Categories
สัตว์บก

“กวางเรนเดียร์”สัตว์ในเทพนิยายในฤดูหนาว

สัตว์บก

กวางเรนเดียร์สัตว์ในเทพนิยายในฤดูหนาว

กวางเรนเดียร์หลายคนก็คงรู้จักกันดีว่าเป็นสัตว์ใน

ตำนานและเป็นยานพาหนะของซานตาคลอสกันด้วย ตั้งแต่เด็กเราได้ยินกันมาตลอดว่าซานตาคลอสนั้นจะใช้กวางเรนเดียร์ขับล้อลาก แล้วไปส่งของขวัญให้กับเด็กในวันคริสต์มาส เป็นอะไรที่ตื่นเต้นเป็นอย่างมากหน้าหนาวมาทีไรก็ทำให้เรารู้สึกถึงความสนุกความอบอุ่น โดยที่ไม่ต้องมีสิ่งใดเข้ามารวมเพียงแค่คิดเล่นๆเราก็มีความสุขกันมากพออยู่แล้ว แต่กวางเรนเดียร์นั้นถึงแม้จะเป็นสัตว์ในเทพนิยายแต่ชีวิตจริงกวางเรนเดียร์ก็มีตัวตนจริงๆให้เราได้เห็นกันอีกด้วย

กวางเรนเดียร์ขนาดตัวใหญ่เท่ากับน้องควาย

ประเทศไทยของเราจะว่าไปแล้วไม่มีกวางเรนเดียร์ให้ดูกันเลย ด้วยกวางเรนเดียร์นั้นจะอาศัยอยู่ในเมืองหนาวเขาจะทนต่อสภาพอากาศที่เลวร้ายไม่ว่าจะมีความหนาวเย็นสักเท่าไหร่ ก็ไม่ใช่ปัญหาของกวางเรนเดียร์แม้แต่น้อย ด้วยความที่เขามีความสูงใหญ่จะว่าไปแล้วถ้าเทียบกับน้องควายบ้านเรา ดูแล้วน่าจะมีความสูงใหญ่มากกว่าด้วยซ้ำ สิ่งที่เห็นเด่นชัดและเป็นจุดเด่นของกวางชนิดนี้นั่นก็คือ เขาที่สวยงามมีรูปแบบที่เป็นเอกลักษณ์ นักล่าสัตว์หลายๆคนมีความใฝ่ฝันว่าอยากจะล่ากวางเรนเดียร์มาประดับบารมีของตนเองเอาไว้ตัดหัวมาทำการสตาฟและเก็บความงามของเขาไว้โชว์ในบ้าน บ้านเศรษฐีต่างๆของต่างประเทศถ้าใครได้มีหัวกวางและเขากวางเรนเดียร์ประดับไว้ที่บ้านถือว่าเป็นอะไรที่สุดยอดเป็นอย่างมาก แต่ถ้ามองให้ดีก็มีความน่าสงสารกับน้องกวางไม่น้อย

ความพิเศษของกวางเรนเดียร์ที่หลายคนไม่รู้มาก่อน

กวางเรนเดียร์นั้นมีความพิเศษอีก 1 อย่างนั่นก็คือการว่ายน้ำ หลายคนอาจจะไม่รู้มาก่อนว่าสัตว์ชนิดนี้สามารถว่ายน้ำได้อย่างคล่องแคล่วว่องไว ถึงแม้จะมีขนาดตัวที่ใหญ่แต่ก็สามารถว่ายน้ำได้อย่างรวดเร็วด้วยเช่นกัน ถือเป็นความสามารถเฉพาะตัวเป็นอย่างมาก สาเหตุที่ต้องว่ายน้ำให้เก่งนั่นก็คือการโยกย้ายถิ่นฐานไปตามสถานที่ต่างๆ เพราะบางชนิดนี้จะชอบอยู่ในที่อากาศหนาวเย็นเมื่อไหร่ที่มีอุณหภูมิเปลี่ยนแปลงก็จะมีการย้ายถิ่นฐานไปหาสถานที่ที่เย็น การข้ามน้ำหรือการต้องว่ายน้ำถือว่าเป็นเรื่องที่จำเป็นอย่างมาก แต่ในเรื่องของการลากล้อให้ซานตาคลอสวิ่งตามบนท้องฟ้านั้นคงจะเป็นแค่เพียงเรื่องเล่าและเป็นเพียงแต่ตำนานอย่างเดียวความเป็นจริงกวางเรนเดียร์นั้นไม่สามารถเหาะเหินเดินอากาศอย่างที่เราเคยได้ยินมา ถ้าใครที่อยากพบเจอตัวเป็นๆ อาจจะต้องไปเที่ยวตามขั้วโลกก็จะมีโอกาสได้พบเห็น

Categories
สัตว์บก

กระต่ายน้อยอาศัยอยู่บนดวงจันทร์จริงหรือไม่

สัตว์บก

ตอนเป็นเด็กหลายคนคงเคยได้ยินเรื่องกระต่ายบนดวงจันทร์จนกระทั่งมีนักร้องเพื่อชีวิตนำเพลงมาร้องถึงกระต่ายที่เฝ้าคร่ำครวญอยากจะขึ้นไปบนดวงจันทร์ แล้วความเป็นจริงกระต่ายอยู่บนดวงจันทร์จริงหรือไม่หรือเป็นแค่เพียงเรื่องเล่าเป็นตำนานที่มีคนแต่งขึ้นเท่านั้น จากที่เคยมีคนขึ้นไปบนดวงจันทร์ไม่พบสิ่งมีชีวิตแต่อย่างใดนั่นก็เป็นคำตอบที่ชัดเจนที่สุดแล้วว่าบนดวงจันทร์นั้นไม่มีอยู่อย่างแน่นอน

กระต่ายเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม

สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม มีความน่ารักน่าเอ็นดูในตัวเป็นอย่างมากด้วยมีขนที่ฟูนุ่มและเป็นสัตว์ที่ไม่ได้ดุร้าย แต่ก็จะประมาทกับการเข้าเล่นกับกระต่ายไม่ได้ กระต่ายบางตัวหรือบางสายพันธุ์ก็มีความดุร้ายอยู่ไม่น้อย ชาวต่างประเทศบางประเทศเขาได้เลี้ยงกระต่ายไว้สำหรับการเฝ้าบ้านแทนสุนัข ด้วยความดุร้ายของกระต่ายสามารถที่จะทำร้ายร่างกายได้เป็นอย่างดี การที่เขานำกระต่ายมาเลี้ยงไว้เพื่อเฝ้าบ้านนั้นเมื่อคนมาเห็นเข้าก็คิดว่าคงไม่มีอันตรายใดๆ ก็เลยชะล่าใจเมื่อเข้ามาในบริเวณบ้านก็โดนกระต่ายทำร้ายปกป้องบ้านได้เป็นอย่างดี

