Categories
ความรู้ สัตว์บก

“ คาราคัล Caracal ” แมวป่าหน้าหล่อมีท่าเดินคล้ายเสือชีตาห์ ชอบออกล่าตอนกลางคืน

ตุลาคม 2021

คาราคัล-Caracal
คาราคัล-Caracal

     คาราคัล ( Caracal ) มีชื่อเรียกอื่น ๆ ว่า ลิงซ์เปอร์เซีย หรือ ลิงซ์ทะเลทราย จัดอยู่ในสกุลCaracal มีถิ่นการกระจายพันธุ์อยู่ในแถบเอเชียใต้ เอเชียตะวันตก และทวีปแอฟริกา สามารถพบได้ในแถบพื้นที่แห้งแล้งอย่างในป่าวูดแลนด์ ซะวันนา แถบป่าอะคาเซียในเขตทวีปแอฟริกา และสามารถพบได้บ่อย ๆ ในแถบชายฝั่งทางเหนือของทะเลทรายซาฮารา รวมถึงในเขตประเทศอินเดียด้วย 

     เมื่อคาราคัลโตเต็มวัยตัวผู้จะมีน้ำหนักโดยเฉลี่ยประมาณ 10-18 กิโลกรัม สูงได้ประมาณ 40-50 เซนติเมตร ซึ่งตัวเมียจะมีลักษณะคล้ายคลึงกับตัวผู้แต่ขนาดตัวจะเล็กกว่าตัวผู้เล็กน้อย มีอายุเฉลี่ยอยู่ที่ 8-10 ปี ซึ่งหากไม่โดนล่าเสียก่อนก็จัดว่าอายุยืนพอ ๆ กับสุนัขบ้านที่เราเลี้ยงกันทั่วไปเลยทีเดียว 

คาราคัล แมวผู้มีนิสัยอดทนในการใช้ชีวิตและวิธีการเอาตัวรอดจากศัตรู

คาราคัล-Caracal
คาราคัล-Caracal

     คาราคัล หรือ แมวป่าคาราคัล เป็นสัตว์ที่มักจะอาศัยอยู่ตามโขดหิน มีนิสัยอดทนต่อความร้อนและสามารถอดน้ำได้เก่ง ในช่วงที่แห้งแล้งมักจะอาศัยน้ำจากเหยื่อที่สามารถล่ามาได้ประทังชีวิต โดยจะออกหากินแค่ในช่วงเช้าและตอนกลางคืนเท่านั้น ในช่วงกลางวันมักจะหลบอยู่ตามหลืบหินเนื่องจากในช่วงกลางวันอากาศจะร้อนจัด มันมักจะล่าเหยื่อเพียงลำพังโดยการค่อย ๆ ย่องเข้าหาแล้วกระโดดตะครุบเหยื่ออย่างรวดเร็ว อาหารที่โปรดปรานของเจ้าแมวป่ามีอยู่หลายชนิดด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น นก กระรอกดิน กระต่ายป่า สัตว์เลื้อยคลาน ฯลฯ 

     เมื่อต้องเป็นฝ่ายถูกล่าบ้างเจ้าแมวคาราคัลของเราก็มักจะกระโดดปีนป่ายขึ้นต้นไม้หนีตายได้อย่างรวดเร็ว ทำให้มันสามารถรอดชีวิตจากการล่าของศัตรูตัวร้ายอย่างเสือดาวหรือสิงโตได้อย่างหวุดหวิด

เมื่ออยากมีคู่คาราคัลจะทำอย่างไร ? 

คาราคัล-Caracal
คาราคัล Caracal

     คาราคัลเป็นสัตว์ที่สามารถผสมพันธุ์ได้ตลอดทั้งปี ซึ่งหากเป็นในแถบซาฮารามันมักจะผสมพันธุ์กันในช่วงฤดูหนาว ( มกราคม ) โดยจะมีช่วงระยะเวลาที่ผสมพันธุ์ประมาณ 5-6 วัน แมวป่าคาราคัลตัวเมียสามารถมีคู่ได้หลายตัวโดยจะมีการจับคู่ตามลำดับขั้นอิงจากขนาดตัวและอายุ

