Categories
สัตว์บก

เตรียมสุนัขของคุณให้พร้อมรับมือกับช่วงฤดูหนาว

animal2you

เตรียมสุนัขของคุณให้พร้อมรับมือกับช่วงฤดูหนาว

แม้ว่าประเทศไทยจะอยู่ในเขตร้อน แต่ในช่วงฤดูหนาวก็สามารถมีอุณหภูมิเป็นเลขตัวเดียวได้ในบางเขตพื้นที่ คนอย่างเราก็ต้องมีการเตรียมตัวรับมือไม่ว่าจะเป็นการเตรียมเสื้อกันหนาว ผ้าห่ม หรืออะไรก็ตามที่จะช่วยให้อุ่นขึ้น สุนัขของเราก็เช่นกัน สำหรับผู้เลี้ยงสุนัข ก็คงต้องมีการเตรียมรับมือ เตรียมเครื่องกันหนาวให้กับสุนัขที่เลี้ยงด้วย แต่สำหรับผู้เลี้ยงสุนัขมือใหม่ที่ยังไม่รู้ว่าจะต้องเตรียมอะไรให้กับเจ้าตูบ เพื่อรับมือกับฤดูหนาวที่กำลังจะมาถึงในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าแล้วละก็ รับรองว่าบทความนี้ของเราจะเป็นประโยชน์ให้กับคุณแน่นอน

ลักษณะสุนัข

ลักษณะสุนัข สุนัขแต่ละสายพันธุ์จะมีการปรับตัวเพื่อรับมือกับช่วงหน้าหนาวที่ไม่เหมือนกัน

เราคงไม่จำเป็นจะต้องบอกเล่าอะไรคุณมากมายเกี่ยวกับลักษณะของสุนัข แต่หากเราจะพูดถึงการเตรียมตัวให้สุนัขของคุณเพื่อรับมือในช่วงหน้าหนาวนี้ เราคงต้องแนะนำให้คุณทำความรู้จักกับสายพันธุ์สุนัขที่คุณเลี้ยงกันก่อนในแบบง่ายๆ เพราะสุนัขแต่ละสายพันธุ์จะมีการปรับตัวเพื่อรับมือกับช่วงหน้าหนาวที่ไม่เหมือนกัน ซึ่งการปรับตัวของสุนัขในเขตหนาว ที่ทำให้พวกมันส่วนใหญ่มีขนที่ยาวฟูเพื่อพร้อมรับกับอากาศในช่วงฤดูหนาวได้เป็นอย่างดี แต่หากคุณเลี้ยงสุนัขพันธุ์ไทย หรือสายพันธุ์เอเชียที่มีขนไม่ยาวนัก อาจต้องมีการเตรียมตัวมากกว่าสักหน่อย

วิธีทำให้สุนัขอบอุ่น สำหรับรับมือในช่วงฤดูหนาว

วิธีทำให้สุนัขอบอุ่น สำหรับรับมือในช่วงฤดูหนาว
  1. เครื่องทำน้ำอุ่น แม้จะอยู่ในช่วงฤดูหนาว คุณก็ควรอาบน้ำให้เจ้าตูบของคุณอย่างน้อยเดือนละครั้ง เครื่องทำน้ำอุ่นจะทำให้สุนัขอบอุ่น ไม่เจ็บป่วยง่าย และหากคุณมีเครื่องทำน้ำอุ่นที่บ้านอยู่แล้วก็คงไม่ต้องห่วงในเรื่องนี้ แต่หากไม่มี คุณอาจเลือกให้บริการอาบน้ำสุนัขได้ตามร้านสัตว์เลี้ยง แต่อย่าลืมย้ำให้ใช้น้ำอุ่นอาบให้มันด้วย เพราะเจ้าตูบของคุณอาจป่วยจากการอาบน้ำเย็นได้
  2. ที่นอนอุ่นๆ กับผ้าห่มผืนเก่าๆ ในช่วงหน้าหนาวเราคงปฏิเสธไม่ได้ว่า การได้นอนบนที่นอนนุ่มๆ ใต้ผ้าห่มอุ่นๆ นั้นทำให้เรามีความสุขไม่ใช่น้อย เช่นเดียวกันกับสุนัขของคุณ พวกมันก็ต้องการที่นอน กับผ้าห่มนุ่มๆ ที่จะทำให้สุนัขอบอุ่น และแน่นอนพวกมันคงไม่รังเกียจผ้านวม หรือผ้าห่มผืนเก่าของคุณที่ไม่ได้ใช้แล้วแน่ๆ
  3. หลอดไฟเพิ่มความอุ่น หากคุณเลี้ยงสุนัขไว้นอกบ้านคุณอาจจะแค่ต้องเตรียมที่ปูนอน กระสอบเก่าๆ หรือผ้าสักผืนที่ไม่ใช้แล้ว สวมเสื้อสุนัข ของคุณให้พวกมันสักตัว พร้อมกับติดไฟหลอดกลม หรือ หลอดส้ม เพื่อทำให้สุนัขอบอุ่นขึ้น เพียงเท่านี้เรามั่นใจว่าสุนัขของคุณจะสามารถผ่านคืนอันหนาวเหน็บได้อย่างสบายแล้ว
เตรียมสุนัขของคุณให้พร้อมรับมือกับช่วงฤดูหนาว

เรามั่นใจว่าสำหรับผู้เลี้ยงสุนัขแล้ว ความสุขของพวกมัน ก็คือความสุขของคนเลี้ยงเช่นกัน ดังนั้นการใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆ เหล่านี้จะทำให้เจ้าสุนัขของคุณมีความสุขขึ้นในช่วงฤดูหนาวที่กำลังจะมาถึงนี้อย่างแน่นอน

อ่านบทความ ทำไมใครๆ ก็เรียกฉันว่าทาสแมว

Categories
แมลง

ผีเสื้อ เครื่องราง ตำนาน ความเชื่อ

animal2you

ผีเสื้อ เครื่องราง ตำนาน ความเชื่อ

ในสมัยก่อนผีเสื้อถูกเชื่อว่าเป็นสัญลักษณ์ของจิตวิญญาณ ความเป็นอมตะ และการเกิดใหม่ หรือสำหรับบางวัฒนธรรมก็เชื่อว่าผีเสื้อจะนำโชคลาภ ความสุข ความมั่งคั่งมาให้กับครอบครัว หรือผีเสื้อเคยถูกมองว่าเป็นแม่มดที่แปลงกายมา นี่เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของความเชื่อ หรือตำนานผีเสื้อ แต่ทำไมผีเสื้อจึงถูกบรรจุไว้ในความเชื่อเหล่านี้ หรือ ตำนานเหล่านี้เป็นเรื่องจริงหรือไม่ สายมูตัวจริงไม่ควรพลาด

