Categories
สัตว์น้ำ

วิธีการเลี้ยง ปลากัด พร้อมข้อห้ามควรระวังสำหรับมือใหม่หัดเลี้ยงปลา

การเลี้ยง ปลากัด ในความคิดของใครหลายคน อาจจะดูเป็นเพียงเรื่องสนุกและเพื่อความเพลิดเพลินเท่านั้น แต่ในความเป็นจริง ปลากัด เป็นปลาสวยงามที่มีคุณค่าทางจิตใจ มีความสุนทรีย์ทางด้านเอกลักษณ์ที่เฉพาะตัว มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน ทั้งยังเป็นสัตว์เลี้ยงที่อยู่คู่กับคนไทยและบรรดาคนเลี้ยงปลามานับร้อยปีแล้ว ซึ่งการเลี้ยงปลาชนิดนี้มีวิธีอย่างไร รวมถึงต้องระวังสิ่งไหนเป็นพิเศษบ้าง ตามมาอ่านไปพร้อมกันได้เลย

ความต้องการพื้นฐานของ ปลากัด

ความต้องการพื้นฐานของปลากัด

เดิมทีการเลี้ยงปลากัดอาจจะเป็นเรื่องยาก ทั้งยังมีความท้าทายเหล่าผู้เลี้ยงใหม่ แต่ในสมัยนี้มีแหล่งความรู้รวมถึงมีคู่มือการเลี้ยงปลากัดจากผู้มีประสบการณ์มากมาย ทำให้การเลี้ยงปลาชนิดนี้ไม่ได้มีความยากเหมือนในสมัยก่อน โดยความต้องการพื้นฐานของปลากัดที่เหล่ามือใหม่ควรรู้ก็คือการจัดเตรียมที่อยู่อาศัย ซึ่งไม่ควรเลี้ยงเอาไว้รวมกันเพราะอาจทำให้ปลาเครียดและกัดกันเองจนตายได้ นอกจากนั้นก็ยังต้องรักษาอุณหภูมิของน้ำไม่ให้สูงหรือต่ำมากเกินไปด้วย

สิ่งที่ต้องเตรียมก่อนเลี้ยง ปลากัด

สิ่งที่ต้องเตรียมก่อนเลี้ยงปลากัด

ปลากัดเป็นหนึ่งในปลาสวยงามที่เลี้ยงง่าย มือใหม่ก็สามารถหาปลาชนิดนี้มาเลี้ยงกันได้ เพียงแต่จะมีวิธีเลี้ยงปลากัดมือใหม่ซึ่งแตกต่างจากการเลี้ยงปลาทั่วไปอยู่บ้าง เนื่องจากนิสัยปลากัดค่อนข้างมีความก้าวร้าว หากอยู่รวมกันหรือเลี้ยงร่วมกับปลาชนิดอื่นก็จะทำให้ปลาเหล่านั้นได้รับอันตรายจากการเลี้ยงปลากัดได้ ดังนั้นการเตรียมสิ่งที่จำเป็นในการเลี้ยงปลากัดเอาไว้ให้พร้อมกับจำนวนของปลาก็จะเหมาะสมมากกว่า ดังนี้

  • ที่อยู่อาศัย

อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วว่าพฤติกรรมปลากัดนั้นไม่ควรเลี้ยงรวมกัน หรือนำไปเลี้ยงร่วมกับปลาชนิดอื่น ดังนั้นการเตรียมตู้หรือโหลสำหรับเป็นที่อยู่อาศัยให้กับปลากัด จึงต้องเตรียมเอาไว้ให้ครบตามจำนวนของปลาที่จะเลี้ยง ซึ่งทุกคนก็สามารถเลือกเป็นโหลแก้วขนาดเล็กก่อนได้ เนื่องจากพวกมันสามารถใช้ชีวิตโดยไม่ต้องใช้พื้นที่มากมายนัก จากนั้นจึงค่อยๆ เพิ่มขนาดตามการเติบโตของปลาในภายหลังก็ได้

  • อุปกรณ์สำหรับเลี้ยงปลากัด

สำหรับอุปกรณ์เพิ่มเติมในการเลี้ยงปลากัด อาจจะไม่จำเป็นต้องเตรียมอะไรให้มากมายเหมือนกับการเลี้ยงปลาสวยงามชนิดอื่น เพราะพวกมันไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องทำออกซิเจน ดังนั้นใครที่เลี้ยงปลาชนิดนี้ก็ให้ทำการเตรียมโหลในรูปแบบต่าๆ เอาไว้แทน เพื่อช่วยในการเคลื่อนไหว ฝึกการว่ายน้ำ

หากใครที่เลี้ยงปลาจำนวนมากและวางโหลเอาไว้ติดๆ กัน ก็ให้หากระดาษหรืออะไรมาบังเอาไว้ เพื่อป้องกันปลากัดว่ายชนโหลแก้วหรือเกิดภาวะอารมณ์ไม่คงที่ได้ นอกจากนั้นก็ให้จัดเตรียมอุปกรณ์ทำความสะอาดทั่วไปเอาไว้ก็เพียงพอแล้ว

  • ของเล่นหรือของตกแต่ง

การจัดเตรียมของแตกแต่งเพื่อทำให้ตู้ปลากัดมีความสวยงาม และเป็นของเล่นปลากัดช่วยคลายเหงาได้นั้นก็มีอยู่หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นกรวด หินทราย ขอนไม้ หรือไม้น้ำชนิดต่างๆ โดยให้พิจารณาความเหมาะสมตามขนาดของตู้ปลาที่ใช้ ไม่ควรใส่ให้มีความรกเกินไป เพราะจะไปขัดขวางการว่ายน้ำของปลา ทั้งยังทำความสะอาดได้ยากด้วย

ค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงปลากัด

ปัญหาสุขภาพที่พบบ่อยในปลากัด

ถึงแม้ว่าการเลี้ยงปลากัดในโหลแก้วแบบแยกเดี่ยวๆ อาจจะดูเหมือนว่ามีความเสี่ยงในเรื่องของปัญหาสุขภาพปลากัดที่น้อยกว่าการเลี้ยงแบบรวมกัน เพราะไม่ต้องกลัวว่าปลาจะส่งต่อเชื้อหรือความเสี่ยงต่อการเกิดโรคไปหากัน แต่ถึงอย่างนั้นโรคของปลากัดที่เกิดได้จากปัจจัยรอบข้างไม่ว่าจะเป็นเรื่องความสะอาดของน้ำ ปรสิต หรือเชื้อแบคทีเรีย โดยโรคที่พบได้บ่อยก็ได้แก่

  • โรคเชื้อรา
  • โรคปากดำ
  • โรคปากเปื่อย
  • โรคไฟลามทุ่ง
  • โรคท้องมาน
  • โรคหางและครีบเปื่อย
  • โรคสนิม
ความรับผิดชอบในการเลี้ยงปลากัด

ความรับผิดชอบในการเลี้ยงปลากัด

สำหรับหัวข้อสุดท้ายเหล่ามือใหม่ซึ่งอยากจะเลี้ยงปลากัดต้องทำความเข้าใจ ก็คือความรับผิดชอบในการเลี้ยงปลากัดไม่ว่าจะเป็นเรื่องของอายุหรืออาหารที่ต้องให้ความสำคัญ เนื่องจากอายุขัยของปลากัดจะอยู่ประมาณ 2 – 5 ปี และปลากัดในแต่ละช่วงวัยก็จะมีความเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาสุขภาพปลากัดที่ต่างกันออกไป ดังนั้นจึงควรสังเกตและดูแลอย่างใกล้ชิด

ส่วนเรื่องของอาหารหากเป็นลูกปลากัดที่เกิดใหม่ในช่วง 3 – 4 วันแรกจะยังไม่ต้องให้อาหาร โดยจะเริ่มให้อาหารปลากัดครั้งแรกเมื่อลูกปลามีอายุประมาณ 5 วัน ซึ่งสามารถให้เป็นอาหารสำเร็จรูปหรือไรแดงขนาดเล็กได้ จากนั้นเมื่อปลาเติบโตเต็มที่ (ประมาณช่วงอายุ 4 เดือน) ปลาก็จะเริ่มไม่ชอบกินอาหารเม็ดแล้ว ให้เปลี่ยนมาเลี้ยงด้วยลูกน้ำ ไรแดง หนอนแดง หรือไส้เดือนดินได้

บทส่งท้าย

ปลากัดเป็นอีกหนึ่งปลาสวยงามขนาดเล็กซึ่งเป็นที่นิยม ไม่ว่าจะด้วยสีสันหรือครีบหางที่พลิ้วไหว เมื่อว่ายไปมาอยู่ในตู้ปลาแล้วยิ่งทำให้เสน่ห์ของปลาชนิดนี้เพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าตัว โดยสิ่งสำคัญที่เหล่านักเลี้ยงปลาควรรู้คือ หากเป็นไปได้การเลี้ยงปลากัดแบบแยกเดี่ยวๆ จะเป็นการดีต่อปลาชนิดนี้มากกว่า นอกจากนั้นก็ยังต้องให้ความสำคัญเรื่องความสะอาดของน้ำที่เป็นปัจจัยสำคัญซึ่งส่งผลต่อสุขภาพของปลาอีกด้วย

ขอขอบคุณคลิปจาก HAHAWOW An

อ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่ animal2you.com

7 ปลาสวยงาม น่าเลี้ยง มีสายพันธุ์อะไรบ้าง มาดูกันเลย

Categories
สัตว์น้ำ

อยากเลี้ยง ปลาสอด ต้องดูแลยังไง ใช้อุปกรณ์อะไรบ้าง เตรียมจดได้เลย!

ใครที่กำลังมองหาปลาสวยงามขนาดเล็กซึ่งเลี้ยงได้ในบ้าน หอพัก หรือคอนโดก็คงจะพลาดไม่ได้กับการลองหา ปลาสอด น่ารักๆ มาเลี้ยงกัน เนื่องจากปลาเจ้าของดวงตากลมโต หน้าตาจิ้มลิ้มเหล่านี้มีขนาดความยาวโดยเฉลี่ยแค่ 10 – 15 เซนติเมตรเท่านั้น ทั้งยังเลี้ยงง่าย สามารถเลี้ยงรวมกับปลาชนิดอื่นๆ ได้ไม่ต้องแยกตู้ (ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์และนิสัยปลาสอด) ซึ่งใครที่อยากลองเลี้ยงปลาชนิดนี้ เราก็ได้รวบรวมเอาวิธีเลี้ยงปลาสอดมือใหม่พร้อมบอกสิ่งที่จำเป็นในการเลี้ยงปลาสอดมาให้แล้ว แบบจัดเต็มกันเลยทีเดียว

ความต้องการพื้นฐานของ ปลาสอด

ความต้องการพื้นฐานของปลาสอด

ด้วยความที่ความต้องการทางสังคมของ ปลาสอด มักจะอยู่รวมกันเป็นฝูง ดังนั้นหากหาเพื่อนมาเลี้ยงเอาไว้ด้วยกันได้ก็จะดูสวยงามและช่วยคลายเหงาได้ดี แต่พวกมันก็มักจะมีทำร้ายหรือทะเลาะกันเองอยู่บ่อยๆ ผู้ที่เลี้ยงปลาสอดจึงควรสังเกตพฤติกรรมปลาสอด และไม่ควรเลี้ยงปลาสอดให้แออัดจนเกินไป ตลอดจนไม่รวมปลาที่อ่อนแอกว่าเอาไว้ในฝูง เพราะอาจทำให้เกิดอันตรายอย่างการโดนกัด จนเกิดเป็นปัญหาสุขภาพปลาสอดในภายหลังตามมาได้

สิ่งที่ต้องเตรียมก่อนเลี้ยง ปลาสอด

สิ่งที่ต้องเตรียมก่อนเลี้ยงปลาสอด

สำหรับใครที่อยากจะเริ่มเลี้ยงปลาสอดในบ้าน การจัดเตรียมความพร้อมของสถานที่ในการเลี้ยง รวมถึงอุปกรณ์จำเป็นต่างๆ เอาไว้ ก็จะช่วยให้ผู้เลี้ยงไม่ต้องพบเจอกับปัญหาหนักใจเมื่อรับเอาพวกมันกลับมาเลี้ยงแล้ว ทั้งยังช่วยให้เหล่าปลาสามารถปรับตัวได้เร็ว มีความพร้อมในการใช้ชีวิตกับที่อยู่ใหม่ได้ดีมากยิ่งขึ้นอีกด้วย ซึ่งสิ่งที่จำเป็นในการเลี้ยงปลาสอดก็จะมีอยู่หลายอย่าง ดังนี้

  • ที่อยู่อาศัย

อาจจะเป็นเรื่องยากสำหรับมือใหม่ที่จะเลือกขนาดของตู้ปลาที่อยากจะเอามาวางไว้ในมุมใดมุมหนึ่งของบ้านหรือห้อง เพราะไม่รู้ว่ามันจะมีความพอดีกับจำนวนปลาสอดที่นำมาเลี้ยงหรือไม่ ซึ่งเราก็แนะนำว่าให้เลือกขนาดหรือรูปแบบของตู้ปลาตามความสะดวกของพื้นที่ก่อน จากนั้นค่อยเลือกว่าจะเลี้ยงปลาสอดกี่ตัว แต่ถ้าใครมีพื้นที่มากหรืออยากเลี้ยงเอาไว้ในบ่อนอกบ้านก็สามารถเลี้ยงรวมเป็นฝูง และระวังบริเวณที่มีแสงแดดจัดเกินไปเท่านั้นก็พอ