     เมื่อมีการผสมพันธุ์แล้วแมวป่าคาราคัลตัวเมียจะใช้เวลาในการตั้งท้องประมาณ 71-81 วัน ให้ลูกได้ครั้งละประมาณ 1-6 ตัว จากนั้นฝ่ายตัวเมียจะทำรังให้ลูกน้อยอยู่อาศัยในโพรงหรือตามหลืบหิน รอจนลูกน้อยอายุได้ 3 สัปดาห์ จึงจะพาลูกเปลี่ยนย้ายรังไปที่ใหม่เนื่องจากรังเดิมเริ่มคับแคบแล้วลั่นเอง เมื่อครบ 10 สัปดาห์ลูกก็จะเริ่มหย่านมและจะยังอยู่ในความดูแลของแม่จนอายุครบ 1 ขวบ จึงจะค่อย ๆออกหากินและสืบพันธุ์มีครอบครัวต่อไป

 

 

 

สล็อตผ่านวอเลท ไม่มีขั้นต่ํา

Categories
ความรู้ สัตว์น้ำ

Leafy seadragon “ มังกรทะเลใบไม้ ” ปลาทะเลที่ได้ชื่อว่ามีความสวยงามที่สุดในโลก

ตุลาคม 2021

มังกรทะเลใบไม้ Leafy seadragon
มังกรทะเลใบไม้ Leafy seadragon

      เมื่อพูดถึงสัตว์น้ำที่มีสีสันสวยงามชนิดต่างๆในท้องทะเลก็ทำให้นึกถึงปลาชนิดหนึ่งที่มีสีสันสวยงามและมีลักษณะที่เหมือนใคร นั่นก็คือ มังกรทะเลใบไม้ ( Leafy seadragon ) มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Phycodurus eques เป็นสัตว์น้ำที่ถูกจำแนกให้อยู่วงศ์เดียวกันกับม้าน้ำ ( วงศ์ Syngnathidae ) 

      “ มังกรทะเลใบไม้ ” เป็นปลาทะเลประเภทกระดูกแข็งเฉพาะถิ่นที่สามารถพบได้ในทะเลทางตอนใต้และตะวันตกในแถบทวีปออสเตรเลีย ซึ่งเป็นเขตอบอุ่นที่ระดับความลึก 3-50 เมตร โดยเฉพาะในบริเวณ Kangaroo Island ถึง Rottnest Island และด้วยความที่มีลักษณะรูปร่างที่คล้ายกับมังกร มีส่วนที่ยื่นออกมาตามลำตัวลักษณะคล้ายใบไม้ จึงเป็นที่มาของชื่อ มังกรทะเลใบไม้ นั่นเอง 

วิถีการดำรงชีวิตของปลาทะเลที่ชื่อว่า มังกรทะเลใบไม้ Leafy seadragon

มังกรทะเลใบไม้ Leafy seadragon

      มังกรทะเลใบไม้ เมื่อเจริญเติบโตเต็มที่จะมีความยาวได้ประมาณ 20-30 เซนติเมตร มีหัวค่อนข้างใหญ่ มีครีบ-อก โปร่งใสสามารถช่วยในการว่ายน้ำและบังคับทิศทางได้ แต่ด้วยความที่ปลาทะเลชนิดนี้มีนิสัยขี้เกียจว่ายน้ำเอามากๆ การเคลื่อนที่ไปไหนมาไหนจึงมักจะอาศัยการปล่อยตัวลอยไปตามกระแสน้ำ และส่วนที่ยื่นออกมาตามลำตัวลักษณะคล้ายใบไม้นั้นไม่ได้มีไว้ใช้ในการว่ายน้ำแต่อย่างใด แต่จะช่วยในการอำพรางตัวจากอันตรายและพรางตัวเพื่อซุ่มดักหาอาหาร โดยจะพรางตัวด้วยการทำตัวให้กลมกลืนไปกับสาหร่ายทะเล พอมีอาหารจำพวกแพลงก์ตอนและสัตว์น้ำขนาดเล็กผ่านมาเจ้าปลาทะเลปากยาวชนิดนี้ก็จะใช้วิธีการดูดเหยื่อเข้าปากนั่นเอง