ประวัติของผีเสื้อ

ประวัติของผีเสื้อ : ผีเสื้อแต่ละชนิดจะเลือกอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ต่างกัน

ประวัติของผีเสื้อ

ผีเสื้อเป็นแมลงแสนสวยงาม หรืออาจนับได้ว่าเป็นแมลงที่สวยที่สุดในโลกก็ว่าได้ ที่มีวงจรชีวิตที่ค่อนข้างรวดเร็ว  มีอายุที่ไม่ยืนยาว แต่เราก็สามารถหาชมผีเสื้อได้ตลอดทั้งปี ทั้งผีเสื้อกลางวัน และผีเสื้อกลางคืน ถึงแม้ว่าลักษณะของผีเสื้อจะดูช่างบอบบาง แต่ใครจะเชื่อว่าพวกมันสามารถอาศัยอยู่ได้ทั้งในสภาพอากาศที่หนาวจัด หรือแม้แต่ในวันที่แสนร้อนระอุ ผีเสื้อแต่ละชนิดจะเลือกอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ต่างกัน และผีเสื้อจะทำการผสมพันธุ์กันในช่วงปลายฤดูฝน และที่สำคัญถึงแม้พวกมันจะมีสายพันธุ์ หรือ สีสันที่หลากหลาย พวกมันก็จะไม่ผสมพันธุ์ข้ามสายพันธุ์กันเด็ดขาด

ผีเสื้อกับ 5 ความเชื่อ และลางบอกเหตุ

ผีเสื้อกับ 5 ความเชื่อ และลางบอกเหตุ

อย่างที่เราเคยบอกไว้ตอนต้นแล้วว่ามีความเชื่อมากมายที่พูดถึงผีเสื้อ แต่จะมีอะไรบ้างนั้น เราลองมาดูตัวอย่างบางส่วนกัน

  1. ถ้าผีเสื้อบินเข้าบ้านจะโชคดี มีความเชื่อในหลายวัฒนธรรมที่เชื่อว่า หากมีผีเสื้อบินเข้าบ้าน จะทำให้คนในครอบครัวได้รับข่าวดี มีโชคลาภ และมีความสุข
  2. สีของผีเสื้อเป็นลางบอกเหตุ หากมีผีเสื้อบินมาเกาะที่คุณ ผีเสื้อสีต่าง ๆ นั้นจะเป็นลางบอกเหตุให้คุณได้ เช่นหากปีกของผีเสื้อเป็นสีเหลืองทองแสดงว่าการเงินของคุณจะดีขึ้น หรือหากปีกผีเสื้อมีสีดำอาจแสดงว่าคุณกำลังจะเจอกับโชคร้ายได้
  3. เชื่อว่าผีเสื้อเป็นสัญลักษณ์ของการเกิดใหม่ นั่นอาจเป็นเพราะว่าวัฏจักรของผีเสื้อที่มีการเปลี่ยนแปลงรูปร่างไปมากมาย ตั้งแต่จากไข่ ตัวหนอน ดักแด้ ไปจนถึงผีเสื้อที่โตเต็มวัย
  4. ผีเสื้อกับความรัก ซึ่งผีเสื้อถูกใช้เป็นสัญลักษณ์เนื่องจากความบอบบาง น่าทะนุถนอม และความงดงาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตอนที่มีผีเสื้อมาบินวนรอบๆ ตัวเราก็จะทำให้เรารู้สึกตื่นเต้น และมีความสุข
  5. ผีเสื้อสีขาวคือวิญญาณของผู้ตาย นี่อาจเป็นความเชื่อเฉพาะของคนในประเทศญี่ปุ่นที่เชื่อว่าหากบินวนเข้ามาในงานศพ หรือพิธีศพ นั่นก็คือวิญญาณของผู้ตายนั่นเอง
ผีเสื้อ เครื่องราง ตำนาน ความเชื่อ

ความเชื่อเกี่ยวกับผีเสื้ออาจจะยังมีอีกมากมาย แต่อย่างไรก็ตามเราเชื่ออย่างแน่นอนว่า ผีเสื้อไม่ว่าจะสีไหนก็เป็นสัญลักษณ์ของความสุข นั่นก็เพราะเมื่อไรก็ตามที่เราเห็นฝูงผีเสื้อบินวนไปมา ก็จะทำให้เรายิ้มได้เสมอ

Categories
สัตว์เลื้อยคลาน

กิล่ามอนสเตอร์ สัตว์ประะหลาดที่น่าขนลุก จริงหรือ?

animal2you

หากจะพูดถึงสัตว์ที่น่าเกลียด น่ากลัวที่คนส่วนใหญ่พยายามอยู่ให้ห่างมากที่สุด ก็คงจะไม่พ้นสัตว์ที่อยู่ในประเภทเลื้อยคลาน แต่ในบรรดาสัตว์เลื้อยคลานทั้งหลายที่ดูน่าขนลุกนั้น คงไม่มีสัตว์เลื้อยคลานตัวไหนน่ากลัวเท่าเจ้ากิล่ามอนสเตอร์อีกแล้ว นอกจากหน้าตาของมันที่ดูชวนขนลุกแล้ว พวกมันจะน่ากลัวสมกับคำว่า “มอนสเตอร์” ชื่อเรียกของมันหรือไม่ เรากำลังจะได้รู้กันใน กิล่ามอนสเตอร์ สัตว์ประหลาดที่น่าขนลุก จริงหรือ

กิล่ามอนสเตอร์ สัตว์ประหลาดที่น่าขนลุก จริงหรือ

ลักษณะกิล่ามอนสเตอร์

กิล่ามอนสเตอร์ หรือ Gila Monster มีรูปร่างหน้าตาที่ชวนขนลุก แต่ในความจริงพวกมันเป็นกิ้งก่าชนิดหนึ่งที่อาศัยอยู่ในแถบแอริโซน่าหรือเม็กซิโก พวกมันมีร่างกายที่เป็นตะปุ่มตะป่ำที่ทำหน้าที่เหมือนเกราะให้กับมัน กิล่ามอนสเตอร์มีลำตัวสีดำตัดด้วยสีส้มหรือสีเหลือง หางของกิล่ามอนสเตอร์จะมีลักษณะอ้วนกลม มีความยาวได้ถึง 2 ฟุต แต่พวกมันจะมีขาสัตว์อยู่ทั้ง 2 ข้างของลำตัว หรือหากจะอธิบายให้คุณได้เห็นภาพง่ายๆ ก็คือ พวกมันมีลักษณะคล้ายๆ กับตุ๊กแก นั่นอาจจะช่วยให้คุณนึกถึงความน่าขนลุกของพวกมันได้ง่ายขึ้น