เนื้อกระต่ายรับประทานได้หรือไม่

แต่เรื่องน่าเศร้าของกระต่ายก็มีอยู่เช่นกันบางประเทศนิยมการจะทานเนื้อกระต่าย ด้วยความที่เนื้อมีรสสัมผัสที่คล้ายกับไก่แต่มีความเหนียวนุ่มมากกว่าทำให้หลายคนที่ชอบจะหาอะไรแปลกๆ ก็อยากจะลองลิ้มรสเกัน บางประเทศถือว่าการทานกระต่ายเป็นเรื่องปกติ ไปสำหรับคนรักสัตว์แล้วเรื่องราวเหล่านี้ก็คงจะทำใจได้ลำบาก

กระต่าย sensitive เรื่องสารพิษมากที่สุด

อาหารการกินนั้นส่วนใหญ่จะเป็นผักตามธรรมชาติหลายคนก็รู้กันดีอยู่แล้วว่ากระต่ายนั้นชอบกินผักบุ้ง แต่ก็ต้องแนะนำก่อนว่าปัจจุบันผักบุ้งที่เราเก็บตามธรรมชาติตามท้องนานั้นอาจจะไม่เป็นผลดีต่อการนำมาให้กระต่ายกินสักเท่าไหร่ เพราะว่ามียาฆ่าแมลงก้นอยู่เป็นจำนวนมาก ปัจจุบันคนถึงนิยมหันมาใช้ผักปลอดสารพิษในการเลี้ยงกระต่าย เป็นอะไรที่ปลอดภัยที่สุดและเสริมด้วยอาหารเม็ดอีกสักเล็กน้อยแค่นี้ก็ทำให้มีสุขภาพที่สมบูรณ์แข็งแรง ยิ่งถ้าเราดูแลเขาบ่อยๆเขาเล่นกับเขามากๆเขาก็จะจำเราได้ ไม่ได้แตกต่างกับการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงประเภทอื่น สำหรับการผสมพันธุ์ของกระต่ายนั้น ถ้าออกลูกได้ครั้งละหลายตัว และการออกลูกของกระต่ายใน 1 ปีก็สามารถออกได้มากกว่า 3 ครั้งขึ้นไปการแพร่พันธุ์จึงเร็วมากสำหรับคนที่สนใจที่จะเลี้ยงกระต่ายอยากแนะนำว่าต้องควบคุมเรื่องอาหารให้ดีมีแค่สารพิษเพียงเล็กน้อยกระต่ายสุดแสนรักของเราก็อาจจะสิ้นชีพได้เพียงชั่วข้ามคืนเช่นกัน

Categories
สัตว์บก

พี่เบิ้มแห่งผืนป่า

สัตว์บก

ช้าง ตัวโตขวัญใจของเด็กน้อยมากมาย

ช้าง ตัวโตขวัญใจของเด็กน้อยมากมาย ที่เราไม่สามารถปฏิเสธได้เลยว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่เราได้ยินข่าว หรือเรื่องราวเกี่ยวกับช้าง เรื่องราวเหล่านั้นมักเป็นเรื่องใหญ่ไม่แพ้ขนาดตัวของพวกมันเลย แต่ทำไมเรื่องราวของช้างถึงน่าสนใจ และเรื่องราวของเจ้าช้างน่าสนใจแค่ไหน เรามาเรียนรู้เรื่องราวของเจ้าช้างเหล่านี้กัน

ประวัติช้าง

ประวัติช้าง ;ช้างมีความผูกพันกับวิถีชีวิตของคนไทยไม่แพ้สัตว์ชนิดอื่น

          ช้างมีความผูกพันกับวิถีชีวิตของคนไทยไม่แพ้สัตว์ชนิดอื่น ไม่ว่าจะเป็นการที่เราใช้ช้างสำหรับการใช้แรงงาน ลงสนามศึก สนามรบ ในการทำยุทธหัตถีตั้งแต่ในสมัยอดีต แต่ที่สำคัญที่สุด คือ เราใช้ช้างเป็นสัตว์ประจำรัชกาล

          ช้างถือเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดใหญ่ ออกลูกเป็นตัว ที่มี 3 สายพันธุ์หลักๆ คือ ช้างแอฟริกา ช้างแอฟริกา และช้างเอเชีย ลักษณะเด่นๆ ของช้างที่ทุกคนน่าจะคุ้นตาก็คือ พวกมันมีตาที่เล็ก หูใหญ่ งวงยาว ตัวใหญ่ และมีผิวหนังที่หนาแต่ค่อนข้างละเอียดอ่อน ช้างตัวผู้จะมีงาขาวที่ได้วิวัฒนาการมาจากฟัน งวงของช้างนอกจากจะใช้เป็นจมูกสำหรับการหายใจแล้ว งวงของมันยังเปรียบเสมือนแขนที่ไว้ใช้หยิบสิ่งของ หรือหยิบอาหารเข้าปาก หรือดูดน้ำได้

ช้างเอเชีย

ช้างเอเชียตัวผู้จะมีขนาดสูงได้ถึง 3 เมตร

          ปัจจุบันช้างในประเทศไทยมีจำนวนไม่มากนัก และถือว่าน้อยมากหากนับเฉพาะช้างตามธรรมชาติ เนื่องจาก 95 % ของช้างในประเทศไทยจะอยู่ในศูนย์อนุรักษ์ทั้งของรัฐบาลเอง และของเอกชน ช้างในประเทศไทยเป็นช้างเอเชียชนิดหนึ่ง ที่อาจจะมีขนาดเล็กกว่าช้างสายพันธุ์แอฟริกา ช้างเอเชียตัวผู้จะมีขนาดสูงได้ถึง 3 เมตร มีงายาวที่เราเรียกว่าช้างพลาย ส่วนช้างตัวเมียแม้จะมีงา แต่งาของมันเป็นงาที่สมบูรณ์ซึ่งเราจะเรียกช้าวงตัวเมียว่าช้างพัง

ช้างเขาใหญ่

          สถานการณ์ของช้างที่อาศัยอยู่ตามธรรมชาติในประเทศไทยอาจจะไม่ค่อยดีนัก ไม่ว่าด้วยปัจจัยใดก็ตาม ทางอุทยานฯก็ได้พยายามทุกวิถีทางในการฟื้นฟู คุ้มครอง ดูแลโขลงช้างที่เหลืออยู่เป็นอย่างดี คุณอาจจะเคยได้ยินข่าว หรือ หากคุณเคยผ่านไปทางอุทยานเขาใหญ่ คุณอาจโชคดีได้เห็นโขลงช้างออกมาเดินตามถนน ทักทายรถที่วิ่งผ่านไปมาเช่น พี่ด้วน พี่โยโย่ พี่งาทองเล็กหรือ พี่ดื้อ เป็นต้น ทำให้ทางอุทยานฯ ได้ตั้งทีมอารักขา หรือที่เราเรียกว่า ชุดเคลื่อนที่เร็วเขาใหญ่ ที่จะคอยดูแลทั้งช้างเขาใหญ่ และรถที่วิ่งผ่านไปมา รวมถึงมีการแจ้งแผ่นพับ ใบปลิว และป้ายแจ้งเตือนเกี่ยวกับการปฏิบัติตัวเมื่อเจอโขลงช้างออกมาหากินตามริมถนนทางขึ้นอุทยานฯ

          นอกจากเราที่ต้องช่วยกันดูแลเจ้าช้างเหล่านี้ เพื่อใช้พวกมันได้อยู่ไปชั่วลูกชั่วหลานแล้ว เราต้องไม่ลืมที่จะดูแลผืนป่าที่เป็นเหมือน “บ้าน” ของพวกมันด้วย

Categories
สัตว์บก

เรื่องน่ารู้ของมดน้อยน่าทึ่ง

สัตว์บก

“มด” คำนี้มักจะถูกใช้เปรียบเทียบว่าเป็นสิ่งที่เล็กๆ ตามขนาดจิ๋วๆ ของเจ้าสัตว์ตัวน้อยที่เราเรียกว่ามด แม้ว่ามดจะเป็นสัตว์ที่เราสามารถพบเห็นได้ทั่วไป และดูไม่น่าสนใจนัก แต่จะมีสักกี่คนที่จะรู้ว่า มดตัวจิ๋วเหล่านี้มีการดำรงชีวิตที่แสนมหัศจรรย์ที่จะต้องทำให้คุณทึ่งได้อย่างแน่นอน

ลักษณะมดจะมีลำตัวของมดแบ่งออกเป็น 3 ส่วนใหญ่นั่นคือ ส่วนหัว ส่วนอก และส่วนท้อง

ลักษณะมด

มดมี 6 ขาจึงนับได้ว่าเป็นแมลงชนิดหนึ่ง เราสามารถพบเห็นมดได้ทั่วไปไม่ว่าจะเป็นบริเวณที่หนาวเย็นที่สุดอย่างขั้วโลก ไปจนถึงพื้นดินอันร้อนระอุของทะเลทราย ลักษณะมดจะมีลำตัวของมดแบ่งออกเป็น 3 ส่วนใหญ่นั่นคือ ส่วนหัว ส่วนอก และส่วนท้อง พวกมดมีปากและกรามที่ค่อนข้างแข็งแรงไว้ใช้กัด กิน แทะ ที่เป็นอวัยวะที่สำคัญ เพราะพวกมันใช้ปากทั้งในการจับเหยื่อหาอาหาร รวมถึงไว้ใช้ป้องกันตัว มดมีหนวดไว้ใช้ในการสื่อสาร และมดบางชนิดมีเหล็กในตรงส่วนท้องที่จะทำให้ศัตรูเจ็บปวดได้

มดถือเป็นอีกหนึ่งสิ่งมีชีวิตที่น่ามหัศจรรย์

พฤติกรรมมด

มดถือเป็นอีกหนึ่งสิ่งมีชีวิตที่น่ามหัศจรรย์ ไม่ว่าจะเป็นพฤติกรรมมดที่สามารถใช้ปากของพวกมันในการแบกน้ำหนักได้มากกว่าน้ำหนักของขนาดตัวมันหลายเท่า จนคิดได้เลยว่า “มด” เป็นสัตว์ตัวเล็กๆ แต่มีความแข็งแรงมาก มดเป็นสัตว์ที่รู้หน้าที่ของตนโดยที่ไม่ต้องมีการสื่อสารใดๆ ซึ่งมดที่ถือว่าเป็นสัตว์ที่อาศัยกันเป็นสังคมใหญ่ พวกมดจะมีการแบ่งหน้าที่ วรรณะกันอย่างชัดเจน ระหว่างมดราชินีซึ่งเป็นมดตัวเมียที่สามารถสืบพันธุ์ได้และมีอยู่เป็นจำนวนไม่มากนักภายในรัง 1 รัง มดตัวผู้ ที่เป็นมดมีปีกมีหน้าที่ผสมพันธุ์และมดงานที่เป็นมดตัวเมียที่เป็นหมัน ที่เราสามารถพบเห็นได้ทั่วไป มดยังสามารถแยกชนิดของมดกันเองโดยการสัมผัสกลิ่น ซึ่งสารฟีโรโมนในมดแต่ละชนิดจะมีกลิ่นที่ไม่เหมือนกัน นั่นทำให้หากมีมดสายพันธุ์อื่นหลงทางไปยังรังมดของมัน พวกมันก็จะรู้ได้ และถูกกำจัดในฐานะผู้บุรุกทันที

ที่อยู่อาศัยของมด หรือ รังมด ที่มีการสร้างรังลึกลงไปใต้ดินกว่า 4 เมตร

ที่อยู่อาศัยของมด

อีกหนึ่งความน่าทึ่งของมดก็คือ ที่อยู่อาศัยของมด หรือ รังมด ใครจะเชื่อว่า มด เป็นเหมือนสุดยอดวิศวกร หรือ สถาปนิก เลยทีเดียว รังของมดอาจจะถูกสร้างไว้ใต้ก้อนหิน เศษไม้ บนต้นไม้ หรือตามวัสดุต่างๆ บนพื้นดิน รังของมดจะถูกสร้างลึกลงไป และภายในมีการแบ่งแยกเป็นห้องต่าง ๆ พวกมันจะมีการจัดสรรห้องอย่างชัดเจน เช่น ห้องเก็บอาหาร ห้องเก็บตัวอ่อน ห้องนางพญา อีกทั้งการที่พวกมดจะอาศัยกันอยู่เป็นสังคมขนาดใหญ่ รังของพวกมันก็จะมีขนาดใหญ่พอๆ กับจำนวนของพวกมัน โดยเคยมีการพบว่า มด มีการสร้างรังลึกลงไปใต้ดินกว่า 4 เมตรเลยทีเดียว

มดถึงแม้จะเป็นแค่สิ่งมีชีวิตเล็กๆ แต่พวกมันก็ยังคงมีความน่าอัศจรรย์ และมีประโยชน์ต่อระบบนิเวศที่จะสามารถใช้พึ่งพากันและกันตามกฎของธรรมชาติไม่น้อยเลย

Categories
สัตว์บก

ควาย กับการท่องเที่ยวสุดฟิน

สัตว์บก

ควายที่แต่เดิมเป็นสัตว์ป่าที่มนุษย์ได้จับมาฝึกฝน เลี้ยงดูเพื่อการใช้แรงงาน ทำให้ควายกับมนุษย์มีความผูกพันกันจนถึงปัจจุบัน คุณน่าจะเคยได้เห็น ควาย หรือ อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับควายมาแล้วมากมายไม่ว่าจะเป็นในแง่ของประวัติศาสตร์ หรือ การประกอบอาชีพหลักของประเทศไทยของเรา อย่างการทำนา แต่ปัจจุบัน ควาย เป็นมากกว่านั้น เพราะพวกมันได้เป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมการท่องเที่ยวของประเทศด้วย

จากควายป่า ที่ถูกมนุษย์นำมาฝึกฝนในอดีต กลายเป็นความผูกพันในปัจจุบัน

หากเราจะพูดถึงประวัติควาย ง่ายๆ ตามลักษณะที่เราเห็นก็คือ พวกมันเป็นสัตว์ประเภทเคี้ยวเอื้อง ที่มีขนาดใหญ่ มีสีดำและมีเขาโค้ง ควายเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม และมีอายุขัยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 25 ปี นอกจากนั้น คำว่า ควาย ตามพจนานุกรมยังกล่าวไว้อีกว่า ควาย หมายถึง คนโง่ เซ่อ หรือคนตัวใหญ่ที่ไม่ฉลาด ที่เรามักจะได้เห็นอยู่ทั้งในคำพังเพย อย่างเช่น คำเปรียบเปรยที่ว่า โง่เป็นควาย หรือสุภาษิตต่าง ๆ เช่น สีซอให้ควายฟัง เสี้ยมเขาควายให้ชนกัน เป็นต้น นั่นทำให้คำว่าควายถือเป็นคำที่ส่อถึงความไม่สุภาพด้วย ทำให้มีการใช้คำว่า “กระบือ” หรือ “ทุย” ในการใช้เรียกควายแทน เพื่อเป็นการไม่แสดงการดูถูกสัตว์ที่มีคุณประโยชน์กับชาติ ทั้งในด้านประวัติศาสตร์ หรือการประกอบอาชีพ มาตั้งแต่สมัยโบราณ

ควายอยู่คู่กับชาวนาไทยมาตั้งแต่โบราณ

อย่างไรก็ตามแม้ว่ายุคสมัยจะเปลี่ยนไป วิวัฒนาการของโลกก้าวไปจนมีการใช้เครื่องมือต่าง ๆ เข้ามาช่วยแทนการใช้ควายไถนาแล้ว แต่ควายก็ยังคงไม่หมดประโยชน์ไปเลยแม้แต่น้อย เพราะมีนักธุรกิจหัวใสบางส่วนได้ใช้ควายมาเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมธุรกิจการท่องเที่ยว ทั้งในเชิงวัฒนธรรม หรือ สำหรับการพักผ่อนหย่อนใจ อย่างเช่นที่ หมู่บ้านอนุรักษ์ควายไทย ฟาร์มควายนมเชิงท่องเที่ยว คันนาค่าเฟ่ เป็นต้น

ควาย มีส่วนช่วยในการส่งเสริมธุรกิจการท่องเที่ยว

โดยเฉพาะ ควายเผือก ที่มีลักษณะโดดเด่น ซึ่งควายเผือกเหล่านี้เกิดจากการกลายพันธุ์ หรือความผิดปกติทางพันธุกรรม ซึ่งพวกมันจะมีสีขาวอมชมพูตลอดทั้งตัว รวมถึงเขาของมันด้วย และต้องยอมรับว่าควายเผือกทำให้การท่องเที่ยวชมควายดูน่าสนใจมากขึ้นไปอีก เพราะนอกจากควายเผือกเป็นควายที่หาดูได้ยากเลยทีเดียว

ควายเผือกที่ดูแปลกตา และหาดูได้ยาก

อีกปัจจัยที่ทำให้การท่องเที่ยวชมควายได้รับความนิยมก็คือ การที่ควายไทยใกล้สูญพันธ์แล้ว เนื่องจากควายไม่ได้รับความนิยมในหมู่เกษตรกรในการเลี้ยงควายไว้ใช้งานอีกต่อไป ทำให้ปัจจุบันเราสามารถหาดูควายได้ยากขึ้น ซึ่งควายส่วนใหญ่มักจะถูกเลี้ยงไว้ตามคาเฟ่ หรือฟาร์ม ทำให้พ่อแม่ ผู้ปกครองได้มีโอกาสนำบุตรหลาน ออกไปชมสัตว์ที่ใกล้สูญพันธุ์นี้มากขึ้น

Categories
สัตว์บก

เตรียมสุนัขของคุณให้พร้อมรับมือกับช่วงฤดูหนาว

สัตว์บก

เตรียมสุนัขของคุณให้พร้อมรับมือกับช่วงฤดูหนาว

แม้ว่าประเทศไทยจะอยู่ในเขตร้อน แต่ในช่วงฤดูหนาวก็สามารถมีอุณหภูมิเป็นเลขตัวเดียวได้ในบางเขตพื้นที่ คนอย่างเราก็ต้องมีการเตรียมตัวรับมือไม่ว่าจะเป็นการเตรียมเสื้อกันหนาว ผ้าห่ม หรืออะไรก็ตามที่จะช่วยให้อุ่นขึ้น สุนัขของเราก็เช่นกัน สำหรับผู้เลี้ยงสุนัข ก็คงต้องมีการเตรียมรับมือ เตรียมเครื่องกันหนาวให้กับสุนัขที่เลี้ยงด้วย แต่สำหรับผู้เลี้ยงสุนัขมือใหม่ที่ยังไม่รู้ว่าจะต้องเตรียมอะไรให้กับเจ้าตูบ เพื่อรับมือกับฤดูหนาวที่กำลังจะมาถึงในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าแล้วละก็ รับรองว่าบทความนี้ของเราจะเป็นประโยชน์ให้กับคุณแน่นอน

ลักษณะสุนัข

ลักษณะสุนัข สุนัขแต่ละสายพันธุ์จะมีการปรับตัวเพื่อรับมือกับช่วงหน้าหนาวที่ไม่เหมือนกัน

เราคงไม่จำเป็นจะต้องบอกเล่าอะไรคุณมากมายเกี่ยวกับลักษณะของสุนัข แต่หากเราจะพูดถึงการเตรียมตัวให้สุนัขของคุณเพื่อรับมือในช่วงหน้าหนาวนี้ เราคงต้องแนะนำให้คุณทำความรู้จักกับสายพันธุ์สุนัขที่คุณเลี้ยงกันก่อนในแบบง่ายๆ เพราะสุนัขแต่ละสายพันธุ์จะมีการปรับตัวเพื่อรับมือกับช่วงหน้าหนาวที่ไม่เหมือนกัน ซึ่งการปรับตัวของสุนัขในเขตหนาว ที่ทำให้พวกมันส่วนใหญ่มีขนที่ยาวฟูเพื่อพร้อมรับกับอากาศในช่วงฤดูหนาวได้เป็นอย่างดี แต่หากคุณเลี้ยงสุนัขพันธุ์ไทย หรือสายพันธุ์เอเชียที่มีขนไม่ยาวนัก อาจต้องมีการเตรียมตัวมากกว่าสักหน่อย

วิธีทำให้สุนัขอบอุ่น สำหรับรับมือในช่วงฤดูหนาว

วิธีทำให้สุนัขอบอุ่น สำหรับรับมือในช่วงฤดูหนาว
  1. เครื่องทำน้ำอุ่น แม้จะอยู่ในช่วงฤดูหนาว คุณก็ควรอาบน้ำให้เจ้าตูบของคุณอย่างน้อยเดือนละครั้ง เครื่องทำน้ำอุ่นจะทำให้สุนัขอบอุ่น ไม่เจ็บป่วยง่าย และหากคุณมีเครื่องทำน้ำอุ่นที่บ้านอยู่แล้วก็คงไม่ต้องห่วงในเรื่องนี้ แต่หากไม่มี คุณอาจเลือกให้บริการอาบน้ำสุนัขได้ตามร้านสัตว์เลี้ยง แต่อย่าลืมย้ำให้ใช้น้ำอุ่นอาบให้มันด้วย เพราะเจ้าตูบของคุณอาจป่วยจากการอาบน้ำเย็นได้
  2. ที่นอนอุ่นๆ กับผ้าห่มผืนเก่าๆ ในช่วงหน้าหนาวเราคงปฏิเสธไม่ได้ว่า การได้นอนบนที่นอนนุ่มๆ ใต้ผ้าห่มอุ่นๆ นั้นทำให้เรามีความสุขไม่ใช่น้อย เช่นเดียวกันกับสุนัขของคุณ พวกมันก็ต้องการที่นอน กับผ้าห่มนุ่มๆ ที่จะทำให้สุนัขอบอุ่น และแน่นอนพวกมันคงไม่รังเกียจผ้านวม หรือผ้าห่มผืนเก่าของคุณที่ไม่ได้ใช้แล้วแน่ๆ
  3. หลอดไฟเพิ่มความอุ่น หากคุณเลี้ยงสุนัขไว้นอกบ้านคุณอาจจะแค่ต้องเตรียมที่ปูนอน กระสอบเก่าๆ หรือผ้าสักผืนที่ไม่ใช้แล้ว สวมเสื้อสุนัข ของคุณให้พวกมันสักตัว พร้อมกับติดไฟหลอดกลม หรือ หลอดส้ม เพื่อทำให้สุนัขอบอุ่นขึ้น เพียงเท่านี้เรามั่นใจว่าสุนัขของคุณจะสามารถผ่านคืนอันหนาวเหน็บได้อย่างสบายแล้ว
เตรียมสุนัขของคุณให้พร้อมรับมือกับช่วงฤดูหนาว

เรามั่นใจว่าสำหรับผู้เลี้ยงสุนัขแล้ว ความสุขของพวกมัน ก็คือความสุขของคนเลี้ยงเช่นกัน ดังนั้นการใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆ เหล่านี้จะทำให้เจ้าสุนัขของคุณมีความสุขขึ้นในช่วงฤดูหนาวที่กำลังจะมาถึงนี้อย่างแน่นอน

อ่านบทความ ทำไมใครๆ ก็เรียกฉันว่าทาสแมว

Categories
สัตว์บก

นกฮูก ทูตแห่งความน่าพิศวงที่บินได้

สัตว์บก

นกฮูกเป็นสัตว์ที่ดูน่าพิศวง พวกมันเป็นตัวแทนของความลึกลับ คุณอาจเคยได้เห็นนกฮูกตามภาพยนตร์ต่างๆ ที่ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องราวที่เกี่ยวกับเวทย์มนต์ พ่อมด หรือแม่มด มีความเชื่อมากมายที่ถูกเชื่อมโยงกับนกฮูกทั้งในเรื่องที่ดี และไม่ดี ทำให้มีการใช้นกฮูกเป็นสัญลักษณ์ หรือเอามาทำเป็นเครื่องประดับนกฮูก เครื่องรางที่เราสามารถพบเห็นได้มากมาย แต่นั่นเป็นเพราะความน่าพิศวงของนกฮูก หรือ ด้วยหน้าตาที่น่าเอ็นดูของมันกันแน่

นกฮูก ทูตแห่งความน่าพิศวงที่บินได้

ลักษณะนกฮูก

นกฮูก หรือนกเค้าแมว ที่พวกมันถูกเรียกแบบนี้อาจเป็นเพราะลักษณะหน้าตาที่ดูคล้ายกับแมว นกฮูกเป็นสัตว์หากินกลางคืน ดังนั้นทำให้ดวงตาของนกฮูกมีขนาดที่ค่อนข้างใหญ่ แต่ที่สำคัญคือพวกมันมีเปลือกตาถึง 3 ชั้นที่ทำหน้าที่แตกต่างกัน นั่นก็คือชั้นแรกไว้สำหรับกระพริบ ชั้นที่สองไว้เพื่อการนอนหลับ และชั้นที่สามเพื่อปกป้องดวงตาขนาดใหญ่ของมัน นอกจากนั้นสรีระที่น่าทึ่ง หรือ น่าพิศวงอีกอย่างของนกฮูกก็คือ สกิลการหมุนคอของพวกมัน ซึ่งนกฮูกสามารถหมุนคอได้เกือบรอบ หรือสามารถหมุนได้ถึง 270 องศาเลยทีเดียว อาจเป็นเพราะลักษณะนกฮูกที่น่าพิศวงเหล่านี้ที่ทำให้มีความเชื่อเกี่ยวกับนกฮูกเกิดขึ้นมากมาย

นกฮูก หรือนกเค้าแมว ที่พวกมันถูกเรียกแบบนี้อาจเป็นเพราะลักษณะหน้าตาที่ดูคล้ายกับแมว

นกฮูก ความหมาย ความจริงและความเชื่อ

นกฮูกเป็นสัญลักษณ์ของความฉลาด ความเชื่อนี้น่าจะเกิดจากสายตาอันแหลมคมของนกฮูกที่เป็นสัตว์หากินตอนกลางคืนทำให้พวกมันมีสายตาที่ฉับไว สามารถมองเห็นเหยื่อ และศัตรูได้จากระยะไกล ทำให้มีการเปรียบเทียบให้นกฮูกเป็นสัญลักษณ์ของความฉลาดและการเป็นผู้รอบรู้ สายตากว้างไกล

นกฮูก ความหมาย ความจริงและความเชื่อ

นกฮูกเป็นสัญลักษณ์ความสุขและความโชคดี นี่เป็นความเชื่อของชาวฮินดูที่เชื่อว่านกฮูกเป็นยานพาหนะของนางลักษมี ที่เป็นเทวีที่นำความรุ่งเรือง ความสุขไปจนถึงความอุดมสมบูรณ์มาให้ หรือความเชื่อของชาวญี่ปุ่น ที่มีการเรียกนกฮูกว่า “ฟูคูโระ” ที่แปลว่า โชคดี ด้วยเช่นกัน

นกฮูกตัวแทนความโชคร้าย ในทางตรงกันข้ามมีบางวัฒนธรรมที่เชื่อว่านกฮูกเป็นสัญลักษณ์แห่งความโชคร้าย หรือยมทูตแห่งความตาย เนื่องจากการที่เหล่านกฮูกเป็นสัตว์กินเนื้อที่หากินตอนกลางคืน ประกอบกับความฉับไวของมันในการล่าเหยื่อ การใช้กรงเล็บอันแหลมคมช่วยในการล่า ที่อาจทำให้บางคนเห็นแล้วรู้สึกขนลุกได้

นกฮูก ทูตแห่งความน่าพิศวงที่บินได้

อย่างไรก็ตามอาจจะปฏิเสธได้ยากว่า ด้วยการที่นกฮูกมีดวงตากลมโต มีพฤติกรรมที่ชอบอยากรู้อยากเห็น จึงทำให้นกฮูกกลายเป็นสัตว์เลี้ยงของผู้ที่ชื่นชอบสัตว์แปลก แต่ที่โชคร้ายก็คือ โดยส่วนใหญ่จะพบว่าการนำนกฮูกมาเลี้ยงจะทำให้พวกมันมีอายุขัยที่สั้นกว่าการที่เราปล่อยให้พวกมันได้มีชีวิตอยู่เองตามธรรมชาติ

อ่านบทความ “ค้างคาว” สัตว์ มหัศจรรย์ หรือ น่าขนลุก

Categories
สัตว์บก

ทำไมใครๆ ก็เรียกฉันว่าทาสแมว

สัตว์บก

แมวเป็นสัตว์เลี้ยงยอดฮิตที่คนนิยมนำมาเลี้ยงไว้ติดบ้าน แต่ในเมื่อแมวได้ขึ้นชื่อว่าเป็นสัตว์เลี้ยง ทำไมคนเลี้ยงกลับถูกเรียกว่าทาสแมว เราลองมาดูกัน 

cat
แมวมีหูที่ไวต่อเสียง และจมูกที่ไวต่อกลิ่น

ลักษณะแมว

          แมวเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่มีต้นกำเนิดมาจากเสือไซบีเรีย แมวจะมีหูที่ไวต่อเสียง และจมูกที่ไวต่อกลิ่น พวกมันเป็นสัตว์ที่มีความคล่องตัวสูง เนื่องจากที่น้ำหนักเบา เคยมีการคาดเดาว่าแมวมีส่วนเกี่ยวข้องกับมนุษย์มาตั้งแต่สมัยโบราณ ที่เราสังเกตได้จากหลุมศพอียิปต์โบราณที่มีสัญลักษณ์ปรากฏอยู่ทั่วไป มีแมวกว่า 30 สายพันธุ์บนโลกใบนี้ แต่ละสายพันธุ์ก็จะมีลักษณะของแมวที่ต่างกันเห็นได้ค่อนข้างชัดเจน โดยแมวทั่วไปจะทั้งที่แบบมีขนยาวฟูอย่างแมวเปอร์เชีย และแมวไร้ขนอย่างแมวสฟิงซ์ เป็นต้น 

cat-2
แมวน่ารัก กับ ทาสของมัน

          ใครจะเชื่อว่าแมวน่ารักที่เราพากันหลงใหลนั้น อันที่จริงพวกมันได้แอบซ่อนความร้ายกาจไว้ และได้แสดงออกมาโดยที่เราไม่รู้สึกตัว ด้วยสัญชาตญาณของเจ้าเหมียวที่มีต้นกำเนิดมาจากเสือ ทำให้พวกมันชอบแสดงออกถึงความเป็น “เจ้านาย” มากกว่าเป็นสัตว์เลี้ยงด้วยซ้ำ หากเราจะลองสังเกตดูพฤติกรรมของมันที่ถึงแม้พวกมันจะชอบเข้ามาคลอเคลีย แสดงท่าที รวมถึงส่งเสียงที่พยายามจะออดอ้อนเพื่อให้เราทำในสิ่งที่พวกมันต้องการ มากกว่าการที่จะทำตามสิ่งที่เราสั่ง เจ้าเหมียวจะหันหลังใส่เราในทันทีเมื่อเราทำในสิ่งที่มันไม่ชอบ และแน่นอนว่าสิ่งที่ทาสอย่างเราๆ ต้องทำคือการตามง้องอนแมวที่แสนน่ารักของเราอยู่เสมอ

เสียงแมวมีความหมายว่าอย่างไร

          อีกสิ่งที่บรรดาทาสแมวจะต้องเรียนรู้และศึกษาไว้คือ เสียงแมว ที่เจ้าเหมียวพยายามที่จะสื่อสาร และบอกสิ่งที่พวกมันต้องการเพื่อให้ทาสอย่างเราๆ ต้องทำตาม อย่างเช่น การที่เจ้าเหมียวทำเสียง “อือ อือ” ที่หมายถึงว่าพวกมันเริ่มที่จะหิว และทาสอย่างเราก็ควรจะหาอะไรให้พวกมันกินได้แล้ว แต่หากพวกมันทำเสียง “แง้ว แง้ว หรือ เหมี๊ยวววววว” นั่นหมายถึง มันต้องการให้เราแสดงความรัก หรือ เป็นการเรียกร้องความสนใจจากเรานั่นเอง หรือถ้าคุณได้ยินเสียงคราง “เพอร์” เบาๆ จากลำคอของมันแล้วล่ะก็ คุณแน่ใจได้เลยว่าพวกมันกำลังรู้สึกสบายตัว สบายใจและมีความสุขมากนั่นเอง

cat-3
เสียงแมว จะสามารถทำให้เรารู้ถึงความต้องการของมันได้

          จนถึงตอนนี้คุณคงเข้าใจแล้วว่าทำไมหลาย ๆ คนที่หลงรักเจ้าเหมียว มักจะถูกเรียกว่า “ทาสแมว” แต่ถึงอย่างไรก็ตามเราเชื่อว่า บรรดาทาสแมว ก็คงยินยอมที่จะตกเป็นทาสเจ้าแมวอันแสนน่ารักนี้ต่อไปอย่างเต็มใจแน่นอน

Categories
สัตว์น้ำ สัตว์น้ำเค็ม สัตว์บก

ปูเสฉวน สัตว์เลี้ยงหน้าใหม่แห่งวงการเลี้ยงสัตว์

สัตว์บก

ใครเคยเห็นปูเสฉวนตามร้านขายสัตว์เลี้ยงบ้าง? ตอนนี้ปูเสฉวนกลายเป็นสัตว์เลี้ยงหน้าใหม่ของวงการผู้ที่ชอบเลี้ยงสัตว์แปลกอีกชนิดหนึ่ง แต่ทำไมเจ้าปูเสฉวนจึงกลายมาเป็นสัตว์เลี้ยงได้ และการเลี้ยงปูเสฉวนจะต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง ลองมาหาตำตอบดูกัน

ปูเสฉวน
ปูเสฉวนแบ่งออกเป็น 2 ประเภท: ปูเสฉวนบก และปูเสฉวนน้ำ

ปูเสฉวนบก & ปูเสฉวนน้ำ

ปูเสฉวนแบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ตามลักษณะถิ่นที่อยู่ ได้แก่ ปูเสฉวนบก และปูเสฉวนน้ำ ซึ่งปูเสฉวนบกจะอาศัยอยู่ตามบริเวณชายหาดห่างจากน้ำทะเลไม่เกิน 15 กิโลเมตร แต่ปูเสฉวนน้ำจะอาศัยอยู่ในน้ำทะเลลึก ปูเสฉวนเป็นสัตว์ที่มีขนาดเล็กอยู่ที่ประมาณ 1-6 เซนติเมตร ปูเสฉวนมีขา 10 ขา และกินซากพืช ซากสัตว์ เป็นอาหาร

ปูเสฉวน
ปูเสฉวนเป็นสัตว์ที่มีขนาดเล็กอยู่ที่ประมาณ 1-6 เซนติเมตร

ปูเสฉวนน้ำ หรือปูเสฉวนทะเล

จะใช้ชีวิตและขยายพันธุ์อยู่ใต้น้ำทะเลลึกเท่านั้น แต่ปูเสฉวนบกมีวงจรชีวิตที่น่าสนใจกว่านั้นคือ พวกมันจะใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่ตามชายหาด อย่างที่เราเห็นโดยทั่วไปตอนไปเที่ยวทะเล แต่เมื่อปูเสฉวนบกได้ผสมพันธุ์กันแล้ว ปูเสฉวนตัวเมียจะวางไข่ลงในน้ำทะเล และเมื่อลูกปูเสฉวนฟักออกจากไข่ พวกมันจะขึ้นมาเจริญเติบโตบนชายฝั่งต่อไป

ปูเสฉวนเลี้ยง

แต่ปัจจุบันเราอาจเคยเห็นเจ้าปูเสฉวนตามร้านขายสัตว์บางแห่ง เนื่องจากมีคนบางกลุ่มเริ่มนิยมที่จะลองเลี้ยงเจ้าปูเสฉวนบกดูบ้าง ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นปูเสฉวนบก และหลายคนอาจเชื่อว่าปูเสฉวนบกเป็นปูเสฉวนเลี้ยงที่สามารถเลี้ยงได้ง่าย แต่นั่นอาจไม่ใช่เรื่องจริง

ปูเสฉวน
ปูเสฉวนเลี้ยง ต้องการการดูแลที่ค่อนข้างดี

ปูเสฉวนเลี้ยง ต้องการการดูแลที่ค่อนข้างดี พวกมันต้องการสภาพแวดล้อมที่ค่อนข้างพิเศษ การเลี้ยงปูเสฉวนจะต้องเตรียมทั้งถ้วยน้ำจืด ถ้วยน้ำเค็ม เปลือกหอยหลากหลายขนาดที่สามารถเข้าไปอยู่อาศัยได้ เพื่อหากเจ้าปูเสฉวนมีการลอกคราบในตอนที่มันโตขึ้น พวกมันจะต้องเปลี่ยนขนาดของเปลือกหอยให้เหมาะสมกับขนาดตัวของมันด้วย มีการควบคุมอุณหภูมิที่ดี โดยปูเสฉวนจะสามารถอาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมที่จะต้องไม่ต่ำกว่า 25 องศา อีกทั้งการเตรียมอาหารที่เหมาะสม โดยธรรมชาติ ปูเสฉวนจะกินซากพืช ซากสัตว์ ดังนั้นผู้เลี้ยงอาจจะมีการเตรียมทั้งผลไม้ ผัก หรือเนื้อเพื่อเป็นอาหารแก่เจ้าปูเสฉวน และต้องระวังไม่ให้อาหารที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ หรือช๊อคโกแลต

ปูเสฉวนเลี้ยงสามารถมีอายุยืนยาวได้จนถึง 10 ปี หากมีการเลี้ยงดูที่เหมาะสม แต่คุณรู้ไหมว่าปัจจุบันยังไม่มีร้านขายเจ้าปูเสฉวนใดที่สามารถขยายพันธุ์เจ้าปูเสฉวนได้เอง ดังนั้นปูเสฉวนบกที่เราเห็นตามร้านขายสัตว์ ล้วนแล้วแต่ถูกจับมาจากธรรมชาติทั้งสิ้น

ปูเสฉวน
ปูเสฉวนเลี้ยงสามารถมีอายุยืนยาวได้จนถึง 10 ปี หากมีการเลี้ยงดูที่เหมาะสม

หากคุณสนใจการเลี้ยงปูเสฉวน ควรจะลองพิจารณาให้ดี เพราะนอกจากการจับปูเสฉวนจากธรรมชาติมาเลี้ยงจะทำให้ระบบนิเวศเสียสมดุลแล้ว ถ้าคุณไม่มีความรู้ในการเลี้ยงที่ดีพอ คุณอาจจะกลายเป็นผู้ทำลายโดยที่ไม่ได้ตั้งใจก็ได้

Categories
สัตว์บก แนะนำ

ยีราฟ : ความน่าทึ่งของเจ้าคอยาวแห่งโลกแอฟริกา

สัตว์บก

คุณอาจจะเคยเห็นยีราฟฝูงใหญ่อยู่ตามสวนสัตว์ต่าง ๆ แต่คุณรู้หรือไม่ว่าในความเป็นจริงเจ้ายีราฟพวกนี้กำลังใกล้จะสูญพันธุ์แล้ว หากคุณเคยไปเที่ยวสวนสัตว์สักแห่ง ส่วนที่คุณไม่ควรพลาดเลยก็คือการได้ไปชมความน่าทึ่งของบรรดายีราฟคอยาวที่ดูแปลกตา และการได้ป้อนอาหารเจ้ายีราฟเหล่านี้คงเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นสำหรับเด็ก ๆ ไม่ใช่น้อย แต่หากคุณต้องการทำความรู้จักกับพวกมันให้มากขึ้น ทั้งประวัติยีราฟ ถิ่นที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติ ชีวิตอันน่าทึ่งจริง ๆ ของยีราฟเหล่านี้เป็นอย่างไร คุณจะต้องไม่พลาดบทความนี้

ก่อนอื่นเรามาดูประวัติยีราฟกัน เจ้ายีราฟคอยาวที่มีรูปร่างน่าทึ่งนี้ ยีราฟถือเป็นสัตว์บกที่สูงที่สุดในโลก ที่เลี้ยงลูกด้วยนม และเคี้ยวเอื้อง พวกมันจะมีลำตัวสูง ขายาว คอยาว และ มี 2 เขา ยีราฟส่วนใหญ่จะมีลำตัวสีเหลืองสลับกับลายน้ำตาลเข้ม มีลิ้นยาวสีม่วงล้ำ พวกมันอาจจะมีความสูงได้ถึง 5.5 เมตร และหนักถึง 900 กิโลกรัม

เนื่องจากการที่เจ้ายีราฟมีคอที่ยาว คุณรู้หรือไม่ว่ายีราฟกินอะไร อาหารยีราฟจึงได้แก่ ยอดต้นไม้สูง หรือพุ่มไม้สูงที่มีหนามแหลมซึ่งส่วนใหญ่จะมีพิษ แต่พิษ หรือหนามเหล่านั้นไม่สามารถทำอะไรเจ้ายีราฟได้เนื่องจากพวกมันมีลิ้นที่หนาและยาวที่ช่วยให้พวกมันสามารถกินอาหารได้อย่างสบาย

ความน่าทึ่งของเจ้ายีราฟยังไม่หมดเพียงเท่านี้ เพราะ เรื่องน่ารู้ของยีราฟ ที่จะทำให้คุณทึ่งต่อไปคือ คอยาวๆ ของเจ้ายีราฟนอกจากจะช่วยให้มันหาอาหารกินได้ง่ายแล้ว ยีราฟเพศผู้ยังใช้คอของมันกวัดแกว่งต่อสู้กันเพื่อแย่งยีราฟเพศเมียด้วย และแน่นอนว่าอีกประโยชน์ของการที่มีคอยาวๆ ก็คือพวกมันสามารถมองเห็นศัตรูที่เป็นบรรดานักล่าจากระยะไกลได้

อีกหนึ่งความน่าทึ่งของยีราฟคือ พวกมันมักจะให้เวลาในการนอนหลับไม่กี่นาที และไม่จำเป็นต้องดื่มน้ำบ่อย เนื่องด้วยลักษณะของเจ้ายีราฟที่ดูเก้งก้าง ทำให้พวกมันนั่งและลุกยืนขึ้นค่อนข้างจะลำบาก รวมถึงการก้มล้มลงไปดื่มน้ำตามแหล่งน้ำที่ดูจะไม่ค่อยสะดวกนัก แต่นั่นไม่ใช่ปัญหา เพราะในตอนที่เจ้ายีราฟกินใบไม้ที่อยู่ตามยอดไม้ หรือยอดพุ่มไม้ที่พวกมันใช้เป็นอาหารก็จะให้พวกมันได้รับน้ำได้อย่างเพียงพอแล้ว

ยีราฟยังมีความน่าทึ่งอีกมากมายที่จะทำให้คุณต้องร้อง ว๊าว! แต่น่าเสียดายที่จากการสำรวจพบว่าในปัจจุบันมียีราฟเหลือบนโลกแค่เพียง 110,000 ตัวเท่านั้น เราได้เพียงแต่คาดหวังว่าคนรุ่นหลังเราคงได้มีโอกาสพบกับเจ้ายีราฟคอยาวที่น่าทึ่งเหล่านี้แบบตัวเป็นๆ อย่างที่เราเคยสัมผัสได้ต่อไปอีกนาน ๆ