  • อุปกรณ์สำหรับเลี้ยงปลาสอด

ในส่วนของอุปกรณ์รวมถึงสิ่งที่จำเป็นในการเลี้ยงปลาสอดเพิ่มเติม ที่ทุกคนจะจะมีติดบ้านเอาไว้หากอยากจะเลี้ยงปลาชนิดนี้กันก็คือตู้ปลา ยิ่งถ้าใครเลี้ยงปลาสอดเอาไว้จำนวนมาก ก็ควรจะมีตู้เล็กๆ สำรองเอาไว้ในกรณีที่ปลาตัวนั้นเกิดความผิดปกติ หรือปลาสอดเกิดออกลูกออกหลานจนแน่นเกินไป จะได้ทำการแยกพวกมันออกจากกันก่อนที่จะทำร้ายกันเองก่อน นอกจากนั้นก็ยังมีเครื่องกรองน้ำ อุปกรณ์ทำความสะอาด หรือเครื่องทำออกซิเจน เป็นต้น

  • ของเล่นหรือของตกแต่ง

การตกแต่งตู้ปลาหรือจัดเตรียมของเล่นปลาสอดนั้นก็ไม่ได้มีอะไรยุ่งยากมากมาย ซึ่งจะแต่งมากแต่งน้อยก็ให้พิจารณาจากพื้นที่ภายในตู้ปลา ไม่ควรยัดสิ่งของตกแต่งลงไปจนแน่นตู้ เพราะอาจส่งอันตรายต่อปลาได้ โดยทุกคนสามารถเลือกเติมพวกหิน กรวด หรือไม้น้ำลงไปในตู้ เพื่อให้มีความคล้ายคลึงกับแหล่งน้ำธรรมชาติ รวมถึงใช้เป็นที่หลบซ่อนของปลาสอดได้ด้วย

ค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงปลาสอด

ค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงปลาสอด

เรียกได้ว่าเป็นทางเลือกที่ประหยัดมากสำหรับนักเลี้ยงปลามือใหม่ ซึ่งต้องการลองเลี้ยงปลาสวยงามเพื่อเติมสีสันให้กับบรรยากาศที่แสนน่าเบื่อ เพราะปลาสอดมีราคาที่ถูกมากหากเทียบกับปลาสวยงามหลายๆ สายพันธุ์ แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์รวมถึงแหล่งจำหน่ายเองด้วย ยิ่งถ้าใครมีอุปกรณ์เลี้ยงปลาอยู่แล้วก็ยิ่งแบ่งเบาค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงปลาสอดไปได้เยอะ จะมีก็แต่ค่าใช้จ่ายรายเดือนอย่างค่าอาหาร ค่าไฟ หรือค่าเสื่อมสภาพของอุปกรณ์ต่างๆ ซึ่งรวมแล้วก็ไม่เกินหลักร้อยบาทต่อเดือนเท่านั้นเอง

ปัญหาสุขภาพที่พบบ่อยในปลาสอด

ปัญหาสุขภาพที่พบบ่อยในปลาสอด

การเลี้ยงปลาไม่ว่าจะชนิดไหนก็ตาม ย่อมต้องตามมาด้วยปัญหาสุขภาพรวมถึงโรคของปลาสอดที่เป็นอันตรายและบางครั้งก็หลีกเลี่ยงได้ยาก แต่การศึกษาเอาไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ จะช่วยให้ทุกคนสามารถสังเกตความผิดปกติ รวมถึงหาทางแก้ไขปัญหาได้อย่างทันท่วงที ซึ่งโรคที่พบบ่อยในปลาสอดก็จะมีอยู่หลากหลาย เช่นโรคตัวเปื่อยที่เกิดมาจากปรสิตชนิดหนึ่ง หากปลาสอดป่วยจะเริ่มซึม เกล็ดหลุด มีเลือดออก เนื้อตาย และติดเชื้อจนเสียชีวิตได้ในที่สุดนั่นเอง

ความรับผิดชอบในการเลี้ยงปลาสอด

ความรับผิดชอบในการเลี้ยงปลาสอด

อายุขัยของปลาสอดเฉลี่ยแล้วจะอยู่ที่ประมาณ 3 – 5 ปี เพราะฉะนั้นวงจรชีวิตของมันจึงไม่ได้ทำให้ผู้เลี้ยงต้องแบกรับภาระที่ยาวนานเกินจะรับไหว แต่เนื่องจากปลาชนิดนี้สามารถขยายพันธุ์ได้รวดเร็วและเพิ่มจำนวนได้ง่าย ดังนั้นใครที่เลี้ยงปลาสอดไปนานๆ แล้วเริ่มรู้สึกว่ามันมีจำนวนที่มากเกินกำลัง ก็ให้ค่อยๆ จับแยกตัวผู้และตัวเมียออกจากกันเพื่อคุมปริมาณ

โดยอีกหนึ่งความรับผิดชอบในการเลี้ยงปลาสอดสำคัญก็คือเรื่องของอาหาร โดยสามารถเลือกเป็นอาหารปลาสอดแบบสำเร็จรูป ซึ่งมีสารอาหารและการบำรุงเฉพาะเจาะจงตามสูตรที่ได้มีการจัดเตรียมเอาไว้ หรือจะให้ควบคู่กับอาหารตามธรรมชาติอย่างพวกไรแดง ลูกน้ำ หนอนแดง ตะไคร่น้ำ หรือสาหร่ายน้ำก็ได้เช่นกัน

บทส่งท้าย

เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในปลาสวยงามขนาดเล็ก ที่เมื่อนำมาเลี้ยงรวมกันเป็นฝูงแล้วช่วยเพิ่มความมีชีวิตชีวาได้เป็นอย่างดี แต่ก็จะต้องมีการระมัดระวังเรื่องการเลี้ยงรวมกันแน่นเกินไป เพราะอาจะทำให้ปลาเกิดการทำร้ายกันเองได้ด้วย ซึ่งสิ่งจำเป็นในการเลี้ยงปลาชนิดนี้ก็ไม่ได้ต่างกับการเลี้ยงปลาชนิดอื่น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องตู้ปลา อาหาร ความสะอาด หรืออุปกรณ์จำเป็นที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้การเลี้ยงปลาง่ายมากขึ้น

ขอขอบคุณคลิปจาก คุณพ่อจอย Papa Joy

อ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่ animal2you.com

7 ปลาสวยงาม น่าเลี้ยง มีสายพันธุ์อะไรบ้าง มาดูกันเลย

Categories
สัตว์น้ำ

วิธีการเลี้ยงและวิธีดูแล ปลาทอง สำหรับมือใหม่ ต้องทำยังไงบ้าง

ปลาสวยงามน่ารัก สีสันสดใส รูปร่างอ้วนกลมที่ทำให้คนมองรู้สึกใจฟูอย่าง ปลาทอง เป็นหนึ่งในตัวเลือกยอดฮิตสำหรับมือใหม่ที่อยากจะเลี้ยงปลากันเลยทีเดียว เพราะมันเป็นปลาที่หาซื้อได้ทั่วไป แถมยังเลี้ยงง่าย ทั้งยังมีความหมายมงคลตามหลักความเชื่อที่ว่าด้วยความร่ำรวยเงินทอง ความอุมดมสมบูรณ์ ไม่ขัดสนนั่นเอง ซึ่งวิธีเลี้ยงปลาทองมือใหม่จะง่ายจริงไหม และต้องมีอะไรที่ควรจัดเตรียมเอาไว้บ้าง ตามมาหาคำตอบไปด้วยกันได้เลย

ความต้องการพื้นฐานของ ปลาทอง

ความต้องการพื้นฐานของปลาทอง

ปลาทอง หรือ Goldfish เป็นปลาที่มีถิ่นกำเนิดอยู่ในประเทศจีน ซึ่งก็ไม่ไกลจากบ้านเรามากนัก ดังนั้นสภาพแวดล้อมรวมถึงการปรับตัวจึงเป็นประโยชน์กับการเลี้ยงปลาทองในบ้านเรา ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วการเลี้ยงปลาชนิดนี้ก็มักจะต้องเลือกที่อยู่อาศัยให้มีความเหมาะสมกับขนาดของปลา มีการติดตั้งอุปกรณ์ทำออกซิเจน หลีกเลี่ยงการใช้น้ำที่มีคลอรีน ทั้งยังต้องรักษาอุณหภูมิของน้ำไม่ให้สูงหรือต่ำเกินไป เพราะมันจะส่งผลต่อปัญหาสุขภาพปลาทองนั่นเอง

สิ่งที่ต้องเตรียมก่อนเลี้ยง ปลาทอง

สิ่งที่ต้องเตรียมก่อนเลี้ยงปลาทอง

การเลี้ยงปลาทองเป็นสิ่งที่จะว่าง่ายก็ง่าย จะว่ายากก็ยาก เนื่องจากมันมีสิ่งที่เราทุกคนจะต้องให้ความสำคัญและจัดเตรียมเอาไว้ให้พร้อมอยู่พอสมควร โดยเฉพาะเรื่องของน้ำตลอดจนที่อยู่อาศัยเพราะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะชี้วัดได้เลยว่าปลาทองของเราจะรอดหรือไม่นั่นเอง ซึ่งใครที่อยากรู้ว่าเลี้ยงปลาทองเตรียมอะไรบ้างตามอ่านกันด้านล่างนี้ได้เลย

  • ที่อยู่อาศัย

สิ่งที่จำเป็นในการเลี้ยงปลาทองในข้อแรกก็คือ ‘ที่อยู่อาศัย’ ซึ่งโดยปกติแล้วมือใหม่ก็มักจะเลือกเลี้ยงปลาชนิดนี้กันในโหลใสทรงกลม เพราะมีรูปทรงสวยงาม น่ารัก ทั้งยังไม่เปลืองพื้นที่มากนัก แต่สำหรับปลาทองบางสายพันธุ์ที่เติบโตเร็ว และมีขนาดใหญ่มากก็ควรเลือกเลี้ยงในตู้ปลาไปเลยก็จะดีกว่า ที่สำคัญคือไม่ควรเลี้ยงปลาทองให้แออัดในตู้เดียวกันมากเกินไป เพราะอาจจะทำให้ปลาเครียดและป่วยตายได้

  • อุปกรณ์สำหรับเลี้ยงปลาทอง

อุปกรณ์สำหรับวิธีเลี้ยงปลาทองมือใหม่ ที่ช่วยให้ทุกคนอุ่นใจได้ว่าปลาทองจะไม่หงายท้องตายไปก่อนก็คืออุปกรณ์ทำออกซิเจนนั่นเอง ถึงแม้ว่าบางคนจะสามารถเลี้ยงปลาชนิดนี้แบบธรรมชาติได้ แต่เพื่อความชัวร์ทั้งยังลดปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้น คู่มือการเลี้ยงปลาทองอย่างการติดตั้งอุปกรณ์เพิ่มออกซิเจน รวมถึงระบบกรองน้ำก็ถือว่ามีความจำเป็นไม่น้อย

  • ของเล่นหรือของตกแต่ง

การตกแต่งตู้ปลาทองส่วนใหญ่แล้วจะเน้นไปที่ความสวยงามเป็นหลัก ต้องระมัดระวังไม่เลือกวัสดุตกแต่งที่มีความคม เพราะอาจจะทำให้ปลาเกิดบาดแผลและติดเชื้อไปกันใหญ่ได้ โดยของที่นำมาตกแต่งในตู้ก็มีอยู่หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นกรวด ก้อนหิน หรือขอนไม้ ซึ่งจะต้องมีการทำความสะอาดให้ดีก่อนนำเข้าไปในตู้ทุกครั้ง

ค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงปลาทอง

ค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงปลาทอง

มาถึงค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงปลาทองเพื่อความสวยงามกันบ้าง ซึ่งต้องบอกเลยว่านอกจากค่าอุปกรณ์แรกเริ่ม รวมถึงค่าไฟจากเครื่องทำออกซิเจนที่ต้องเปิดอยู่ตลอด 24 ชั่วโมงแล้ว ค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงปลาชนิดนี้ก็ไม่ได้สูงมากนัก เหมาะกับเหล่ามือใหม่ที่อยากจะลองเลี้ยงปลาสวยงามแต่ไม่ได้มีเงินทุนเยอะ เพราะปลาทองในสมัยนี้ก็มีให้ซื้อได้ตั้งแต่หลักสิบบาท บวกกับค่าอาหารในแต่ละเดือนแล้วก็ไม่เกินหลักร้อยแน่นอน

ปัญหาสุขภาพที่พบบ่อยในปลาทอง

ปัญหาสุขภาพที่พบบ่อยในปลาทอง

ถึงแม้ว่าปลาทองจะเป็นปลาสวยงามที่เลี้ยงง่ายและได้รับความนิยมในกลุ่มมือใหม่นักเลี้ยงปลา แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีคนจำนวนไม่น้อยเลยที่ต้องพบเจอกับความสูญเสีย เนื่องจากปัญหาสุขภาพปลาทองที่ทำให้พวกมันป่วยตายไปอย่างน่าเสียดาย ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันและหาทางรับมือให้ทันท่วงที เราจะพาทุกคนไปเรียนรู้กันว่าโรคของปลาทองที่พบได้บ่อยมีอะไรบ้าง เช่น

  • โรคครีบเปื่อยเกิดจากเชื้อราหรือเชื้อแบคทีเรีย หรือน้ำสกปรกที่มีการปนเปื้อนของเชื้อดังกล่าว
  • โรคเห็บที่เกิดจากเชื้อ  Argulus sp. ลักษณะอาการจะมีเม็ดเล็กๆ เกาะอยู่ตามตัว
  • โรคหนอนสมอ เป็นโรคที่พบได้บ่อยในปลาน้ำจืดทั่วไป หากปลาทองป่วยจะมีอาการซึม ไม่อยากอาหาร
ความรับผิดชอบในการเลี้ยงปลาทอง