Gila Monster มีรูปร่างหน้าตาที่ชวนขนลุก

พิษของกิล่ามอนสเตอร์

พิษของกิล่ามอนสเตอร์ ร้ายแรงพอๆ กับงูหางกระดิ่ง นี่อาจเป็นอีกหนึ่งความเชื่อที่หลายคนมักจะนึกถึงเมื่อมีการกล่าวถึงพวกมัน เป็นเรื่องจริงที่กิล่ามอนสเตอร์มีต่อมพิษอยู่ที่ต่อมน้ำลาย นั่นหมายถึงพวกมันจะสามารถสร้างพิษได้เอง พิษของกิล่ามอนสเตอร์จะมีความรุนแรงส่งผลต่อระบบประสาท แต่พิษของกิล่ามอนสเตอร์อาจไม่ได้ร้ายแรงพอที่จะทำให้มนุษย์ถึงแก่ชีวิต แต่ก็สามารถส่งผลให้มนุษย์บาดเจ็บร้ายแรงได้เลยทีเดียว พิษของพวกมันจะถูกส่งผ่านกรามที่แข็งแรงในขณะที่กำลังต่อสู้กับเหยื่ออาหาร ที่ส่วนใหญ่มักจะเป็นสัตว์จำพวกนกขนาดเล็ก จิ้งจก กบ แมลง ไปจนถึงไข่ของสัตว์ชนิดต่างๆ

นอกจากนั้นการจู่โจมของ Gila Monster ช่างน่าสะพรึงด้วย โดยมีคำเล่าลือว่าหากใครที่โดนเจ้ากิล่ามอนสเตอร์เข้า ก็นับว่าโชคร้ายมากเพราะพวกมันจะไม่ปล่อยจนกว่าตะวันจะตกดิน นอกจากเจ้ากิล่ามอนสเตอร์ นับว่าเป็นกิ้งก่าพิษชนิดหนึ่งแล้ว พวกมันยังนับว่าเป็นสัตว์เลื้อยคลานที่มีการจู่โจมที่ค่อนข้างร้ายกาจมากด้วย ในขณะที่พวกมันโกรธหรือพยายามป้องกันตัว กิล่ามอนสเตอร์จะพองตัวของมันและอ้าปากใส่พร้อมด้วยเสียงขู่ฟ่อๆ ที่น่าขนลุก

ถึงแม้ว่าเจ้ากิล่ามอนสเตอร์ จะดูร้ายกาจ หรือน่าขนลุกสักแค่ไหน แต่บรรดาผู้ที่ชื่นชอบการเลี้ยงสัตว์แนวเอ็กโซติกก็คงไม่พลาดการได้ครอบครองเจ้ากิ้งก่าสายพันธุ์นี้สักตัวหนึ่ง เพราะหากคุณรู้วิธีที่จะจัดการกับมันอย่างถูกต้องแล้ว เจ้ากิล่ามอนสเตอร์ก็ดูเหมือนจะเป็นสัตว์เลี้ยงที่ดูน่าเกรงขามไม่น้อยเลยทีเดียว

กิล่ามอนสเตอร์มีต่อมพิษอยู่ที่ต่อมน้ำลาย
Categories
สัตว์บก

นกฮูก ทูตแห่งความน่าพิศวงที่บินได้

animal2you

นกฮูกเป็นสัตว์ที่ดูน่าพิศวง พวกมันเป็นตัวแทนของความลึกลับ คุณอาจเคยได้เห็นนกฮูกตามภาพยนตร์ต่างๆ ที่ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องราวที่เกี่ยวกับเวทย์มนต์ พ่อมด หรือแม่มด มีความเชื่อมากมายที่ถูกเชื่อมโยงกับนกฮูกทั้งในเรื่องที่ดี และไม่ดี ทำให้มีการใช้นกฮูกเป็นสัญลักษณ์ หรือเอามาทำเป็นเครื่องประดับนกฮูก เครื่องรางที่เราสามารถพบเห็นได้มากมาย แต่นั่นเป็นเพราะความน่าพิศวงของนกฮูก หรือ ด้วยหน้าตาที่น่าเอ็นดูของมันกันแน่

นกฮูก ทูตแห่งความน่าพิศวงที่บินได้

ลักษณะนกฮูก

นกฮูก หรือนกเค้าแมว ที่พวกมันถูกเรียกแบบนี้อาจเป็นเพราะลักษณะหน้าตาที่ดูคล้ายกับแมว นกฮูกเป็นสัตว์หากินกลางคืน ดังนั้นทำให้ดวงตาของนกฮูกมีขนาดที่ค่อนข้างใหญ่ แต่ที่สำคัญคือพวกมันมีเปลือกตาถึง 3 ชั้นที่ทำหน้าที่แตกต่างกัน นั่นก็คือชั้นแรกไว้สำหรับกระพริบ ชั้นที่สองไว้เพื่อการนอนหลับ และชั้นที่สามเพื่อปกป้องดวงตาขนาดใหญ่ของมัน นอกจากนั้นสรีระที่น่าทึ่ง หรือ น่าพิศวงอีกอย่างของนกฮูกก็คือ สกิลการหมุนคอของพวกมัน ซึ่งนกฮูกสามารถหมุนคอได้เกือบรอบ หรือสามารถหมุนได้ถึง 270 องศาเลยทีเดียว อาจเป็นเพราะลักษณะนกฮูกที่น่าพิศวงเหล่านี้ที่ทำให้มีความเชื่อเกี่ยวกับนกฮูกเกิดขึ้นมากมาย

นกฮูก หรือนกเค้าแมว ที่พวกมันถูกเรียกแบบนี้อาจเป็นเพราะลักษณะหน้าตาที่ดูคล้ายกับแมว

นกฮูก ความหมาย ความจริงและความเชื่อ

นกฮูกเป็นสัญลักษณ์ของความฉลาด ความเชื่อนี้น่าจะเกิดจากสายตาอันแหลมคมของนกฮูกที่เป็นสัตว์หากินตอนกลางคืนทำให้พวกมันมีสายตาที่ฉับไว สามารถมองเห็นเหยื่อ และศัตรูได้จากระยะไกล ทำให้มีการเปรียบเทียบให้นกฮูกเป็นสัญลักษณ์ของความฉลาดและการเป็นผู้รอบรู้ สายตากว้างไกล

นกฮูก ความหมาย ความจริงและความเชื่อ

นกฮูกเป็นสัญลักษณ์ความสุขและความโชคดี นี่เป็นความเชื่อของชาวฮินดูที่เชื่อว่านกฮูกเป็นยานพาหนะของนางลักษมี ที่เป็นเทวีที่นำความรุ่งเรือง ความสุขไปจนถึงความอุดมสมบูรณ์มาให้ หรือความเชื่อของชาวญี่ปุ่น ที่มีการเรียกนกฮูกว่า “ฟูคูโระ” ที่แปลว่า โชคดี ด้วยเช่นกัน