การผสมพันธุ์และการวางไข่ของ มังกรทะเลใบไม้ Leafy seadragon

มังกรทะเลใบไม้ Leafy seadragon
มังกรทะเลใบไม้ Leafy seadragon

      มังกรทะเลใบไม้ จะมีช่วงการผสมพันธุ์และวางไข่อยู่ในช่วงเดือนสิงหาคม - มีนาคมของปีถัดไป ซึ่งเมื่อมีการผสมพันธุ์กันแล้วตัวเมียจะทำการฝากไข่ไว้ที่ส่วนหางของตัวผู้เพื่อให้ตัวผู้ดูแลและเลี้ยงลูกแทน โดยในบริเวณส่วนหางของปลาทะเลชนิดนี้จะมีเส้นเลือดจำนวนมาก ใช้ทำหน้าที่ลำเลียงออกซิเจนและอาหารไปเลี้ยงตัวอ่อนในขณะที่ยังฟักตัวอยู่ ซึ่งจำนวนไข่จะมีปริมาณราวๆ 100-250 ฟอง ใช้เวลาในการฟักตัวประมาณ 4-6 สัปดาห์

      เมื่อมีการฟักตัวแล้ว ตัวอ่อนจะถูกปล่อยให้เจริญเติบโตและเอาตัวรอดเอง ซึ่งในปีแรกตัวอ่อนจะมีการเจริญเติบโตได้ราว ๆ 20 เซนติเมตร และจะเจริญเติบโตได้เต็มที่เมื่อมีอายุครบ 3 ปี โดยจะมีอายุขัยประมาณ 6-9 ปี มังกรทะเลใบไม้ เป็นปลาทะเลที่ค่อนข้างบอบบางและมีความอ่อนไหวมาก การเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชนิดนี้จึงทำได้ค่อนข้างยาก ทางการออสเตรเลียจึงได้มีการออกกฎหมายให้มังกรทะเลใบไม้ เป็นสัตว์คุ้มครอง ห้ามจับ ห้ามนำมาเลี้ยง หรือมีไว้ในครอบครองเด็ดขาด โดยอนุญาตให้มีเพียงนายแปง กวอง ชาวเวียดนามในออสเตรเลีย เจ้าของฟาร์มเพาะพันธุ์ปลาทะเลที่สามารถจับและครอบครองได้เพียงผู้เดียวและสามารถจับได้เพียงปีละหนึ่งตัวเท่านั้น

 

 

 

บาคาร่าฝากถอนไม่มีขั้นต่ํา วอเลท

Categories
ความรู้ สัตว์ปีก

นกพิราบหงอนวิคตอเรีย นกฟอร์มสวยตัวใหญ่ที่บินไม่ได้

ตุลาคม 2021

        นกพิราบหงอนวิคตอเรีย ( Victoria Crowned Pigeon ) มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Goura Victoria จัดเป็นนกชนิดหนึ่งที่มีลักษณะรูปร่างสวยงาม มีขนาดตัวใหญ่เกือบเท่ากับขนาดไก่งวงเลยทีเดียว ถูกจัดอยู่ในวงศ์นกพิราบและนกเขา ( COLUMBIDAE ) สามารถพบนกชนิดนี้ได้ในแถบทวีปออสเตรเลียและเกาะนิวกินี และแม้ว่าจะได้ชื่อว่าเป็นนกแต่นกพิราบหงอนวิคตอเรียกลับเป็นนกที่บินไม่ได้ซะอย่างนั้น ซึ่งอาจจะเป็นเพราะมันมีขนาดตัวที่ใหญ่ก็เป็นได้

ลักษณะของนกพิราบหงอนวิคตอเรีย

        มีขนาดตัวสั้น อกตัน ขาสั้น ปีกกว้าง มีขนสีฟ้าหม่นหรือสีฟ้าอมเทา ด้านบนหัวจะมีหงอนทรงแบนซึ่งบนหงอนจะมีเส้นขนสีฟ้าอมเทาขอบสีขาวชี้แผ่เป็นแผงสวยงามมาก สีขนบริเวณอกมีสีม่วง-แดง ปากสีดำ ตาสีแดง เท้าสีม่วง-แดง พบว่าเมื่อโตเต็มที่จะสามารถมีขนาดใหญ่ได้ถึง 70 เซนติเมตร และหนักมากถึง 2 กิโลกรัมเลยทีเดียว จัดว่านกชนิดนี้เป็นชนิดที่มีขนาดใหญ่มากในบรรดานกที่อยู่ในวงศ์เดียวกัน

        โดยลักษณะนกพิราบหงอนวิคตอเรียตัวผู้กับตัวเมียจะค่อนข้างคล้ายกันมากสังเกตได้จากตัวผู้จะมีขนาดตัวใหญ่กว่าตัวเมียเล็กน้อย มักอยู่รวมกันเป็นฝูงและเนื่องจากเป็นนกที่บินไม่ได้มันจึงชอบอาศัยอยู่ตามพงหญ้าในป่าเพื่อหาอาหาร