ความรับผิดชอบในการเลี้ยงปลาทอง

การเลี้ยงปลาทองให้ถูกต้องตามวิธีเลี้ยงปลาทองมือใหม่ และเพื่อให้เหล่าปลาทองน่ารักของทุกคนมีสุขภาพร่างกายและจิตใจที่ดี นอกจากจะต้องหมั่นรักษาความสะอาดของน้ำที่ใช้ มีการติดตั้งอุปกรณ์เพื่ออำนวยความสะดวกอื่นๆ แล้ว ก็ยังจะต้องมีความรับผิดชอบในการเลี้ยงปลาทองอย่างเรื่องการกินเป็นพิเศษอีกด้วยโดยอาหารปลาทองที่คนส่วนใหญ่นิยมเลือกใช้ ก็จะแบ่งออกเป็นอาหารสำเร็จรูปและอาหารตามธรรมชาติ

อย่างพวกลูกน้ำ ไรแดง หนอนแดง หรือไส้เดือนน้ำ ซึ่งถ้าในระยะเริ่มต้นทุกคนยังไม่ได้มีประสบการณ์ในการเลือกอาหารมากนักก็ให้เลี้ยงด้วยอาหารสำเร็จรูปไปก่อน จากนั้นเมื่อปลาทองมีอายุมากขึ้นหรือตัวเราเองมีความรู้มากขึ้นก็ค่อยๆ ปรับเปลี่ยนอาหารไปตามความเหมาะสม โดยอายุขัยของปลาทองก็เรียกได้ว่ายืนยาวสุดๆ เพราะหากเลี้ยงพวกมันให้ดีแล้วก็สามารถมีอายุได้ถึง 20 – 30 ปีเลยทีเดียว

บทส่งท้าย

ปลาสวยงามสีส้มสดใสที่มีอายุยืนยาวอย่างปลาทองนั้น เป็นปลาที่เลี้ยงให้เติบโตได้ง่าย แต่ก็จะต้องให้ความสำคัญในเรื่องของน้ำ อาหาร รวมถึงที่อยู่อาศัยเป็นอย่างดีด้วย โดยจะต้องจัดเตรียมให้พอดี ไม่อึดอัดจนเกินไป นอกจากนั้นมือใหม่ที่ยังไม่มีประสบการณ์การเลี้ยงปลาทองมากนัก ก็สามารถนำตัวช่วยอย่างเครื่องทำออกซิเจนมาใช้เพื่อเพิ่มโอกาสรอดของปลาได้ด้วยนั่นเอง

ขอขอบคุณคลิปจาก รักบ้านเกิด rakbankerd

อ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่ animal2you.com

7 ปลาสวยงาม น่าเลี้ยง มีสายพันธุ์อะไรบ้าง มาดูกันเลย

Categories
สัตว์น้ำ

แนะนำวิธีการเลี้ยงและดูแล ปลาคราฟ ที่เหล่ามือใหม่นำไปทำตามได้ง่ายๆ

ปลาคราฟ เป็นปลาสวยงามที่มีคุณค่าและได้รับความนิยมในกลุ่มผู้เลี้ยงปลาทั่วโลก ด้วยสีสันที่สดใส มีความสวยงามโดดเด่น ทั้งยังมีลวดลายที่แตกต่างเป็นเอกลักษณ์พิเศษเฉพาะตัว ยิ่งมีความแปลกหรือมีลวดลายที่คมชัดงดงาม รวมถึงมีความสมบูรณ์ของลำตัวมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีราคาแพงและเป็นที่ต้องการมากขึ้นเท่านั้น

โดยในสมัยนี้การเลี้ยงปลาคารฟในบ้านเริ่มเป็นที่นิยมในกลุ่มคนเลี้ยงปลาสวยงามทั่วไป และไม่ได้มีแค่กลุ่มคนมีเงินที่ซื้อปลาชนิดนี้ในราคาหลักหมื่นมาเลี้ยงกันเท่านั้น เพราะคนส่วนใหญ่ก็เริ่มหาซื้อพันธุ์ปลาในราคาที่จับต้องกันได้มากขึ้นแล้ว ไม่เหมือนในช่วงแรกๆ ที่การเพาะพันธุ์ปลาในประเทศยังมีข้อจำกัด เพราะฉะนั้นใครที่อยากจะลองเลี้ยงปลาคารฟ สุดยอดปลาสวยงามระดับตำนานกันดูบ้าง ก็ตามมาอ่านพร้อมกันได้เลยว่าจะมีวิธีเลี้ยงปลาคารฟมือใหม่อย่างไร รวมถึงมีสิ่งที่จำเป็นในการเลี้ยงปลาคารฟอะไรบ้างที่มือใหม่ควรรู้เอาไว้ เพื่อเป็นอีกหนึ่งข้อมูลในการเตรียมความพร้อมและช่วยในการตัดสินใจนั่นเอง

ความต้องการพื้นฐานของ ปลาคราฟ

ความต้องการพื้นฐานของปลาคราฟ

สำหรับใครที่มีความต้องการจะหาปลาคาฟมาเลี้ยง ต้องจำกันเอาไว้เลยว่าหากไม่อยากให้ปลาเกิดอาการป่วย หรือพบเจอกับปัญหาสุขภาพปลาคารฟแบบไม่จบไม่สิ้น ก็ไม่ควรเลี้ยงพวกมันรวมกับปลาชนิดอื่น เพราะอาจจะทำให้เกิดการติดเชื้อ ตลอดจนมีการรต่อโรคต่างๆ ถึงกันได้ง่าย

นอกจากนั้นความต้องการพื้นฐานที่จะต้องให้ความใส่ใจ ก็คือเรื่องของน้ำที่จะนำมาใช้เลี้ยงปลา โดยจะต้องเลือกน้ำที่มีความเป็นกลางและไม่มีการปนเปื้อนของเชื้อโรค ระมัดระวังการใช้น้ำจากแหล่งน้ำธรรมชาติที่อาจมาพร้อมกับปรสิต ดังนั้นการใช้น้ำประปาจึงเป็นวิธีเลี้ยงปลาคารฟมือใหม่ที่เหมาะสม ปลอดภัย แต่ก็จะต้องวางทิ้งเอาไว้สัก 2 – 3 วันก่อนนำมาใช้เพื่อลดค่าคลอรีนซึ่งเป็นอันตรายต่อปลา

สิ่งที่ต้องเตรียมก่อนเลี้ยง ปลาคราฟ

สิ่งที่ต้องเตรียมก่อนเลี้ยงปลาคารฟ

เมื่อเราทุกคนตัดสินใจเลือกพันธุ์ ปลาคราฟ ที่ถูกตาต้องใจได้แล้ว ก่อนนำพวกมันกลับมาที่บ้านก็ให้จัดการเตรียมสิ่งที่จำเป็นในการเลี้ยงปลาคราฟเอาไว้ให้พร้อม เพื่อเป็นการประเมินความสามารถในการเลี้ยง และป้องกันความสูญเสียที่จะเกิดขึ้นในระหว่างที่ปลากำลังเริ่มปรับตัวกับสถานที่ใหม่ ซึ่งถ้ามือใหม่อยากรู้ว่าการเลี้ยงปลาคราฟเตรียมอะไรบ้างถึงจะครบถ้วนก็สามารถจดข้อมูลเหล่านี้ไปปรับใช้ได้เลย

  • ที่อยู่อาศัย

สำหรับการจัดเตรียมที่อยู่อาศัยให้กับปลาคาร์ฟนั้นก็จะแบ่งออกเป็นสองลักษณะ นั่นก็คือการเลี้ยงปลาคราฟในบ่อและการเลี้ยงในตู้ปลาปกติทั่วไป ซึ่งการเลี้ยงปลาชนิดนี้ในบ่อก็จะต้องมีพื้นที่ในการเลี้ยง เนื่องจากต้องทำการขุดหรือสร้างบ่อขึ้นมา โดยสามารถเลือกใช้เป็นบ่อซีเมนต์แทนบ่อดิน เพราะมีความปลอดภัยและใกล้เคียงกับความเป็นธรรมชาติ เหมาะกับการเติบโตของเหล่าตะใคร่น้ำที่เป็นประโยชน์ต่อปลาคาร์ฟอีกด้วย

ในขณะที่การเลี้ยงปลาชนิดนี้ในตู้แบบกระจกทั่วไป ก็จะเหมาะสำหรับเหล่านักเลี้ยงปลาที่มีพื้นที่จำกัด หรือคนที่อยากเลี้ยงปลาคาร์ฟในบ้านสวยๆ เอาไว้มองกันเพลินๆ ได้จากในตัวบ้าน โดยจะต้องให้ความสำคัญกับขนาดของตู้ปลา จำนวนปลาที่เลี้ยง ระบบกรองน้ำ ความสะอาด รวมถึงแสงสว่างที่มีผลต่อการเจริญเติบโตของพวกมันด้วยนั่นเอง

  • อุปกรณ์สำหรับเลี้ยงปลาคราฟ

มาต่อกันที่เรื่องของอุปกรณ์สำหรับเลี้ยงปลาคราฟ ที่เรียกได้ว่าเป็นตัวชี้วัดการเจริญเติบโต และเปอร์เซ็นต์การมีชีวิตรอดของปลาคาร์ฟที่เลี้ยงได้เลยทีเดียว โดยสิ่งสำคัญซึ่งขาดไปไม่ได้ก็คือเครื่องทำออกซิเจนและระบบกรองน้ำ เพราะมันจะช่วยรักษาคุณภาพและความสะอาดของน้ำให้เหมาะกับการใช้ชีวิตของปลา รวมถึงอุปกรณ์อื่นๆ อย่างเครื่องดูดตะกอน อ่างพักสำรอง หรืออุปกรณ์สำหรับตรวจสอบความเป็นกรดหรือด่างของน้ำ เป็นต้น

  • ของเล่นหรือของตกแต่ง

ปลาคาร์ฟเป็นปลาที่ไม่ได้ต้องการของเล่นปลาคราฟหรือการตกแต่งอะไรที่มากมายนัก ดังนั้นทุกคนจึงสามารถวางแผนจัดแต่งตู้ปลาหรือบ่อปลาให้มีความคล้ายคลึงกับธรรมชาติทั่วไป หรือตกแต่งตามความชอบส่วนตัวได้เลย ซึ่งถ้าใครเลี้ยงปลาชนิดนี้ในตู้กระจกที่มีพื้นที่จำกัด ก็จะต้องระมัดระวัง ไม่ควรตกแต่งด้วยวัสดุที่เทอะทะ หรือใช้พืชน้ำที่มีขนาดใหญ่จนไปขัดขวางการว่ายน้ำของปลา

ค่าใช้จ่ายในการเลี้ยง ปลาคราฟ

ค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงปลาคราฟ

มือใหม่ที่อยากจะเลี้ยงปลาชนิดนี้ ต้องไม่ลืมประเมินค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงปลาปลาคราฟก่อนทุกครั้ง โดยค่าใช้จ่ายแรกเริ่มนอกจากการซื้อพันธุ์ปลาคาร์ฟก็คือการเตรียมที่อยู่อาศัย ซึ่งถ้าใครที่มีงบมากหน่อยก็อาจเลือกเป็นการขุดบ่อ ซึ่งจะเริ่มต้นตั้งแต่หลักพันไปจนถึงหลักหลายหมื่นบาท ขึ้นอยู่กับความลึกและขนาดของบ่อที่ต้องการ นอกจากนั้นก็จะต้องมีค่าติดตั้งอุปกรณ์ ค่าตกแต่งภูมิทัศน์ ทั้งยังต้องรับผิดชอบค่าอาหารปลาปลาคราฟ รวมถึงค่าไฟในแต่ละเดือนด้วย

ปัญหาสุขภาพที่พบบ่อยในปลาคาร์ฟ

ปัญหาสุขภาพที่พบบ่อยในปลาคราฟ

เมื่อได้ลองเลี้ยงปลาคราฟกันดูแล้ว ไม่ว่าราคาของมันจะถูกหรือแพง จะมีความสวยสมบูรณ์ล้ำค่าเหมือนปลาประกวดหรือไม่ก็ตาม เชื่อได้เลยว่าคนเลี้ยงต่างก็ต้องมีความรัก มีความรู้สึกผูกพัน และไม่อยากให้ปลาปลาคราฟป่วยกันอย่างแน่นอน เพราะฉะนั้นเพื่อเป็นการป้องกัน รวมทั้งเตรียมการรับมือกับปัญหาสุขภาพปลาคราฟที่พบได้บ่อยและเป็นอันตราย จึงจะต้องเฝ้าระวังโรคของปลาคราฟเหล่านี้เอาไว้ให้ดี เช่น

  • โรคที่เกิดจากปรสิตปลิงใส
  • โรคจากการติดเชื้อแบคทีเรีย
  • โรคเชื้อรา
  • อาการท้องผูก
  • โรคบวมน้ำ
  • วัณโรคปลา
  • โรคจุดขาว
  • โรคตาโปน
ความรับผิดชอบในการเลี้ยงปลาคาร์ฟ

ความรับผิดชอบในการเลี้ยงปลาคราฟ

สำหรับคนที่ชื่นชอบปลาคราฟและอยากจะเริ่มต้นเลี้ยงปลาสวยงามชนิดนี้กัน ควรทำความเข้าใจเลยว่าเมื่อเลี้ยงพวกมันแล้วจะต้องมาพร้อมกับความรับผิดชอบในการเลี้ยงปลาคราฟที่กินเวลายาวนานหลายสิบปี เนื่องจากอายุขัยของปลาคาร์ฟจะอยู่ที่ประมาณ 20 – 35 ปี แต่ก็จะมีปลาคราฟบางสายพันธุ์ที่อาจมีอายุยืนยาวในหลักร้อยปีได้เลย ดังนั้นใครที่มีเวลาดูแลไม่มากพอ หรือแบกรับภาระในส่วนนี้ไม่ไหวก็ควรจะต้องพิจารณากันให้ดีก่อน

โดยการเลี้ยงปลาคราฟให้มีความสมบูรณ์แข็งแรง นอกจากจะต้องใส่ใจเรื่องน้ำและความสะอาดแล้ว ก็จะต้องเลือกให้อาหารปลาคราฟที่มีคุณประโยชน์และสารอาหารครบถ้วน โดยสามารถเลือกเป็นอาหารสำเร็จรูป หรืออาหารสดจำพวกกุ้งบด สัตว์น้ำตัวเล็กๆ ลูกน้ำ หนอนแดง สาหร่าย ตะใคร่น้ำ แหน หรือพืชผักอื่นๆ ตามความเหมาะสมก็ได้

บทส่งท้าย

ถึงแม้ว่าปลาคราฟบางสายพันธุ์อาจมีราคาแพง แต่ในสมัยก็เรียกได้ว่ามีตัวเลือกให้กับคนที่อยากลองซื้อปลาชนิดนี้มาเลี้ยงกันมากขึ้นแล้ว ทำให้ความนิยมของการเลี้ยงปลาแพร่ขยายไปยังคนหลายกลุ่ม โดยวิธีการเลี้ยงปลาสำหรับผู้เริ่มต้นก็ต้องให้ความสำคัญกับน้ำ ต้องดูแลและสังเกตความผิดปกติของปลา รวมถึงติดตั้งอุปกรณ์ช่วยทำออกซิเจนและระบบกรองน้ำ ซึ่งอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับว่าทุกคนเลี้ยงปลาคราฟในบ่อหรือในตู้ปลาปกติทั่วไปนั่นเอง

ขอขอบคุณคลิปจาก Saranair Channel

อ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่ animal2you.com

7 ปลาสวยงาม น่าเลี้ยง มีสายพันธุ์อะไรบ้าง มาดูกันเลย

Categories
สัตว์น้ำ

เจาะลึกวิธีเลี้ยง ปลามังกร ปลาสวยงามที่มีความหมายมงคลต้องเริ่มต้นยังไง

ปลามังกร เรียกได้ว่าเป็นปลามงคลที่มีทั้งความสวยงาม มีราคาแพง และเป็นปลาที่ส่งเสริมดวงชะตา เพิ่มพูนโชคลาภ ช่วยในเรื่องของอำนาจบารมี เงินทองไหลมาเทมา จึงไม่แปลกที่จะเห็นคนจำนวนไม่น้อยเลือกเลี้ยงปลามังกรในบ้านกัน เพราะนอกจากมันจะเป็นสัตว์เลี้ยงคลายเหงาให้ได้แล้ว มันก็ยังทำให้บรรยากาศภายในบ้านดูน่าเกรงขาม มีพลังงานและความแข็งแกร่งได้เป็นอย่างดีอีกด้วย โดยลักษณะทั่วไปที่ทำให้ปลาชนิดนี้เป็นที่ชื่นชอบในหมู่คนเลี้ยงปลา ก็คือลำตัวที่ปราดเปรียว เรียวยาว มีหนวดและเกล็ดหนาเรียงตัวสวยงามเหมือนกับมังกร หน้าตาดุดัน รวมไปถึงความงดงามของเกล็ดที่สามารถพบได้หลายสี ไม่ว่าจะเป็นสีทอง สีแดง สีเหลือง หรือสีเงิน ซึ่งใครที่อยากจะลองเลี้ยงปลาชนิดนี้กันบ้าง ก็ต้องอ่านคู่มือการเลี้ยง ปลามังกร ที่เราได้รวบรวมมาให้ในบทความนี้กันเลย

ความต้องการพื้นฐานของปลามังกร

ความต้องการพื้นฐานของปลามังกร

เดิมทีปลามังกรเป็นปลาซึ่งมีถิ่นกำเนิดอยู่ในแหล่งน้ำที่จะต้องมีความสะอาด เพราะฉะนั้นการนำปลาชนิดนี้มาเลี้ยงเอาไว้ในตู้ จึงจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับการเปลี่ยนน้ำ โดยให้ทำการเปลี่ยนน้ำบางส่วนอยู่เสมอ เพื่อควบคุมอุณหภูมิและสภาพของน้ำก่อนที่จะทำการล้างตู้ปลาครั้งใหญ่ และต้องระมัดระวังไม่ใช้น้ำที่ปนเปื้อนคลอรีนกับปลามังกรโดยเด็ดขาด เพราะจะทำให้เกิดปัญหาสุขภาพปลามังกรได้

สิ่งที่ต้องเตรียมก่อนเลี้ยง ปลามังกร

สิ่งที่ต้องเตรียมก่อนเลี้ยงปลามังกร

หลังจากที่ทุกคนพอจะเลือกได้แล้วว่าอยากเลี้ยงปลามังกรสายพันธุ์ไหน ขั้นตอนต่อไปที่เหล่านักเลี้ยงปลาหน้าใหม่ต้องทำก็คือการจัดเตรียมสิ่งที่จำเป็นในการเลี้ยงปลามังกร โดยจะเริ่มตั้งแต่ที่อยู่อาศัย เรื่อยไปจนถึงอุปกรณ์จำเป็นเพื่อช่วยในการทุ่นแรง และช่วยอำนวยความสะดวกให้กับการดำรงชีวิตอยู่ในตู้ของปลามังกรนั่นเอง ซึ่งจะมีรายละเอียดอะไรบ้างตามมาอ่านพร้อมกันได้เลย

  • ที่อยู่อาศัย

ในส่วนแรกสุดที่ทุกคนจะต้องจัดเตรียมเอาไว้อย่างเหมาะสม เพื่อให้พวกมันสามารถใช้ชีวิตและเติบโตไปได้แบบมีความสุขและแข็งแรง ก็คือการจัดเตรียมอยู่อาศัยให้กับพวกมัน ซึ่งมือใหม่ที่ยังไม่เคยเลี้ยงปลาชนิดนี้มาก่อน ก็ให้เลือกเป็นตู้ปลาแบบกระจกใสทั่วไปที่ค่อนข้างมีขนาดใหญ่ จะได้ไม่ต้องเปลี่ยนตู้ปลากันบ่อยๆ เนื่องจากปลามังกรเป็นปลาสวยงามที่โตเร็ว และอาจจะมีขนาดใหญ่มากกว่าปลาทั่วไปที่เคยเลี้ยงมา

นอกจากนั้นด้วยลักษณะนิสัยปลามังกร รวมถึงพฤติกรรมปลามังกรที่ค่อนข้างขี้กลัว ขี้ตกใจ ดุร้าย และหวงถิ่นเป็นอย่างมาก ดังนั้นความต้องการทางสังคมของปลามังกรจึงไม่ได้ต้องการเพื่อนร่วมตู้มากเท่าไหร่ หากจะเลี้ยงปลาชนิดนี้รวมกับปลาตัวอื่นๆ ก็จะต้องคิดให้ดี ประเมินสถานการณ์ให้แม่นยำ หากไม่มั่นใจจริงๆ ก็ให้จัดเตรียมตู้ปลาแยกไปเลยก็จะอุ่นใจมากกว่าว่าปลาตัวอื่นจะไม่ได้รับอันตรายจากการเลี้ยงปลามังกรนั่นเอง

  • อุปกรณ์สำหรับเลี้ยงปลามังกร

เมื่อจัดเตรียมที่อยู่อาศัยของปลามังกรพร้อมแล้ว ในขั้นตอนต่อไปก็คือการจัดเตรียมอุปกรณ์อื่นๆ ที่จำเป็นต่อการเลี้ยงปลามังกร ซึ่งก็จะมีอยู่หลายอย่างด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นการติดตั้งระบบกรองน้ำเพื่อรักษาคุณภาพและความสะอาดของน้ำภายในตู้ จัดเตรียมตู้หรือถังพักน้ำสำรองเอาไว้ในกรณีที่ต้องเปลี่ยนถ่ายน้ำหรือปลาแบบฉุกเฉิน รวมถึงการติดตั้งอุปกรณ์ตรวจวัดอุณหภูมิเพื่อรักษาความคงที่ของอุณหภูมิน้ำภายในตู้ เป็นต้น

  • ของเล่นหรือของตกแต่ง

สำหรับการจัดตกแต่งหรือหาของประดับมาเพื่อเป็นของเล่นปลามังกร และสร้างความบันเทิงใจให้กับเหล่าปลามังกรน่ารักของเรากันบ้าง ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วการจัดภูมิทัศน์ภายในตู้ปลาก็จะสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามไอเดียของแต่ละคน โดยนิยมเลือกใช้เป็นหิน ขอนไม้ หรือไม้น้ำทั่วไป แต่จะต้องจัดวางโดยเหลือพื้นที่ให้ปลาได้ว่ายน้ำเล่นแบบไม่อึดอัดด้วย

ค่าใช้จ่ายในการเลี้ยง ปลามังกร

ค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงปลามังกร

ราคาค่าตัวของปลาชนิดนี้นั้นค่อนข้างจะมีราคาแพง เนื่องจากพวกมันเป็นปลาที่เรียกได้ว่าค่อนข้างหายากไปบ้าง ทั้งยังมีเปอร์เซ็นต์การขยายพันธุ์ที่ยังน้อยหากเทียบกับปลาสวยงามชนิดอื่นๆ ที่สำคัญยิ่งพวกมันมีอายุมากเท่าไหร่ ราคาก็ยิ่งพุ่งสูงขึ้นไปเท่านั้น แต่สำหรับใครที่มีงบน้อยและอยากจะลองเลี้ยงจริงๆ ก็ให้เลือกเป็นปลามังกรอะโรวานาสีเงิน (Silver Arowana) ที่มีราคาไม่แพงมาก เพื่อลดต้นทุนและค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงปลามังกรก็ได้ ซึ่งหลังจากจ่ายค่าตัวของปลาที่อยากเลี้ยงกันไปแล้ว ทุกคนก็จะต้องแบ่งเงินเอาไว้ใช้สำหรับการจัดเตรียมตู้ปลา ทำการติดตั้งระบบกรองน้ำและติดตั้งอุปกรณ์ที่จำเป็นอีกหลายขั้นตอน รวมถึงการจัดเตรียมอาหารหลัก อาหารเสริม ตลอดจนค่ายารักษาโรคต่างๆ ในกรณีที่เกิดความผิดปกติกับปลาหรือตรวจพบโรคของปลามังกรด้วย

ปัญหาสุขภาพที่พบบ่อยใน ปลามังกร

ปัญหาสุขภาพที่พบบ่อยในปลามังกร

คงจะไม่ดีแน่ถ้าเราทุกคนจัดเตรียมสิ่งที่จำเป็นในการเลี้ยงปลามังกรเอาไว้พร้อมแล้ว แถมยังเลือกสายพันธุ์ปลามังกรที่ต้องการเลี้ยงมาอย่างดีที่สุด แต่ดันมาเจอความผิดปกติจากปัญหาสุขภาพปลามังกร ซึ่งเป็นอันตรายต่อปลาของเราเป็นอย่างมาก เพราะฉะนั้นมือใหม่ที่อยากจะเลี้ยงปลาชนิดนี้ให้รอดปลอดภัย ควรทำความเข้าใจและหมั่นสังเกตความเสี่ยงของโรคของปลามังกรที่พบได้บ่อยเหล่านี้กันเอาไว้ด้วย เช่น

  • โรคเหงือก
  • โรคเกล็ดพอง
  • ติดเชื้อจากอาหาร โดยเฉพาะอาหารสด
  • ป่วยจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ
  • โรคแผลอักเสบ
  • โรคเชื้อรา
  • โรคจุดขาว
ความรับผิดชอบในการเลี้ยงปลามังกร

ความรับผิดชอบในการเลี้ยงปลามังกร

มาถึงขั้นตอนสุดท้ายสำหรับคนอยากเลี้ยงปลามังกรกันแล้ว ซึ่งเป็นความรับผิดชอบในการเลี้ยงปลามังกร ที่เรียกว่าเหล่าคนเลี้ยงปลาจะต้องให้ความสำคัญไปตลอดอายุของปลา แบ่งออกเป็นเรื่องการดูแลคุณภาพชีวิตและอาหารปลามังกร โดยจะต้องมีการปรับให้มีความเหมาะสม เพียงพอ และครบถ้วนตามคู่มือการเลี้ยงปลามังกรในแต่ละช่วงวัย

โดยอาหารที่เหมาะกับปลามังกรก็จะเป็นสัตว์น้ำจำพวกปลาขนาดเล็ก ลูกน้ำ กุ้งฝอย หรืออาหารสำเร็จรูปทั่วไป โดยจะต้องให้วันละ 2 มื้อโดยประมาณ และต้องมีการปรับปริมาณอาหารที่เลี้ยงโดยสังเกตจากพฤติกรรมและความต้องการของปลาแต่ละตัว ซึ่งถ้าเลี้ยงและดูแลกันดีๆ แล้ว อายุขัยของปลามังกรก็อาจจะยืนยาวได้มากถึง 20 ปีเลยทีเดียว

บทส่งท้าย

เป็นปลาสวยงามขนาดใหญ่ที่ได้รับความนิยม เนื่องจากความสวยงามของเกล็ด สี และรูปทรงที่เรียวยาว ดูมีความปราดเปรียว ทั้งยังมีความหมายมงคลช่วยเสริมอำนาจบารมีให้คนเลี้ยงได้ด้วย ซึ่งปัจจัยสำคัญที่คนเลี้ยงปลาชนิดนี้ต้องให้ความสำคัญก็คือเรื่องความสะอาดของน้ำที่ใช้เลี้ยงปลามังกร รวมถึงขนาดของปลาที่จะเติบโตได้เร็วกว่าปลาชนิดอื่นๆ นั่นเอง

ขอขอบคุณคลิปจาก Jame Channel

อ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่ animal2you.com

7 ปลาสวยงาม น่าเลี้ยง มีสายพันธุ์อะไรบ้าง มาดูกันเลย

Categories
สัตว์น้ำ

มือใหม่ควรรู้อะไรบ้างก่อนเลี้ยง ปลาการ์ตูน พร้อมแนะนำอุปกรณ์จำเป็นในการเลี้ยงปลา

ปลาสวยงามตัวเล็กน่ารักซึ่งเป็นขวัญใจของเหล่าเด็กๆ และคนรักปลาสวยงามอย่าง ปลาการ์ตูน ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปีพวกมันก็ยังคงเป็นปลาที่ผู้คนชื่นชอบ จนทำให้ใครหลายคนอยากจะลองเลี้ยงปลาการ์ตูนในบ้านกันบ้าง ด้วยสีสันที่สดใสและลวดลายอันเป็นเอกลักษณ์ รวมไปถึงความโด่งดังจากการ์ตูน Finding Nemo ที่ทำให้ปลาชนิดนี้ยิ่งถูกอกถูกใจ และได้รับความนิยมจากกลุ่มคนเลี้ยงปลาทั้งในไทยและทั่วโลกกันมากเข้าไปอีกด้วย แต่เนื่องจากตามธรรมชาติแล้วปลาชนิดนี้อาศัยอยู่ในน้ำทะเล ดังนั้นคู่มือการเลี้ยงปลาการ์ตูนสำหรับมือใหม่จึงต้องแตกต่างไปจากการเลี้ยงปลาน้ำจืดทั่วไปที่เคยเลี้ยงกันมาก่อน ทั้งยังต้องมีความรับผิดชอบในการเลี้ยงปลาการ์ตูนที่เพิ่มมากขึ้น มีสิ่งที่จำเป็นในการเลี้ยงปลาการ์ตูนที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้น ซึ่งจะมีอะไรบ้างตามมาอ่านที่ด้านล่างนี้ได้เลย

ความต้องการพื้นฐานของ ปลาการ์ตูน

ความต้องการพื้นฐานของปลาการ์ตูน

อย่างที่ได้เกริ่นไปแล้วว่าโดยธรรมชาติ ปลาการ์ตูน เป็นปลาที่อาศัยอยู่ในทะเล ดังนั้นความต้องการพื้นฐานของปลาชนิดนี้ซึ่งสำคัญมากที่สุด ก็คือการจัดเตรียมน้ำที่เหมาะกับการดำรงชีวิตของพวกมัน โดยสามารถเลือกใช้เป็นน้ำทะเลจากแหล่งน้ำธรรมชาติ (ต้องระมัดระวังเรื่องความสะอาดและสิ่งปนเปื้อน) หรือจะเลือกซื้อน้ำทะเลสังเคราะห์ที่มีขายทั่วไป และผ่านการเติมสารทั้งยังคำนวณคุณภาพน้ำมาให้เหมาะสมกับการเลี้ยงปลาการ์ตูนแล้วเพื่อความสะดวกก็ได้ ส่วนความต้องการอื่นๆ ก็จะเป็นเรื่องของอาหารปลาการ์ตูนและความสะอาดที่จะต้องเปลี่ยนน้ำอยู่เป็นประจำนั่นเอง

สิ่งที่ต้องเตรียมก่อนเลี้ยง ปลาการ์ตูน

สิ่งที่ต้องเตรียมก่อนเลี้ยงปลาการ์ตูน

สำหรับใครที่อ่านมาถึงตรงนี้แล้วสงสัยว่านอกจากการเตรียมน้ำที่มีความเหมาะสมต่อปลาการ์ตูนแล้ว นอกเหนือจากนั้นการเลี้ยงปลาการ์ตูนเตรียมอะไรบ้างที่จะช่วยให้ปลามีคุณภาพชีวิตที่ดี มีความสุข และอยู่รอดปลอดภัยไม่ต้องป่วยตายหรือเจอเข้ากับโรคของปลาการ์ตูนที่เป็นอันตรายไปก่อนบ้าง โดยเราจะแบ่งสิ่งที่ต้องเตรียมก่อนเลี้ยงปลาการ์ตูนออกเป็นด้านต่างๆ ดังนี้

  • ที่อยู่อาศัย

วิธีเลี้ยงปลาการ์ตูนมือใหม่ขั้นตอนแรกคือทุกคนจะต้องทำการจัดเตรียมที่อยู่อาศัยให้กับเจ้าปลาการ์ตูนน่ารักของเราก่อน โดยสามารถเลือกเป็นตู้กระจกหรือตูพลาสติกก็ได้ ขึ้นอยู่กับความสะดวกของผู้เลี้ยง ซึ่งข้อควรระวังในการจัดเตรียมตู้สำหรับเลี้ยงปลาการ์ตูนรวมกันจำนวนเยอะๆ ก็ต้องหมั่นสังเกตว่าพวกมันมีการทำร้ายกันเองหรือไล่กัดกันเองหรือไม่ เนื่องจากพฤติกรรมปลาการ์ตูนบางสายพันธุ์ก็ค่อนข้างหวงถิ่นและดุร้าย

  • อุปกรณ์สำหรับเลี้ยงปลาการ์ตูน

การเลี้ยงปลาการ์ตูนเอาไว้ในบ้าน ก็เหมือนกับการต้องยกเอาทะเลมาไว้ในบ้านด้วยเช่นกัน เพราะฉะนั้นอุปกรณ์ต่างๆ ที่จะช่วยในการดำรงชีวิตของปลาชนิดนี้จึงค่อนข้างมีความจำเป็นอย่างมากทั้งเครื่องทำออกซิเจน หลอดไฟสีฟ้าหรือสีชมพูสำหรับความสวยงามของสี และจำลองช่วงเวลากลางวัน – กลางคืนให้กับปลาการ์ตูน รวมถึงต้องทำการติดตั้งเครื่องกรองน้ำเพื่อรักษาความสะอาดให้กับตู้ปลาด้วย

  • ของเล่นหรือของตกแต่ง

ในส่วนของการตกแต่งรวมถึงวัสดุที่จะนำมาใส่ในตู้ปลาเพื่อจำลองระบบนิเวศ ทั้งยังเป็นของเล่นปลาการ์ตูนนั้นก็จะใช้เป็นของตกแต่งทั่วๆ ไป เช่น กรวด หินทราย หินเป็น ปะการังเทียม หรือสาหร่ายทะเล โดยก่อนที่จะนำสิ่งใดก็ตามลงไปในตู้ปลาจะต้องทำความสะอาด และล้างด้วยน้ำทะเลก่อนทุกครั้งเพื่อลดโอกาสเสี่ยงที่อาจทำให้ปลาการ์ตูนป่วยได้นั่นเอง

ค่าใช้จ่ายในการเลี้ยง ปลาการ์ตูน

ค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงปลาการ์ตูน

สำหรับเหล่ามือใหม่ที่เพิ่งจะเลี้ยงปลาการ์ตูนกันเป็นครั้งแรก และยังไม่ได้มีอุปกรณ์อะไรเลย ก็จะต้องมีค่าใช้จ่ายที่มากกว่าคนซึ่งมีอุปกรณ์อย่างตู้ปลาการ์ตูนหรือเครื่องไม้เครื่องมืออย่างอื่นกันมาบ้างแล้ว โดยค่าใช้จ่ายในครั้งแรกจากการซื้อพันธุ์ปลามาเลี้ยง รวมกับค่าอุปกรณ์อื่นๆ ก็จะอยู่ที่หลักหลายพันบาท นอกจากนั้นก็ยังมีค่าอาหารและค่าน้ำเค็มที่ต้องจ่ายในทุกเดือนอีกด้วย

ปัญหาสุขภาพที่พบบ่อยในปลาการ์ตูน

ปัญหาสุขภาพที่พบบ่อยในปลาการ์ตูน

การนำเอาปลาทะเลมาเลี้ยงเอาไว้ในตู้ ก็เหมือนกับเป็นเรื่องใหม่ที่ต้องใช้ความเข้าใจ และจะต้องศึกษาคู่มือการเลี้ยงปลาการ์ตูนให้ดีก่อนเสมอ เพราะพวกมันจะมีปัญหาสุขภาพปลาการ์ตูนรวมถึงอาการที่แตกต่างไปจากปลาน้ำจืดทั่วไปได้ โดยส่วนใหญ่แล้วก็จะเกิดมาจากสภาพแวดล้อมภายในตู้ปลาการ์ตูน ความสะอาด เชื้อโรค รวมถึงพาหะอย่างสัตว์น้ำชนิดอื่นๆ (ในกรณีเลี้ยงรวม) ที่อาจจะนำโรคมาติดปลาของเราได้ด้วย ซึ่งโรคที่พบได้บ่อยก็ได้แก่

  • โรคจุดสนิม
  • โรคจุดขาว
  • โรคเมือกขุ่น
  • โรคติดเชื้อจากแบคทีเรีย
  • โรคบวมน้ำ
ความรับผิดชอบในการเลี้ยงปลาการ์ตูน

ความรับผิดชอบในการเลี้ยงปลาการ์ตูน

มาต่อกันที่ความรับผิดชอบในการเลี้ยงปลาการ์ตูน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งปลาสวยงามที่มีอายุค่อนข้างยืนยาว หากเลี้ยงให้ดีและมีความใส่ใจ เนื่องจากอายุขัยของปลาการ์ตูนจะสามารถเติบโตไปได้นานถึง 25 ปีเลยทีเดียว ดังนั้นผู้ที่เลี้ยงปลาชนิดนี้จึงจำเป็นจะต้องให้การดูแลพวกมันเรื่อยไป และจะต้องมีภาระเพิ่มขึ้นมาอย่างเลี่ยงไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของอาหาร การเปลี่ยนน้ำ การรักษาความสะอาด หรือการหมั่นสังเกตโรคที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้เมื่อปลาการ์ตูนมีอายุมากขึ้น ซึ่งเทคนิคในการให้อาหารปลาการ์ตูน ก็ควรจะให้อาหารในเวลาเดิมทุกวัน โดยแบ่งออกเป็นมือเช้าและมื้อเย็น สามารถเลือกเลี้ยงด้วยอาหารสำเร็จรูปหรืออาหารสดชนิดอื่น เช่น ลูกกุ้ง ลูกปลา แพลงก์ตอน หรือไรทะเลก็ได้ และถ้าผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมงอาหารที่เลี้ยงไว้ยังไม่หมดก็ให้ทำการดูดทิ้งทันที เพื่อป้องกันเชื้อโรคและการสะสมของแบคทีเรียภายในตู้

บทส่งท้าย

ถึงแม้ปลาการ์ตูนจะเป็นปลาสวยงามที่อาศัยอยู่ในทะเล แต่ก็ได้รับความนิยมจากคนเลี้ยงปลากันเป็นจำนวนมาก เนื่องจากความน่ารักและสีสันที่สดใส ดังนั้นคนเลี้ยงจึงจำเป็นจะต้องมีการจำลองระบบนิเวศภายในตู้ให้คล้ายคลึงกับทะเล โดยใช้น้ำทะเลจริงๆ หรือน้ำทะเลสังเคราะห์ และต้องควบคุมความสะอาดของน้ำเพื่อความปลอดภัย และช่วยให้ปลาที่เราทุกคนเลี้ยงเอาไว้มีความแข็งแรงด้วย

ขอขอบคุณคลิปจาก BACKbone MCOT

อ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่ animal2you.com

7 ปลาสวยงาม น่าเลี้ยง มีสายพันธุ์อะไรบ้าง มาดูกันเลย

Categories
สัตว์น้ำ

มือใหม่ห้ามพลาด ปลาหมอสี มีวิธีการเลี้ยงและดูแลยังไงมาดูกันเลย

หากลองถามคนสักร้อยคน เชื่อเถอะว่าก็ต้องมีเกินครึ่งที่รู้จักเจ้าปลาสวยงามยอดฮิตอย่าง ปลาหมอสี เนื่องจากปลาชนิดนี้เป็นสายพันธุ์ปลาซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของนักเลี้ยงปลาทั้งมือใหม่และมือโปร แถมยังเป็นที่ต้องการของตลาด จนทำให้พ่อค้าแม่ขายหลายคนตั้งตัวจากการขายปลาชนิดนี้กันได้เลยทีเดียว

ซึ่งจุดเด่นที่ทำให้ปลาชนิดนี้ไปถูกตาต้องใจใครหลายคนเข้า นั่นก็เพราะสีสันที่สวยงามและหลากหลาย จนทำให้ๆ ต่างก็อยากจะเลี้ยงปลาหมอสีในบ้านกัน ดังนั้นในวันนี้เราจะพาทุกคนไปเรียนรู้วิธีเลี้ยงปลาหมอสีมือใหม่ รวมถึงสิ่งที่จำเป็นในการเลี้ยงปลาหมอสีว่าจะต้องมีอะไรบ้างที่ต้องให้ความสำคัญ ถ้าพร้อมแล้วก็ไปอ่านและจดทริคดีๆ ไปปรับใช้กับสัตว์เลี้ยงน่ารักของตัวเองกันได้เลย

ความต้องการพื้นฐานของ ปลาหมอสี

ความต้องการพื้นฐานของปลาหมอสี

ปลาหมอสี เป็นปลาน้ำจืดที่มีความหลากหลายของสายพันธุ์มากที่สุดชนิดหนึ่ง ดังนั้นมันจึงได้รับความสนใจจากคนเลี้ยงไม่น้อย ด้วยความที่มันมีสีสันให้เลือกได้อย่างหลากหลาย มีตั้งแต่สีแดงเข้ม สีน้ำเงินเหลือบแดง สีส้ม สีเหลืองทอง สีเขียวมุก และอีกมากมาย โดยลักษณะของปลาที่ถูกใจคนเลี้ยงปลาหมอสีก็จะดูกันจากสี ลวดลาย ครีบ ลำตัว รวมถึงโหนกบริเวณหัวของพวกมัน

และอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้เหล่านักเลี้ยงปลาต่างก็ชื่นชอบปลาหมอสี ก็คือความเลี้ยงง่ายและความอดทนของพวกมันนั่นเอง เนื่องจากปลาชนิดนี้หากเลือกให้ดีก็จะไม่ค่อยตายง่ายๆ ถึงแม้ว่าจะลืมให้อาหารสักครึ่งเดือนก็ยังอยู่ได้สบาย แต่ถึงอย่างนั้นใครที่นำพวกมันมาเลี้ยงก็จำเป็นจะต้องใส่ใจ ให้ความรัก และต้องให้ความสำคัญกับความต้องการพื้นฐานของพวกมันด้วย เช่น

  • การรักษาความสะอาด หมั่นเปลี่ยนน้ำเป็นประจำ
  • เลือกอาหารปลาหมอสีที่เหมาะสม มีประโยชน์ หลีกเลี่ยงอาหารจำพวกไขมันจากเนื้อสัตว์
  • ระมัดระวังการใช้น้ำที่ปนเปื้อนเชื้อโรคหรือคลอรีน
  • ควรมีตู้สำหรับเลี้ยงปลาสักสองตู้ เพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัยและใช้สำหรับเป็นที่พักสำรองในกรณีเปลี่ยนน้ำในตู้หลัก
สิ่งที่ต้องเตรียมก่อนเลี้ยง ปลาหมอสี

สิ่งที่ต้องเตรียมก่อนเลี้ยงปลาหมอสี

ถึงแม้ว่าปลาหมอสีจะเป็นปลาสวยงามที่ค่อนข้างมีความอดทน เลี้ยงง่าย แต่มันก็มีรายละเอียดรวมถึงวิธีการเลี้ยงที่จะต้องใช้ความเข้าใจและใส่ใจเป็นอย่างมากเลยทีเดียว ซึ่งสำหรับมือใหม่ที่อยากจะเลี้ยงปลาชนิดนี้ให้เติบโตไปอย่างแข็งแรง การเริ่มจากศึกษาก่อนว่าเลี้ยงปลาหมอสีเตรียมอะไรบ้าง และทำการจัดเตรียมเอาไว้ให้พร้อมก่อนก็จะช่วยได้มากเลยนั่นเอง ซึ่งสิ่งจำเป็นสำหรับเหล่าปลาหมอสีน่ารักก็ได้แก่

  • ที่อยู่อาศัย

    มาเริ่มกันที่สิ่งที่จำเป็นในการเลี้ยงปลาหมอสีในข้อแรกกันเลย แน่นอนว่าการจะเลี้ยงปลาหมอสีหรือปลาชนิดไหนก็ตาม การจัดเตรียมที่อยู่อาศัยหรือตู้ปลาเอาไว้ให้พร้อมเป็นสิ่งสำคัญในขั้นตอนแรกๆ ที่มือใหม่ไม่ควรจะมองข้ามไปเลยเด็ดขาด ซึ่งโดยปกติแล้วปลาชนิดนี้จะมีขนาดแตกต่างกันออกไป ดังนั้นควรจัดเตรียมตู้ปลาให้มีความใหญ่พอดีกับสายพันธุ์ที่จะเลี้ยง และวางแผนเผื่อสำหรับอนาคตในกรณีที่ปลาโตเต็มวัยเผื่อเอาไว้ด้วย

    • อุปกรณ์สำหรับเลี้ยงปลาหมอสี

    มาต่อกันที่อุปกรณ์ต่างๆ ซึ่งจำเป็นต่อการใช้ชีวิตของปลาหมอสี รวมถึงเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยทุ่นแรงในการเลี้ยงปลาของเหล่ามือใหม่ได้ดีก็กันบ้าง ซึ่งอุปกรณ์เหล่านี้ก็จะมีอยู่หลายอย่างด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นตู้พักน้ำก่อนที่จะเปลี่ยนน้ำในตู้หลัก อุปกรณ์ทำความสะอาด ฝาปิดตู้ปลา หลอดไฟ หรือถ้าใครมีงบประมาณมากหน่อยก็สามารถติดตั้งตัวทำออกซิเจนหรือเครื่องตั้งเวลาสำหรับการให้อาหารปลาเพิ่มเติมได้ด้วย

    • ของเล่นหรือของตกแต่ง

    ปลาหมอสีเป็นปลาที่มีความละเอียดอ่อนในเรื่องของสภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัย ดังนั้นเหล่าคนเลี้ยงปลาจึงมักจะจัดระบบนิเวศในตู้ให้มีความคล้ายคลึงกับธรรมชาติ ซึ่งก็ไม่จำเป็นต้องจัดวางต้นไม้ปลอมเอาไว้ให้รกตู้ แต่ให้เลือกใส่กรวดหรือหินเข้าไปในตู้ปลาเพื่อเป็นของเล่นสำหรับพวกมันแทน เพราะหนึ่งในพฤติกรรมปลาหมอสีที่เห็นได้บ่อยคือพวกมันชอบที่จะคาบและพ่นหินเล่นอยู่เป็นประจำนั่นเอง

    ค่าใช้จ่ายในการเลี้ยง ปลาหมอสี

    ค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงปลาหมอสี

    สำหรับค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงปลาหมอสีก็จะขึ้นอยู่กับว่าทุกคนเลือกเลี้ยงปลาสายพันธุ์ไหน และเลี้ยงพวกมันเพื่อจุดประสงค์อะไร หากเลี้ยงเพื่อความสวยงาม เป็นเพื่อนแก้เหงา ไม่ได้อยากจะขายหรือส่งประกวด ค่าใช้จ่ายที่ต้องแบกรับก็จะไม่ได้สูงมากมายอะไรนัก โดยจะเริ่มต้นตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลักพันต้นๆ ต่อเดือน ซึ่งก็จะแบ่งเป็นค่าอาหาร ค่าน้ำค่าไฟ หรือค่ายาในกรณีที่ตรวจเจอโรคของปลาหมอสี

    ปัญหาสุขภาพที่พบบ่อยในปลาหมอสี

    ปัญหาสุขภาพที่พบบ่อยในปลาหมอสี

    คำแนะนำสำหรับมือใหม่ที่อยากจะเลี้ยงดูปลาหมอสีให้รอดและไม่ตายไว ก็จะต้องศึกษาเรื่องของโรครวมถึงปัญหาสุขภาพปลาหมอสีกันให้ดี เพราะมันจะช่วยให้ทุกคนสามารถหาทางป้องกัน ทั้งยังหลีกเลี่ยงอันตรายที่จะเกิดกับปลาของเราทุกคนได้ดีมากยิ่งขึ้น โดยโรคที่พบบ่อยในปลาชนิดนี้ก็มีอยู่หลากหลาย เช่น

    • โรคตาโปนหรือปากบวมที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย
    • โรคครีบและหางกร่อน
    • โรคขี้ขาว
    • โรคท้องบวมที่เกิดจากการติดเชื้อที่ตับหรือไต
    • โรคจุดขาว
    ความรับผิดชอบในการเลี้ยงปลาหมอสี

    ความรับผิดชอบในการเลี้ยงปลาหมอสี

    ใครที่มีประสบการณ์เลี้ยงปลาหมอสีมาก่อนจะรู้กันดีว่านิสัยปลาหมอสีนั้นค่อนข้างจะหวงถิ่น จึงทำให้ความต้องการทางสังคมของปลาหมอสีนั้นต่ำลงตามไปด้วย ดังนั้นคำแนะนำสำหรับมือใหม่ในการเลี้ยงปลาชนิดนี้ก็คือไม่ควรเลี้ยงพวกมันรวมกับปลาชนิดอื่น หากมีปลาที่ต้องการเลี้ยงเพิ่มก็ควรจะแยกตู้ เรียกได้ว่าเป็นความรับผิดชอบแรกที่คนเลี้ยงปลาควรรู้

    ไม่เพียงเท่านั้นความรับผิดชอบในการเลี้ยงปลาหมอสีก็ยังมีอีกหลายข้อ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของอาหารปลาหมอสีที่ต้องเลือกให้เหมาะสมตามสายพันธุ์ สามารถกินอาหารสำเร็จรูปได้ แต่จะต้องหลีกเลี่ยงอาหารที่มีส่วนผสมของไขมันจากเนื้อสัตว์ ทั้งยังต้องควบคุมสารอาหารบางชนิดในปลาหมอสีที่มีอายุมากด้วย โดยอายุขัยของปลาหมอสีส่วนใหญ่แล้วหากไม่ป่วยตายไปเสียก่อน ก็จะเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 5 – 8 ปี

    ปลาหมอสี

    บทส่งท้าย

    ใครที่อยากจะหาปลาหมอสีมาเลี้ยงก็จะต้องทำความเข้าใจกับสายพันธุ์ของพวกมันก่อน เพราะว่าปลาชนิดนี้มีความหลากหลายทางสายพันธุ์ค่อนข้างมาก นอกจากนั้นก็จะต้องจัดเตรียมที่อยู่อาศัยซึ่งแยกออกจากปลาชนิดอื่น จัดเตรียมอาหารให้เหมาะกับปลาแต่ละชนิด หมั่นเปลี่ยนน้ำบ่อยๆ เพื่อป้องกันปลาหมอสีป่วยจากการติดเชื้อด้วยนั่นเอง

    ขอขอบคุณคลิปจาก Zing’s Day

    อ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่ animal2you.com

    7 ปลาสวยงาม น่าเลี้ยง มีสายพันธุ์อะไรบ้าง มาดูกันเลย

    Categories
    สัตว์น้ำ

    7 ปลาสวยงาม น่าเลี้ยง มีสายพันธุ์อะไรบ้าง มาดูกันเลย

    มีบ้านมีคอนโดเป็นของตัวเองแล้ว แต่เหมือนชีวิตจะยังขาดสีสันอะไรบางอย่างไปอยู่ดี ดังนั้นใครที่อยากจะเติมความมีชีวิตชีวาให้กับตัวเองด้วยการหาสัตว์เลี้ยงน่ารักๆ มาเลี้ยงกันในบ้านแต่ยังไม่รู้ว่าจะเลี้ยงอะไรดี ในบทความนี้เรามี 7 ปลาสวยงาม หลากหลายสายพันธุ์มาแนะนำให้แล้ว ซึ่งจะมีปลาน่าเลี้ยงชนิดไหนบ้างตามมาอ่านพร้อมกันได้เลย

    สิ่งที่ต้องเตรียมก่อนเลี้ยงปลา

    สิ่งที่ต้องเตรียมก่อนเลี้ยงปลา

    ก่อนที่ทุกคนจะไปอ่านกันว่ามีสายพันธุ์ปลาสวยงามชนิดไหนบ้างที่เหมาะสำหรับเหล่าคนอยากเลี้ยงปลาในบ้าน รวมถึงเป็นสายพันธุ์ปลาที่มีความสวยงามน่าเลี้ยง เรามาเริ่มทำความเข้าใจและเรียนรู้ไปพร้อมกันก่อนว่าการเลี้ยงปลาเตรียมอะไรบ้างถึงจะมีความเหมาะสม รวมทั้งเป็นสิ่งสำคัญที่เหล่าปลาทั้งหลายต้องการ ดังนี้

    • ที่อยู่อาศัยต้องเหมาะกับสายพันธุ์ปลาสวยงามที่จะเลี้ยง
    • ศึกษาอาหารของปลาสวยงามแต่ละชนิด
    • จัดเตรียมค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงปลาให้พร้อม
    • ศึกษาปัญหาสุขภาพปลาและวิธีป้องกัน
    วิธีเตรียมความพร้อมก่อนเลี้ยง ปลาสวยงาม

    วิธีเตรียมความพร้อมก่อนเลี้ยงปลาสวยงาม

    หลังจากที่ทุกคนได้รู้แล้วว่าสิ่งที่จำเป็นในการเลี้ยงปลาแบบพื้นฐานนนั้นจะต้องมีอะไรกัน วิธีเตรียมความพร้อมในขั้นตอนแรกก่อนที่จะไปซื้อปลามาเลี้ยงก็คือการเตรียมที่อยู่อาศัยเอาไว้ก่อน เนื่องจากปลาเป็นสัตว์ที่จะต้องอาศัยอยู่ในน้ำ แตกต่างจากสุนัขหรือแมวที่เมื่อพาน้องมาที่บ้านแล้วก็อาจจะให้อยู่ในห้องไปก่อนได้ หากบริเวณที่จัดเอาไว้ยังไม่พร้อม

    โดยการจัดเตรียมที่อยู่อาศัยหรือตู้ให้กับปลาสวยงามนั้น ก็ให้พิจารณาจากความสะดวกรวมถึงลักษณะนิสัยของปลาแต่ละสายพันธุ์ประกอบไปด้วย เนื่องจากปลาบางชนิดก็สามารถเลี้ยงอยู่ในโหลแก้วได้ ปลาบางชนิดไม่ควรเลี้ยงรวมกัน ในขณะที่ปลาบางชนิดก็จะต้องมีการติดตั้งอุปกรณ์ทำออกซิเจนเอาไว้ก็จะดีกว่าด้วยนั่นเอง ซึ่งหลังจากที่มั่นใจแล้วว่าได้จัดเตรียมพื้นที่สำหรับอยู่อาศัยของสัตว์เลี้ยงตัวใหม่พร้อมแล้ว ขั้นตอนต่อไปก็ให้จัดเตรียมอาหาร รวมถึงอุปกรณ์จำเป็นอื่นๆ โดยอาจจะซื้อเอาไว้ให้พร้อมทีเดียวหรือค่อยๆ หามาเติมทีละนิดทีละหน่อย ตามสถานการณ์และความจำเป็นด้วยก็ได้