นกฮูกตัวแทนความโชคร้าย ในทางตรงกันข้ามมีบางวัฒนธรรมที่เชื่อว่านกฮูกเป็นสัญลักษณ์แห่งความโชคร้าย หรือยมทูตแห่งความตาย เนื่องจากการที่เหล่านกฮูกเป็นสัตว์กินเนื้อที่หากินตอนกลางคืน ประกอบกับความฉับไวของมันในการล่าเหยื่อ การใช้กรงเล็บอันแหลมคมช่วยในการล่า ที่อาจทำให้บางคนเห็นแล้วรู้สึกขนลุกได้

นกฮูก ทูตแห่งความน่าพิศวงที่บินได้

อย่างไรก็ตามอาจจะปฏิเสธได้ยากว่า ด้วยการที่นกฮูกมีดวงตากลมโต มีพฤติกรรมที่ชอบอยากรู้อยากเห็น จึงทำให้นกฮูกกลายเป็นสัตว์เลี้ยงของผู้ที่ชื่นชอบสัตว์แปลก แต่ที่โชคร้ายก็คือ โดยส่วนใหญ่จะพบว่าการนำนกฮูกมาเลี้ยงจะทำให้พวกมันมีอายุขัยที่สั้นกว่าการที่เราปล่อยให้พวกมันได้มีชีวิตอยู่เองตามธรรมชาติ

อ่านบทความ “ค้างคาว” สัตว์ มหัศจรรย์ หรือ น่าขนลุก

Categories
สัตว์น้ำ สัตว์น้ำเค็ม

ดาวทะเล ความน่าพิศวงของดวงดาวแห่งโลกใต้ทะเล

animal2you

หากเสน่ห์ของท้องฟ้าหมายถึงดวงดาว เสน่ห์ของท้องทะเลก็คือดาวทะเลเช่นกัน และนี่คือเรื่องจริง เพราะลักษณะของดาวทะเลที่ดูคล้ายดวงดาว รวมถึงดาวทะเลมีสีสันที่สดใสงดงาม ที่ตัดกับน้ำทะเลสีฟ้า และหาดทรายสีขาว เหมือนกับประกายของดวงดาวที่ตัดกับความมืดมิดของท้องฟ้าเบื้องบน แต่นอกจากความงดงามที่เราเห็น ยังมีความลับอะไรซ่อนอยู่อีกมาก เราจะมาค้นหาความลับของดาวทะเลไปด้วยกัน

ดาวทะเล ความน่าพิศวงของดวงดาวแห่งโลกใต้ทะเล

โครงสร้างของดาวทะเล

         คุณเคยสงสัยไหมว่า ทำไมบางคนจึงเรียก ดาวทะเล ว่า ปลาดาว ซึ่งอันที่จริงแล้วดาวทะเลไม่ใช่ปลา เพราะพวกมันเป็นสัตว์ที่ไม่มีกระดูกสันหลัง คนส่วนใหญ่อาจจะเข้าใจผิด และจัดพวกมันไว้ในกลุ่มปลา แบบเดียวกับที่ หมึก ก็ไม่ใช่ปลาเช่นกัน โดยโครงสร้างของดาวทะเลจะมีลำตัวแยกออกเป็นแฉกๆ หรือเรียกว่าแขน ใต้แขนแต่ละแขนจะมีหนวดสั้นๆ และมีปากอยู่ด้านใต้ของลำตัว ซึ่งโดยปกติ คุณอาจจะเคยเห็นดาวทะเลใช้ชีวิตแบบที่นอนนิ่งๆอยู่ตามชายหาด หรือบริเวณใต้ท้องทะเลในช่วงเวลากลางวัน นั่นก็เพราะดาวทะเลเหล่านั้นกำลังพักผ่อนและพวกมันจะออกล่าเหยื่อในตอนกลางคืน ดาวทะเลเหล่านี้ กินหอยเป็นอาหาร รวมถึงกุ้ง ปู หนอนทะเล และปลาขนาดเล็ก และยังมีปลาดาวบางชนิดที่กินซากพืช ซากสัตว์ และปะการังเป็นอาหารด้วย ซึ่งการที่โครงสร้างของดาวทะเลที่มีปากอยู่ด้านใต้ของลำตัว พวกมันจะยื่นปากออกมาเพื่องับเหยื่อไว้ และดึงเหยื่อของพวกมันกลับเข้าไปยังกระเพาะที่จะอยู่ไม่ไกลจากปากของมันนั่นเอง

โครงสร้างของดาวทะเลจะมีลำตัวแยกออกเป็นแฉกๆ หรือเรียกว่าแขน ใต้แขนแต่ละแขนจะมีหนวดสั้นๆ

         อีกหนึ่งความมหัศจรรย์ของโครงสร้างดาวทะเลก็คือ พวกมันไม่มีเลือด คุณอาจเคยได้เรียนรู้มาว่าสิ่งมีชีวิตจะต้องใช้เลือดที่เป็นของเหลวในร่างกายเพื่อลำเลียงสารอาหาร แต่สำหรับดาวทะเล ทฤษฎีนี้อาจไม่ใช่ เพราะดาวทะเลไม่มีเลือด พวกมันจะใช้น้ำทะเลในการลำเลียงสารไปยังเส้นประสาทต่างๆ โดยการกรองผ่านลำตัวโดยไม่จำเป็นต้องพึ่งพาเลือดแม้แต่น้อย

การงอกใหม่ของดาวทะเล

การงอกใหม่ของดาวทะเล: คุณรู้หรือไม่ว่าดาวทะเลสามารถซ่อมแซมส่วนที่เสียหายหรือได้รับบาดเจ็บได้

         นอกจากความน่าอัศจรรย์ของโครงสร้างที่ดูแปลกตากว่าสัตว์ทะเลชนิดอื่น คุณรู้หรือไม่ว่าดาวทะเลสามารถซ่อมแซมส่วนที่เสียหายหรือได้รับบาดเจ็บได้ด้วยการงอกส่วนนั้นออกมาใหม่ หรือ ที่เราเรียกว่าการงอกใหม่ของดาวทะเล รวมถึงหากพวกมันรู้สึกว่าพวกมันกำลังอยู่ในอันตราย หรือถูกจับพวกมันจะทำการสละแขนส่วนนั้นทันที และในทางกลับกัน ส่วนที่ขาดของมันก็สามารถงอกตัวออกมากลายเป็นปลาดาวอีกตัวที่มีลักษณะเหมือนกันได้ ที่นับว่าเป็นการทำโคลนนิ่งโดยสมบูรณ์ตามธรรมชาติได้เลยทีเดียว และยังถือว่าเป็นการสืบพันธุ์โดยไม่ต้องอาศัยเพศก็ได้