นกพิราบหงอนวิคตอเรีย นกที่บินไม่ได้

        แม้ว่าจะถูกจัดให้อยู่ในวงศ์เดียวกันกับนกพิราบและนกเขาแต่เจ้านกพิราบหงอนวิคตอเรียกลับเป็นนกที่บินไม่ได้ โดยมันจะสามารถบินได้เพียงระยะใกล้ๆเท่านั้นซึ่งดูๆไปแล้วพฤติกรรมของนกพิราบหงอนวิคตอเรียดูออกจะคล้ายไก่เอามากๆเลยล่ะค่ะ ไม่ว่าจะเป็นวิธีหาอาหารก็จะเป็นการเดินหากินตามพื้น โดยนกพิราบหงอนวิคตอเรียจะกินผลไม้ เมล็ดพันธุ์พืช แมลง มด และสัตว์ขนาดเล็กอื่นๆเป็นอาหาร โดยพฤติกรรมของนกพิราบหงอนวิคตอเรียเมื่อมันเห็นว่ามีอันตรายหรือมีศัตรูใกล้เข้ามาจะใช้วิธีแจ้งเตือนฝูงโดยการส่งเสียงร้องดังๆและจะรีบบินขึ้นไปเกาะที่สูง ( เท่าที่จะบินถึงได้ ) เพื่อสอดส่องสถานการณ์

        นกพิราบหงอนวิคตอเรียมักจะแสดงนิสัยก้าวร้าวเมื่อมันอยู่ในช่วงกำลังฟักไข่ ทั้งนี้ก็เพื่อปกป้องภัยให้ลูกน้อยของมันนั่นเองค่ะ ด้วยความที่เป็นนกที่บินไม่ได้มันจึงทำรังได้ไม่สูงมากนักซึ่งลักษณะของในการวางไข่แต่ละครั้งแม่นกจะสามารถวางไข่ได้เพียงครั้งละ 2 ฟองเท่านั้น ใช้เวลาในการฟังไข่ประมาณ 30 วัน ปัจจุบันนิยมนำนกพิราบหงอนวิคตอเรียมาเลี้ยงเป็นสัตว์เลี้ยงสวยงามซึ่งตามร้านจำหน่ายพันธุ์สัตว์ทั่วไปจะตั้งราคานกพิราบหงอนวิคตอเรียเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 1,900 บาทขึ้นไป

 

 

 

บา คา ร่า วอ เลท

Categories
ความรู้ สัตว์บก

บีเวอร์ Beaver สัตว์นักวิศวกรรมศาสตร์ตัวยงที่คุณต้องหลงรัก

ตุลาคม 2021

       บีเวอร์ ( Beaver ) เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมชนิดหนึ่ง เป็นจำพวกสัตว์ฟันแทะที่อยู่ในวงศ์ CASTORIDAE มีถิ่นกำเนิดมาจากเขตฮอลอาร์กติก ปัจจุบันมีเหลือรอดอยู่ 2 สายพันธุ์ ได้แก่ สายพันธุ์ยูเรเซีย ( C. fiber ) และ สายพันธุ์อเมริกาเหนือ ( C. canadensis ) ส่วนสายพันธุ์แคลิฟอร์นิคัสปัจจุบันได้สูญพันธุ์ไปแล้ว จึงคงเหลืออยู่เพียง 2 สายพันธุ์เท่านั้น บีเวอร์สามารถพบได้ตามบริเวณแหล่งน้ำจืดทั่วไป เช่น ทะเลสาบ ลำธาร แม่น้ำ สระน้ำ ฯลฯ โดยเจ้าตัวบีเวอร์มักจะกินพืช เปลือกไม้ พืชน้ำเป็นอาหาร

       บีเวอร์เป็นสัตว์ฟันแทะที่มีลักษณะเด่นเห็นได้ชัด คือ มีฟันที่แข็งแรงขนาดใหญ่ ฟันหน้ารูปทรงคล้ายสิว มีศีรษะใหญ่ ร่างกายแข็งแรง มีขนสีน้ำตาลอมเทา มีลักษณะเท้าหน้าคล้ายมือ เท้าหลังแบนเป็นพังผืด หางด้านหลังมีลักษณะเป็นเกล็ด สังเกตความต่างทางสายพันธุ์ง่ายๆ โดยพันธุ์ยูเรเซียจะมีกะโหลกศีรษะยาวกว่าและโพรงจมูกในกะโหลกมีลักษณะเป็นสามเหลี่ยม หางที่แคบ และมีสีขนที่อ่อนกว่าสายพันธุ์อเมริกาเหนือ

บีเวอร์ สัตว์นักวิศวกรรมตัวยง

       ตัวบีเวอร์เป็นนักวิศวกรรมที่สามารถสร้างเขื่อนธรรมชาติได้อย่างชาญฉลาด มันมักจะสร้างเขื่อนเป็นที่อยู่อาศัยและที่หลบซ่อนตัวโดยการใช้ฟันอันแข็งแรงของมันแทะกิ่งไม้นำมาใช้ทำด้วยความขยันขันแข็ง มีการนำหินและโคลนมาอุดรูที่เป็นรอยรั่ว การสร้างเขื่อนของเจ้าสัตว์ฟันแทะนี้นอกจากจะเป็นประโยชน์แก่ตัวมันเองแล้วยังส่งผลดีต่อสิ่งมีชีวิตอื่นๆในระบบนิเวศโดยรอบอีกด้วย

วิธีการใช้ชีวิตคู่ของนักวิศวกรรมอย่างเจ้าบีเบอร์

       บีเวอร์ตัวผู้และตัวเมียเมื่อถึงวัยที่เจริญเติบโตเต็มที่จะจับคู่และอาศัยอยู่รวมกันเป็นคู่ พร้อมกับลูกๆเป็นครอบครัวที่แสนอบอุ่น เมื่อลูกๆโตมากพอก็จะเริ่มมาช่วยพ่อแม่ซ่อมเขื่อนที่เป็นที่อยู่อาศัยของตนเองและก็ช่วยเลี้ยงน้อง ตัวบีเวอร์ยังมีต่อมที่อยู่บริเวณข้างก้นเอาไว้ใช้ผลิตสารที่ชื่อว่า สารคาสโตรเรียม โดยสารนี้จะเอาไว้ใช้แสดงอาณาเขตและเอาไว้ใช้จำแนกญาติซึ่งมันจะมีกลิ่นพิเศษเฉพาะทำให้สามารถแยกได้ว่าญาติตัวไหนเป็นญาติของมันบ้าง

       กล่าวกันว่าในอดีตนิยมการล่าบีเวอร์เพื่อนำเอาขนแยกชิ้นส่วนขน-เนื้อ และสกัดเอาสารคาสโตรเรียมไปใช้ในการแพทย์ สกัดเป็นน้ำหอม และปรุงอาหาร หนังและขนก็จะเอาไว้จำหน่ายในตลาดขนสัตว์ ทำให้บีเวอร์เจ้าสัตว์ฟันแทะที่น่ารักมีจำนวนประชากรลดลงไปเป็นจำนวนมาก จนได้กลายมาเป็นสัตว์ที่เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ในช่วงศตวรรษที่ 19 และต้นศตวรรษที่ 20

 

 

 

สล็อตวอเลทไม่มีขั้นต่ํา

Categories
ความรู้ สัตว์เลื้อยคลาน

หอยทากไฟ Fire Snail หอยตัวใหญ่สีสันดุดันแต่นิสัยดันไม่ดุอย่างที่คิด

ตุลาคม 2021

“ หอยทาก ” จัดเป็นสัตว์ประเภทไม่มีกระดูกสันหลังชนิดหนึ่ง เป็นสัตว์โบราณที่มีมานานตั้งแต่เมื่อ 400 ล้านปีที่ผ่านมาแล้ว ปัจจุบันพบว่ามีหอยทากมากถึง 500 ชนิด

หอยทากไฟ( Fire Snail ) มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Platymma Tweediei เป็นหอยทากที่อาศัยอยู่บนบก เรียกว่าหอยทากบก ถูกค้นพบเมื่อปี ค.ศ. 1938 ในบริเวณเทือกเขา Telom Valley มีการพบหอยทากไฟในคาบสมุทรมลายู

โดยธรรมชาติของหอยทากชนิดนี้จะต้องอาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีอุณหภูมิเย็นและมีความชื้นในอากาศสูงเท่านั้นจึงจะมีชีวิตรอดได้ โดยอย่างน้อยจะต้องมีระดับความสูงอย่างน้อยที่ 1,000 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล ด้วยเหตุนี้ทำให้มีการพบหอยทากบกชนิดนี้ได้น้อยมาก จัดว่าเป็นสายพันธุ์ที่ค่อนข้างบอบบางมากเลยทีเดียว ช่างต่างกันกับขนาดตัวที่ใหญ่มากถึง 30 เซนติเมตรของมันเหลือเกิน โดยปกติเราจะเห็นหอยทากที่มีขนาดไม่ใหญ่มากและมีสีสันไม่ฉูดฉาดมากนัก ตรงกันข้ามกับหอยทากไฟซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าปกติมากแถมยังมีสีสันที่มองดูแล้วคล้ายว่าจะเป็นสัตว์มีพิษอีกด้วย 

หอยทากไฟ มีลักษณะโดยทั่วไปไม่ต่างจากหอยทากชนิดอื่นๆสักเท่าไหร่นัก อาจจะมีข้อแตกต่างไปบ้างในส่วนของขนาด สีสัน และลักษณะถิ่นที่อยู่ตามธรรมชาติ ซึ่งหอยทากแต่ละสายพันธุ์จะมีถิ่นที่อยู่แตกต่างกันออกไป ในส่วนของหอยทากดินอย่างเจ้าหอยทากไฟนั้น จะมีสีลำตัวและเปลือกเป็นสีดำเข้มสนิทและจะมีสีแดงเพลิงแซมขึ้นมาบริเวณช่วงท้อง มองดูแล้วเห็นสีแดง-ดำ ตัดกันชัดเจน ลำตัวมีความยาวประมาณ 7 เซนติเมตร โดยพบว่ามันสามารถมีขนาดลำตัวยาวได้มากถึง 30 เซนติเมตรเลยทีเดียว อาศัยกินอาหารจำพวกพืชสดและซากพืชเน่า แม้ว่าจะถูกมองว่าน่ากลัวแต่หอยทากไฟกลับเป็นสัตว์ที่ไม่มีพิษและไม่มีอันตรายอย่างที่คิด

ในปัจจุบันพบว่าหอยทากไฟมีจำนวนลดน้อยลงอย่างมาก อาจเป็นเพราะหอยทากไฟมีสีสันที่สวยงามโดดเด่น ตัวใหญ่ ไม่มีพิษ จึงทำให้มีคนนิยมนำมาเลี้ยงเอาไว้เป็นสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะอย่างยิ่งในหมู่คนที่ชอบเลี้ยงสัตว์แปลก จึงทำให้มีการเข้าไปบุกรุงทำลายถิ่นที่อยู่ของหอยทากบกชนิดนี้จนทำให้มันเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ อีกทั้งโลกมีสภาพอากาศที่ร้อนขึ้นทำให้หอยทากไฟที่สามารถอยู่ได้ในพื้นที่จำกัดตายได้ง่ายขึ้น และแม้ว่ามันจะพยายามอพยพหนีร้อนแต่เมื่อมันออกเดินทาง สัตยว์ที่แสนบอบบางและเชื่องช้าอย่างเจ้าตัวนี้จะมีโอกาสรอดชีวิตสักเท่าไหร่ ? ด้วยเหตุปัจจัยต่างๆเหล่านี้เองที่ทำให้เจ้าหอยทากไฟต้องตกอยู่ใสถานะใกล้สูญพันธุ์เข้าไปทุกที

 

 

 

เว็บสล็อตฝากถอนไม่มีขั้นต่ํา วอเลท

Categories
ความรู้ สัตว์ปีก

เป็ดแมนดาริน ( Mandarin duck ) สัญลักษณ์ของรักแท้ที่มีแค่รักเดียว

ตุลาคม 2021

      เป็ดแมนดาริน ( Mandarin duck ) มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Aix galericulata เป็นนกชนิดหนึ่งอยู่ในวงศ์เดียวกันกับนกเป็ดน้ำ ( ANATIDAE ) พบมากในเขตภาคตะวันออกของจีนบริเวณลุ่มแม่น้ำอุสซูรี ,ไต้หวัน , ญี่ปุ่น , เกาหลี รวมถึงในแถบทวีปยุโรปบางส่วนอีกด้วย ในประเทศไทยสามารถพบได้ในแถบภาคเหนือและภาคกลางบ้างเล็กน้อยและจะพบได้เพียงช่วงที่นกชนิดนี้อพยพหนีหนาวมาในบางครั้งเท่านั้นเอง

เป็ดแมนดาริน นกที่สวยที่สุดในโลก !!

      เป็ดแมนดารินจัดเป็นนกสวยงามโดยเฉพาะตัวผู้จะยิ่งมีสีสันสดใสโดดเด่นสะดุดตามาก ส่วนตัวเมียสีสันจะไม่สวยฉูดฉาดเท่ากับตัวผู้และมีขนาดตัวเล็กกว่าตัวผู้ด้วย ซึ่งความสวยงามของเป็ดแมนดารินมีความโดดเด่นจนได้ชื่อว่าเป็น “ นกที่มีความสวยงามที่สุดในโลก ” ทั้งนี้เมื่อเป็ดแมนดารินเจริญเติบโตเต็มที่จะมีขนาดตัวอยู่ที่ประมาณ 48 เซนติเมตร ชอบอาศัยอยู่ตามห้วย หนอง คลอง บึง ที่มีต้นไม้ขึ้นปกคลุมเหมาะที่จะใช้เป็นที่อำพรางซ่อนตัวได้ โดยมักจะอยู่รวมกันเป็นกลุ่มเล็กๆหรืออยู่กันเป็นคู่เกาะอยู่ตามกิ่งไม้ริมน้ำ อาหารของนกชนิดนี้จะเป็นจำพวกพืชน้ำ สัตว์น้ำขนาดเล็ก แมลง หอยทาก ฯลฯ

ความเชื่อและการผสมพันธุ์ของเป็ดแมนดาริน

      เป็ดแมนดาริน เป็นนกที่จับคู่เพียงตัวเดียวตลอดชีวิต เรียกได้ว่าเป็นนกที่มีรักแท้และมีแค่รักเดียวตลอดชีวิตก็ว่าได้จึงถูกนำไปเป็นสัญลักษณ์ของความรักแท้และความซื่อสัตย์ในรัก อีกทั้งชาวจีนยังเชื่อว่าเป็นสัตว์ที่นำพาความเป็นสิริมงคลมาให้อีกด้วย

      ในฤดูการผสมพันธุ์นกสวยงามอย่างเป็ดแมนดารินจะมีความสวยงามมากเป็นพิเศษโดยเฉพาะตัวผู้จะยิ่งมีความสวยงามเป็นพิเศษโดยจะมีสีสันสดใสฉูดฉาดมองเห็นได้ชัดเจน ทั้งนี้ก็เพื่อจะทำตัวให้โดดเด่นเป็นที่หมายปองของสาวๆนั่นเอง มักผสมพันธุ์กันในช่วงฤดูหนาวแต่เมื่อสิ้นฤดูหนาวซึ่งเป็นช่วงหมดฤดูการผสมพันธุ์แล้ว เป็ดแมนดารินตัวผู้ก็จะเริ่มผลัดขนทิ้งหมดความเป็นนกสวยงามไปโดยสิ้นเชิง หากมองเผินๆก็อาจแยกไม่ออกว่าเป็นตัวผู้หรือตัวเมียเนื่องจากคล้ายกันมาก เมื่อผสมพันธ์เรียบร้อยแล้วตัวเมียจะเริ่มหาที่ที่เหมาะสมเพื่อวางไข่และฟักไข่ โดยมันจะวางไข่ได้ครั้งละ 9-12 ฟอง ซึ่งไข่จะมีลักษณะผิวเปลือกไข่เรียบเป็นมัน มีสีเนื้อ-ครีม ใช้ระยะในการฟักไข่ประมาณ 28-30 วัน 

      ด้วยความที่เป็ดแมนดารินเป็นนกสวยงามความสวยงามสะดุดตานี้จึงมักทำให้มันถูกจับมาเลี้ยงไว้เป็นสัตว์เลี้ยงอยู่เสมอ ใครเจอก็ชอบในความสวยงามจนอยากจะจับมาเลี้ยงไว้ดูเล่นที่บ้าน แต่หารู้ไม่ว่าการทำแบบนี้ได้ส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตตามธรรมชาติของมันอย่างมากมีผลทำให้เป็ดแมนดารินมีจำนวนลดลงอย่างรวดเร็ว โดยในประเทศไทยได้จัดให้นกสวยงามชนิดนี้เป็นสัตว์ป่าสงวนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

 

 

 

เว็บตรงฝากถอนไม่มีขั้นต่ํา