    7 ปลาสวยงามน่าเลี้ยงมีอะไรบ้าง

    ปลาหมอสี

    1. ปลาหมอสี

    เมื่อต้องกล่าวถึงปลาสวยงามน่าเลี้ยง หลายคนก็คงจะต้องคิดถึง ‘ปลาหมอสี’ กันแน่นอน เพราะสายพันธุ์ปลาสวยงามชนิดนี้ เรียกว่าได้รับความนิยมและกลายเป็นกระแสโด่งดังในกลุ่มคนเลี้ยงปลามาแล้ว โดยปลาหมอสีเป็นปลาซึ่งมีเอกลักษณ์ในเรื่องของสี ลำตัว หัว เกล็ด ครีบ เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในสายพันธุ์ปลาน่าเลี้ยงที่มีทั้งความสวยและยังเลี้ยงง่าย เพราะพวกมันกินง่าย อดอาหารได้หลายวัน แต่ก็จะต้องระวังเรื่องความสะอาดของน้ำให้ดี

    ปลาทอง

    2. ปลาทอง

    เจ้าปลาสวยงามสีส้ม ตัวกลม น่ารัก เป็นอีกหนึ่งสายพันธุ์ปลาน่าเลี้ยงที่กลายมาเป็นขวัญใจของเหล่านักเลี้ยงปลามือใหม่กันไม่น้อยเลย สามารถเลี้ยงในตู้ปลาหรือโหลขนาดเล็กได้ จากนั้นค่อยๆ เพิ่มขนาดของโหลให้มีความพอดีกับปลา ซึ่งขนาดรวมถึงรูปร่างของปลาทองก็จะแตกต่างกันออกไปตามสายพันธุ์ ในขณะที่อายุขัยของปลาชนิดนี้จะอยู่ที่ประมาณ 10 – 15 ปี ใครที่อยากเลี้ยงปลาทองบอกเลยว่าจะต้องมีความรับผิดชอบในการเลี้ยงปลากันมากพอสมควรเลย

    ปลาคาร์ฟ

    3. ปลาคาร์ป

    ปลาคาร์ปคือปลาสวยงามที่คนส่วนใหญ่นิยมเลี้ยงกันในบ้าน เพราะพวกมันมีลวดลายที่มีความเป็นเฉพาะตัว สีสันสวยงาม ลำตัวเรียวยาวสวย ทั้งยังมีความล้ำค่าและมีราคาค่าตัวซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงปลาเริ่มต้นตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลักหลายสิบล้านเลยก็มี โดยคู่มือการเลี้ยงปลาชนิดนี้สำหรับมือใหม่ก็จะต้องหลีกเลี่ยงการเลี้ยงปลาคาร์ปกับปลาชนิดอื่น เพราะอาจจะเสี่ยงต่อการเกิดโรคของปลาได้ง่าย

    ปลาสอด

    4. ปลาสอด

    มาต่อกันที่ปลาสวยงามขนาดเล็กน่ารัก สำหรับใครที่อยากจะเลี้ยงปลาในบ้าน เพราะไม่ต้องใช้พื้นที่ในการเลี้ยงมากมายนัก โดยปลาสอดจะมีขนาดตัวเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 10 – 15 เซนติเมตร มีสีสันสวยงามแตกต่างกันไป ทั้งสีแดง สีแดงผสมขาว สีเขียว สีเหลือง สีดำ หรือสีเงิน สำหรับวิธีเลี้ยงปลามือใหม่ก็ให้หมั่นใส่ใจเรื่องของความสะอาด และไม่ควรเลี้ยงปลาสอดรวมกันจำนวนมากเกินไป

    ปลาสวยงาม ปลากัด

    5. ปลากัด

    สำหรับปลาสวยงามยอดนิยมตลอดกาลอย่างปลากัด เป็นปลาที่เลี้ยงง่ายหากทำการศึกษาสิ่งที่จำเป็นในการเลี้ยงปลาและลักษณะนิสัยของพวกมันแล้ว เพราะมันเป็นปลาที่มีขนาดเล็ก โตไว ไม่ต้องติดตั้งอุปกรณ์ทำออกซิเจน ซึ่งคู่มือการเลี้ยงปลากัดที่ต้องระวังก็คือไม่ควรใช้น้ำดื่มทั่วไปมาใช้เลี้ยงปลาชนิดนี้ รวมถึงควรเลี้ยงปลากัดแบบแยกโหล เพื่อป้องกันปลาเครียดและป้องกันอันตรายจากการเลี้ยงปลารวมกันได้ด้วย

    ปลาสวยงาม ปลามังกร

    6. ปลามังกร

    นอกจากปลามังกรจะเป็นปลาสวยงามที่คนส่วนใหญ่ชื่นชอบแล้ว มันก็ยังเป็นปลามงคลตามความเชื่อที่ช่วยในเรื่องของการเสริมบารมี อำนาจ ส่งเสริมดวงด้านโชคลาภ เงินทอง โดยความรับผิดชอบในการเลี้ยงปลาที่ทุกคนจะต้องยอมรับ และตัดสินใจให้ดีก่อนเลี้ยงพวกมันก็คือปลามังกรบางสายพันธุ์สามารถเติบโตและมีขนาดใหญ่ได้มากกว่าหลายร้อยกิโลกรัมเลยทีเดียว

    ปลาสวยงาม ปลาการ์ตูน

    7. ปลาการ์ตูน

    เชื่อเลยว่าสาวกการ์ตูนเรื่อง ‘Finding Nemo’ รวมถึงคนทั่วไปที่ได้เห็นความสวยงามของปลาชนิดนี้กันแล้ว ก็คงจะต้องเกิดความรู้สึกว่าอยากเลี้ยงปลาในบ้านกันไม่มากก็น้อยแน่นอน เนื่องจากลวดลายของพวกมันมีความโดดเด่น และหาไม่ได้จากปลาสวยงามชนิดอื่นๆ โดยตามธรรมชาติแล้วความต้องการทางสังคมของปลาชนิดนี้มักจะอาศัยกันเป็นคู่ ดังนั้นหากเป็นไปได้ทุกคนก็เลือกเพื่อนมาเลี้ยงร่วมกันก็จะดีมากกว่าเลี้ยงน้องๆ ให้เหงาอยู่ตัวเดียว (ขึ้นอยู่กับความสะดวก)

    บทส่งท้าย

    ปลาสวยงาม ที่ได้รับความนิยม ทั้งยังหามาเลี้ยงกันได้ง่ายในไทยเรามีอยู่หลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นปลาหมอสี ปลาทอง ปลาคาร์ป ปลาสอด ปลากัด ปลามังกร และปลาการ์ตูน ซึ่งสิ่งที่จำเป็นในการเลี้ยงปลาสำหรับมือใหม่ก็คือการจัดเตรียมที่อยู่อาศัย อาหาร รวมถึงน้ำที่จะนำมาเลี้ยงให้เหมาะสม หมั่นรักษาความสะอาด และศึกษาค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงปลาให้ดีด้วยนั่นเอง

    ขอขอบคุณคลิปจาก HAHAWOW AN

    อ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่ animal2you.com

    พาส่อง หมูแคระ สัตว์เลี้ยงเทรนด์ใหม่ มีวิธีการดูแลยังไงบ้าง?

    Categories
    สัตว์น้ำ

    พาส่อง ปลาหมึกยักษ์ สัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีพฤติกรรมและวิถีชีวิตความเป็นอยู่อย่างไร

    ปลาหมึกยักษ์

    ปลาหมึกเป็นสิ่งมีชีวิตซึ่งมีสายพันธุ์มากที่สุดชนิดหนึ่งของโลก โดยมีการระบุเอาไว้ว่าสายปลาหมึกที่ถูกค้นพบแล้วในปัจจุบันมีมากกว่า 1,000 สายพันธุ์ โดย ปลาหมึกยักษ์ เป็นหนึ่งจากหลากหลายสายพันธุ์ของปลาหมึกที่ถูกค้นพบ ซึ่งแน่นอนว่ามันก็สร้างความตื่นตะลึงและยังน่าค้นหาอยู่เสมอด้วยรูปร่างอันน่าอัศจรรย์ พฤติกรรม และความลึกลับมากมายที่แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญก็ยังคงพยายามอย่างหนักเพื่อทำความเข้าใจพวกมันอยู่ ดังนั้นในบทความนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับเจ้าปลาหมึกยักษ์ สัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังที่ใหญ่ที่สุดในโลกกันว่าปลาหมึกยักษ์ใช้ชีวิตยังไง ปลาหมึกยักษ์มีพฤติกรรมยังไง รวมถึงมีบทบาทสำคัญอะไรบ้างนอกจากทำตัวใหญ่ยักษ์ลอยไปลอยมาอยู่ใต้ท้องทะเล

    ปลาหมึกยักษ์

    ลักษณะทั่วไปของปลาหมึกยักษ์

    ปลาหมึกเป็นสัตว์ใต้ทะเลที่คาดการณ์ว่ามีต้นกำเนิดมาตั้งแต่เมื่อ 550-600 ล้านปีก่อน จึงไม่แปลกที่พวกมันจะเกิดการวิวัฒนาการ รวมถึงพัฒนาสายพันธุ์จนกลายมาเป็นสัตว์น้ำที่มีความหลากหลายที่สุดชนิดหนึ่ง โดยปลาหมึกยักษ์ที่ทุกคนเคยเห็นผ่านตากันมาตามสารคดีสัตว์ใต้ท้องทะเล ตามห้องสมุดหรือพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำก็จะเห็นได้ว่าพวกมันเป็นสัตว์ฉลาดที่มีความน่าสนใจไม่น้อยเลย ลักษณะภายนอกทั่วไปของสัตว์ที่ไม่มีกระดูกสันหลัง ซึ่งมีหน้าตาแปลกประหลาดราวกับสัตว์จากนอกโลกนั้น ประกอบไปด้วยลำตัวนุ่มนนิ่มที่จะมีลักษณะแตกต่างกันออกไปตามสายพันธุ์ของมัน จะมีก็แต่จะงอยปากเท่านั้นซึ่งเป็นอวัยวะหนึ่งเดียวที่มีความแข็งมากที่สุด สามารถพรางตัวได้อย่างดีเยี่ยมด้วยเซลล์เม็ดสีมหาศาล

    ถึงแม้พวกมันจะไม่มีอวัยวะที่ดูจะแข็งแรงพอเพื่อช่วยเอาชนะภัยคุกคามต่อปลาหมึกยักษ์ได้ แต่พวกมันกลับมีหนวดอันทรงพลังถึง 8 เส้น ซึ่งทำหน้าในการช่วยหาอาหาร ว่ายน้ำ รวมถึงใช้เพื่อการเอาชีวิตรอดของปลาหมึกยักษ์ โดยหนวดมากมายเหล่านี้จะประมวลผลการทำงานด้วยตัวเองจากเซลล์ประสาทจำนวนมาก โดยไม่จำเป็นต้องได้รับการสั่งการจากสมอง โดยความน่าสนใจที่หลายคนอาจยังไม่รู้เกี่ยวกับสัตว์น้ำชนิดนี้ จากการศึกษา ปลาหมึกยักษ์ ในตระกูลหมึกสายหรือ Octopus พบว่านอกจากพวกมันจะมีหนวด 8 เส้น อันประกอบไปด้วยเซลล์ประสาทจำนวนมหาศาลซึ่งทำหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพแล้ว พวกมันก็ยังมีหัวใจมากถึง 3 ดวง ซึ่งจะคอยทำหน้าที่สูบฉีดเลือดที่มีลักษณะเป็นของเหลวสีเขียวแกมน้ำเงินอยู่ตลอดเวลา

    ต้นกำเนิด ปลาหมึกยักษ์

    สายพันธุ์ปลาหมึกยักษ์ ที่ถูกค้นพบในปัจจุบัน

    บนโลกของเราเต็มไปความมหัศจรรย์ของสิ่งมีชีวิตมากมาย แต่มันอาจจะไม่สามารถเทียบได้เลยกับความลึกลับใต้มหาสมุทรซึ่งเต็มไปด้วยปริศนา และบรรดาสัตว์หายากซึ่งมนุษย์เรายังหาไม่พบ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังเป็นความโชคดีที่ทุกวันนี้เราทุกคนมีโอกาสได้เห็นหน้าคร่าตาสัตว์น้ำสุดแปลกเหล่านี้ โดยสายพันธุ์ที่ถูกค้นพบแล้วก็มีอยู่ไม่น้อย เช่น

    • ปลาหมึกยักษ์แปซิฟิก (Giant Pacific Octopus)
    • ปลาหมึกยักษ์โดราโด (Dorado Octopus)
    • ปลาหมึกมะพร้าว (Coconut Octopus)
    • ปลาหมึกดัมโบ (Dumbo Octopus)
    • ปลาหมึกยักษ์แอตแลนติก (Atlantic Pygmy Octopus)
    พฤติกรรมของปลาหมึกยักษ์