         แต่หากเราจะพูดถึงในมุมของความงดงามแล้ว ดาวทะเล ถือเป็นสิ่งมีชีวิตใต้โลกมหาสมุทรที่เป็นเสมือนเครื่องประดับอันแสนอัศจรรย์ที่คอยแต่งแต้มโลกแห่งท้องทะเลอันกว้างใหญ่ดูงดงามตลอดไป

Categories
สัตว์ปีก

นกกระจอกเทศ ใครว่านกทุกตัวจะต้องบินได้

animal2you

นกมักจะถูกใช้เป็นสัญลักษณ์ของความเป็นอิสระ เนื่องจากนกส่วนใหญ่สามารถบินได้ ทำให้พวกมันบินไปไหนมาไหนได้ตามที่พวกมันต้องการ แต่สำหรับนกกระจอกเทศที่มีขนาดตัวที่ใหญ่กว่านกชนิดอื่นๆ ที่ถึงแม้ว่ามันจะมีปีกเหมือนนกทั่วไปก็ตาม แต่ทำไมนกกระจอกเทศจึงไม่สามารถบินได้

นกกระจอกเทศเป็นนกที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก

ลักษณะนกกระจอกเทศ

          นกกระจอกเทศเป็นนกที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ที่มีถิ่นกำเนิดในแอฟริกา เมื่อโตเต็มวัยจะมีลำตัวสีดำ แต่จะมีขนปีกและหางสีขาวสวยงาม ถึงแม้ว่าลักษณะของนกกระจอกเทศโดยทั่วไปจะคล้ายกับนกสายพันธุ์อื่นๆ ที่มี 2 ขาและ 2 ปีก แต่นกกระจอกเทศมีลักษณะที่แตกต่างจากนกสายพันธุ์อื่นๆ คือ นกกระจอกเทศจะมีนิ้วเท้าแค่เพียง 2 นิ้ว ที่นับว่าเป็นลักษณะเด่นของสัตว์ที่จะต้องใช้ความเร็วในการวิ่งหนีศัตรู อย่างนกกระจอกเทศที่สามารถวิ่งได้เร็วถึง 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ที่ส่วนมากจะมีนิ้วเท้าที่หดสั่นลงเรื่อยๆ จนหายไป นกกระจอกเทศจะมีปีกที่มีขนาดเล็ก จนอาจดูไม่สมกับตัว และนกกระจอกเทศตัวเมียจะมีขนาดใหญ่กว่าตัวผู้

ไข่นกกระจอกเทศ

          หากเราจะพูดถึงไข่ของนกที่ใหญ่ที่สุดในโลก คุณอาจจะจินตนาการได้ถึงขนาดของไข่นกกระจอกเทศที่มีขนาดใหญ่ตามตัวแม่ของมัน ซึ่งไข่ของนกกระจอกเทศ ที่นับว่าเป็นไข่ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางอยู่ที่ประมาณ 6-8 นิ้ว และมีน้ำหนักมากกว่า 1 กิโลกรัม ไข่นกกระจอกเทศจะใช้เวลาฟักนานถึง 6 สัปดาห์ ปัจจุบันได้มีการนำไข่นกกระจอกเทศมาทำเป็นอาหาร ที่เป็นอีกเมนูยอดฮิตสำหรับผู้ที่ชอบลองของแปลกไม่ควรพลาด

ไข่นกกระจอกเทศเป็นไข่ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก

นกกระจอกเทศบินได้ไหม

          อย่างที่เราเคยพูดถึงลักษณะของนกกระจอกเทศว่ามีปีกที่มีขนาดเล็กไม่สมกับขนาดตัว นั่นเกิดจากวิวัฒนาการของนกกระจอกเทศที่มักจะเดินมากกว่าบิน พวกมันใช้ขาในการดำรงชีวิต มากกว่าปีกจึงทำให้ปีกของนกกระจอกเทศมีขนาดเล็กลง รวมถึงสรีระของนกกระจอกเทศที่มีโครงสร้างส่วนกระดูกหน้าอกแบบราบ ไม่เป็นสันเช่นเดียวกับนกสายพันธุ์อื่นๆ ทำให้กล้ามเนื้อปีกของมันไม่แข็งแรง

นกกระจอกเทศ แม้จะมีปีกแต่ไม่สามารถบินได้

          อีกทั้งขนปีกของนกกระจอกเทศที่มีค่อนข้างน้อย ขึ้นเรียงตัวกันแบบห่างๆ ทำให้ปีกของนกกระจอกเทศไม่มีกำลังพอที่จะช่วยตัวของมันที่มีขนาดใหญ่มากขึ้นบินได้ แต่ถึงแม้นกกระจอกเทศจะบินไม่ได้ แต่พวกมันยังคงจำเป็นจะต้องใช้ปีกในการทรงตัว เพราะในขณะที่พวกมันวิ่ง มันจะกางปีกพร้อมกันไปด้วย

          แม้นกกระจอกเทศจะบินไม่ได้ แต่ธรรมชาติก็ได้จัดสรรให้พวกมันมีขาที่แข็งแรงและสามารถวิ่งได้เร็ว จนได้ชื่อว่าเป็นสัตว์สองขาที่วิ่งเร็วที่สุดในโลกเลยทีเดียว

Categories
สัตว์บก

ทำไมใครๆ ก็เรียกฉันว่าทาสแมว

animal2you

แมวเป็นสัตว์เลี้ยงยอดฮิตที่คนนิยมนำมาเลี้ยงไว้ติดบ้าน แต่ในเมื่อแมวได้ขึ้นชื่อว่าเป็นสัตว์เลี้ยง ทำไมคนเลี้ยงกลับถูกเรียกว่าทาสแมว เราลองมาดูกัน 

cat
แมวมีหูที่ไวต่อเสียง และจมูกที่ไวต่อกลิ่น

ลักษณะแมว

          แมวเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่มีต้นกำเนิดมาจากเสือไซบีเรีย แมวจะมีหูที่ไวต่อเสียง และจมูกที่ไวต่อกลิ่น พวกมันเป็นสัตว์ที่มีความคล่องตัวสูง เนื่องจากที่น้ำหนักเบา เคยมีการคาดเดาว่าแมวมีส่วนเกี่ยวข้องกับมนุษย์มาตั้งแต่สมัยโบราณ ที่เราสังเกตได้จากหลุมศพอียิปต์โบราณที่มีสัญลักษณ์ปรากฏอยู่ทั่วไป มีแมวกว่า 30 สายพันธุ์บนโลกใบนี้ แต่ละสายพันธุ์ก็จะมีลักษณะของแมวที่ต่างกันเห็นได้ค่อนข้างชัดเจน โดยแมวทั่วไปจะทั้งที่แบบมีขนยาวฟูอย่างแมวเปอร์เชีย และแมวไร้ขนอย่างแมวสฟิงซ์ เป็นต้น 

