Categories
สัตว์น้ำ

ทำความรู้จัก ปลาหมอฟลามิงโก้ ปลาสีสวย นิสัยดุ ที่คนอยากเลี้ยงควรรู้

ธันวาคม 2021

      ปลาหมอฟลามิงโก้ หรือ ปลาหมอไมดาส ( Red devil cichlid , Midas cichlid ) จัดเป็นปลาน้ำจืดชนิดหนึ่งที่มีสีสันสดใสและโดดเด่น ถูกจัดอยู่ในวงศ์เดียวกันกับปลาหมอสี ( CICHLIDAE ) ซึ่งสัตว์ที่อยู่ในวงศ์ปลาหมอสีนี้สามารถแยกออกได้มากกว่า 1,000 ชนิด โดยแต่ละชนิดก็จะมีลักษณะที่แตกต่างกันออกไปตามสายพันธุ์และสภาพแวดล้อมถิ่นกำเนิด บางชนิดเราสามารถพบได้ตามแหล่งน้ำกร่อยด้วย มีแหล่งกระจายพันธุ์ในแถบทวีปอเมริกา 

      ปัจจุบันนิยมนำปลาชนิดนี้มาเลี้ยงเป็นปลาสวยงามกันในหลายประเทศและแน่นอนว่าในประเทศเองก็เช่นกัน เนื่องจากเป็นปลาที่มีสีสันสวยงามจึงกลายเป็นที่ชื่นชอบของคนทั่วไป ซึ่งหากสนใจอยากเลี้ยงควรมีการศึกษาถึงนิสัยและธรรมชาติของปลานชนิดนี้เสียก่อนนะคะ

ลักษณะนิสัยและรูปร่างหน้าตาของปลาหมอฟลามิงโก้

      ปลาหมอฟลามิงโก้ หรือ ปลาหมอไมดาส เป็นปลาที่มีรูปร่างค่อนข้างใหญ่และมีรูปทรงแบน โดยเมื่อเจริญเติบโตเต็มวัยจะมีขนาดตัวยาวเฉลี่ยประมาณ 25-30 เซนติเมตร ตลอดลำตัวมีสีส้ม เหลือง ขาว แซมกันอย่างสวยงาม โดยอาจจะมีแถบดำแซมขึ้นมาด้วย ( ขึ้นอยู่กับการลอกสีของปลา ) มีริมฝีปากหนา ตามีสีดำ ส่วนหัวมีลักษณะโหนกนูนและจะเห็นได้ชัดเจนมากขึ้นเมื่อเจริญเติบโตเต็มวัย มีครีบที่ท้อง 2 ครีบ ครีบที่หางมีลักษณะแผ่กว้างรูปทรงโค้งมน มีครีบที่กระโดงหลังรูปทรงเรียวยาว และครีบทวารอีก 1 ครีบ 

      ปลาหมอฟลามิงโก้นิสัยค่อนข้างดุร้าย ก้าวร้าว และมีความหวงถิ่นที่อยู่ โดยเฉพาะปลาเพศผู้ที่มีโหนกขนาดใหญ่บนหัวมักจะมีความก้าวร้าวมากเป็นพิเศษ ปลาชนิดนี้ชอบอาศัยและหลบซ่อนตัวอยู่ตามซอกหินหรือซอกไม้ แต่เนื่องจากเป็นสัตว์ที่ไม่ชอบเข้าสังคมสักเท่าไหร่นักจึงมักจะอาศัยอยู่ตามลำพังตัวเดียว 

การวางไข่และเพาะขยายพันธุ์ของปลาหมอฟลามิงโก้

      ด้วยความที่ปลาหมอฟลามิงโก้มีสีสันที่สวยงามและมีลักษณะที่โดดเด่นจึงทำให้ได้รับความนิยมจากกลุ่มผู้ที่ชื่นชอบการเลี้ยงปลาสวยงามไม่น้อย โดยได้มีการนำปลาหมอฟลามิงโก้ขยายพันธุ์เพื่อนำออกจำหน่ายเป็นวงกว้าง อีกทั้งเป็นที่ต้องการของตลาดอย่างต่อเนื่อง

      ปลาหมอฟลามิงโก้ขยายพันธุ์ได้ในตู้ปลาที่มีขนาดใหญ่ตั้งแต่ 24 นิ้ว ขึ้นไป สำหรับผู้ที่สนใจอยากนำปลาชนิดนี้มาเลี้ยงจึงต้องเลือกตู้ปลาที่มีขนาดที่เหมาะสมเพื่อให้สามารถแหวกว่ายและวางไข่ได้อย่างสบาย โดยปลาตัวเมียจะวางไข่สีเหลืองนวลเอาไว้ตามพื้น หิน หรือต้นไม้ต่าง ๆ ที่นำมาวางประดับภายในตู้ปลา ซึ่งในการวางไข่แต่ละครั้งปลาตัวเมียจะสามารถวางไข่ได้ครั้งละ 400-800 ฟอง โดยจะใช้เวลาในการฟักตัวประมาณ 3 วัน จึงจะฟักออกมาเป็นลูกปลาตัวเล็กน่ารัก ๆ แหวกว่ายเผชิญโลกและเจริญเติบโตต่อไป

 

 

แทงบอลออนไลน์

Categories
ความรู้ สัตว์ปีก

นกปักษาสวรรค์ นกที่มีความสวยงามราวกับหลุดออกมาจากแดนสวรรค์

ธันวาคม 2021

     นกปักษาสวรรค์ ( Bird of Paradise ) หรือ นกการเวก เป็นสัตว์ปีกที่ถูกจัดให้อยู่ในสกุล PARADISAEIDAE พบว่ามีถิ่นอาศัยอยู่ในป่าเขตร้อนแถบหมู่เกาะนิวกีนี ประเทศออสเตรเลีย และอาจจะพบได้บ้างประปรายในหมู่เกาะโมลุกกะ ประเทศอินโดนีเซีย สามารถแยกออกได้มากถึง 38 สายพันธุ์เลยทีเดียวสำหรับสัตว์ในสกุลนี้ 