    พฤติกรรมและวิถีชีวิต

    ปลาหมึกยักษ์ เป็นสิ่งมีชีวิตใต้น้ำที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นสัตว์ฉลาดมากที่สุดชนิดหนึ่ง ซึ่งความฉลาดของปลาหมึกยักษ์ที่ทำให้ต้องตกใจ คือพวกมันสามารถจดจำเส้นทางหรือจดจำใบหน้าของมนุษย์ได้ สามารถวิเคราะห์รวมถึงตอบสนองต่อสิ่งต่างๆ ได้อย่างชาญฉลาด ทั้งยังสามารถเรียนรู้ที่จะทำในสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อนได้ด้วย ที่สำคัญพวกมันก็ยังเป็นสัตว์ที่มีความรู้สึกและเจ็บปวดได้ด้วยนั่นเองซึ่งนิสัยปลาหมึกยักษ์คือเป็นสัตว์ที่ค่อนข้างรักสันโดษ และทำการออกล่าอาหารเพียงลำพังในตอนกลางคืน หลังจากมีการผสมพันธุ์แล้ว 1-2 วัน ตัวผู้จะเข้าสู่ช่วงวัยแก่ชราและตายไป ในขณะที่ตัวเมียจะทำหน้าที่ดูแลไข่โดยไม่กินอาหารเลย จนกว่าจะถึงวันที่ไข่ฟักออกมา จากนั้นมันก็จะสิ้นใจตายไปตามวงจรชีวิตของพวกมัน โดยอาหารปลาหมึกยักษ์จะเป็นพวกสัตว์น้ำขนาดเล็ก เช่น กุ้ง ปู ปลา หอยแครง ซึ่งพวกมันจะใช้หนวดหรือแขนในการจับอาหาร แล้วจึงใช้จะงอยปากอันแข็งแรงทำลายเปลือกของเหยื่อทิ้งอย่างง่ายดาย ซึ่งนอกจากพวกมันจะเป็นผู้ล่าสัตว์เล็กสัตว์น้อยเหล่านี้แล้ว ศัตรูของปลาหมึกยักษ์ก็มีไม่น้อยเช่นเดียวกันไม่ว่าจะเป็นฉลาม โลมา วาฬ หรือแม้แต่มนุษย์เองก็ชื่นชอบการล่าปลาหมึกยักษ์เหล่านี้เพื่อนำมาบริโภคกันด้วย

    ปลาหมึกยักษ์กับระบบนิเวศน์

    บทบาทสำคัญของปลาหมึกยักษ์ในระบบนิเวศ

    ถึงแม้ว่าหน้าตาภายนอกของปลาหมึกยักษ์จะดูน่ากลัว แต่พวกมันกลับไม่ใช่สัตว์ที่ดุร้ายหากนำไปเทียบกับสัตว์นักล่าใต้ทะเลประเภทอื่น เพราะนอกจากการออกล่าเพื่อการเอาชีวิตรอดแล้ว พวกมันก็มักใช้เวลากว่า 12 ชั่วโมงในตอนกลางวัน ซ่อนตัวอยู่ตามซอกหินหรือแนวปะการังเพื่อย่อยอาหาร ซึ่งถึงแม้พวกมันอาจจะดูใช้ชีวิตแบบไร้ประโยชน์ไปบ้าง แต่บอกเลยว่ามันก็มีความสำคัญต่อระบบนิเวศไม่น้อยเช่น เช่น

    รักษาสมดุลของห่วงโซ่อาหาร

    หากจะถามว่าปลาหมึกยักษ์มีประโยชน์ยังไงต่อระบบนิเวศบ้าง ก็ต้องบอกเลยว่ามันเป็นสิ่งมีชีวิตใต้น้ำซึ่งคอยสร้างความสมดุลให้กับห่วงโซ่อาหาร เพราะนอกจากพวกมันจะเป็นสัตว์นักล่าที่กินพวกสัตว์น้ำขนาดเล็กเป็นอาหาร พวกมันก็ยังเป็นอาหารมื้อสำคัญให้กับพวกนักล่าในมหาสมุทร รวมถึงสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมใต้น้ำอีกหลายชนิดอีกด้วย

    ที่อยู่ปลาหมึกยักษ์

    เป็นสัญญาณบอกการเปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดล้อม

    ปลาหมึกยักษ์เป็นสัตว์ที่ไม่สามารถรับออกซิเจนเข้าไปในร่างกายได้ดีเหมือนกับมนุษย์หรือสัตว์อื่นๆ เพราะฉะนั้นพวกมันจึงจำเป็นจะต้องอาศัยอยู่ในบริเวณที่มีปริมาณออกซิเจนเพียงพอต่อการใช้ชีวิต ดังนั้นเมื่อสภาพแวดล้อมในบริเวณมหาสมุทรเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลันจนส่งผลทำให้ออกซิเจนลดน้อยลง มันก็จะส่งผลกระทบต่อปลาหมึกยักษ์ ทำให้พวกมันลอยขึ้นมาตายอยู่เต็มชายหาดเหมือนในข่าวที่พบได้บ่อยในปัจจุบันนี้

    ปรับตัวเพื่อรักษาโลกใต้ทะเล

    ด้วยความที่พวกมันเป็นสัตว์ที่มีวิวัฒนาการมาอย่างยาวนาน ทั้งยังมีสายพันธุ์ซึ่งหลากหลายมากที่สุดชนิดหนึ่ง ทำให้ในปัจจุบันจากการศึกษาของผู้เชี่ยวชาญพบว่าปลาหมึกยักษ์บางชนิด อาจจะกำลังเรียนรู้ที่จะปรับตัวเพื่อเอาชีวิตรอด และคงไว้ซึ่งโลกใต้ท้องทะเลท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่ย่ำแย่ เพราะฉะนั้นเราจึงอาจได้เห็นปลาหมึกรูปแบบใหม่ซึ่งกำเนิดขึ้นจากการกลายพันธุ์ ในขณะที่สัตว์น้ำชนิดอื่นสูญพันธุ์ไปหมดแล้วก็เป็นได้

    อาหารปลาหมึกยักษ์

    บทส่งท้าย

    ปลาหมึกยักษ์เป็นสายพันธุ์ปลาหมึกในท้องทะเล ซึ่งมีความฉลาดและมีวิวัฒนาการมายาวนาน โดยพวกมันจะมีหนวดหรือแขนซึ่งเต็มไปด้วยเซลล์ประสาทมากมายที่สามารถตอบสนองต่อสิ่งต่างๆ รวมถึงใช้เพื่อการออกล่าเหยื่อได้โดยไม่ต้องสั่งการด้วยสมองหลักเหมือนมนุษย์ ซึ่งความสำคัญของพวกมันนอกจากเป็นสัตว์หายากแล้ว ก็ยังช่วยรักษาสมดุลทางระบบนิเวศในมหาสมุทรให้เป็นไปอย่างที่ควรจะเป็นด้วยนั่นเอง

    ขอขอบคุณคลิปจาก Next Step

    อ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่ animal2you.com

    สิ่งที่ต้องรู้ก่อนเลี้ยง ตุ๊กแกหางอ้วน ควรเตรียมตัวอย่างไรบ้าง

    มาทำความรู้จักกับ แมวพัลลัส เจ้าเหมียวขนฟูฟ่อง ตังตึงแห่งป่าใหญ่ นิสัยดุร้ายไม่เกรงใจใคร

    Categories
    ความรู้ สัตว์น้ำ สัตว์น้ำเค็ม

    แมงดาทะเล สัตว์กินได้ แต่ต้องระวังสายพันธุ์มีพิษ เพราะพิษแรงอาจถึงตายได้

    แมงดาทะเล เป็นสัตว์น้ำที่อาศัยอยู่ในทะเล มีการกระจายพันธุ์ในวงกว้าง ซึ่งในประเทศไทยเองก็มีอยู่จำนวนมากเลยทีเดียว โดยสัตว์ชนิดนี้สามารถนำมาทำเป็นอาหารได้หลายเมนู โดยเฉพาะเมนูนำไข่แมงดาสุดแซ่บ ที่ไม่ว่าใครได้ลองแล้วก็ต้องติดใจอย่างแน่นอน แต่อยากจะเตือนว่าหากเลือกผิดชนิด ชีวิตเปลี่ยนทันที

    เนื่องจากว่าแมงดาทะเลมีทั้งแบบชนิดกินได้ไม่มีพิษ และชนิดที่กินไม่ได้ มีพิษอันตรายเรียกว่าสาร Tetrodotoxin และ Saxitoxin ที่อยู่ในเนื้อ และไข่ของมัน ไม่สามารถทำลายความเป็นพิษได้ด้วยความร้อนและเมื่อเผลอกินเข้าไปแล้วจะมีอาการปากชา พูดไม่ได้ และแขนขาชา หายใจไม่ออก ถ้าได้รับพิษในปริมาณมากอาจทำให้เสียชีวิตได้ ดังนั้นใครที่จะกินแมงดาทะเลไม่ว่าเนื้อหรือไข่ ต้องระมัดระวังเป็นอย่างมาก

    แมงดาทะเล ข้อมูลเพิ่มเติมที่ควรทราบ

    แมงดาทะเล เป็นอีกหนึ่งสัตว์น้ำที่ได้ยินชื่ออยู่บ่อยครั้ง เนื่องจากมีเหตุการณ์ที่ผู้บริโภคได้รับสารพิษจากสัตว์ชนิดนี้เมื่อกินเนื้อและไข่ของมันเข้าไปทำให้เกิดผลข้างเคียงมากมาย เสี่ยงเสียชีวิตได้ จนมีการเตือนกันว่าควรหลีกเลี่ยงการบริโภค ซึ่งวันนี้จะพาทุกท่านมาทำความรู้จักกับสัตว์ชนิดนี้ให้มากขึ้น พร้อมวิธีการจำแนกชนิดที่มีพิษ และไม่มีพิษ เพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภค

    ลักษณะทางสัณฐานวิทยา

    ลักษณะแมงดาทะเลเป็นสัตว์ที่มีรูปร่างโดดเด่น แบ่งออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่ ส่วนหน้า และส่วนท้อง บริเวณด้านหน้าจะมีรูปทรงโค้งครึ่งวงกลม เปลือกแข็ง ด้านส่วนท้องจะมีระแนงหนาม ที่ใช้ในการเคลื่อนไหวได้ และมีหางลักษณะแท่งเรียวยาว ซึ่งใช้สำหรับการงอตัว รวมทั้งการฝังตัวลงไปในดิน

    แหล่งที่อยู่อาศัย

    แมงดาทะเล ที่อยู่อาศัยสามารถพบได้บริเวณชายฝั่งทะเลทั่วไป แม้กระทั่งลำคลอง และป่าชายเลนก็สามารถอาศัยอยู่ได้ ส่วนในทะเลมักจะพบในบริเวณน้ำตื้น

    อาหารของแมงดาทะเล

    ส่วนใหญ่จะเลือกกินสัตว?ขนาดเล็กจำพวกหอย ไส้เดือนทะเลต่าง ๆ 

    การสืบพันธุ์

    เป็นสัตว์ที่มีการสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศ ซึ่งการผสมพันธุ์จะอยู่ในช่วงของฤดูร้อน ในระหว่างกลางเดือนกุมภาพันธ์ ไปจนถึงเดือนกันยายน ซึ่งมีการปฏิสนธิแบบภายนอก สัตว์ชนิดนี้ตัวเมียจะขึ้นมาวางไข่บนบก ด้วยการใช้ขาคู่ที่ 6 ขุดทรายให้เป็นโพรง แล้วปล่อบไข่ออกมาวางไว้ จากนั้นตัวผู้จะปล่อยน้ำเชื้อออกมาผสมไข่ และทำการกลบทรายไว้ให้เหมือนเดิม

    วิธีการแยกแมงดาทะเลที่มีพิษและไม่มีพิษ

    สำหรับชนิดที่มีพิษเรียกว่าแมงดาถ้วย ซึ่งสามารถสังเกตลักษณะสำคัญบริเวณหางที่จะมีลักษณะกลมเหมือนกับแท่งดินสอ ถ้าเจอหางลักษณะนี้แนะนำว่าไม่ควรบริโภค ส่วนแมงดาจาน เป็นสายพันธุ์ที่ไม่มีพิษ กินได้ โดยหากจะมีลักษณะเป็นรูปทรงสามเหลี่ยม และเป็นชนิดที่เสี่ยงสูญพันธุ์ เหลือจำนวนน้อยมากในประเทศไทย เนื่องจากถูกมนุษย์จับกินในปริมาณมาก แต่อย่างไรก็ตามหากอยากทดลองทานดูแนะนำว่าควรเลือกซื้อร้านอาหารทะเลที่มีความเชี่ยวชาญในการจัดจำแนกชนิดของแมงดา เพื่อป้องการความเสี่ยงในการรับสารพิษ

    แมงดาทะเลสัตว์ที่ต้องได้รับการอนุรักษ์

    สำหรับแมงดาทะเลถึงแม้จะมีชนิดที่สร้างสารพิษ ก็ยังเป็นสัตว์ทะเลที่คนชื่นชอบกินกันมาก ๆ ส่งผลทำให้แมงดาทะเล กินได้อย่างแมงดาจานมีปริมาณลดลงจำนวนมากในประเทศไทย จึงอยากแนะนำให้ทุกท่านหลีกเลี่ยงการบริโภคแมงดาทะเลให้น้อยลง เพื่อให้มีจำนวนประชากรสูงขึ้น ซึ่งแมงดาทะเล ประโยชน์นอกจากเป็นอาหารแล้ว

    ในส่วนของเลือดที่มีสีน้ำเงินโดยมีองค์ประกอบของทองแดง และเซลล์เม็ดเลือดขาวของแมงดาทะเลมีประสิทธิภาพสูงมากในการตรวจจับเชื้อโรคและแบคทีเรีย โดยทางการแพทย์จะนำเซลล์เม็ดเลือดขาวมาใช้ในทางการแพทย์ นำมาสกัดให้ได้โปรตีนที่เรียกว่า Limulus amoebocyte lysate (LAL) ซึ่งสารโปรตีนชนิดนี้สามารถนำมาใช้ในการตรวจการปนเปื้อนของเชื้อแบคทีเรียในกระบวนการผลิตยา วัคซีน สารเคมี และสารต่าง ๆ ที่ใช้ในวงการแพทย์และเภสัช

    แมงดาสามารถพบได้ในหลากหลายระบบนิเวศ มีการแพร่พันธุ์ในวงกว้าง แต่อย่างไรก็ตามจำเป็นต้องมีการอนุรักษ์สัตว์ชนิดนี้ โดยเฉพาะแมงดาจานที่ในประเทศไทยเองมีจำนวนลดลงจำนวนมากในแต่ละปี ซึ่งอยากแนะนำให้ทุกท่านหลีกเลี่ยงการบริโภคในอัตราที่ต่ำลง  animal2you.com

    บทความเพิ่มเติม