cat-2
แมวน่ารัก กับ ทาสของมัน

          ใครจะเชื่อว่าแมวน่ารักที่เราพากันหลงใหลนั้น อันที่จริงพวกมันได้แอบซ่อนความร้ายกาจไว้ และได้แสดงออกมาโดยที่เราไม่รู้สึกตัว ด้วยสัญชาตญาณของเจ้าเหมียวที่มีต้นกำเนิดมาจากเสือ ทำให้พวกมันชอบแสดงออกถึงความเป็น “เจ้านาย” มากกว่าเป็นสัตว์เลี้ยงด้วยซ้ำ หากเราจะลองสังเกตดูพฤติกรรมของมันที่ถึงแม้พวกมันจะชอบเข้ามาคลอเคลีย แสดงท่าที รวมถึงส่งเสียงที่พยายามจะออดอ้อนเพื่อให้เราทำในสิ่งที่พวกมันต้องการ มากกว่าการที่จะทำตามสิ่งที่เราสั่ง เจ้าเหมียวจะหันหลังใส่เราในทันทีเมื่อเราทำในสิ่งที่มันไม่ชอบ และแน่นอนว่าสิ่งที่ทาสอย่างเราๆ ต้องทำคือการตามง้องอนแมวที่แสนน่ารักของเราอยู่เสมอ

เสียงแมวมีความหมายว่าอย่างไร

          อีกสิ่งที่บรรดาทาสแมวจะต้องเรียนรู้และศึกษาไว้คือ เสียงแมว ที่เจ้าเหมียวพยายามที่จะสื่อสาร และบอกสิ่งที่พวกมันต้องการเพื่อให้ทาสอย่างเราๆ ต้องทำตาม อย่างเช่น การที่เจ้าเหมียวทำเสียง “อือ อือ” ที่หมายถึงว่าพวกมันเริ่มที่จะหิว และทาสอย่างเราก็ควรจะหาอะไรให้พวกมันกินได้แล้ว แต่หากพวกมันทำเสียง “แง้ว แง้ว หรือ เหมี๊ยวววววว” นั่นหมายถึง มันต้องการให้เราแสดงความรัก หรือ เป็นการเรียกร้องความสนใจจากเรานั่นเอง หรือถ้าคุณได้ยินเสียงคราง “เพอร์” เบาๆ จากลำคอของมันแล้วล่ะก็ คุณแน่ใจได้เลยว่าพวกมันกำลังรู้สึกสบายตัว สบายใจและมีความสุขมากนั่นเอง

cat-3
เสียงแมว จะสามารถทำให้เรารู้ถึงความต้องการของมันได้

          จนถึงตอนนี้คุณคงเข้าใจแล้วว่าทำไมหลาย ๆ คนที่หลงรักเจ้าเหมียว มักจะถูกเรียกว่า “ทาสแมว” แต่ถึงอย่างไรก็ตามเราเชื่อว่า บรรดาทาสแมว ก็คงยินยอมที่จะตกเป็นทาสเจ้าแมวอันแสนน่ารักนี้ต่อไปอย่างเต็มใจแน่นอน

Categories
สัตว์น้ำ สัตว์น้ำเค็ม สัตว์บก

ปูเสฉวน สัตว์เลี้ยงหน้าใหม่แห่งวงการเลี้ยงสัตว์

animal2you

ใครเคยเห็นปูเสฉวนตามร้านขายสัตว์เลี้ยงบ้าง? ตอนนี้ปูเสฉวนกลายเป็นสัตว์เลี้ยงหน้าใหม่ของวงการผู้ที่ชอบเลี้ยงสัตว์แปลกอีกชนิดหนึ่ง แต่ทำไมเจ้าปูเสฉวนจึงกลายมาเป็นสัตว์เลี้ยงได้ และการเลี้ยงปูเสฉวนจะต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง ลองมาหาตำตอบดูกัน

ปูเสฉวน
ปูเสฉวนแบ่งออกเป็น 2 ประเภท: ปูเสฉวนบก และปูเสฉวนน้ำ

ปูเสฉวนบก & ปูเสฉวนน้ำ

ปูเสฉวนแบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ตามลักษณะถิ่นที่อยู่ ได้แก่ ปูเสฉวนบก และปูเสฉวนน้ำ ซึ่งปูเสฉวนบกจะอาศัยอยู่ตามบริเวณชายหาดห่างจากน้ำทะเลไม่เกิน 15 กิโลเมตร แต่ปูเสฉวนน้ำจะอาศัยอยู่ในน้ำทะเลลึก ปูเสฉวนเป็นสัตว์ที่มีขนาดเล็กอยู่ที่ประมาณ 1-6 เซนติเมตร ปูเสฉวนมีขา 10 ขา และกินซากพืช ซากสัตว์ เป็นอาหาร

ปูเสฉวน
ปูเสฉวนเป็นสัตว์ที่มีขนาดเล็กอยู่ที่ประมาณ 1-6 เซนติเมตร

ปูเสฉวนน้ำ หรือปูเสฉวนทะเล

จะใช้ชีวิตและขยายพันธุ์อยู่ใต้น้ำทะเลลึกเท่านั้น แต่ปูเสฉวนบกมีวงจรชีวิตที่น่าสนใจกว่านั้นคือ พวกมันจะใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่ตามชายหาด อย่างที่เราเห็นโดยทั่วไปตอนไปเที่ยวทะเล แต่เมื่อปูเสฉวนบกได้ผสมพันธุ์กันแล้ว ปูเสฉวนตัวเมียจะวางไข่ลงในน้ำทะเล และเมื่อลูกปูเสฉวนฟักออกจากไข่ พวกมันจะขึ้นมาเจริญเติบโตบนชายฝั่งต่อไป

ปูเสฉวนเลี้ยง

แต่ปัจจุบันเราอาจเคยเห็นเจ้าปูเสฉวนตามร้านขายสัตว์บางแห่ง เนื่องจากมีคนบางกลุ่มเริ่มนิยมที่จะลองเลี้ยงเจ้าปูเสฉวนบกดูบ้าง ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นปูเสฉวนบก และหลายคนอาจเชื่อว่าปูเสฉวนบกเป็นปูเสฉวนเลี้ยงที่สามารถเลี้ยงได้ง่าย แต่นั่นอาจไม่ใช่เรื่องจริง

