Categories
สัตว์บก

เสือราชันย์แห่งป่า วิวัฒนาการที่มาจากแมว

เสือ ถือว่าเป็นสัตว์ที่จัดอยู่ในประเภทวงศ์แมวทุกชนิดอีกด้วย ถูกบันทึกไว้กลุ่มของสิ่งมีชีวิตในวงศ์ฟิลิดี ซึ่งนับว่าเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม มีขนปกคลุมทั่วร่างกาย และที่สำคัญมันนั้นยังมีหัวใจ 4 ห้อง มีปอดให้หายใจเหมือนกับมนุษย์ น้ำหนักอาจจะมากถึง 180-245 กิโลกรัมได้เลย เสือราชันย์แห่งป่า สัตว์สันโดษ ตัวเมียมีเต้านมไว้ให้สำหรับเลี้ยงลูกอ่อนอีกด้วย เสื้อมีฟันกรามที่คมเหมือนมีดไว้สำหรับกินเนื้อกินอาหาร และยังมีฟันกรามข้างหน้าที่ทำหน้าที่บดเคี้ยว แถมยังมีประสิทธิภาพในการวิ่งสูงมาก เนื่องจากมีกระดูกสันหลังที่ยืดหยุ่น สามารถกระโจนและมีนิ้วเท้า 5 นิ้ว พร้อมกับเล็บที่แหลมคมนั้นนับว่าเป็นสัตว์ที่กินเนื้อ และปรากฏครั้งแรกในโลกเมื่อประมาณ 65 ห้าล้านปีก่อน ที่เรียกได้ว่าสัตว์ป่าส่วนใหญ่เกือบทั้งหมดล้วนแต่เป็นเหยื่อของพวกมัน 

เสือราชันย์แห่งป่า เอกลักษณ์ที่เด่นกว่าสัตว์ชนิดอื่นในพงไพร

เสือราชันย์แห่งป่า

เสือนับว่าเป็นสัตว์ที่โดดเดี่ยวมากที่ใช้เวลาเกือบทั้งหมดอยู่ภายในป่า นอกจากจะต้องการผสมพันธุ์เท่านั้น เสือถึงจะมาอยู่กันเป็นคู่ โดยเสือตัวเมียนั้นจะเรียกร้องความสนใจด้วยการส่งเสียงดังๆ เพื่อให้เสือตัวผู้นั้นสนใจ เริ่มผสมพันธุ์ได้ตั้งแต่อายุ 2-8 ปี ด้วยระยะตั้งครรภ์ของเสือจะอยู่ระหว่าง 55-119 วันกันเลยทีเดียว บางคอกอาจจะออกลูกได้ตั้งแต่ 1-6 ตัว โดยเสือราชันย์แห่งป่า มีหลายสายพันธุ์มาก ซึ่งการสืบพันธุ์นั้นก็สามารถทำได้แค่เฉพาะพันธุ์เดียวกัน เสือต่างสายพันธุ์จะไม่สามารถผสมหรืออยู่ร่วมกันได้ ซึ่งนับว่าเป็นอีกหนึ่งกระบวนการของวิวัฒนาการของสัตว์สันโดษ ทั้งนี้ในปัจจุบันนั้นมีมากมายหลากหลายชนิด ยกตัวอย่างเช่น

เสือราชันย์แห่งป่า
  • เสือชีต้า เป็นเสือเล็กชนิดหนึ่ง ที่ไม่สามารถส่งเสียงคำรามได้ แต่มันสามารถวิ่งเร็วได้ถึง 110-120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง นับว่าเป็นสัตว์บกที่วิ่งเร็วมากที่สุดในโลก
เสือราชันย์แห่งป่า
  • เสือพูม่า มีถิ่นกำเนิดอยู่ในทวีปแอฟริกา เสือพูม่านั้นจะสามารถไล่เหยื่อได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นสัตว์มีกีบ สัตว์ฟันแทะ ส่วนใหญ่จะพบมากในทวีป ยุโรป และที่ ทวีปอเมริกานั้นได้สูญพันธุ์ไปแล้ว
เสือราชันย์แห่งป่า
  • เสือดาว จัดอยู่ในประเภทของเสือขนาดใหญ่รองลงมาจากเสือโคร่ง พบได้ตามทวีปแอฟริกา อินเดีย เอเชีย เสือดาวนั้นนับว่ามีเพียง 25% เท่านั้นที่จะอยู่รอดมาจนถึงปัจจุบัน เนื่องจา เป็นสัตว์ที่มีขนาดใหญ่และขาค่อนข้างสั้น ภัยคุกคามที่ทำให้เสือดาวได้เสี่ยงต่อการสูญเสียคือการไม่มีที่อยู่อาศัยจากการรุกล้ำของมนุษย์
เสือราชันย์แห่งป่า

เสือราชันย์แห่งป่านับว่าเป็นสัตว์ที่ถูกขึ้นบัญชีให้เป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง เนื่องจากมีความตระหนักเห็นว่า มีจำนวนที่ลดน้อยลง และยังถูกมนุษย์ไล่ล่าอย่างหนัก เพื่อจะเอาหนังไปทำเครื่องประดับรวมไปถึงทำเครืองรางต่างๆ ซึ่งในปัจจุบันนับว่าเป็นสัตว์ที่คุณอาจจะพบได้ยาก เนื่องจากมีจำนวนที่หลงเหลืออยู่ตามประเทศไทย และทั่วโลกน้อยมาก พวกมันจะคอยหลบหนีมนุษย์ 

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
สัตว์บก

สิงโต สัตว์ดุร้ายที่อยู่ในตระกูลแมว

สิงโต เป็นสัตว์ตระกูลเดียวกันกับสัตว์เลี้ยงสุดน่ารักอย่าง แมว เห็นได้จากรูปร่างและหน้าตาของมันจะมีความคลับคล้ายคลับคลากับแมว ไม่ว่าจะเป็น มีขา 4 ขา มีหาง มีหู 2 หู มีหนวดตรงใบหน้า ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นลักษณะที่เหมือนแมวทั้งหมด เพียงแต่สัตว์ที่มีหน้าตาดุร้ายนี้ถูกสร้างมาให้มีพละกำลังที่แข็งแรง มีร่างกายที่ทรงพลังและปราดเปรียวมากกว่าแมวหลายเท่า ขนาดลำตัวของมันมีขนาดไล่เลี่ยกันกับเสือโคร่ง จึงไม่แปลกที่แมวประเภทนี้จะเป็นผู้ล่าอันดับ 1 ของห่วงโซ่อาหาร นอกจากนี้ สิงโตยังเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม เช่นเดียวกันกับแมวอีกด้วย

สิงโต เจ้าแห่งผืนป่า

สิงโต

หลายคนคงคุ้นหูกับคำว่า สิงโตเจ้าป่า เนื่องจากสัตว์ประเภทนี้ได้รับฉายาว่าเป็นเจ้าแห่งผืนป่า เป็นสัตว์ตระกูลแมวที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก พบได้มากในทวีปแอฟริกา ซึ่งจะอยู่ในพื้นที่ระดับน้ำทะเลไปจนถึงระดับสูง 3,000 เมตร คำว่า เจ้าป่า ฉายาที่หลายคนใช้เรียกแทนเจ้าสิงโต นั่นก็เพราะว่าสัตว์จำพวกนี้ชอบอยู่กันเป็นฝูง ไปไหนมาไหนเป็นครอบครัว โดยสิงโตตัวผู้หนึ่งตัวจะมีเมียหลายตัว หรือสิงโตตัวเมียหนึ่งตัวอาจจะมีตัวผู้หลายตัวก็ได้ ไม่ได้มีผัวเดียวเมียเดียว โดยเมื่อถึงฤดูผสมพันธุ์สิงโตจะใช้เวลาอยู่ด้วยกันนานถึง 2 สัปดาห์ สิงโตตัวเมียจะตั้งท้องอยู่ประมาณ 4 เดือน ลูกที่สิงโตตัวเมียคลอดออกมาจะมีน้ำหนักอยู่ที่ 1 กิโลกรัมโดยประมาณ