     นกปักษาสวรรค์ในไทยจะเรียกกันอีกชื่อหนึ่งว่า นกการเวก ซึ่งตามความเชื่อของไทยเชื่อว่าเป็นสัตว์ในตำนานที่อาศัยอยู่ในป่าหิมพานตที่มมีความศักดิ์สิทธิ์ โดยในอดีตขนนกปักษาสวรรค์ได้ถูกนำมาเสียบประดับบนพระมาลาของกษัตริย์ไทย

     ซึ่งได้มีข้อมูลส่วนหนึ่งระบุว่านกชนิดนี้ได้เคยถูกนำเข้ามาในประเทศไทยในสภาพไร้ชีวิตในสมัยรัชกาลที่ 4 เพื่อถวายนำมาถวายพระบามสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ฯ ด้วย ( คล้ายว่าจะเป็นในลักษณะของเครื่องบรรณาการอย่างหนึ่ง )

ลักษณะและนิสัยของนกปักษาสวรรค์ นกสวยงามที่ดึงดูดทุกสายตาที่ได้พบเห็น

     นกปักษาสวรรค์จะมีสีสันลวดลายและลักษณะที่แตกต่างกันออกไปตามลักษณะของแต่ละสายพันธุ์ แต่ก็จะมีลักษณะเด่นที่เหมือนกัน คือ ตัวผู้จะมีขนสีสันฉูดฉาดและสวยงามโดดเด่นสะดุดตาแก่ผู้ที่ได้พบเห็นซึ่งแตกต่างกันกับตัวเมียอย่างมาก โดยตัวผู้จะมีขนหางยาวในลักษณะเส้นโค้งที่มีความอ่อนช้อยสวยงามซึ่งจะโค้งหรือม้วนเป็นรูปทรงแตกต่างกันไปตามสายพันธุ์ที่ต่างกัน 

     ยิ่งในช่วงฤดูที่ต้องแข่งกันเกี้ยวสาวขนนกปักษาสวรรค์ก็ยิ่งมีความสวยงามมากเป็นพิเศษเพื่อใช้ดึงดูดสาว ๆ ให้เข้ามาผสมพันธุ์นั่นเอง และขนที่สวยงามโดดเด่นนี้ไม่ได้ดึงดูดได้เฉพาะนกในสายพันธุ์เดียวกันเท่านั้น แต่ยังสามารถดึงดูดนกตัวเมียต่างสายพันธุ์ได้ด้วย เรียกว่าหว่านเสน่ห์ข้ามสายพันธุ์กันเลยทีเดียว

     นกการเวก มักจะมีแหล่งที่อยู่อาศัยในผืนป่าที่มีความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติ มีแมกไม้นานาพันธุ์ มีแหล่งน้ำอันอุดมสมบูรณ์ และอาหารที่ชื่นชอบจะเป็นจำพวกผลไม้ ลูกไม้ หนอน หรือแมลงต่าง ๆ โดยจะอยู่รวมกันเป็นฝูง ส่งเสียงดังเพื่อหาคู่และพูดคุยกัน

การเลือกคู่ การสืบพันธุ์ และการวางไข่ของนกปักษาสวรรค์

     ในขณะที่นกปักษาสวรรค์ตัวผู้ผลัดกันจีบตัวเมียโดนการอวดสีขนสวย ๆ ตัวเมียก็จะเลือกคู่ของตนเองอย่างพิถีพิถัน เมื่อเลือกคู่ได้แล้วก็จะมีการผสมพันธุ์กันเกิดขึ้นซึ่งจะใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้นโดยตัวผู้สามารถเปลี่ยนคู่เพื่อผสมพันธุ์ไปได้เรื่อย ๆ 

     หลังจากนกปักษาสวรรค์ หรือ นกการเวกตัวเมียมีการผสมพันธุ์แล้วจะวางไข่ขนาดเล็กภายหลังจากการผสมพันธุ์ จำนวน 2-3 ฟอง โดยไข่นกการเวกจะมีสีน้ำตาลอมส้ม แม่นกจะเฝ้ากกไข่ของตนอยู่เกือบตลอดเวลายกเว้นในช่วงที่ต้องออกไปหาอาหาร ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 20 วัน จึงจะฟักตัวออกมาเจริญเติบโตสู่โลกภายนอกต่อไป

 

 

ฝากถอนไม่มีขั้นต่ำ

Categories
ความรู้ สัตว์เลื้อยคลาน

ทำความรู้จักกับสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ ตะพาบหัวกบ เจ้าหัวกบที่ชอบกินกบเป็นอาหาร

ธันวาคม 2021

     ตะพาบหัวกบ ( Southern New Guinea Giant Softshell Turtle ) หรือ ตะพาบน้ำหัวกบ , กริวดาว , กราวเขียว จัดอยู่ในประเภทสัตว์เลื้อยคลานที่อยู่ในวงศ์ ตะพาบหัวกบชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Pelochelys bibroni มีถิ่นอาศัยในแถบประเทศจีน อินเดีย อินโดจีน สุมาตรา มาเลเซีย อินโดนีเซีย พม่า ไทย ฯลฯ โดยในประเทศไทยสามารถพบได้เกือบทุกภาค เช่น ตาก กาญจนบุรี นครศรีธรรมราช ฯลฯ

