี้ไม่ได้เป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง และกำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่น่าเป็นห่วงเนื่องจากมีการจับอึ่งปากขวดไปบริโภคเป็นจำนวนมาก รวมถึงอึ่งปากขวดยังสามารถนำไปขายได้ราคาดีด้วย
  3. อึ่งอ่างก้นขีด มีลักษณะทั่วไปเหมือนอึ่งอ่างบ้าน แต่จะมีขีดสีเหลืองอยู่ที่บริเวณก้น มีขนาดเล็กกว่า และหาเจอได้ยากที่สุดในบรรดาอึ่งทั้ง 3 ชนิด
อึ่งอ่างที่มีวิธีการป้องกันตัวในแบบที่แตกต่างออกไป

การป้องกันตัวของอึ่งอ่าง

ไม่ว่าสัตว์ชนิดไหนก็จะมีวิถีการป้องกันตัวที่แตกต่างกัน นั่นรวมไปถึงอึ่งอ่างที่มีวิธีการป้องกันตัวในแบบที่แตกต่างออกไป ซึ่งตัวการป้องกันของอึ่งอ่าง ก็คือ เมื่อพวกมันรู้สึกมีภัย พวกมันก็จะสูดลมหายใจเข้าท้องจนลำตัวพองอ้วนกลม คาดหวังที่จะใช้ขนาดที่ใหญ่ขึ้นของมันในการข่มขวัญศัตรู แต่หากมีศัตรูที่พยายามจะจับตัวมัน มันจะปล่อยเมือกลื่นๆ สีขาวออกมาเพื่อให้ศัตรูจับตัวมันได้ยากขึ้นด้วย

จะเห็นได้ว่าไม่ว่าใครก็รักชีวิตของตน และพยายามสุดวิถีทางในการรักษาเอาตัวรอดเพื่อการมีชีวิตอยู่ต่อไป รวมถึงอึ่งอ่าง ถึงแม้ว่าระบบนิเวศได้มีการจัดสรรผู้ล่า และผู้ถูกล่าให้ดำรงอยู่ในธรรมชาติไว้อย่างลงตัวแล้ว ดังนั้นมนุษย์ผู้อยู่บนยอดของพีระมิดห่วงโซ่อาหารก็ควรจะล่าแค่เพื่อการดำรงชีวิตอยู่เท่านั้นไม่ใช่เพื่อความสนุกสนานเท่านั้น

Categories
แมลง

แมลงสาบที่น่าขนลุก กับประโยชน์ของมัน

ธันวาคม 2020

แมลงสาบที่น่าขนลุก กับประโยชน์ของมัน

แมลงสาบ คงไม่มีใครไม่รู้จัก เพราะเราสามารถเจอมันได้ทุกบ้าน หรือในทุกที่ พวกมันอาจเป็นที่น่ารังเกียจสำหรับคุณ แต่สำหรับคนบางกลุ่มแมลงสาบกลับมีประโยชน์ สามารถให้เป็นอาหารได้ด้วย จนถึงกับมีการทำฟาร์มเพาะเลี้ยงไว้ขายด้วย แต่เรื่องราวจะเป็นอย่างไร อีกเดี๋ยวเรากำลังจะได้รู้กัน

แมลงสาบ ลักษณะและสายพันธุ์

แมลงสาบ ลักษณะและสายพันธุ์

แมลงสาบ อาจเป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่ามันเป็นสัตว์ที่มีมาตั้งแต่สมัยดึกดำบรรพ์ หรืออาจบอกได้ว่าพวกมันเกิดขึ้นมาบนโลกนี้ก่อนมนุษย์เสียอีก และด้วยความที่พวกมันเป็นสัตว์ที่ปรับตัวเก่ง กินได้ทุกอย่าง กินง่าย อยู่ง่าย จึงทำให้พวกมันสามารถดำรงเผ่าพันธุ์มาจนถึงปัจจุบัน แมลงสาบถูกจัดว่าเป็นแมลงที่มีวงจรชีวิตไม่สมบูรณ์ เหมือนแมลงอื่นๆ ทั่วไป พวกมันแตกต่างเพราะไม่มีการเปลี่ยนเป็นตัวหนอนและฟักตัวเป็นดักแด้ ทำให้แมลงสาบนับเป็นแมลงที่สามารถแพร่กระจาย และเติบโตได้ไวกว่าแมลงชนิดอื่นๆ ด้วย และคุณรู้หรือไม่ว่าเจ้าแมลงสาบเหล่านี้สามารถมีชีวิตอยู่ได้แบบไม่ต้องมีหัวได้นานถึง 1 สัปดาห์เลยทีเดียว

ปัจจุบันมีแมลงสาบมากกว่า 4,500 ชนิดบนโลก และมีถึง 4 สายพันธุ์ที่คนนิยมนำมาเลี้ยง อย่างเช่นแมลงสาบมาดากัสการ์ เป็นต้น และมีเพียง 40 พันธุ์เท่านั้นที่ชอบรบกวนสิ่งแวดล้อม และก่อความรำคาญ แมลงสาบที่พบในประเทศไทยส่วนใหญ่คือแมลงสาบสายพันธุ์อเมริกัน แมลงสาบเยอรมัน แมลงสาบลายน้ำตาล และแมลงสาบสายพันธุ์ออสเตรเลีย ที่น่าสนใจก็คือ มีการค้นพบว่าแมลงสาบสายพันธุ์อเมริกันสามารถขยายพันธุ์ได้โดยไม่ต้องพึ่งเพศผู้อีกด้วย แมลงสาบเหล่านี้มีความสามารถพิเศษในการมองเห็นได้ถึง 360 องศา หรือนี่อาจเป็นเหตุผลที่เราจับมับได้ยากเย็น เพราะเจ้าแมลงสาบมักจะหนีเราได้ก่อนทุกที อีกทั้งพวกมันยังสามารถกบดานได้แบบไม่ต้องกินอะไรได้นานถึง 1 เดือน และไม่ต้องกินน้ำได้นานถึง 2 สัปดาห์

ประโยชน์ของแมลงสาบที่คุณต้องรู้

แมลงสาบยังสามารถทำประโยชน์ให้โลกนี้ได้อีกมากมายในแบบที่คุณคาดไม่ถึงเลยทีเดียว

แม้ว่าแมลงสาบจะเป็นสัตว์ที่น่ารังเกียจ ถูกตั้งชื่อว่า “สาบ” เพราะกลิ่นเหม็นสาบที่น่าขยะแขยงของพวกมัน แต่แมลงสาบยังสามารถทำประโยชน์ให้โลกนี้ได้อีกมากมายในแบบที่คุณคาดไม่ถึงเลยทีเดียว ประโยชน์ของแมลงสาบที่น่าสนใจตัวอย่างเช่นมีการทดลองและเชื่อว่าแมลงสาบจะสามารถถูกพัฒนาไปเป็นอาหารแห่งอนาคตได้ เหมือนกับแมลงต่างๆ ที่ถูกเพาะเลี้ยงมากมายในบ้านเราอย่างพวก จิ้งหรีดเป็นต้น อีกทั้งประเทศจีนเชื่อว่าแมลงสาบมีคุณค่าทางยา โดยมีการใช้สารจากแมลงสาบมาผสมในยาแก้โรคผมร่วงได้ ทำให้แมลงสาบกลายเป็นที่ต้องการจนมีการทำฟาร์มแมลงสาบในประเทศด้วย หรืออย่างประเทศสหรัฐอเมริกามีการนำแมลงสาบไปเพาะพันธุ์เพื่อใช้ประโยชน์ในภาคการเกษตร ในการช่วยกำจัดศัตรูพืช อย่างไข่หนอนเจาะสมอฝ้าย ที่เป็นอาหารอันโอชะของเจ้าแมลงสาบเหล่านี้

แม้แมลงสาบจะมีกลิ่นเหม็น น่ารังเกียจ หรือรบกวนจิตใจคุณแค่ไหน แต่ต้องไม่ลืมว่า แมลงสาบไม่เคยได้รับการพิสูจน์ว่าเป็นพาหะนำเชื้อโรคใดๆ อย่าง ยุง หรือ หนู แต่หากคุณไม่ต้องการเจอพวกมันในบ้าน ง่ายๆ แค่เพียงคุณต้องเก็บบ้านให้เป็นระเบียบ โดยเฉพาะตามท่อระบายน้ำที่ควรมีการอุด หรือปิดตะแกรง เพื่อเป็นการปิดกั้นช่องทางไม่ให้เจ้าแมลงสาบเหล่านี้เข้ามาในบ้านของคุณได้

Categories
สัตว์เลื้อยคลาน

จระเข้ สัตว์เลื้อยคลานเปลี่ยนเพศได้ ที่แทบจะไม่มีศัตรู

ธันวาคม 2020

จระเข้ สัตว์เลื้อยคลานเปลี่ยนเพศได้ ที่แทบจะไม่มีศัตรู

ถ้าเราจะพูดถึงสัตว์ในวงศ์ของสัตว์เลื้อยคลาน สัตว์ตัวแรกที่คุณนึกถึงก็น่าจะเป็นงู แต่คุณรู้หรือไม่ว่าพี่เบิ้มแห่งหนองน้ำอย่างจระเข้ ก็นับว่าเป็นสัตว์เลื้อยคลานเช่นกัน แต่ที่น่าประหลาดใจไปกว่านั้น คุณรู้หรือไม่ว่าเพศของจระเข้จะถูกกำหนดได้จากอุณหภูมิ นี่อาจจะทำให้คุณเริ่มอยากรู้เรื่องราวของจระเข้มากขึ้นแล้ว ถ้าเป็นเช่นนั้นคุณจะต้องอาจบทความนี้ไปจนจบ แล้วคุณจะรู้ว่ายังมีเรื่องราวของจระเข้อีกมากที่คุณยังไม่รู้

ลักษณะจระเข้

จระเข้ สัตว์เลื้อยคลานเปลี่ยนเพศได้ ที่แทบจะไม่มีศัตรู

จระเข้เป็นสัตว์เลื้อยคลานขนาดใหญ่ ที่บางสายพันธุ์สามารถมีอายุยืนยาวได้ถึง 100 ปี พวกมันนับว่าเป็นสิ่งมีชีวิตชนิดแรกๆ ที่ได้กำเนิดขึ้นมาบนโลกนี้ และยังสามารถดำรงเผ่าพันธุ์ได้มาจนถึงปัจจุบัน จระเข้เป็นสัตว์เลื้อยคลานที่ออกลูกเป็นไข่ เหมือนกับสัตว์เลื้อยคลานชนิดอื่นๆ ทั่วไปส่วนใหญ่ ตอนที่ลูกจะเข้ฟักออกมาใหม่ๆ จะยังไม่ต้องกินอาหารอะไรเนื่องจากพวกมันยังมีไข่แดงที่มีสารอาหารครบถ้วนหลงเหลืออยู่ แต่หลังจากนั้นสัก 7 วันพวกมันจะเริ่มหาอาหาร เป็นสัตว์ตัวเล็กๆ อย่างพวกลูกปลา ลูกกบ เป็นต้น ในตอนที่ลูกจระเข้ยังอยู่ในไข่ที่ออกมาใหม่ๆ จะเป็นเพศเมียทั้งหมด แต่เพศของจระเข้ในไข่จะเปลี่ยนไปขึ้นอยู่กับอุณหภูมิในขณะที่พวกมันฟักตัว ไข่จระเข้ที่ถูกเก็บไว้ที่อุณภูมิที่สูงกว่า 34 องศาเซลเซียสส่วนใหญ่จะออกมาเป็นตัวผู้ทั้งหมด

ถึงแม้จระเข้เป็นสัตว์กินเนื้อ แต่พวกมันไม่ได้มีฟันไว้เคี้ยว พวกมันจึงจำเป็นจะต้องกิน และกลืนหินลงไปด้วยเพื่อช่วยในการย่อยอาหาร จระเข้จะใช้วิธีการล่าเหยื่อด้วยการพรางตัวนิ่งๆ อยู่บนผิวน้ำ จากนั้นพวกมนจะค่อยๆ ลอยเข้าหาเหยื่ออย่างช้าๆ ก่อนทีจะโผล่ขึ้นงับเหยื่อของมันอย่างโหดเหี้ยม หรือในบางครั้งพวกมันอาจจะต้องใช้หางในการฟาดฟันเหยื่อ เพื่อไม่ใช้เหยื่อสามารถต่อสู้ได้ ด้วยทั้งความฉลาดในการล่าเหยื่อ รวมไปถึงความดุร้ายทำให้จะเข้ แทบจะไม่มีศัตรูตามธรรมชาติที่จะสามารถต่อกร กับมันได้เลย

โลลอง จระเข้ยักษ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก

โลลอง จระเข้ยักษ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก

ถ้าเราจะพูดถึงความเป็นพี่เบิ้มของจระเข้ เราก็คงต้องพูดถึงจระเข้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ที่ชื่อว่า “โลลอง” เจ้าโลลองเป็นจระเข้น้ำเค็มที่ถูกพบในเขตป่าของประเทศฟิลิปปินส์ จากนั้นมันได้ถูกจับและส่งไปยังศูนย์อนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าบุนาวัน โลลองมีขนาดความยาวอยู่ที่ 6.17 เมตร มีน้ำหนักอยู่ที่ประมาณ 1 ตัน และต้องใช้คนถึง 100 คนในการไล่ล่ามัน แต่น่าเสียดายที่เมื่อปี 2556 ทางศูนย์อนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าบุนาวันได้ออกมาประกาศว่าเจ้าโลลองได้เสียชีวิตแล้วด้วยภาวะปอดอักเสบและหัวใจวาย

แม้ว่าจระเข้จะเป็นสัตว์ที่สามารถปรับตัวและดำรงชีวิตมาได้ตั้งแต่สมัยยุคสมัยดึกดำบรรพ์ แต่ในปัจจุบันมีจระเข้บางสายพันธุ์ที่มีจำนวนลดลง ใกล้สูญพันธุ์แล้วด้วยการไล่ล่าของมนุษย์ เราควรหยุดการกรำเหล่านี้เพื่อให้เจ้าสัตว์โบราณนี้ได้มีชีวิตคงอยู่เรื่อยไปจนชั่วลูกชั่วหลาน

Categories
สัตว์ปีก

นกเงือก ตัวอย่างของรักแท้

ธันวาคม 2020

ในเมื่อมนุษย์มีความรักได้ ทำไมบรรดาสัตว์ทั้งหลายจึงจะรู้สึกรักไม่ได้ และเรากำลังจะพูดถึงสัตว์ที่เป็นสัญลักษณ์แห่งรักแท้นั่นก็คือ นกเงือก

ลักษณะของนกเงือกคือมีจะงอยปากที่หนา และใหญ่

นกเงือกเป็นนกขนาดใหญ่อาศัยอยู่ตามป่าหรือพื้นที่ที่มีความอุดมสมบูรณ์ พื้นที่ป่ากว้าง นั่นทำให้เราสามารถวัดความอุดมสมบูรณ์ของป่าได้จากจำนวนประชากรของนกเงือก ลักษณะของนกเงือกคือ พวกมันจะมีจะงอยปากที่หนา และใหญ่ มีโหนกด้านหน้าเป็นโพรง ลำตัวมีสีสลับขาวและดำ มีปีกขนาดใหญ่ พวกมันมักจะหาผลไม้กินเป็นอาหารหลัก หรือบางทีอาจหากินสัตว์เลื้อยคลานอย่างหนอนเป็นอาหารเสริม

สามารถวัดความอุดมสมบูรณ์ของป่าได้จากจำนวนประชากรของนกเงือก

นกเงือกมักถูกเลือกให้เป็นสัญลักษณ์ของรักแท้ เพราะพวกมันมีพฤติกรรมที่มีคู่เพียงตัวเดียวไปจนตลอดชีวิต โดยนกเงือกตัวผู้จะบินไปเรื่อยๆ เพื่อมองหาตัวเมียที่มันจะต้องรักไปจนตลอดชีวิต นกเงือกกับความรัก มักจะเป็นพฤติกรรมที่ถูกยกเป็นตัวอย่างให้มนุษย์ได้ทำตาม นอกจากนกเงือกตัวผู้จะมองหาตัวเมีย จนกว่ามันจะเจอนกเงือกตัวเมียที่จะกลายเป็นที่รักของมันไปตลอดชีวิต จากนั้น นกเงือกตัวผู้จะทำการหาผลไม้ อาหาร หลายๆ ชนิดมาให้นกเงือกตัวเมีย เพื่อที่จะเอาชนะใจนกเงือกตัวเมียให้ได้ โดยนกเงือกตัวผู้จะต้องเทียวหาอาหารมาให้นกเงือกตัวเมียครั้งแล้วครั้งเล่าจนกว่านกเงือกตัวเมียจะรับอาหาร และนั่นหมายถึงนกเงือกตัวเมียรับรักนกเงือกตัวผู้แล้วนั่นเอง จากนั้นเจ้านกเงือกทั้งคู่จะพากันออกไปสร้างครอบครัว

สามารถวัดความอุดมสมบูรณ์ของป่าได้จากจำนวนประชากรของนกเงือก

นกเงือกทั้งคู่จะพาออกไปหาโพรงไม้ หรือโพรงที่สัตว์อื่นๆ ได้ทำไว้ โดยนกเงือกตัวผู้จะต้องหารังไปเรื่อยๆ จนกว่าเจ้านกเงือกตัวเมียจะพอใจ จากนั้นพวกมันจะช่วยกัน ต่อเติมเสริมรัง เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับลูกน้อยของมันต่อไป หลังจากที่นกเงือกตัวเมียได้กำเนิดลูกน้อยแล้ว พวกมันจะแยกกันทำตามหน้าที่ นกเงือกตัวผู้จะมีหน้าที่ในการออกหาอาหารมาให้กับลูกและเมียของมัน ส่วนนกเงือกตัวเมียจะต้องคอยป้อนอาหารและดูแลลูกนกจนเจริญเติบโตต่อไป

อายุขัยของนกเงือก อาจจะอยู่ได้ถึง 25 ปีเลยทีเดียว แต่หากนกเงือกตัวผู้ที่ออกไปหาอาหารโดนทำร้าย หรือได้รับอันตราย จนถึงแก่ชีวิตก่อนที่จะสามารถนำอาหารมาส่งให้กับลูกและเมียที่รัง นั่นนับว่าเป็นเรื่องที่น่าเศร้ามาก เพราะลูกและเมียของมันจะเฝ้ารออาหารวันแล้ว วันเล่า จนพวกมันพากันอดตายตามไป หรือหากตัวเมียได้รับอันตรายไปก่อน เจ้านกเงือกตัวผู้ก็จะอยู่เป็นโสดต่อไปจนมันหมดอายุขัยตายตามกันไป

นกเงือกกับความรักของมันช่างดูเป็นชีวิตที่น่าอิจฉา เราเป็นมนุษย์จะต้องเลือกคู่ และรักษาความรักไว้ให้ดีอย่าให้แพ้นกเงือกนะคะ

Categories
แมลง

ตัวมวนเพชฌฆาต แมลงดูดเลือด ออกหากินเวลากลางคืน

ธันวาคม 2020

ตัวมวนเพชฌฆาต แมลงดูดเลือด ออกหากินเวลากลางคืน

เรากำลังจะแนะนำให้คุณรู้จัก แมลงขาโหด มีพิษ และสามารถกัดคนได้ เช่นเดียวกับยุง ที่ชื่อว่า ตัวมวนเพชฌฆาต ที่สำคัญพวกมันชอบกัดเราโดยเฉพาะที่หน้า หรือ ดวงตา ที่หากคุณเกิดมีอาการแพ้พิษของมันแล้ว พิษของมันก็สามารถทำอันตรายคุณให้ถึงแก่ชีวิตได้

รู้จักกับตัวมวนเพชฌฆาต แมลงมีพิษ ที่จะทำให้คุณเจ็บปวด

ตัวมวนเพชฌฆาต มีตั้งแต่ขนาดปานกลางไปจนถึงขนาดใหญ่

ตัวมวนเพชฌฆาต หรือ คิสซิ่งบั๊ก มีขนาดตั้งแต่ไซส์ปานกลางไปจนถึงขนาดใหญ่ พวกมันมีลักษณะจะงอยปากที่ยื่นยาวออกมาจากช่วงหัว มีตาเดียว และขาคู่หน้าจะใหญ่กว่าขออื่นที่เราสามารถพบได้ตามป่าธรรมชาติทั่วไป ตามพื้นหญ้า หรือ ตามพุ่มไม่หรือต้นไม๊เตี้ยๆ ตัวมวนเพชฌฆาตมีนิสัยที่ค่อนข้างดุร้าย พวกมันจะใช้วิธีการดูดของเหลวจากเหยื่อของมัน ไม่ว่าจะเป็นหนอนผีเสื้อ ไปจนถึงตั๊กแตนที่เพิ่งจะลอกคราบใหม่ๆ ซึ่งความโหดร้ายของตัวมวนเพชฌฆาต คือ มันจะใช้ปากยาวๆ ของมันยื่นออกไปแทงเหยื่อ เพื่อปล่อยพิษ ทำให้เหยื่อของมันเป็นอัมพาต จากนั้นมันก็จะเริ่มดูดของเหลวออกจากตัวเหยื่ออย่างช้าๆ จากเหยื่อ จนตัวของเหยื่อแห้ง และตายในที่สุด

รู้จักกับตัวมวนเพชฌฆาต แมลงมีพิษ ที่จะทำให้คุณเจ็บปวด

เกษตรกรบางส่วนเลือกใช้ความร้ายกาจของตัวมวนเพชฌฆาต ในการเป็นตัวห้ำไว้คอยกำจัดศัตรูพืช แทนยาฆ่าแมลงที่แสนจะอันตราย ทำให้ตัวมวนเพชฌฆาตสามารถเป็นตัวสร้างรายได้ให้กับผู้ที่เพาะเลี้ยงตัวมวนเพเพชฌฆาตเพื่อขายให้กับเกษตรกรอีกทอดหนึ่งด้วย แต่ไม่ใช่แค่นั้นสำหรับตัวมวนเพชฌฆาต เพราะหากคุณเจอกับพวกมันที่ไหน เราขอแนะนำให้คุณหลีกเลี่ยงมัน เนื่องจากพิษร้ายของมันที่นอกจากจะเป็นประโยชน์ในการกำจัดศัตรูพืชแล้ว พิษของตัวมวนเพชฌฆาตยังสามารถทำอันตรายกับคุณได้ด้วย

พิษของตัวมวนเพชฌฆาต สิ่งที่ต้องทำเมื่อคุณโดนมันกัด

ตัวมวนเพชฌฆาต แมลงดูดเลือด ออกหากินเวลากลางคืน1

ตัวมวนเพชฌฆาตอย่างที่เราบอก ว่ามันมีนิสัยที่ค่อนข้างดุร้าย ชอบดูดของเหลวจากตัวของเหยื่อ ซึ่งนั่นอาจรวมถึงมนุษย์อย่างเราๆ ด้วย หากจะบอกให้เข้าใจง่ายๆ คือ พวกมันมีพฤติกรรมคล้ายกับยุง พิษของมวนเพชฌฆาตที่นอกจากจะทำให้เรารู้สึกเจ็บปวด และเกิดเป็นแผลแล้ว หลังที่มวนเพชฌฆาตดูดเลือดจากเราเสร็จแล้ว พวกมันจะถ่ายของเสียทิ้งไว้ที่ปากแผลด้วย ซึ่งปรสิตเหล่านั้นจะสามารถเป็นสาเหตุให้คุณติดเชื้อโรค Chagas ได้แบบไม่รู้ตัว และปรสิตเหล่านี้จะเข้าไปอาศัย รวมถึงเจริญเติบโตอยู่ในหัวใจของคุณ ที่อาจเป็นสาเหตุให้คุณเสียชีวิตได้

ดังนั้นสำหรับผู้ที่โดนตัวมวนเพชฌฆาตกัด และได้รับเชื้อพิษของตัวมวนเพชฌฆาตโดยบังเอิญ ก่อนอื่นคุณจะต้องล้างแผลให้สะอาดด้วยน้ำสบู่ จากนั้นให้ทาแผลด้วยครีมยาปฏิชีวนะ หรือหากคุณเริ่มมีอาการตัวร้อน อ่อนเพลีย เป็นผื่น และอาเจียน คุณควรรีบไปพบแพทย์ทันที

อย่างไรก็ตามวิธีที่ดีที่สุดคือ การพยามหลีกเลี่ยงตัวมวนเพชฌฆาตเหล่านี้เพื่อลดความเสี่ยง แต่สำหรับผู้ที่อยู่บ้านสวน หรือโดนมันกัดโดยบังเอิญก็ไม่ต้องตกใจ แค่ทำตามที่เราแนะนำ สังเกตุอาการ หรือ ไปพบแพทย์ในทันที

Categories
สัตว์จืด สัตว์น้ำ

แม่มะลิ ฮิปโปโปเตมัสขวัญใจคนไทย

ธันวาคม 2020

แม่มะลิ ฮิปโปโปเตมัสขวัญใจคนไทย

เมื่อข่าวการปิดสวนสัตว์เขาดินถูกประกาศขึ้น หลายๆ คนแม้แต่เด็กๆ ก็เกิดคำถามขึ้นว่าบรรดาสัตว์ต่างๆ จะถูกย้ายไปที่ไหน โดยเฉพาะอย่างยิ่งแม่มะลิ ที่เป็นฮิปโปโปเตมัสแห่งสวนสัตว์เขาดินที่ใครๆ ก็ต้องไปเยี่ยมเยือนเมื่อเที่ยวยังสวนสัตว์เขาดิน แม้ว่าในตอนนี้แม่มะลิได้ถูกย้ายไปยังสวนสัตว์เขาเขียวที่อาจจะกว้างขวางกว่าบ้านเดิมของมันอย่างปลอดภัยแล้ว ก็ยังมีผู้คนมากมายเดินทางไปเยี่ยมเยือนแม่ฮิปโปโปเตมัสตัวนี้ถึงสวนสัตว์เขาเขียว

ประวัติแม่มะลิ ฮิปโปโปเตมัสแห่งเขาดิน

แม่มะลิ ฮิปโปโปเตมัสขวัญใจคนไทย ขอบคุณภาพจาก https://www.matichonacademy.com/

แม่มะลิเป็นฮิปโปโปเตมัสที่เกิดตั้งแต่ปีพ.ศ. 2509 ในประเทศเยอรมนี ซึ่งจนถึงปี 2563 นี้ก็นับว่าแม่มะลิมีอายุถึง 54 ปีแล้ว ซึ่งนับว่าเป็นฮิปโปโปเตมัสที่อายุยืนยาวทีเดียวหากเทียบกับอายุขัยของฮิปโปโปเตมัสทั่วไปที่จะมีอายุขัยเฉลี่ยอยู่ที่ 40 -50 ปี และแม่มะลิก็นับว่าเป็นฮิปโปโปเตมัสที่มีอายุยืนที่สุดในประเทศไทยด้วย หลังจากที่แม่มะลิเกิดมาไม่นานก็ถูกย้ายไปยังประเทศเนเธอร์แลนด์ ที่ต่อมามีการแลกเปลี่ยนสัตว์ระหว่างประเทศของทางสวนสัตว์ ทำให้แม่มะลิถูกส่งมายังสวนสัตว์เขาดินเมื่อปี พ.ศ. 2510 และกลายเป็นซุปตาร์แห่งสวนสัตว์ตั้งแต่นั้นมา และแน่นอนว่าคำว่า “แม่” ของแม่มะลิก็มาจากการที่มันได้ให้กำเนิดลูกแก่สวนสัตว์มาแล้ว โดยแม่มะลิได้ให้กำเนิดลูกมาแล้วถึง 14 ตัว และลูกของแม่มะลิก็ได้ถูกส่งไปยังสวนสัตว์ต่างๆ ทั่วประเทศไทยเพื่อให้คนไทยได้ชื่นชม

แม่มะลิ ฮิปโปโปเตมัสผู้ใจดีแห่งสวนสัตว์

ฮิปโปโปเตมัสเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่ดุร้ายที่สุดในโลก

อย่างไรก็ตามต้องยอมรับว่าโดยธรรมชาติแล้ว ฮิปโปโปเตมัสถือเป็นสัตว์ที่ค่อนข้างดุร้าย หรืออาจกล่าวได้ว่าฮิปโปโปเตมัสเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่ดุร้ายที่สุดในโลก ซึ่งฮิปโปโปเตมัสสามารถต่อสู้กับจระเข้ได้อย่างสูสีเลยทีเดียว แต่หากเรากลับมาดูอุปนิสัยของแม่มะลิที่ถึงแม้จะเป็นฮิปโปร่างใหญ่ แต่ก็ไม่เคยมีข่าวคราวว่าแม่มะลิได้ทำอันตรายให้กับคนเลี้ยง หรือมนุษย์เลย อาจเป็นเพราะความใกล้ชิดระหว่างแม่มะลิกับมนุษย์ที่มีมาตั้งแต่แม่มะลิยังเด็ก ที่ทำให้แม่มะลิกลายเป็นฮิปโปโปเตมัสแสนใจดีแห่งสวนสัตว์ได้ไม่ยาก

อย่างที่เราได้บอกไว้แต่แรกว่าแม่มะลิได้ถูกย้ายไปยังสวนสัตว์เขาเขียวเรียบร้อยแล้ว และแน่นอนว่าสวนสัตว์เขาเขียวก็สามารถดูแลมันได้ดีพอๆ กับบ้านเดิมของมัน ซึ่งก็ดูเหมือนว่าเจ้าฮิปโปซุปตาร์ตัวนี้ก็มีชีวิตอย่างมีความสุขกับบ้านใหม่ของมันไม่น้อยเลย หากคุณคิดถึงแม่มะลิ ก็อย่าลืมไปเยี่ยมเจ้าฮิปโปโปเตมัสขวัญใจคนไทยตัวนี้ได้ที่สวนสัตว์เขาเขียวทุกวัน