สิงโต

โดยสิงโต คลอดลูกครอกละ 2-6 ตัว สิงโตตัวเมียจะมีหน้าที่ช่วยกันดูแลลูกๆ ถึงแม้จะไม่ได้เป็นลูกของตัวเอง แต่หากลูกมาจากสิงโตตัวผู้ตัวเดียวกัน ตัวเมียก็จะช่วยกันเลี้ยงเหมือนเป็นครอบครัวเดียวกัน ทันทีที่ลูกสิงโตเกิดใหม่จะช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ สิงโตตัวเมียจึงต้องพาลูกอ่อนของมันไปซ่อน เพราะลูกสิงโตอาจจะโดนสิงโตตัวผู้ที่ไม่ช่พอของมันเองฆ่าเพื่อนำมาเป็นอาหารได้ สถิติย้อนหลังพบว่าลูกสิงโตในวัยแรกเกิดมีโอกาสรอดชีวิตเพียงร้อยละ 50 จากจำนวนทั้งหมด เพราะ แม้ว่าแม่ของมันจะพาลูกไปซ่อนในที่ลับแล้ว แต่เมื่อถึงเวลาออกหากินสิงโตตัวเมียก็จำเป็นจะต้องทิ้งลูกไว้เพียงลำพัง จนบางครั้งอาจมีไฮยีน่าหรือหมาป่า ได้กลิ่นลูกของมัน และจับกินลูกสิงโตเป็นอาหาร

สิงโต

เมื่อลูกสิงโตมีอายุได้ราวๆ 3 เดือนจะเริ่มวิ่งเล่น และเมื่ออายุได้ 5 เดือน จะเริ่มฝึกล่าเหยื่อ โดยได้รับการฝึกฝนจากพ่อและแม่ของมัน วิธีการฝึกฝนการล่าเหยื่อของสิงโตคือ พ่อหรือแม่จะต้อนเหยื่อเพื่อให้เข้าใกล้ลูก หลังจากนั้นลูกมันก็จะฝึกฆ่า โดยเหยื่อที่ว่าจะเป็นเหยื่อขนาดเล็กเพื่อไม่ให้ลูกตกใจ หรือยากต่อการฝึกฝน เมื่อฝึกไปเรื่อยๆ สิงโตเหล่านั้นก็จะเป็นนักฆ่าอย่างเต็มตัว โดยสิงโตจะโตเต็มที่เมื่อมีอายุได้ 2 ปี สิงโตมีอายุยืนถึง 30 ปี ถ้าได้รับการเลี้ยงดูอย่างดี เช่น สิงโตที่อาศัยอยู่ในสวนสัตว์ แต่หากเป็นสิงโตที่ใช้ชีวิตอยู่บนผืนป่า ไม่มีมนุษย์คอยดูแล จะมีอายุสั้นกว่า อาจจะ 10-20 ปี เนื่องจากเมื่อสิงโตมีอายุมากก็จะค่อยๆ หมดเรี่ยวแรงในการล่าเหยื่อ และไม่มีใครคอยล่าเหยื่อให้มันกิน จนเกิดอดอยากและสิ้นใจในที่สุด

สิงโต

โดยสิงโตชอบออกล่าเหยื่อในเวลากลางคืน โดยเฉพาะเวลาที่มีพายุ ส่วนเวลากลางวันจะเป็นเวลาพักผ่อนของมัน สิงโตมักจะนอนใต้ต้นไม้หรือกลางทุ่งหญ้า ขณะนอนพักมันจะใช้เวลาในการสังเกตพฤติกรรมของเหยื่อโดยไม่คิดทำร้าย แต่เมื่อถึงเวลาเหยื่อเหล่านั้นก็จะตกไปอยู่ในท้องของพวกมัน ความโดดเด่นของสิงโตที่ต่างจากสัตว์อื่นๆ คือ มีความสูงประมาณ 1 เมตร ลีลาการเดินมีความสง่า ผ่าเผย มีฟันที่แข็งแรง ซึ่งจะเห็นได้จากการที่มันทึ้ง กัด และฉีกเหยื่อเป็นชิ้นๆ ขากรรไกรของสิงโตสามารถขบศีรษะของเหยื่อจนแตกละเอียดได้ และด้วยความที่สิงโตเป็นสัตว์ที่ออกหากินในเวลากลางคืน สายตาของมันจึงมีความแหลมคม สามารถมองเห็นเหยื่อที่อยู่ไลกได้ แม้ในกลางคืน 

การล่าเหยื่อที่ต้องพึ่งพาธรรมชาติ

สิงโต

เจ้าป่า หรือ สิงโตจะเป็นสัตว์ที่มีกลิ่นแรง ถึงแม้ว่าจะอยู่ไม่ไกลกันก็ยังสามารถได้กลิ่นของสิงโตได้ ดังนั้นสิงโตจึงมีความสามารถพิเศษเฉพาะตัว หรืออาจเรียกว่าความชาญฉลาดของมันก็ได้ นั่นก็คือสิงโตจะมีความสามารถในการซ่อนและพรางตัวไม่ให้เหยื่อเห็นได้อย่างยอดเยี่ยมกว่าสัตว์อื่นๆ แต่ไม่วายจะโดนจับได้ เนื่องจากสัตว์อื่นๆ อาจได้กลิ่นของมัน ดังนั้นมันจึงนิยมออกล่าเหยื่อในเวลามีพายุ เพื่อจะให้ลมเป็นตัวช่วยในการหาเหยื่อ โดยมันจะไปกันเป็นฝูง และจะหมอบอยู่ใต้ลม ให้ลมพัดเข้าหามัน การกระทำดังกล่าวจะทำให้สัตว์อื่นไม่ได้กลิ่นของมัน แต่มันยังคงได้กลิ่นสัตว์อื่นอยู่เช่นเดิม โดยปกติสิงโตชอบล่าเหยื่อตามทุ่งหญ้า ป่าโปร่ง หรือตามแอ่งน้ำ สัตว์ที่สิงโตโปรดปรานส่วนมากจะเป็นสัตว์ขนาดใหญ่ ได้แก่ ม้าลาย ละมั่ง หมูป่า ควาย ส่วนสัตว์เล็กที่สิงโตกิน ได้แก่ ลิง กระต่าย หนู เป็นต้น ด้วยความที่สัตว์อื่นๆ ถูกมองว่าเป็นเหยื่อของสิงโตทั้งหมด ดังนั้นก็ถือเป็นฉายาที่เหมาะสมแล้ว

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
สัตว์บก

ยีราฟ สัตว์เคี้ยวเอื้องลำตัวสูง

ยีราฟ เป็นสัตว์เคี้ยวเอื้องที่มีความสูงเฉลี่ยมากถึง 5.5 เมตร ถือเป็นสัตว์บกที่มีความสูงที่สุดในโลก เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ในวงศ์ Giraffidae ลักษณะเด่นของยีราฟทีต่างจากสัตว์ชนิดอื่นๆ คือ มีขายาว ส่วนตัวยาว และลำคอยาว มีเขา 1 คู่ มีความสูงมากกว่าสัตว์ชนิดอื่นๆ โดยเฉพาะตัวผู้ที่มีความสูงเฉลี่ย 4.8 ถึง 5.5 เมตรมีน้ำหนักตัวมากถึง 900กิโลกรัม ส่วนตัวเมียมีขนาดและความสูงน้อยกว่าตัวผู้เล็กน้อย ตัวมีสีเหลืองผสมสีน้ำตาลเข้มเป็นลาย มีถิ่นกำเนิดในทวีปแอฟริกา หากเป็นยีราฟในทวีปแอฟริกาจะมีความสูงมากกว่ายีราฟในพื้นที่อื่นๆ

ยีราฟ สัตว์คอยาวที่เป็นสีสันของสวนสัตว์หลายที่บนโลก

ยีราฟ

หลายคนคงรู้จักสัตว์คอยาวชนิดนี้เป็นอย่างดี เพราะในสวนสัตว์เกือบทุกที่ก็จะมียีราฟที่ถือเป็นสีสันของสวนสัตว์นั้นๆ รวมทั้งยังเป็นที่ชอบใจของเด็กๆ อีกด้วย ยีราฟมีลักษณะที่เด่นชัดคือ มีคอยาวและมีลำตัวที่สูง เรียกได้ว่าเป็นสัตว์บกที่สูงที่สุดในโลก โดยเฉพาะยีราฟแอฟริกา หากเป็นยีราฟในทวีปแอฟริกาจะมีความสูงมากกว่ายีราฟในพื้นที่อื่นๆ นอกจากจะมีคอและลำตัวยาวแล้ว ลิ้นของมันก็มีความยาวไม่แพ้กัน ยีราฟมีลิ้นยาวถึง 50 เซนติเมตร ทำให้ยีราฟสามารถกินได้ทั้งหญ้า รวมถึงสามารถกินพุ่มไม้ที่อยู่สูง ได้อย่างไม่มีปัญหา นอกจากลิ้นจะยาวแล้วยังมีความหนาสากอีกด้วย สามารถกินพืชที่มีหนามแหลม มีรสฝาด ได้อย่างสบายๆ โดยไม่เกิดอันตรายต่อตัวยีราฟเอง เพราะสามารถทนต่อสารพิษจากพืชได้ในระดับหนึ่ง ยีราฟทั่วโลกมีท้งหมด 4 ชนิด ดังนี้

ยีราฟ
  • Giraffe camelopardalis (ยีราฟนูเบีย)
  • Giraffe reticulata (ยีราฟลายร่างแห, ยีราฟโซมาลี)
  • Giraffe tippelskirchi (ยีราฟมาไซ)
  • Giraffe giraffa (ยีราฟแอฟริกาใต้)

โดยทั้ง 4 สายพันธุ์ข้างต้น แบ่งออกด้วยการลำดับ DNA โดยทั้ง 4 สายพันธุ์ไม่ได้มีการข้ามสายพันธุ์มากว่า 1-2 ล้านปีแล้ว ความพิเศษของสัตว์ที่สูงที่สุดในโลกชนิดนี้คือ ยีราฟมีหัวใจที่หนักถึง 10 กิโลกรัม ด้วยความที่เป็นสัตว์บกที่มีตัวสูงที่สุดในโลก ทำให้ต้องมีหัวใจขนาดใหญ่ ซึ่งมีน้ำหนักมากถึง 10 กิโลกรัม เพื่อให้เลือดสูบฉีดขึ้นไปเลี้ยงสมองได้ดีโดยยีราฟสามารถสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงสมองได้มากกว่ามนุษย์ถึง 3 เท่า 

ยีราฟสัตว์ที่สร้างความกลมกลืนกับธรรมชาติ

ยีราฟ

ด้วยความที่ยีราฟ มีลำตัวที่สูงและมีคอยาว โดยช่วงลำคอของยีราฟจะมีความแข็งแกร่งมากกว่าช่วงอื่นๆ สามารถใช้ป้องกันตัวเองจากสัตว์ที่มีอันตรายได้ ยีราฟมีหัวใจที่หนักถึง 10 กิโลกรัม เป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นว่า ยีราฟเป็นสัตว์ที่มีความแข็งแรงสูง สามารถเอาตัวรอดได้เป็นอย่างดี สีของยีราฟที่มีทั้งสีส้มสีเหลืองและสีน้ำตาลผสมกันนั้น ยังเป็นประโยชน์กับการดำรงชีพเป็นอย่างมาก เนื่องจากสามารถใช้อำพรางตัวเพื่อหลบหนีศัตรูได้ ถือเป็นสัตว์ที่สร้างความกลมกลืนกับธรรมชาติได้อย่างน่าทึ่ง

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
สัตว์บก

ลิงกัง สัตว์ที่เก่ง และแข็งแกร่งว่องไวที่สุด

หากพูดถึงสัตว์ที่เก่ง และฉลาด ส่วนมากแล้วต้องนึกถึงลิงเป็นอันดับแรกเลยก็ว่าได้ ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 ชนิด ได้แก่ ลิงกัง เหนือ และลิงกังใต้ ซึ่งเดิมทีลิงกังใต้จัดให้เป็นชนิดย่อยของลิงกังเหนือ แต่จะปัจจุบันได้ถูกแยกออกเป็นอีกชนิดต่างหาก ลิงกังสัตว์ป่าแสนซน มีรูปร่างลักษณะ อ้วนขนสั้น มีสีเทา หรือน้ำตาล ขนบนหัวจะขึ้นวนเป็นก้นหอย ส่วนตรงใต้ท้องจะมีสีเทาจางเกือบขาว บริเวณหลังเป็นสีน้ำตาลไหม้ หางสั้น 13-14 เซนติเมตร มีขาที่ยาว น้ำหนักตัวเฉลี่ยอยู่ที่ 4.7 – 14.5 กิโลกรัม ซึ่งตัวเมียจะมีขนาดตัวเล็กกว่าตัวผู้ และมีขนปรกหน้าผากน้อยกว่าตลิงตัวผู้

ลิงกัง มีความสามารถ มาทั้งความฉลาดเฉลียว

ในประเทศไทย ลิงกังเป็นที่รู้จักกันและคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี ลิงกังเป็นสัตว์ที่มีความสามารถมากมาย จึงทำให้คนส่วนหนึ่งนำมาเลี้ยง และฝึกฝน ให้ทำตามคำสั่งต่างๆ 

ลิงกัง
  • เช่นการแสดงละครลิง ที่ใช้ ลิงกังออกไปแสดงความสามารถให้ผู้คนซื้อบัตรเข้ามาชม ความน่าแสนรู้ และยังสร้างรายได้ให้กับเจ้าของอีกด้วย 
  • อีกหนึ่งความสามารถที่คนไทยมักนิยมฝึกให้ปีนต้นมะพร้าว เพราะลิงกังมีความซุกซน ว่องไว และมีฟันที่แข็งแรง จึงสามารถเก็บลูกมะพร้าวได้ ทำให้ ที่เกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี กลายเป็นที่ท่องเที่ยวที่มีทั้งคนไทย และชาวต่างชาติ ต่างพากันมาเยี่ยมชมความน่ารักของเจ้าลิงกัง สำหรับการฝึกให้ลิงเก็บลูกมะพร้าวนั้น จำเป็นต้องใช้ลิงตัวผู้ เพราะมีขนาดที่ใหญ่กว่าตัวเมีย และแข็งแรงกว่า ลิงที่ใช้ฝึกฝนจะอยู่ในช่วงอายุ 3-5 เดือน และต้องเป็นลิงที่เชื่อง นิสัยดี เชื่อฟัง ไม่ดุร้าย มีสุขภาพที่แข็งแรง ฟันไม่มีความผิดปกติ เพราะจะส่งผลต่อขั้วมะพร้าว ซึ่งเป็นผลที่ชาวเกษตรส่งออกตลาด โดยการฝึกจะใช้เวลาประมาณ 3 เดือน ขึ้นอยู่กับทักษะ และความฉลาดของลิง 
ลิงกัง

เนื่องจาก ลิง กัง จะเป็นสัตว์ที่มีความสามารถมากมาย จึงทำให้ผู้คนส่วนนึงลักลอบจับ โดยผิดกฏหมาย เพื่อมาหาผลประโยชน์ และหารายได้ที่เป็นกอบเป็นกำจากพวกมัน ลิงกังจัดเป็นลิงที่มีสมาชิกในฝูง น้อยกว่าลิงชนิดอื่น ที่มีไม่เกิน 40-45ตัวในฝูง ส่วนมากแล้วจะพบเจอได้ทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้พบได้ในหลายประเทศ ส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในป่าทึบ ป่าดิบชื้นบริเวณเชิงเขา และชอบเปลี่ยนที่อยู่ไปเรื่อยๆไม่ค่อยอยู่เป็นที่ ส่วนบางตัวจะออกหากินแบบเดี่ยว ไม่เข้าฝูง ลิงกังชอบมาอยู่ตามพื้นดินมากกว่าอยู่บนต้นไม้ แต่เวลานอนจะขึ้นนอนบนต้นไม้ ลิงกังจะเริ่มผสมพันธุได้ต่อเมื่อมีอายุ ราว 3 – 4ปี และยังผสมพันธุ์ได้ทุกฤดูกาล โดยใช้ระยะเวลาในการตั้งครรภ์ประมาณ 5-7เดือน ออกลูกเพียงแค่ 1ตัว ตัวผู้อาจจะผสมพันธุ์กับลิงตัวอื่นที่ไม่ใช่คู่ได้อีกหลายตัว ซึ่งจะไม่มีคู่ที่แน่นอน ลิง กังจะออกหากินในเวลากลางวัน อาหารหลักส่วนมากจะเป็นผลไม้ป่า และนอกจากผลไม้แล้วยังมี แมลง เมล็ดพืช ใบไม้ ตัวอ่อนปลวก และปู เป็นต้น ลิงกังจัดเป็นสัตว์ที่รักความสงบ ค่อยข้างเงียบ ไม่ชอบส่งเสียงมากมายนัก นอกเสียจากเวลาต่อสู้กันเท่านั้น 

อ่านบทความอื่นๆ:

สนับสนุนโดย:

https://gclubspecial168.com เว็บพนันออนไลน์ฝากถอนไม่มีขั้นต่ำ

Categories
สัตว์บก

แพนด้า หมีอ้วนขี้เล่น  เป็นมิตรอัธยาศัยดี

หมียักษ์ขี้เล่นที่ใครเห็น ก็ต้องตกหลุมรักในความอ้วนของมัน แพนด้า อาศัยอยู่บนเทือกเขา บางพื้นที่ของจีน ซึ่งในอดีตเชื่อว่า อาศัยอยู่กระจัดกระจายไปทั่วภาคใต้และตะวันออกของจีน จนไปถึงภาคเหนือของพม่า และเวียดนาม แต่ปัจจุบันแพนด้าเป็นหนึ่งในสัตว์ที่ใกล้สูญพันธุ์มากที่สุด ชนิดหนึ่งในโลก โดยพบเห็นได้ในพื้นที่แคบๆบนป่าเขาของจีนเท่านั้น จากการสำรวจล่าสุด แพนด้าที่เลี้ยงในกรง มีเพียง 239 ตัวอยู่ที่จีน และอีก 27 ตัวที่อยู่ต่างประเทศ มีการคาดการณ์ว่าที่อาศัยอยู่ตามธรรมชาติมีเพียง 1590 ตัวทั่วโลก แต่จากการศึกษาในปี คศ 2006 พบว่ามีประชากรที่อาศัยอยู่ตามธรรมชาติเพิ่มจำนวนขึ้น แต่เชื่อว่าข้อมูลดังกล่าวยังไม่แน่นอนที่จะย้ายชื่อของแพนด้าออกจากรายชื่อสัตว์ตัวใหญ่แสนขี้เกียจ ถึงแพนด้าจะจัดอยู่ในวงศตะกูลของหมี แต่พฤติกรรมของมัน แตกต่างจากหมีทั่วไปโดยสิ้นเชิง

แพนด้า ทำความรู้จักหมีอ้วนตัวนี้ให้ดีกว่าเดิม

แพนด้า
  • แพน ด้า หมีที่กินพืชเป็นอาหาร มีรูปร่างที่อ้วนตุ๊ต๊ะ มีขนนุ่มปุกปุย มีขนสีดำรอบดวงตา ใบหู บ้า และขาทั้ง 4 ข้าง ส่วนบริเวณอื่นของร่างกายจะเป็นสีขาว 
  • นิสัยส่วนตัวของเจ้าแพนด้า มักรักสันโดษไม่ชอบสุงสิงกับใคร จนได้รับฉายาว่าผู้สันโดษแห่งป่าไผ่ มีแค่ช่วงฤดูใบไม้ผลิที่ดอกไม่เบ่งบานเท่านั้นที่เราแพลนน่าจะออก มาหาคู่ จึงทำให้ แพนด้าเป็นหนึ่งในสัตว์ที่ใกล้สูญพันธุ์
  • เป็นนักปีนป่ายตัวยง ถึงแพนด้าจะตัวอ้วนเทอะทะอย่างนี้ แต่ที่จริงแล้ว ยังชอบปีนป่าย ซึ่งมีประโยชน์ในการหลบหนีศัตรู และหาอาหาร ของมัน
  •  อาหารที่โปรดปราณของแพนด้า ปกติแล้วแพนด้า จัดอยู่ในประเภทสัตว์กินเนื้อ 90 % ของอาหารที่มันกิน แต่กลับกลายเป็นใบไผ่ ที่แพนด้าเลือกกินถึงเ 99 % เพราะมันกินไปไผ่มากกว่า 20 สนิท เละจะเลือกใบไผ่ตามฤดูกาลที่มีรสชาติแตกต่างกันไป และยังมีหน่อไม้ บางทีก็จะกินข้าวโพด และตัวตังกุยป่าอีกด้วย แพนด้ามักใช้ชีวิตใกล้แหล่งน้ำเนื่องจาก ชอบกินน้ำเป็นชีวิตจิตใจบางครั้งอยู่ไกลแค่ไหน ก็ยังต้องดั้นด้นไปหาตามหุบเขา เพื่อให้เจอแหล่งน้ำ และก็กินอย่างชื่นหัวใจ
แพนด้า

ซึ่งบางทีก็พบว่ามันก็กินไข่ ปลา และแมลงบางชนิด ในใบไผ่อีกด้วย นี่คือสิ่งที่แพนด้าแตกต่างจากหมีชนิดอื่นที่กินเนื้อเป็นอาหารหลัก แม้ว่าใบไผ่เป็นพืชให้พลังงานน้อย แต่แพนด้าก็ยังเลือกที่จะกิน ใบไผ่ โดยจะใช้เวลาในการกินใบไผ่ถึงวันละ 16ชั่วโมง ในปริมาณไม่ต่ำกว่า 18กิโลกรัมต่อวัน และขับถ่ายมากถึงวันละ 40 ครั้ง ทำให้ในช่วงฤดูหนาวแพนด้า ไม่จำเป็นต้องจำศีลเหมือนกับหมีชนิดอื่นๆ เนื่องจากใบไผ่ให้พลังงานสะสมไม่เพียงพอ

แพนด้า

และแพน ด้าตัวเมียมีอาการติดสัตว์เพียง 1-2วันเท่านั้น และออกลูก รวมถึงเลี้ยงลูกในธรรมชาติ ให้อยู่รอดและเติบโตได้ยากมาก เป็นสาเหตุที่ทำให้แพนด้าเป็นหนึ่งในสัตว์ที่ใกล้สูญพันธุ์ ที่แพร่ขยายพันธุ์ได้ยากด้วยในรอบปี เนื่องจากแพนด้า เลือกกินใบไผ่ที่ค่อนข้างมีโภชนาการและพลังงานน้อยดังนั้นจึงต้องจำกัดกิจกรรมการเคลื่อนไหวและพักผ่อน ใช้เวลานอนหลับให้มากๆ เพื่อประหยัดพลังงาน แพนด้าใช้เวลากับการกิน 54% เพื่อการพักผ่อน ส่วน 43% เพื่อการพักผ่อน และให้เวลากับการเล่นแค่ 2%เท่านั้นเอง

อ่านบทความอื่นๆ:

สนับสนุนโดย:

https://gclubspecial168.com เว็บพนันออนไลน์ที่กำลังมาแรง

Categories
สัตว์บก

เฟอเรท สัตว์เลี้ยงที่มีความน่ารัก ซุกซนเหมือนเด็ก

เฟอเรท สัตว์เลี้ยงที่ทุกคนอาจคุ้นเคยตากันมาบ้างแล้ว เฟอเรทเป็นสัตว์นักสำรวจที่ได้รับความนิยมอย่างมากในต่างประเทศ เป็นสัตว์ที่มีถิ่นกำเนิดในยุโรป และนิยมเลี้ยงกันมากในอเมริกา นอกจากนี้ยังเป็นสัตว์นักล่าที่มีขนาดเล็กที่สุด จะถูกนำเข้ามาในฐานะของสัตว์ที่ฝึกใช้สำหรับล่ากระต่าย ซึ่งเป็นพฤติกรรมตามธรรมชาติ ที่ชอบล่าสัตว์ขนาดเล็กตามโพรงดิน เช่น หนู หรือกระต่ายเป็นอาหารอยู่แล้ว เฟอเรทเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่ถูกมนุษย์นำมาเป็นสัตว์เลี้ยงกันมาถึง 2500ปีแล้ว สัตว์นำเข้าที่ได้รับความนิยมเลี้ยงกัน ไม่แพ้แมว และสุนัขเลย ในเมืองไทย 

เฟอเรท หากใครได้ลองเลี้ยงแล้วรับรองว่าจะตกหลุมในความน่ารักแน่นอน

เฟอเรท
  • สัตว์นักล่าที่มีขนาดตัวเล็กที่สุด มีลักษณะลำตัวยาว คล่องแคล่วว่องไว โดยมีลำตัวยาวประมาณ 44-60 เซนติเมตร ในความยาวทั้งหมดครึ่งหนึ่งจะเป็นหาง ซึ่งมีน้ำหนักตัวราว 1-2.5 กิโลกรัมเท่านั้น เมื่อเทียบแล้วเฟอเรทมีขนาดตัวที่เล็กกว่าแมว แต่อย่างไรก็ตามน้ำหนักตัวจะยังไม่คงที่ เพราะขึ้นอยู่กับการกินเป็นหลัก ถ้ากินเยอะก็สามารถมีขนาดตัวที่ใหญ่กว่าแมวก็ได้
  • สัตว์ 4 ขา ที่แต่ละขาจะมี 5 นิ้ว ขนฟู มีขนาดดวงตาเล็ก กับหู 2 ข้าง ที่งอกออกมาเพียงเล็กน้อย แต่ละตัวจะสีขนที่แตกต่างกันออกไปตามสายพันธ์ที่นำมาผสมพันธุ์กัน หากโตเต็มที่แล้วจะมีฟัน 34-36 ซี่ โดยจะกินเนื้อสัตว์เป็นอาหาร และจะไม่ถูกกับผัก และผลไม้ ถ้าหากเผลอกินเข้าไปอาจอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตเลยก็ว่าได้
เฟอเรท

ซึ่ง เฟอเรทเป็นสัตว์เลี้ยงที่มีความใกล้ชิดกับคนมาก ซึ่งมีความซุกซนติดเล่น ติดเจ้าของ ถึงจะมีความขี้เล่น แต่ก็ยังมีความขี้กลัว และขี้ตกใจอีกต่างหาก เฟอเรทมีกลิ่นไม่พึงประสงค์อยู่ในตัว และจะปล่อยกลิ่นสาปออกมาทุกครั้งเมื่อรู้สึกตกใจ เฟอเรทมีนิสัยชอบสำรวจ อยากรู้อยากเห็น เป็นนักขุดคุ้ย คล่องแคล่วว่องใวต่อการสัมผัสภายนอก ถ้าเจ้าของเลี้ยงนอกกรง ก็ต้องคอยดูแลและระมัดระวัง เนื่องจากเป็นสัตว์ที่ชอบนำสิ่งของเข้าปาก บางครั้งอาจเป็นสิ่งที่เป็นอันตรายต่อชีวิตได้ โดยจะใช้เวลาในการนอนพักผ่อน 6-8 ชั่วโมง และจะตื่นใช้ชีวิตวิ่งเล่น 12-18 ชั่วโมงเลยทีเดียว

เฟอเรท

ซึ่งตัวผู้จะมีลำตัวที่ใหญ่กว่าตัวเมีย และสามารถสังเกตได้จากอวัยวะสืบพันธุ์ ถ้าจะเปรียบเทียบแล้วก็คล้ายกับแมว สามารถมองจากสายตาได้ เฟอเรทเป็นสัตว์ที่ขาดเซ็กส์ไม่ได้ ต้องมีการผสมพันธุ์อยู่ตลอด สังเกตได้ง่ายๆเมื่อพร้อมจะผสมพันธ์แล้ว ตัวผู้จะลูกอัณฑะที่ใหญ่ขึ้น ตัวเมียจะมีอวัยวะเพศที่บวมเปล่ง หากเพศเมียไม่ได้รับการผสมพันธุ์จะเกิดอาการภาวะเลือดจาง ทำให้ท้องบวม ตัวเหลืองซีด ขนร่วงจนหมดตัว ขณะเดียวกันเพศผู้จะมีอาการผิดปกติที่ต่อมลูกหมากทำให้ป่วยได้ ซึ่งจะไม่สามารถรักษาให้หายได้ง่ายๆ ดังนั้นจึงควรป้องกันด้วยการทำหมัน เพื่อเป็นการรักษาชีวิตของพวกมันไว้ได้ หากไม่ได้ทำการผสมพันธุ์

อ่านบทความอื่นๆ:

สนับสนุนโดย:

https://gclubspecial168.com แทงบอลออนไลน์ได้ที่นี่

Categories
สัตว์บก

กระรอก สัตว์เลี้ยงที่มีขนหางที่ฟูเป็นเอกลักษณ์ใครก็ต้องรัก

เมื่อพูดถึง กระรอก สัตว์เลี้ยงไว้เพื่อความเพลิดเพลิน หลายคนต้องรู้จักกันดี เนื่องจากมีการนิยมเลี้ยงกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งในประเทศไทยเมื่อลองนึกดูดีๆจะพบว่า จะสามารถเห็นกระรอกได้ทั่วไปโดยส่วนมาก จะเห็นกันตามกำแพง เสาไฟ ต้นไม้ และป่าข้างทาง โดยอยู่ทั่วพื้นที่ของประเทศไทย ซึ่งมีถิ่นกำเนิดที่แพร่กระจายอยู่ฝั่งพม่า ลาว และกัมพูชา เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม จำพวกสัตว์ฟันแทะ ที่มีขนาดลำตัวเล็ก มีขนปุกปุยปกคลุมทั่วร่าง หางเป็นพวงฟูสวยงาม คล้ายพวงองุ่น มีปลายจมูกที่ยื่นยาวอกมา ใบหูยาวใหญ่ กรงเล็บที่แหลมคม ดวงตากลมโตน่ารัก มีความยาวตั้งแต่ปลายจมูกถึงโคนหางประมาณ 21-22 เซนติเมตร มีความยาวของหางที่เท่ากับลำตัว มีหูที่ยาวถึง 1.9-2.3 เซนติเมตร ด้วยความน่ารักของมัน ทำให้กระรอกหลายชนิดนิยมเป็นสัตว์เลี้ยงของมนุษย์ โดยแพร่หลาย

กระรอก เป็นสัตว์ที่เป็นนักจัดระเบียบที่เก่งที่สุด

กระรอก
  • กระรอกเป็นสัตว์ที่ออกหากินตอนกลางวัน โดยกินผลไม้เป็นอาหารหลัก บางครั้งก็จะกิน ใบไม้ ดอกไม้ เมล็ดพืช หรือจะเป็นแมลง และเปลือกไม้ โดยเฉพาะกระรอกขนาดใหญ่อย่างพญากระรอก บางครั้งก็ยังกินไข่นกเป็นอาหารอีกด้วย 
  • กระรอกเป็นสัตว์ที่คล่องแคล่วว่องไวมาก ชอบอาศัยอยู่บนต้นไม้ตามป่าดงดิบ แห้งแล้ง ไปจนถึงสวนผลไม้ ที่เป็นแหล่งอาหารที่เจ้า กระรอก โปรดปราน รวมไปถึงสวนสาธารณะ และแหล่งชุมชน พบทั้งที่ชอบรวมกลุ่มกันเป็นฝูง และอยู่ตามลำพัง ซึ่งจะมีกรงเล็บที่แหลมคมใว้เพื่อหยิบจับอาหารแล้ว ก็ยังมีไว้เพื่อยึดติดกับต้นไม้เพื่อกระโดดจากต้นหนึ่ง ไปยังอีกต้นหนึ่งด้วย
กระรอก

แม้สมองของเจ้ากระรอกจะมีเพียงขนาดเท่าเมล็ดถั่ว แต่กลับมีสัญชาตญาณในการเอาตัวรอดสูง รวมถึงการจัดระเบียบอาหารอันเป็นเลิศ ด้วยความสามารถพิเศษในการแยกชนิดของถั่ว เพื่อการจัดเก็บ และกักตุนอาหาร ช่วยให้กระรอกจดจำข้อมูลง่ายๆ เพื่อย่นเวลาสำหรับการหาอาหาร ไปจุดๆหนึ่งเพื่อหาถั่วที่ปรารถนา สำหรับกระรอกที่ปีๆหนึ่ง เก็บเสบียงถั่วไว้ได้ถึง 3000-10000 ชิ้น โดยจะฝังลึกประมาณ 1นิ้ว ใต้พื้นดิน ซึ่งอยู่ใกล้ๆกับรัง

กระรอก

แต่บางครั้งก็จะพยามหาที่ซ่อนแปลกใหม่ เพื่อป้องกันกระรอกตัวอื่นหรือนกบางชนิดขโมยไปกิน ซึ่งบางครั้งด้วยความเจ้าเล่ห์ในการขุดซ่อนอาหาร จึงทำให้ กระรอกมีนิสัยขี้ลืมและความจำสั้น ทำให้ลืมไปว่าตัวเองนั้นขุดฝังอาหาร หรือโยกย้ายเมล็ดถั่วไปไว้ที่ไหนบาง เนื่องจากมีจำนวนที่มาก เพราะส่วนใหญ่แล้วกระรอกจะหาอาหารเพื่อเก็บซ่อนไว้ถึง 90% แต่อีก 10% พวกมันหาไม่เจอ ดังนั้น กระรอกจึงเป็นสัตว์ที่มีบทบาทสำคัญในการสืบพันธุ์ และการอยู่รอดของต้นไม้ใหญ่หลายๆต้น จึงทำให้ในทุกๆปี ต้นไม้ที่งอกเงยออกมาจำนวนหลายล้านต้น อาจเป็นฝีมือของเจ้ากระรอกชาวสวนตัวจิ๋ว ที่ทำให้ผลไม้ และเมล็ดพันธุ์เหล่านั้น มีโอกาสที่จะเติบโตขึ้นมาเป็นต้นไม้ในอนาคตด้วยฝีมือของกระรอก สัตว์นักปลูกต้นไม้มือทอง ก็เป็นได้

อ่านบทความอื่นๆ:

สนับสนุนโดย:

https://gclubspecial168.com เข้าเล่นฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย

Categories
ความรู้ สัตว์บก

ชูการ์ไกลเดอร์ สัตว์เลี้ยงบินได้ที่ใครหลายคนตกเป็นทาส

เมื่อพูดถึงสัตว์เลี้ยงเพื่อนซี้แล้วใครหลายคนก็อาจนึกถึงสุนัข หรือแมว ที่ต้องใช้พื้นที่และบริเวณมากในการเลี้ยงดูแล แต่สำหรับคนที่อยากมีสัตว์เลี้ยงสักหนึ่งตัว ไว้คอยแก้เหงา ที่ไม่สะดวกเลี้ยงในทีพัก ที่มีขนาดจำกัดหรือคอนโด ชูการ์ไกลเดอร์ ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับคนที่รักสัตว์ ชูการ์ไกลเดอร์สัตว์เลี้ยงเพื่อนซี้ยอดฮิตในตอนนี้ สัตว์อีกประเภทหนึ่งที่สามารถนำมาเป็นสัตว์เลี้ยงได้ พาไปไหนมาไหนก็ได้ เพราะด้วยความเจ้าชูการ์ไกลเดอร์ มีความเชื่อง มีขนาดเล็ก และด้วยความซุกซน ทำให้เจ้าชูการ์ไกลเดอร์สัตว์เลี้ยงตัวเล็กขนนุ่ม และสามารถบินได้ ที่ผู้คนส่วนใหญ่นิยมเลี้ยงมากที่สุดในตอนนี้เลยก็ว่าได้

ชูการ์ไกลเดอร์ สัตว์ที่มีความน่ารัก ซุกซนและขี้อ้อนเจ้าของที่สุด

ชูการ์ไกลเดอร์
  • ชูการ์ไกลเดอร์มีลักษณะภายนอกที่คล้ายคลึงกับกระรอกบินมาก ซึ่งชูการ์ไกลเดอร์จะมีขนาดตัวค่อนข้างเล็ก ดวงตากลม มีขนที่นุ่มมาก ซึ่งบริเวณลำตัวจะมีผังผืด ที่สามารถกางออกจากขาหน้า ไปถึงขาหลัง เพื่อทำการโต้ลม เวลาร่อน ซึ่งจะเหมือนกระรอกบิน และมีกระเป๋าหน้าท้องไว้เพื่อเลี้ยงลูก อีกด้วย
  • มีลักษณะนิสัยที่เชื่อง ไม่ก้าวร้าว มีความขี้เล่น ซุกซน และแสนรู้ ถ้าหากเลี้ยงดูแลเอาใจใส่มันเป็นอย่างดี และคอยเล่นด้วยบ่อยๆ ก็ไม่มีทางที่จะปล่อยให้เหงาเลย เพราะเป็นสัตว์เลี้ยงที่มีนิสัยติดเจ้าของมาก
ชูการ์ไกลเดอร์

ด้วยดวงตาที่กลมโตใส ขี้อ้อน ชอบเลีย และชอบเอาหัวมาซุก บางครั้งก็ส่งเสียงเห่า ที่มีเสียงคล้ายสุนัขขนาดเล็กเห่าเบาๆ และแสนรู้ถึงขั้นเรียกชื่อก็จะวิ่งมาหาอย่างง่ายได้ แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับการฝึกฝนอีกด้วย

ชูการ์ไกลเดอร์สัตว์ที่คนนิยมเลี้ยงมากที่สุด มีถิ่นกำเนิดในแถบประเทศออสเตรเลีย แต่สายพันธุ์ที่นิยมเลี้ยงกันในประเทศไทย เป็นสายพันธุ์ใหม่ที่นำเข้ามาจากตอนใต้ของประเทศอินเดีย และไม่ใช่สัตว์ฟันแทะเหมือนกระต่ายที่หลายคนเข้าใจชูการ์ไกลเดอร์ สัตว์ที่คนนิยมเลี้ยงมากที่สุด เป็นสัตว์ที่ชอบอยู่รวมตัวกันเป็นฝูง 6-10ตัว ซึ่งจะมีเจ้าฝูงที่ปล่อยกลิ่นเพื่อเป็นการกำหนดอาณาเขตของพวกมันอย่างชัดเจน มีอายุขัยเฉลี่ย 10-15ปี

ชูการ์ไกลเดอร์

โดยธรรมชาติทั่วไปแล้วชูการ์อาศัยอยู่บนต้นไม้ มีเล็บที่แหลมคมเพื่อใช้ในการกระโดด บินไปเกาะยังอีกต้นไม้หนึ่ง ไปยังอีกต้น อาหารที่พวกชูการ์กินจะไม่ใช่พืช 100% เพราะต้องการโปรตีนจากสัตว์ เช่นแมลง จิ้งหรีด หรือหนอนนกอีกด้วย เมื่อชูการ์เพศผู้มีอายุที่พร้อมจะผสมพันธุ์อยู่ที่ 6-8เดือน ส่วนเพศเมีย อยู่ที่ 10-12เดือน หลังผสมพันธุ์ประมาณ 15วัน ก็จะมีก้อนเนื้องอกออกมาจากรูทวารเพศเมีย ที่มีขนาดไม่เกิน 3มิลลิเมตร จากนั้นก่อนเนื้อค่อยๆคลายออก โดยแม่ชูการ์ไกลเดอร์ จะเลียลูกเข้าไปอยู่ในกระเป๋าหน้าท้อง แล้วจะเลี้ยงและเติบโตอยู่ในกระเป๋าหน้าท้องของแม่เป็นเวลา 2เดือน ถึงจะค่อยไปปล่อยออกมาจากกระเป๋าเพื่อใช้ชีวิตอยู่ข้างต่อไป

อ่านบทความอื่นๆ:

สนับสนุนโดย:

https://ufaball.bet ศูนย์รวมพนันกีฬาออนไลน์

Categories
ความรู้ สัตว์บก

แฮมเตอร์ หนูที่มีความน่ารัก ซุกซน

แฮมเตอร์ เป็นหนูพันธุ์แคระ ที่พบเจอครั้งแรกในประเทศซีเรีย ที่เหลืออยู่ทั้งหมด 12 ตัว และพวกมันก็ถูกนำตัวไปยังเมืองเยรูซาเล็ม แต่น่าเสียดายที่พวกมัน ไม่สามารถมีชีวิตต่อได้ แฮมเตอร์มีชีวิตรอดอยู่แค่เพียง 3 ตัว ตัวเมีย 2 ตัวและตัวผู้อีก 1 ตัว ซึ่งพวกมันก็ไม่ยอมให้ความน่ารักนี้หายไป จึงสืบทอดเผ่าพันธุ์ความน่ารักนี้ออกมาให้คนรู้จักอีกครั้ง จากนั้นแฮมเตอร์ก็ได้เข้าสู่เมืองที่ผู้คนต่างรู้จัก และมีนักวิทยาศาสตร์ท่านหนึ่งได้นำแฮมเตอร์ไปเป็นหนูทดลอง ต่างๆ จนกระทั่งมีผู้คน ที่พบเห็นว่าแฮมสเตอร์เจ้าหนูทดลองนี้เป็นสัตว์เลี้ยงที่แสนซน น่ารัก ด้วยความน่าเอ็นดูของเจ้าหนูแฮมสเตอร์ จึงนำออกมาเป็นสัตว์เลี้ยง สมาชิกใหม่อีกตัวหนึ่งในบ้าน แฮมเตอร์จึงเป็นสัตว์ที่นิยมเลี้ยงทั่วโลกตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

แฮมเตอร์ ความน่ารักที่ คนทั่วโลกหลงใหล

แฮมเตอร์

แฮมสเตอร์สัตว์ฟันแทะ ขนาดเล็กจำพวกหนึ่ง ที่มีความน่ารัก สดใส จึงเป็นสัตว์ที่นิยมเลี้ยง มากขึ้นเรื่อยๆ แฮมเตอร์เป็นหนู ที่มีความอยากรู้อยากเห็นสนใจสิ่งของรอบข้าง เมื่อเจ้าหนูสงสัยมักจะนั่งบนสะโพกของตัวเอง และใช้จมูกสูดดม ฟุดฟัด เป็นเวลานานสองนาน พร้อมกับยกขาขึ้น ในระดับเดียวกับท้อง ซึ่งเป็นความน่ารัก ที่ใครเห็นก็ต้องตกหลุมรัก แต่เจ้าแฮมสเตอร์ ก็ยังมี ความหวาดกลัว และขี้ตกใจ หรือถ้าหากถูกก่อกวนจนทำให้อารมณ์เสียแล้วละก็มันก็จะแสดงอาการดุร้ายขึ้นมาทันที โดยจะลุกขึ้นยืนด้วยสองขาหลัง พร้อมกับยกขาหน้าขึ้นและส่งเสียง ขู่ด้วยความน่ากลัว หากพบว่าแฮมเตอร์กำลังแสดงอาการเหล่านี้ก็อย่าเพิ่ง รีบเข้าไปจับ เพราะเจ้าหนูแฮมสเตอร์จะกัดเพื่อป้องกันตัวเองควรปล่อยให้แฮมเตอร์ มีสติสักพัก และสงบเสียก่อนและจะค่อยๆหายเอง 

แฮมเตอร์

สัตว์ที่นิยมเลี้ยงทั่วโลก ซึ่งมีหลากหลายสายพันธุ์ ทั้งที่เป็นพันธุ์ธรรมดาและพันธุ์แคระ ที่มีลักษณะหลากหลายสายพันธุ์ เช่น

  • เจ้าหนู แฮมสเตอร์ สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม มีขนาดตัวที่เล็กกว่าหนูปกติ อ้วนป้อม และมีหางสั้นกว่าลำตัว 
  • มีสีขน ที่หลากหลาย แต่ที่เห็นได้ชัด เช่น สีดำ เทา ขาว น้ำตาล หรือเหลืองเข้ม ซึ่งจะขึ้นอยู่แต่ละสายพันธุ์ 
  • มีดวงตากลมโต มีสีดำหรือแดง จมูกที่ไวต่อการได้กลิ่น 

สรุป

แฮมเตอร์

แฮมเตอร์สามารถกินอาหารได้หลากหลายโดยเฉพาะเมล็ดพืช เช่น เมล็ดทานตะวัน ที่เจ้าหนูชอบที่สุด เป็นสัตว์ที่ ออกหากินเวลากลางคืน และพักผ่อนในเวลากลางวัน เป็นสัตว์ที่ชอบออกกำลังกายมากในแต่ละวัน ผู้เลี้ยงอาจจะต้องหาของเล่น ลล้อหมุนเพื่อจะสร้างควาผ่อนคลายให้กับหนูแฮมเตอร์ได้ไม่เครียด ในแต่ละคืนแฮมเตอร์สามารถวิ่งได้ไกลถึง 30 ไมล์

แฮมเตอร์

แฮมสเตอร์เป็นสัตว์ที่เลี้ยงไม่ค่อยเชื่องนะ แต่ถ้าผู้เลี้ยงมีความรัก ความเอาใจใส่ ดูแลอย่างดี ก็สามารถมีเจ้าหนูเป็นเพื่อนเล่นคลายเหงาได้ เพราะความน่ารักความซุกซน อ้วนป้อม ของสามารถทำให้คนเลี้ยงเพลิดเพลินได้ แฮมสเตอร์ สัตว์ฟันแทะ เป็นสัตว์ที่แพร่พันธุ์ได้เร็วมาก เมื่อตัวเมียเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ เพื่อผสมพันธุ์ที่มีอายุเพียง 2-3 เดือนเท่านั้น ก็สามารถผสมพันธุ์ จึงมีลูกน้อยออกมาได้ และจะพักอีกสองสามเดือนเพื่อให้ลูกน้อยหย่านมและสามารถ ผสมพันธุ์ใหม่ได้อีกครั้ง

อ่านบทความอื่นๆ:

สนับสนุนโดย:

https://ufaball.bet/เว็บตรงไม่ผ่านเอเย่นต์ เว็บแทงบอลออนไลน์ไม่ผ่านเอเยนต์

Categories
ความรู้ สัตว์บก

กระต่าย สัตว์เลี้ยงยอดนิยมของใครหลายๆคน

หากพูดถึงสัตว์เลี้ยงยอดนิยมของคนทั่วโลก หนึ่งในนั้นต้องมี กระต่าย อยู่ด้วยแน่นอน ด้วยลักษณะที่แสนจะน่ารัก ไม่ว่าจะเป็น ตัวนุ่ม ขนฟู หูยาว ถือเป็นสัตว์ที่มีความน่ารัก สวยงาม เลี้ยงง่าย สามารถเลี้ยงในบ้านและคอนโดได้ เนื่องจากเป็นสัตว์ที่สามารถปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อมรอบตัวได้ง่าย เป็นสัตว์ที่มีขนาดเล็ก มีประสาทสัมผัสในการดมกลิ่นที่ยอดเยี่ยม สามารถเลี้ยงเป็นเพื่อนแก้เหงาได้ เพราะ เลี้ยงง่าย โตเร็ว แพร่พันธุ์ได้ไม่ยาก ที่สำคัญกระต่ายมีหลากหลายสายพันธุ์ สามารถเลือกได้ตามความชอบเลย

กระต่าย ความน่ารัก แสนรู้ ที่มัดใจคนทั่วโลก

กระต่าย

กระต่ายเป็นสัตว์เลือดอุ่นมีกระดูกสันหลัง ออกลูกเป็นตัว มีเขี้ยว เลี้ยงลูกด้วยนม มีลักษณะ ตัวเล็ก น่ารัก มีขนปุกปุย หูยาว พบในหลายแห่งของโลก ชอบอยู่กันเป็นฝูง ที่พบว่าอาศัยตามป่าทั่วไปในประเทศไทยมีชนิดเดียว คือ กระต่ายป่า ซึ่งมีขนสีน้ำตาล ใต้หางสีขาว ชอบขุดดินเป็นโพรงเพื่อการอยู่อาศัย ส่วนที่นำมาเลี้ยงตามบ้าน มีหลายชนิดและหลายสี แต่ที่พบมากจะเป็นสีอ่อน เช่น สีขาว สายพันธุ์ของกระต่ายมีอยู่หลากหลายสายพันธุ์ โดยสามารถที่สังเกตหรือใช้ขนาดตัวของกระต่ายเป็นเกณฑ์ในการจำแนกสายพันธุ์ ได้แก่ 

กระต่าย

กระต่ายแคระ ตัวเล็กกว่าชนิดอื่นๆ เช่น Netherland Dwarf , Polich Rabbit 

กระต่ายเล็ก ลำตัวจะใหญ่กว่ากระต่ายแคระเล็กน้อย เช่น Holland Hop , American Fuzzy Lop , Mini Rex , ducht

กระต่ายกลาง ตัวใหญ่กว่าสองชนิดแรกมาหน่อยนึงแต่ไม่ได้ใหญ่มาก เช่น Satin Angora , New Zealand Whiteกระต่ายใหญ่ ตัวใหญ่ที่สุดในทุกสายพันธุ์ เช่น English Lop , Checkered Giant

กระต่าย

แม้ว่าจะมีหลากหลายสายพันธุ์ แต่ลักษณะนิสัยของกระต่ายก็จะคล้ายๆ กันหมด คือ การเอาตัวรอดเก่ง แม้จะมีหน้าตาน่ารัก ดูแบ๊วๆ อ่อนโยน แต่ประสาทสัมผัสไวทุกด้าน ทั้งการดมกลิ่น การได้ยิน แถมสายตาก็มองได้เกือบ 360 องศา 

สัตว์เลี้ยงที่ไม่ได้มีดีแค่ความน่ารัก

กระต่าย

ความน่ารักของกระต่ายสามารถซื้อใจใครหลายๆ คนได้ แต่รู้ไหมว่าสัตว์เลี้ยงหูยาวชนิดนี้มีดีมากกว่านั้นคือ กระต่ายเป็นสัตว์เลี้ยงนำโชค เป็นสัตว์ที่เป็นสัญลักษณ์แห่งความโชคดีและเป็นสิริมงคลของประเทศญี่ปุ่น หูที่ยาวของกระต่ายนอกจากจะเป็นสัญลักษณ์ของการเพิ่มความโชคดีแล้วก็ยังเป็นสัญลักษณ์ของการเก็บรวบรวมข้อมูลที่ดีด้วย ขาหลังที่มีความยาวและแข็งแรงกว่าขาหน้า สื่อให้เห็นถึงการมีพละกำลังที่จะฝ่าฟันความลำบากไปสู่ความสำเร็จได้ เห็นได้จากสำนวนที่คนญี่ปุ่นใช้คือ กระต่ายปีนขึ้นทางชัน นอกจากนี้การเคลื่อนไหวที่รวดเร็วฉับไวของกระต่ายก็เป็นสัญลักษณ์แห่งความสำเร็จด้วย ออกลูกปีละหลายครั้ง ในหนึ่งปีกระต่ายจะออกลูกได้ 2-3 ครั้งและครั้งละหลายตัว ทำให้กระต่ายถูกใช้เป็นเครื่องรางในการขอลูกและการมีลูกหลานมากมาย ในคืนพระจันทร์เต็มดวงคนญี่ปุ่นมองเห็นเป็นภาพกระต่ายกำลังตำโมจิอย่างมีความสุขบนพระจันทร์ซึ่งสื่อถึงความสงบสุข อีกทั้งพระจันทร์ที่ส่องแสงสีนวลยังเป็นสัญลักษณ์ของความโชคดีในด้านการเงินและความเป็นมงคลต่าง ๆ ทำให้กระต่ายเป็นเครื่องหมายความโชคดี เป็นสัตว์เลี้ยงนำโชคที่ใครหลายคนนิยม

อ่านบทความอื่นๆ:

สนับสนุนโดย:

https://ufaball.bet แหล่งรวมการพนันออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็น แทงบอล แทงมวย บาคาร่า หวยสล็อต รูเล็ต และอีกมากมาย