ปูเสฉวน
ปูเสฉวนเลี้ยง ต้องการการดูแลที่ค่อนข้างดี

ปูเสฉวนเลี้ยง ต้องการการดูแลที่ค่อนข้างดี พวกมันต้องการสภาพแวดล้อมที่ค่อนข้างพิเศษ การเลี้ยงปูเสฉวนจะต้องเตรียมทั้งถ้วยน้ำจืด ถ้วยน้ำเค็ม เปลือกหอยหลากหลายขนาดที่สามารถเข้าไปอยู่อาศัยได้ เพื่อหากเจ้าปูเสฉวนมีการลอกคราบในตอนที่มันโตขึ้น พวกมันจะต้องเปลี่ยนขนาดของเปลือกหอยให้เหมาะสมกับขนาดตัวของมันด้วย มีการควบคุมอุณหภูมิที่ดี โดยปูเสฉวนจะสามารถอาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมที่จะต้องไม่ต่ำกว่า 25 องศา อีกทั้งการเตรียมอาหารที่เหมาะสม โดยธรรมชาติ ปูเสฉวนจะกินซากพืช ซากสัตว์ ดังนั้นผู้เลี้ยงอาจจะมีการเตรียมทั้งผลไม้ ผัก หรือเนื้อเพื่อเป็นอาหารแก่เจ้าปูเสฉวน และต้องระวังไม่ให้อาหารที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ หรือช๊อคโกแลต

ปูเสฉวนเลี้ยงสามารถมีอายุยืนยาวได้จนถึง 10 ปี หากมีการเลี้ยงดูที่เหมาะสม แต่คุณรู้ไหมว่าปัจจุบันยังไม่มีร้านขายเจ้าปูเสฉวนใดที่สามารถขยายพันธุ์เจ้าปูเสฉวนได้เอง ดังนั้นปูเสฉวนบกที่เราเห็นตามร้านขายสัตว์ ล้วนแล้วแต่ถูกจับมาจากธรรมชาติทั้งสิ้น

ปูเสฉวน
ปูเสฉวนเลี้ยงสามารถมีอายุยืนยาวได้จนถึง 10 ปี หากมีการเลี้ยงดูที่เหมาะสม

หากคุณสนใจการเลี้ยงปูเสฉวน ควรจะลองพิจารณาให้ดี เพราะนอกจากการจับปูเสฉวนจากธรรมชาติมาเลี้ยงจะทำให้ระบบนิเวศเสียสมดุลแล้ว ถ้าคุณไม่มีความรู้ในการเลี้ยงที่ดีพอ คุณอาจจะกลายเป็นผู้ทำลายโดยที่ไม่ได้ตั้งใจก็ได้

Categories
สัตว์น้ำ สัตว์น้ำเค็ม

“พะยูน” ดุหยงน้อยแห่งทะเลแดนใต้

animal2you

ไม่นานมานี้คุณอาจเคยได้ยินข่าวคราวของลูกพะยูนน้อยน่าสงสารที่พลัดหลงจากแม่ ในตอนที่พายุพัดเข้าไปยังชายฝั่งทะเลของจังหวัดกระบี่ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นกับฝูงพะยูนของประเทศไทย หลายๆ คนอาจจะรู้จักว่าพะยูนเป็นสัตว์ทะเลเลี้ยงลูกด้วยนมที่ใกล้จะสูญพันธุ์ แต่จะมีสักกี่คนที่รู้ว่าเจ้าพะยูนน้อยเหล่านี้เป็นสัตว์ทะเลที่มีความงดงามไม่แพ้สัตว์ทะเลชนิดอื่นเลย

พะยูน หรือ ดุหยง ที่แปลว่าหญิงแห่งท้องทะเล

ประวัติพะยูน

พะยูน หรือ ที่คนใต้เรียกว่า “ดุหยง” เป็นภาษามลายู มีความหมายว่า หญิงสาวแห่งท้องทะเล เป็นสัตว์ทะเลเขตน้ำอุ่นที่เลี้ยงลูกด้วยนม พวกมันมีลำตัวคล้ายโลมาผสมกับแมวน้ำ มีลำตัวสีเทาออกชมพู หรือสีน้ำตาลเทา มีครีบอยู่ทั้ง 2 ข้างของลำตัวที่ช่วยพวกมันว่ายน้ำ มีตาที่เล็ก และมีขนขึ้นอยู่โดยรอบริมฝีปาก ส่วนพะยูนตัวผู้จะมีฟันคู่หนึ่งงอกออกมาเมื่อโตเต็มที่

พะยูนจะออกลูกได้เพียงครั้งละ 1 -2 ตัว พวกมันเป็นสัตว์สงวนตามพระราชบัญญัติคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 ที่ห้ามค้าขายโดยเด็ดขาด ยกเว้นเพื่อการศึกษา วิจัย หรือเพื่อเพาะพันธุ์เท่านั้น แม้พะยูนเป็นสัตว์ทะเล ว่ายน้ำได้ แต่พวกมันไม่ได้ถูกจัดว่าเป็นปลาตามที่หลายคนเข้าใจ พะยูนหายใจด้วยปอด และถือเป็นญาติห่างๆ ของช้างด้วย

ของเสียจากพะยูนเป็นปุ๋ยและอาหารชั้นดีต่อระบบนิเวศ

ประโยชน์ของพะยูน

พะยูนมีประโยชน์ต่อระบบนิเวศมากกว่าที่คุณคิดหลายเท่านัก เพราะเจ้าพะยูนเหล่านี้กินหญ้าทะเลเป็นอาหาร พวกมันปล่อยของเสียออกมาที่สามารถเป็นทั้งปุ๋ย และเป็นแหล่งอาหารของสัตว์ทะเลตัวเล็ก ๆ ตามแนวชายฝั่ง ปุ๋ยจากพะยูนจะช่วยให้หญ้าทะเลเติบโตได้ดี และหญ้าทะเลเหล่านี้จะสามารถช่วยเป็นเกราะกำบังการพังทลายของแนวชายฝั่ง รวมถึงเป็นบริเวณที่ช่วยอนุบาลสัตว์ทะเลขนาดเล็กก่อนที่จะได้เติบโตไปผจญโลกกว้าง ประโยชน์ของพะยูนอาจจะดูไม่ได้ยิ่งใหญ่แต่หากไม่มีพะยูนระบนิเวศบริเวณชายฝั่งจะต้องเปลี่ยนไปอย่างแน่นอน