    ปัจจุบันได้มีการนำมาเพาะขยายพันธุ์กันมากขึ้นและนิยมนำไปเลี้ยงเป็นสัตว์เลี้ยง และหากตะพาบตัวใดปรากฏว่าที่กระดองมีจุดสีเหลืองอ่อนเป็นวงกระจายอยู่ตามกระดอง โดยที่ไม่มีการเปลี่ยนลวดลายและสีสันไปตามวัยจะเรียกกันว่า "กริวดาว"  สามารถพบเจอได้เฉพาะในภาคกลางและภาคตะวันตกของไทย

ลักษณะรูปร่างหน้าตาและนิสัยของเจ้าตะพาบหัวกบ ที่เห็นนิ่ง ๆ แต่ที่จริงแล้วดุใช่เล่น

     ตะพาบหัวกบขนาดรูปร่างมีขนาดใหญ่ โดยจะมีขนาดกระดองยาวเฉลี่ยประมาณ 120 เซนติเมตร น้ำหนักตัวอาจมากถึง 50-90 กิโลกรัมเลยทีเดียว ตัวผู้จะมีลำตัวเรียวยาว-บาง หางยาว ตัวเมียจะลำตัวอ้วนใหญ่ กระดองสาก และหางสั้นกว่าตัวผู้ ลำตัวด้านบนสีน้ำตาลอมเขียวและด้านล่างสีจะอ่อนกว่าด้านบน มีตาขนาดเล็ก เท้าเป็นพังผืดติดกัน มีหัวขนาดเล็กและสั้นคล้ายหัวกบจึงเป็นที่มาของชื่อว่า ตะพาบหัวกบ นั่นเอง

     เมื่อยังเล็กเจ้าตะพาบน้ำหัวกบลักษณะทั่วไป คือ กระดองจะมีสีน้ำตาลอมเขียวและมีจุดเล็ก ๆ กระจายอยู่ทั่วกระดองและจะจางลงเมื่อเริ่มเจริญเติบโตขึ้น ส่วนสีของตัวจะค่อย ๆ เข้มขึ้นและเปลี่ยนไปตามวัย ซึ่งปัจจุบันสามารถพบตะพาบชนิดนี้ได้น้อยมากด้วยเหตุนี้จึงถูกจัดให้เป็นสัตว์น้ำคุ้มครองของกรมประมง

     ส่วนนิสัยของตะพาบสายพันธุ์นี้มักจะมีความดุร้าย การเข้าใกล้หรือสัมผัสใกล้ชิดจึงควรต้องใช้ความระมัดระวังกันสักหน่อย ปกติมักฝังตัวอยู่นิ่ง ๆ ในพื้นทรายเพื่อรอให้เหยื่อผ่านมาเมื่อสบโอกาสก็จะพุ่งเข้าจู่โจม ซึ่งอาหารตะพาบหัวกบ ได้แก่ ปลาและสัตว์น้ำต่าง ๆ อาทิเช่น กบ เขียด กุ้ง หอย ปู ปลา และพืชบางชนิด

วิถีการสืบพันธุ์ตามธรรมชาติของตะพาบหัวกบ

     ตะพาบหัวกบปัจจุบันมีจำนวนลดน้อยลงเรื่อย ๆ โดยมีสถานภาพเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ 2535

     แม้ว่าจะเคยถูกพูดถึงว่าสูญพันธุ์มาแล้วในช่วงศตวรรษที่ 20 แต่ก็ได้มีการเร่งเพาะพันธุ์ขึ้นมาจนเริ่มมีประชากรเพิ่มขึ้นบ้างแล้ว การผสมพันธุ์และการวางไข่ของตะพาบน้ำสายพันธุ์นี้ตัวเมียจะเริ่มเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์และให้ไข่ได้เมื่อมีอายุประมาณปีเศษ และช่วงอายุที่สามารถให้ไข่ได้สมบูรณ์มากที่สุดคือ ช่วงที่มีอายุ 1.8 ปี ขึ้นไป พบว่ามันมักจะวางไข่ตามบริเวณริมแม่น้ำหรือแหล่งน้ำใกล้ ๆ กับที่อยู่อาศัยในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนมีนาคม 

     ตะพาบน้ำเมื่อถึงฤดูวางไข่ตัวผู้และตัวเมียจะผสมพันธุ์กันในน้ำและตัวเมียจะขึ้นมาวางไข่บนบกตามเนินทรายที่เหมาะสม มันจะแอบขึ้นมาวางไข่ในช่วงกลางคืนโดยการใช้เท้าขุดหลุมขนาดพอเหมาะและเมื่อวางไข่เสร็จก็จะใช้เท้าเขี่ยดินมากลบฝังเอาไว้อย่างมิดชิดตามเดิม ตะพาบน้ำตัวเมีย 1 ตัว สามารถให้ไข่ได้ 5-7 ฟองต่อ 1 หลุม และตลอดฤดูการวางไข่สามารถให้ไข่ได้ 100-200 ฟอง จะใช้เวลาในการฟักไข่ประมาณ 90 วัน เมื่อลืมตาดูโลกเจ้าตัวเล็กจะมีขนาดประมาณ 2 เซนติเมตร และทันทีที่ลืมตาดูโลกพวกมันจะวิ่ง 4x100 ลงสู่แหล่งน้ำที่ใกล้ที่สุดทันทีตามสัญชาตญาณการเอาตัวรอดและเจริญเติบโตต่อไป

 

 

ฝากถอนไม่มีขั้นต่ำ

Categories
ความรู้ แมลง

แมลงสาบมาดากัสการ์ เทรนด์สัตว์เลี้ยงแนวใหม่สำหรับคนไม่ชอบเสียงดัง

ธันวาคม 2021

     ปกติเรามักจะเลี้ยงสัตว์เลี้ยงจำพวกหมา แมว ปลา หรือสัตว์เลี้ยงน่ารัก ๆ ทั่วไป แต่ก็ยังมีกลุ่มคนที่ชื่นชอบการเลี้ยงสัตว์แปลกอยู่ด้วย โดยเฉพาะในปัจจุบันนี้เทรนด์การเลี้ยงสัตว์แปลกกำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ และสัตว์แปลกที่ได้รับความนิยมอีกชนิดหนึ่งที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลย นั่นก็คือ 

     แมลงสาบมาดากัสการ์ ( Giant hissing cockroach , Madagascan giant hissing cockroach , Hissing cockroach , Hisser ) เป็นสัตว์จำพวกแมลงที่อยู่ในวงศ์แมลงสาบยักษ์ ( BLABERIDAE ) หลายคนอาจจะยังไม่คุ้นกับหน้าตาของแมลงสาบชนิดนี้สักเท่าไหร่นักเพราะปกติแมลงสาบที่เราเห็นนั้นจะมีขนาดที่เล็กกว่านี้มากอีกทั้งยังมีปีกด้วย แต่แมลงสาบมาดากัสการ์ลักษณะจะแตกต่างออกไปทั้งขนาดที่ใหญ่กว่าและไม่มีปีก โดยในกลุ่มคนที่ชอบเลี้ยงสัตว์แปลกในแต่ละประเทศก็เริ่มให้ความนิยมและมีการนำเข้าแมลงสาบสายพันธุ์นี้กันมากขึ้นด้วย ซึ่งนอกจากความแปลกแล้วก็น่าจะเป็นในเรื่องของพื้นที่ในการเลี้ยงที่ไม่ต้องใช้พื้นที่เยอะ สามารถจำกัดขนาดตู้ที่ใช้เลี้ยงได้ตามใจชอบและที่สำคัญคือ ไม่ส่งเสียงรบกวนเพื่อนบ้านด้วยนั่นเองค่ะ

ลักษณะและการใช้ชีวิตโดยทั่วไปของแมลงสาบมาดากัสการ์ เจ้าแมลงตัวใหญ่ที่ชอบซุกตัวอยู่ใต้ใบไม้

     แมลงสาบมาดากัสการ์จัดเป็นสัตว์จำพวกแมลงที่มีขนาดตัวใหญ่กว่าแมลงสาบทั่วไปหลายเท่า ซึ่งแมลงสาบมาดากัสการ์ลักษณะที่มีค่อนข้างจะพิเศษกว่าแมลงสาบทั่วไป คือ ไม่มีปีก และเรื่องของขนาดตัวที่ใหญ่ ลำตัวมีสีน้ำตาลแดง ผิวเป็นมันเงา มีหนวด 2 เส้น อยู่บริเวณส่วนหัว นอกจากนี้ยังเป็นสัตว์ที่เคลื่อนไหวเชื่องช้า ไม่มีพิษ ไม่ดุร้าย แต่อาจจะมีเรื่องกลิ่นที่อาจจะฉุนเล็กน้อยตามสไตล์แมลงสาบบ้าง

แมลงสาบมาดากัสการ์ใช้ชีวิตยังไง ?

     แมลงสาบมาดากัสการ์มักจะชอบอาศัยอยู่ตามใต้ซากใบไม้ ท่อนไม้ และตามซอกหลืบต่าง ๆ ซึ่งเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติของสัตว์จำพวกนี้อยู่แล้ว ในส่วนของอาหารที่สัตว์ชนิดนี้ชื่นชอบก็จะเป็นเศษซากผลไม้หรือใบไม้ที่ร่วงหล่นลงมา แต่ก็อาจจะสามารถกินอาหารได้หลากหลายชนิดขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมด้วย โดยธรรมชาติเป็นสัตว์ที่ชอบออกหากินในเวลากลางคืน กลางวันมักจะพักผ่อนและหลบซ่อนตัวอยู่ใต้ซากใบไม้หรือตามซอกหลืบทั่วไป 

การสืบพันธุ์ของแมลงสาบมาดากัสการ์ที่น่าทึ่ง

     เมื่อแมลงสาบมาดากัสการ์ตัวเมียเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์และมีการผสมพันกับแมลงสาบมาดากัสการ์ตัวผู้ ตัวเมียจะวางไข่จำนวนมากลงในถุงไข่ และจะถูกนำไปดูแลโดยการเก็บเอาไว้ในลำตัวนานประมาณ 60 วัน จากนั้นไข่จะเริ่มฟักเป็นตัวอ่อนออกมา ทำให้หลายคนเข้าใจผิดคิดว่าแมลงสาบออกลูกมาเป็นตัว โดยเจ้าแมลงสาบมาดากัสการ์ออกลูกได้ครั้งละประมาณ 30-60 ตัว ซึ่งตัวอ่อนที่ฟักออกมาจะมีลักษณะที่เหมือนกันกับตัวที่โตเต็มวัยแล้ว ต่างกันเพียงขนาดที่เล็กกว่าเท่านั้น 

     แมลงสาบมาดากัสการ์ที่เพิ่งทำการลอกคราบใหม่จะมีสีขาวและจะค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นสีปกติภายในเวลา 2-3 ชั่วโมงเท่านั้น ทั้งนี้ตัวอ่อนจะต้องทำการลอกคราบให้ได้ครบ 6 ครั้ง จากนั้นจึงจะเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์และสืบพันธุ์ต่อไปได้

     อย่างไรก็ตามแมลงสาบสายพันธุ์นี้ได้เคยมีข่าวว่าอาจจะเป็นพาหะเนื่องจากพบว่ามีเชื้อแบคทีเรียที่แฝงตัวอยู่ในแมลงสาบยักษ์นี้มากถึง 45 ชนิด ซึ่งนั่นก็อาจเป็นสาเหตุเกิดการแพร่กระจายของเชื้อโรคมาสู่คนได้ จึงต้องใช้ความระมัดระวังและใช้วิจารณญาณด้วยค่ะ

 

 

เว็บบอล

Categories
ความรู้ แมลง

ตั๊กแตนตำข้าวดอกไม้ปีศาจ สัตว์ที่ทำให้รู้ว่าเป็นแมลงก็ไม่ได้แปลว่าต้องอ่อนแอ

ธันวาคม 2021

ตั๊กแตนตำข้าวดอกไม้ปีศาจ ( Devil ’ s Flower Mantis )

          ตั๊กแตนตำข้าวดอกไม้ปีศาจ ( Devil ’ s Flower Mantis ) เป็นแมลงอีกสายพันธุ์หนึ่งที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในบรรดาสัตว์ที่อยู่ในวงศ์แมลงตำข้าวดอกไม้ด้วยกัน มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Idolomantis diabolica สามารถพบตั๊กแตนตำข้าวสายพันธุ์นี้ได้ในแถบแทนซาเนีย เอธิโอเปีย มาลาวี โซมาเลีย เคนยา และยูกันดา 

          ปัจจุบันตั๊กแตนตำข้าวสายพันธุ์นี้ได้กลายมาเป็นสัตว์เลี้ยงแสนน่ารักที่กำลังได้รับความนิยมกันในกลุ่มคนที่ชอบนำสัตว์แปลก ๆ มาเป็นสัตว์เลี้ยงทั่วโลกอีกด้วย แต่เนื่องจากตั๊กแตนตำข้าวดอกไม้ปีศาจนิสัยค่อนข้างดุใครที่สนใจอยากนำมาเลี้ยงแนะนำให้ศึกษาข้อมูลก่อนนำมาเลี้ยงนะคะ

มาทำความรู้จักหน้าตาตั๊กแตนตำข้าวดอกไม้ปีศาจกันบ้าง !

ตั๊กแตนตำข้าวดอกไม้ปีศาจ ( Devil ’ s Flower Mantis )

          ตั๊กแตนตำข้าวดอกไม้ปีศาจเป็นตั๊กแตนที่มีขนาดตัวใหญ่ที่สุดในบรรดาตั๊กแตนตำข้าวทั้งหมด ลำตัวมีเขียว-ขาว-แดง ปะปนกันไป ตัวเมียมีขนาดตัวยาวได้มากถึง 13 เซนติเมตร ซึ่งมีขนาดที่ใหญ่กว่าตัวผู้อย่างเห็นได้ชัด ในขณะที่ตัวผู้มีขนาดเพียง 10 เซนติเมตรเท่านั้น ลักษณะของตั๊กแตนตำข้าวดอกไม้ปีศาจที่สามารถสังเกตได้อีกก็คือ หน้าตาที่ดูแปลกประหลาดคล้ายปีศาจจึงเป็นที่มาของชื่อนั่นเอง และนอกจากนี้บริเวณแผ่นอกก็จะมีเปลือกแข็ง ๆ แผ่ออกมาด้านข้างทั้งสองข้าง มีสีสันและลวดลายที่หลากหลาย รวมถึงบริเวณท้องของตัวผู้จะมีลักษณะเป็นข้อปล้อง มีจำนวน 8 ปล้อง แต่ตัวเมียจะมี 6 ปล้อง 

          ตั๊กแตนตำข้าวดอกไม้ปีศาจนิสัยค่อนข้างดุใครที่คาดหวังความอ่อนหวานน่ารักจากเจ้าตัวนี้คงไม่จะไม่มีแน่นอน เมื่อรู้สึกถึงอันตรายหรือการถูกคุกคามมันมักจะชูสองขาหน้าขึ้นสูงเพื่อเตรียมป้องกันตัว ดูไปแล้วก็จะคล้าย ๆ กับนักมวยตั้งการ์ดขึ้นเตรียมชกยังไงยังงั้นเลยล่ะ 

การใช้ชีวิตและการขยายพันธุ์ของตั๊กแตนตำข้าวดอกไม้ปีศาจ

ตั๊กแตนตำข้าวดอกไม้ปีศาจ ( Devil ’ s Flower Mantis )

          ตั๊กแตนตำข้าวดอกไม้ปีศาจเป็นอีกหนึ่งสัตว์นักล่าที่จะประมาทไม่ได้เลยทีเดียว โดยอาหารตั๊กแตนตำข้าวดอกไม้ปีศาจจะเป็นจำพวกสัตว์และแมลงต่าง ๆ ที่สามารถล่ามาได้ ในการหาอาหารของเจ้าตั๊กแตนตำข้าวสายพันธุ์นี้จะใช้วิธีการอาศัยอยู่ใกล้ ๆ กับดอกไม้และซุ่มอยู่เงียบ ๆ เมื่อเหยื่อผ่านมามันจะพุ่งตัวเข้าจู่โจมทันที เมื่อมีการผสมพันธุ์กันตัวเมียจะวางไข่ที่มีลักษณะเป็นแนวยาวระนาบไปกับพื้นผิว โดยไข่จะมีสารห่อหุ้มอยู่ด้วยเพื่อป้องกันไข่จากศัตรูที่จะมาทำลายไข่ ในการวางไข่แต่ละครั้งตัวเมียสามารถให้ไข่ได้ประมาณ 40 ฟอง หลังจากนั้นประมาณ 1 เดือน ไข่จึงจะมีการฟักตัวอ่อนออกมา ซึ่งในช่วงแรกที่ฟักตัวออกมาตัวอ่อนจะมีสีผิวสีแดงแต้มด้วยสีขาวประปรายและจะค่อย ๆ เปลี่ยนสีไปจนเป็นสีปกติ เมื่อเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์จึงจะย้ายถิ่นที่อยู่เพื่อขยายเผ่าพันธุ์ต่อไป

 

 

บาคาร่าฝากถอนไม่มีขั้นต่ํา

Categories
ความรู้ สัตว์บก

เกรินุก แอนทิโลปคอยีราฟ สัตว์คอยาวที่น่าสนใจในป่าเคนย่า

ธันวาคม 2021

         เกรินุก ( Gerenuk , Waller ’ s gazelle , Giraffe-necked antelope ) เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในสกุล Litocranius ที่เมื่อมองเผิน ๆมีความคล้ายกับยีราฟเนื่องจากมีคอที่ยาวเหมือนคอยีราฟนั่นเอง จึงมีชื่อเรียกอีกอย่างว่า แอนทิโลปคอยีราฟ หรือ วอลเลอส์กาเซลล์ เป็นสัตว์ในวงศ์ใหญ่ BOVIDAE และวงศ์ย่อย ANTILOPINAE โดยจะมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Litocranius walleri ถูกค้นพบในทวีปแอฟริกา ซึ่งปัจจุบันสามารถพบได้ที่เขตอนุรักษ์แห่งชาติแซมบูรู ในประเทศเคนย่า 

ลักษณะ นิสัย และสถานะของเกรินุก 

         เกรินุก หรือ แอนทิโลปคอยีราฟ เจ้าสัตว์ตาสวยมีหน้าตาที่ใกล้เคียงกับกวาง ทั้งความมุ้งมิ้งและดวงตาสวยกลมโตนั้น โดยจะมีใบหูยาวลักษณะชี้กางออก มีแนวขนเป็นเส้นสีดำขึ้นบริเวณใบหูด้านใน มีขายาว-คอยาวคล้ายยีราฟ มีขนสีน้ำตาลบริเวณลำตัว ท้องมีขนสีขาว และมีขนสีน้ำตาลแดงเข้มบริเวณแผ่นหลัง มีลักษณะการกินอาหารที่แปลกแตกต่างจากสัตว์อื่น ๆ ในวงศ์เดียวกัน นั่นก็คือ มักจะยืนสองขาเพื่อเขย่งขึ้นใช้ปากแทะกัดเล็มกินใบไม้-ยอดไม้ในที่สูงซึ่งก็จะคล้ายกันกับท่าทางการกินอาหารของยีราฟนั่นเอง

         เกรินุกตัวผู้จะมีน้ำหนักเฉลี่ยประมาณ 45 กิโลกรัม มีเขาโค้งสวยงาม มีความพิเศษอีกอย่างคือ จะมีต่อมสร้างกลิ่นได้ตลอดเวลาโดยมักจะสร้างกลิ่นตลอดเวลาที่เดินไปยังสถานที่ต่าง ๆ 

         เกรินุกตัวเมียมีน้ำเฉลี่ยประมาณ 33 กิโลกรัม ไม่มีเขา รูปร่างมีขนาดเล็กกว่าตัวผู้ชัดเจน เมื่อโตเต็มวัยสัตว์ชนิดนี้สามารถสูงได้ราว ๆ 85 เซนติเมตร – 1 เมตร มีอายุขัยอยู่ได้ประมาณ 10-12 ปี ( โดยเฉลี่ย ) 

วิถีชีวิตและการสืบพันธุ์ของเกรินุก

         เกรินุก เป็นสัตว์กินพืชที่มีลักษณะทั่วไปเหมือนสัตว์ในวงศ์เดียวกัน แต่จะต่างออกไปเล็กน้อยตรงที่มีช่วงลำคอที่ยาวและช่วงขาที่ยาวมากเป็นพิเศษ มักจะอยู่กันเป็นฝูงขนาดเล็กโดยจะมีสมาชิกในฝูงประมาณ 2-6 ตัวเท่านั้น เกรินุกนิสัยในการหาอาหารคือ จะชอบออกหากินในเวลากลางวัน อาหารที่ชอบจะเป็นจำพวกใบไม้ในที่สูง โดยมักจะออกหากินตลอดทั้งวัน กินได้เรื่อย ๆ ในช่วงหน้าหนาวมักจะออกหากินในบริเวณใกล้ ๆ กับถิ่นที่อยู่เพื่อประหยัดพลังงาน 

         เกรินุกตัวผู้และเกรินุกตัวเมียสามารถสืบพันธุ์ได้ตลอดทั้งปี โดยตัวเมียจะเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์เมื่อมีอายุ 1 ปี และเมื่อตัวผู้มีอายุได้ 1ปีครึ่ง โดยจะใช้เวลาในการตั้งท้องประมาณ 7 เดือน สามารถให้ลูกได้ครั้งละ 1 ตัว ด้วยความที่สามารถให้ลูกได้เพียงครั้งละ 1 ตัว อีกทั้งใช้เวลาในการอุ้มท้องนานจึงทำให้ประชากรของแอนทิโลปคอยีราฟค่อนข้างน้อย เมื่อกลายเป็นผู้ถูกล่าจึงยิ่งทำให้จำนวนลดน้อยลงอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นสัตว์ที่ใกล้สูญพันธุ์แล้วในปัจจุบัน

 

 

คาสิโนออนไลน์ฝากถอนไม่มีขั้นต่ํา

Categories
ความรู้ สัตว์น้ำ

ปลาเพนกวิน ปลาสวยงามตัวจิ๋วที่มาพร้อมความวิววับโดดเด่นสะดุดตา

ธันวาคม 2021

      ปลาเพนกวิน ( Boehlke’s penguin ) เป็นปลาขนาดเล็กที่มีความสวยงามเฉพาะตัว มีชื่อเรียกทางวิทยาศาสตร์ว่า Thayeria boehlkei Weitzman , 1957 โดยปลาสายพันธุ์นี้มีถิ่นกำเนิดมาจากแถบลุ่มแม่น้ำอะเมซอน ประเทศบราซิล ทวีปอเมริกาใต้ 

      ปลาเพนกวินลักษณะทั่วไปจะมีขนาดเล็ก โดยจะมีขนาดตัวเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 6-8 เซนติเมตร มีแถบสีดำลากยาวเป็นแนวนอนจากส่วนเหงือกไปจรดส่วนปลายหาง บริเวณหลังมีสีเหลืองทอง มีเกล็ดขนาดเล็กเป็นมันวาว ส่องแสงระยิบระยับเมื่อต้องกับแสง มีครีบบน-ล่าง บริเวณกลางลำตัว 2 ครีบ และมีดวงตาสีดำ ด้วยลักษณะและสีสันโดยรวมทำให้เวลาแหวกว่ายไปมามีความโดดเด่นสะดุดตามากจึงเป็นเหตุให้มีคนสนใจนำไปเลี้ยงเป็นปลาสวยงามประดับตามบ้านเรือนและตามสถานที่ต่าง ๆ 

ลักษณะนิสัยโดยทั่วไปของปลาเพนกวิน 

p>      ปลาเพนกวินลักษณะนิสัยโดยธรรมชาติมักจะชอบอยู่รวมกันเป็นฝูงและชอบกระโดด เมื่อนำไปเลี้ยงผู้เลี้ยงจึงควรเลี้ยงรวมกันในจำนวน 5-6 ตัว ขึ้นไป และควรเลือกตู้ปลาที่มีฝาปิดด้วยเพื่อป้องกันไม่ให้ปลากระโดดออกนอกตู้ รวมถึงไม่ควรเลี้ยงในที่ที่มีแสงสว่างมากเกินไปเพราะปลาชนิดนี้ชอบอยู่ในที่ค่อนข้างมืดหรือแสงน้อย หากแสงมากเกินไปจะทำให้ปลาตกใจได้ง่าย นอกจากนี้ผู้เลี้ยงควรเลือกเลี้ยงปลาเพนกวินในน้ำใสสะอาดที่มีปริมาณความจุไม่ต่ำกว่า 80 ลิตร และมีความเป็นกรดเล็กน้อยด้วย

      ปลาเพนกวินนิสัยที่เป็นลักษณะเด่นอีกอย่างหนึ่งก็คือ มักจะทรงตัวอยู่ในตำแหน่งที่ใกล้กับผิวน้ำและชอบว่ายน้ำ มีความรวดเร็ว ว่องไว โดยการว่ายน้ำมักจะเชิดหัวขึ้นด้านบนลักษณะเหมือนเชิดหน้าทำท่าหยิ่งอยู่แทบจะตลอดเวลาจึงมักจะถูกเรียกเชิงประชดว่าเป็นปลาผู้ดี 

การขยายพันธุ์ของปลาเพนกวิน

      เนื่องจากปลาเพนกวินเพศผู้และเพศเมียมีความคล้ายคลึงกัน ในช่วงเวลาปกติจึงแยกเพศค่อนข้างยาก แต่หากเป็นช่วงผสมพันธุ์เราสามารถสังเกตได้จากลักษณะของตัวปลา โดยปลาเพนกวินตัวเมียจะมีลักษณะอ้วนกลม สั้นป้อม และมีขนาดตัวที่ใหญ่กว่าปลาเพนกวินตัวผู้ชัดเจน ทั้งนี้ก็เพื่อการผสมพันธุ์และวางไข่นั่นเอง เมื่อจบช่วงฤดูวางไข่ปลาเพนกวินตัวเมียก็จะกลับมามีรูปร่างสวยงามและสมส่วนตามเดิม

      การเพาะพันธุ์ปลาชนิดนี้ทำได้ไม่ยาก โดยการปล่อยปลาตัวเมีย 4-5 ตัว ต่อปลาตัวผู้ 1 ตัวให้อยู่รวมกัน เหตุที่ทำเช่นนี้ก็เพราะช่วยให้ปลาตัวผู้ไม่ต้องต่อสู้กันเพื่อแย่งตัวเมีย และการที่ให้มีปลาตัวเมียหลายตัวก็เพื่อให้ตัวผู้เลือกผสมพันธุ์กับปลาตัวเมียที่ร่างกายพร้อมผสมพันธุ์ ซึ่งปกติแล้วปลา 1 คู่ สามารถผสมพันธุ์กันและให้ลูกปลาได้มากถึง 2,000 ตัว ในเวลาเพียง 2 เดือนเท่านั้น

      สังเกตว่าเมื่อปลาเพนกวินตัวเมียพร้อมผสมพันธุ์จะมีปลาเพนกวินตัวผู้ว่ายมาไล่รัดอยู่ตลอดเวลา และเมื่อปลาตัวเมียไข่แก่พร้อมวางไข่ปลาตัวผู้ก็จะว่ายน้ำไปผสมน้ำเชื้อ โดยมักจะมีการวางไข่ในช่วงรุ่งเช้าและจะใช้เวลาในการฟักออกเป็นตัวประมาณ 2-3 วัน เมื่อฟักออกมาเป็นตัวได้ประมาณ 4-5 วัน ลูกปลาก็จะเริ่มว่ายน้ำได้เองและว่ายได้คล่องขึ้น เมื่ออายุครบ 1 เดือน จะเริ่มมีลวดลายปรากฏให้เห็นชัดขึ้น 

 

 

เว็บบาคาร่าฝากถอนไม่มีขั้นต่ํา

Categories
ความรู้ สัตว์บก

แมนวูฟ หมาป่าเคราขาว ขายาว มาดเท่ ที่อยู่ในสถานะใกล้สูญพันธุ์

ธันวาคม 2021

      แมนวูฟ หรือ หมาป่าเคราขาว ( Maned wolf ) เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่มีหน้าตาคล้ายสุนัขจิ้งจอก โดยมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Chrysocyon brachyurus เป็นสัตว์ที่จัดอยู่ในวงศ์สุนัข ( CANIDAE ) ถูกพบในทวีปอเมริกาใต้ ในแถบประเทศบราซิล ประเทศปารากวัย และประเทศโบลิเวีย

      แมนวูฟลักษณะท่อนบนจะมีความคล้ายคลึงกับสุนัขจิ้งจอกแต่รูปร่างโดยรวมใหญ่กว่าสุนัขจิ้งจอกค่อนข้างมากเลยทีเดียว ยิ่งเมื่อมองช่วงท่อนขาที่ยาวนั้นก็ยิ่งสูงใหญ่แตกต่างจากขนาดของสุนัขจิ้งจอกอย่างมาก โดยเมื่อเจริญเติบโตเต็มที่จะมีน้ำหนักเฉลี่ยประมาณ 20-25 กิโลกรัม มีความสูงที่วัดจากหัวไหล่ถึงเท้าประมาณ 3 ฟุต ตามลำตัวมีขนสีน้ำตาลอมแดง แผงคอด้านหลังไปจนถึงกลางหลังมีขนสีดำ ขาช่วงล่างไปจนถึงเท้ามีขนสีดำ บริเวณใบหน้าจากปลายจมูกถึงขอบตาล่างมีขนสีดำ ใต้คางและใบหูด้านในมีขนสีขาว หางยาวเป็นพวงขนสีน้ำตาลอมแดงปลายหางขนมีสีขาว มีใบหูตั้งขนาดใหญ่

นิสัยของแมนวูฟ หมาป่าที่ไม่ชอบอยู่เป็นฝูง

      แมนวูฟนิสัยค่อนข้างก้าวร้าว เมื่อรู้สึกตื่นตระหนกหรือรู้สึกว่ามีภัยคุกคามมักจะส่งเสียงขู่และขนแผงหลังชูชันขึ้น แมนวูฟมีนิสัยชอบปลีกวิเวกอาศัยอยู่ลำพังและไม่ชอบอยู่รวมกันเป็นฝูง ซึ่งแตกต่างจากสัตว์ในตระกูลหมาป่าทั่ว ๆ ไปที่มักจะอยู่รวมกันเป็นฝูงใหญ่ 

      หมาป่าเคราขาวเป็นสัตว์ที่หวงแหนถิ่นที่อยู่อาศัยมากหากโดนรุกล้ำอาณาเขตเมื่อไหร่เป็นต้องได้เห็นดีกัน โดยมันจะรีบขับไล่แขกที่ไม่ได้รับเชิญออกไปให้ไกลในทันที ด้วยความที่เป็นสัตว์ที่ตื่นตระหนกง่าย ขี้ระแวง และเฝ้าระมัดระวัง ทำให้ค่อนข้างเข้าถึงยาก อีกทั้งการมีใบหูขนาดใหญ่ประกอบกับขนาดความสูงของตัวจึงทำให้มันรับรู้เสียงและความผิดปกติต่าง ๆ ทั้งระยะใกล้และไกลได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้มันยังมีกลิ่นปัสสาวะที่รุนแรง ( ว่ากันว่ากลิ่นคล้ายกับกลิ่นกัญชา ) โดยมันจะใช้การปัสสาวะทำเป็นเครื่องหมายบ่งบอกอาณาเขตของตนด้วย

วิถีชีวิตของแมนวูฟ หมาป่ารักสันโดษ

      แมนวูฟชอบที่จะอาศัยอยู่เพียงลำพังตัวเดียวหรืออยู่เพียงกับคู่รักของตัวเองเท่านั้น แมนวูฟสืบพันธุ์และมีครอบครัวเช่นเดียวกันกับสัตว์ในวงศ์สุนัขทั่วไป เป็นสัตว์ที่รักความสงบ ไม่ชอบอยู่รวมเป็นฝูงใหญ่ ซึ่งปกติเรามักจะเห็นว่าหมาป่าหรือหมาจิ้งจอกมักจะอยู่รวมกันเป็นครอบครัวฝูงใหญ่ ออกล่าเป็นฝูง รวมถึงมีการเลือกตัวที่แข็งแกร่งที่สุดให้เป็นจ่าฝูงด้วย แต่สำหรับแมนวูฟนั้นจะออกหาอาหารเพียงลำพังโดยมีเป้าหมายเป็นสัตว์ที่มีขนาดปานกลางจำพวกนก หนู งู กระต่าย และมักจะออกล่าเหยื่อในช่วงกลางคืน ในช่วงเวลากลางวันมันจะนอนพักผ่อนและเฝ้าระวังที่อยู่อาศัย แต่ถึงแม้ว่าจะเฝ้าระวังสักเพียงใดมันก็ยังคงถูกคุกคามทั้งจากสัตว์ด้วยกันและจากฝีมือมนุษย์จนทำให้หมาป่าเคราขาวขณะนี้ตกอยู่ในสถานะใกล้สูญพันธุ์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

 

 

สมัครบาคาร่า888