พะยูนในไทย

น่าเศร้าที่จากการสำรวจล่าสุด จำนวนประชากรพะยูนในไทยเหลืออยู่เพียงประมาณ 240 ตัวเท่านั้น ก่อนหน้าที่พะยูนจะได้รับการคุ้มครองเป็นสัตว์ป่าสงวน จำนวนของพะยูนได้ลดลงอย่างรวดเร็วด้วยความเชื่อผิดๆ ของหลายคนที่เชื่อว่าน้ำตาของพะยูนเป็นเครื่องรางช่วยในเรื่องเมตตามหานิยม และที่แย่กว่านั้นกระดูกและเขี้ยวของพะยูนถูกนำไปขายในมูลค่าที่สูง ทำให้บรรดาชาวประมงพากันออกล่าพะยูนที่สงสารเหล่านี้

จำนวนประชากรพะยูนในไทยเหลืออยู่เพียงประมาณ 240 ตัวเท่านั้น

แม้ว่าในปัจจุบันบรรดาพะยูนจะได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย ทำให้การไล่ล่า หรือการจับปลาพะยูนหายไป แต่คุณรู้หรือไม่ว่ามนุษย์อย่างเราๆ ยังคงมีการทำร้ายเจ้าพะยูนพวกนี้ทางอ้อมอยู่ดี ด้วยการที่เราทิ้งขยะพลาสติกลงในทะเล อย่างในกรณีของ “มาเรียม” เจ้าพะยูนน้อยแห่งทะเลกระบี่ที่ได้กินขยะพลาสติกลงไปจนทำให้มันเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิต

Categories
สัตว์เลื้อยคลาน

กิ้งก่า สัตว์เลี้ยงเลื้อยคลานอันแสนน่าทึ่ง

animal2you

ในสมัยก่อนหากเราพูดถึงกิ้งก่า เราคงจะนึกถึงสัตว์เลื้อยคลานสี่ขา หางยาว วิ่งปราดเปรียว กินแมลงเป็นอาหาร แต่ในยุคปัจจุบันเรากลับสามารถพบกิ้งก่าได้มากมายตามร้านขายสัตว์เลี้ยงแนวแปลก หรือที่เราเรียกว่า สัตว์เอ็กโซติก

กิ้งก่า
กิ้งก่า สัตว์สี่ขา หางยาว และปราดเปรียว

กิ้งก่ามีลักษณะเป็นอย่างไร

ลักษณะของกิ้งก่าโดยทั่วไปมี 4 ขาที่มีลักษณะเป็นปล้อง มีเกล็ดแข็งปกคลุม แต่ยังมีกิ้งก่าบางชนิดที่อาจไม่มีขา หรือมีขาที่เล็กมาก หรือที่เราเรียกว่าจิ้งเหลน กิ้งก่าเหล่านี้กินแมลงเป็นอาหาร สามารถพบได้ทั่วไปทั่วโลก ยกเว้นแถบขั้วโลก มีบางคนคิดว่ากิ้งก่าสามารถเปลี่ยนสีตัวเองได้ตามสภาพแวดล้อมเพื่ออำพรางตัว แต่อันที่จริงแล้วเจ้ากิ้งก่าจะเปลี่ยนสีไปตามอารมณ์ หรือตามอุณหภูมิมากกว่า

กิ้งก่าไทย

ในประเทศไทยสามารถพบกิ้งก่าได้หลายชนิด และสามารถพบได้ตามป่าดิบชื้นต่าง ๆ บริเวณน้ำตก และภาคอิสานของไทยเป็นส่วนใหญ่ เรายังสามารถพบกิ้งก่าไทยแบบที่มีปีกด้วย ที่เราเรียกว่า กิ้งก่าบิน หรือกะปอมปีก กิ้งก่าบินมีความสามารถในการร่อนได้ไกลถึง 60 เมตร และทิ้งตัวดิ่งลงมาได้ถึง 10 เมตร กิ้งก่าไทยมีทั้งขนาดที่ใหญ่มากอย่างเช่น ตะกวด หรือ ขนาดเล็กมาก ๆ อย่างพวกจิ้งเหลน

กิ้งก่าไทยที่เรียกว่าจิ้งเหลน เป็นกิ้งก่าที่มีขนาดเล็ก

กิ้งก่าคาเมเลี่ยน สัตว์เลี้ยงเอ็กโซติก

ในปัจจุบันคุณจะต้องเคยเห็นกิ้งก่าวางขายตามร้านขายสัตว์ ต่าง ๆ โดยเฉพาะบรรดาร้านจำหน่ายสัตว์สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการเลี้ยงสัตว์เอ็กโซติก โดยเฉพาะ กิ้งก่าคาเมเลี่ยน ซึ่งเป็นกิ้งก่าสายพันธุ์ที่คนนิยมหาซื้อมาเลี้ยงมากที่สุด พวกมันมีถิ่นกำเนิดอยู่แถบประเทศแอฟริกา และอาจด้วยสีสันและหน้าตาของกิ้งก่าคาเมเลี่ยนที่ดูมีเสน่ห์ที่ทำให้เจ้าคาเมเลี่ยนกลายเป็นสัตว์เลี้ยงที่ดูน่าทึ่ง กิ้งก่าคาเมเลี่ยนสามารถเปลี่ยนได้ตามอารมณ์และสภาพอากาศเช่น เมื่อมันรู้สึกโกรธเจ้ากิ้งก่าคาเมเลี่ยน จะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองสดใส จากที่มันมีสีเขียวในสภาวะปกติ อีกส่วนหนึ่งที่ทำให้เจ้ากิ้งก่าคาเมเลี่ยนดูน่าสนใจก็คือ “หาง” ซึ่งหางของเจ้าคาเมเลี่ยนจะมีลักษณะที่ยาวและม้วนเป็นวงกลมแปลกตา ที่จะช่วยให้พวกมันสามารถยึดเกาะกิ่งไม้ได้อย่างมั่นคง

กิ้งก่าคาเมเลี่ยนมีสีสันและลักษณะที่มีเสน่ห์

อย่างไรก็ตามหากคุณเป็นอีกคนที่กำลังมองหาเจ้าคาเมเลี่ยนมาเลี้ยงสักตัว เราขอแนะนำว่าคุณควรศึกษานิสัย และความเป็นอยู่ของเจ้าคาเมเลี่ยนนี้ให้ดีเสียก่อน เพราะสำหรับการเลี้ยงเจ้ากิ้งก่าคาเมเลี่ยนคุณจะต้องมีการเตรียมสถานที่ไว้ให้มันอย่างเหมาะสม กรงกิ้งก่าคาเมเลี่ยนจะต้องมีการควบคุมอุณหภูมิให้ดี เราเชื่อว่าคุณคงไม่อยากให้มันต้องมาตายด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของตัวคุณเอง