Categories
ความรู้ สัตว์เลื้อยคลาน

หอยทากไฟ Fire Snail หอยตัวใหญ่สีสันดุดันแต่นิสัยดันไม่ดุอย่างที่คิด

สัตว์เลื้อยคลาน

“ หอยทาก ” จัดเป็นสัตว์ประเภทไม่มีกระดูกสันหลังชนิดหนึ่ง เป็นสัตว์โบราณที่มีมานานตั้งแต่เมื่อ 400 ล้านปีที่ผ่านมาแล้ว ปัจจุบันพบว่ามีหอยทากมากถึง 500 ชนิด

หอยทากไฟ( Fire Snail ) มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Platymma Tweediei เป็นหอยทากที่อาศัยอยู่บนบก เรียกว่าหอยทากบก ถูกค้นพบเมื่อปี ค.ศ. 1938 ในบริเวณเทือกเขา Telom Valley มีการพบหอยทากไฟในคาบสมุทรมลายู

โดยธรรมชาติของหอยทากชนิดนี้จะต้องอาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีอุณหภูมิเย็นและมีความชื้นในอากาศสูงเท่านั้นจึงจะมีชีวิตรอดได้ โดยอย่างน้อยจะต้องมีระดับความสูงอย่างน้อยที่ 1,000 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล ด้วยเหตุนี้ทำให้มีการพบหอยทากบกชนิดนี้ได้น้อยมาก จัดว่าเป็นสายพันธุ์ที่ค่อนข้างบอบบางมากเลยทีเดียว ช่างต่างกันกับขนาดตัวที่ใหญ่มากถึง 30 เซนติเมตรของมันเหลือเกิน โดยปกติเราจะเห็นหอยทากที่มีขนาดไม่ใหญ่มากและมีสีสันไม่ฉูดฉาดมากนัก ตรงกันข้ามกับหอยทากไฟซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าปกติมากแถมยังมีสีสันที่มองดูแล้วคล้ายว่าจะเป็นสัตว์มีพิษอีกด้วย 

หอยทากไฟ มีลักษณะโดยทั่วไปไม่ต่างจากหอยทากชนิดอื่นๆสักเท่าไหร่นัก อาจจะมีข้อแตกต่างไปบ้างในส่วนของขนาด สีสัน และลักษณะถิ่นที่อยู่ตามธรรมชาติ ซึ่งหอยทากแต่ละสายพันธุ์จะมีถิ่นที่อยู่แตกต่างกันออกไป ในส่วนของหอยทากดินอย่างเจ้าหอยทากไฟนั้น จะมีสีลำตัวและเปลือกเป็นสีดำเข้มสนิทและจะมีสีแดงเพลิงแซมขึ้นมาบริเวณช่วงท้อง มองดูแล้วเห็นสีแดง-ดำ ตัดกันชัดเจน ลำตัวมีความยาวประมาณ 7 เซนติเมตร โดยพบว่ามันสามารถมีขนาดลำตัวยาวได้มากถึง 30 เซนติเมตรเลยทีเดียว อาศัยกินอาหารจำพวกพืชสดและซากพืชเน่า แม้ว่าจะถูกมองว่าน่ากลัวแต่หอยทากไฟกลับเป็นสัตว์ที่ไม่มีพิษและไม่มีอันตรายอย่างที่คิด

ในปัจจุบันพบว่าหอยทากไฟมีจำนวนลดน้อยลงอย่างมาก อาจเป็นเพราะหอยทากไฟมีสีสันที่สวยงามโดดเด่น ตัวใหญ่ ไม่มีพิษ จึงทำให้มีคนนิยมนำมาเลี้ยงเอาไว้เป็นสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะอย่างยิ่งในหมู่คนที่ชอบเลี้ยงสัตว์แปลก จึงทำให้มีการเข้าไปบุกรุงทำลายถิ่นที่อยู่ของหอยทากบกชนิดนี้จนทำให้มันเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ อีกทั้งโลกมีสภาพอากาศที่ร้อนขึ้นทำให้หอยทากไฟที่สามารถอยู่ได้ในพื้นที่จำกัดตายได้ง่ายขึ้น และแม้ว่ามันจะพยายามอพยพหนีร้อนแต่เมื่อมันออกเดินทาง สัตยว์ที่แสนบอบบางและเชื่องช้าอย่างเจ้าตัวนี้จะมีโอกาสรอดชีวิตสักเท่าไหร่ ? ด้วยเหตุปัจจัยต่างๆเหล่านี้เองที่ทำให้เจ้าหอยทากไฟต้องตกอยู่ใสถานะใกล้สูญพันธุ์เข้าไปทุกที

 

 

 

เว็บสล็อตฝากถอนไม่มีขั้นต่ํา วอเลท

Categories
ความรู้ สัตว์เลื้อยคลาน

กิ้งก่าหนาม ปีศาจแห่งทะเลทรายไม่ได้ดุร้ายอย่างที่คิด

เมื่อพูดถึงสัตว์ที่มีรูปร่างหน้าตาน่ากลัวแล้ว เรามักจะรู้สึกว่าเป็นสัตว์ที่จะต้องมีความดุร้ายหรืออาจจะมีพิษที่ร้ายแรงเหมือนหน้าตาภายนอกที่ปรากฎให้เห็น แต่ในบางครั้งสิ่งที่เห็นก็อาจไม่ได้เป็นอย่างที่คิด วันนี้เราจะมาพูดถึงสัตว์หน้าตาแปลกชนิดหนึ่งที่อาจจะยังไม่ได้เป็นที่รู่จักกันเท่าไหร่ นั่นก็คือ กิ้งก่าหนาม ( Thorny Devil ) หรือปีศาจหนามแห่งทะเลทราย มีชื่อเรียกท้องถิ่นว่า Mountain Devil หรือเรียกสั้นๆว่า Moloch เป็นสัตว์ตระกูลเดียวกันกับสกุล Moloch ลักษณะมีหนามอยู่รอบตัวรวมถึงมีหนามอยู่บนหัวคล้ายมีเขาโผล่ขึ้นมาทั้งสองข้างคล้ายๆปีศาจจึงเป็นที่มาของชื่อ ปีศาจหนาม นั่นเอง ส่วนใหญ่ผิวตามลำตัวจะมีสีน้ำตาล เมื่อโตเต็มที่จะมีขนาดอยู่ที่ประมาณ 20 เซนติเมตร มีอายุอยู่ได้ราวๆ 15-20 ปี โดยตัวเมียจะมีขนาดตัวใหญ่กว่าตัวผู้เล็กน้อย พบว่ามีถิ่นกำเนิดอยู่ในแถบตอนกลางและตะวันตกของประเทศออสเตรเลียโดยมักจะอาศัยอยู่ตามทะเลทรายและป่าละเมาะ

กิ้งก่าหนาม หลบซ่อนตัวจากอันตรายด้วยวิธีไหน?

แม้ว่า กิ้งก่าหนาม จะมีหน้าตาและชื่อเรียกที่ดูน่ากลัวและดุร้ายแต่อันที่จริงแล้วไม่ใช่แบบนั้นเลย มันเป็นสัตว์ไม่มีพิษที่ต้องอาศัยเอาตัวรอดด้วยการพรางตัวให้เข้ากับผืนทรายและสิ่งแวดล้อมรอบๆตัวเพื่อซ่อนตัวจากอันตรายต่างๆ โดยสีสันของจะค่อยๆซีดจางลงเมื่อเจออุณหภูมที่ร้อนขึ้นและจะมีสีที่เข้มขึ้นเมื่อเจออากาศหนาวเย็นลง

อาหารและการสืบพันธุ์

เจ้ากิ้งก่าหนามนี้นอกจากจะไม่ดุร้ายแล้วมันยังเป็นสัตว์ที่มีขนาดตัวไม่ใหญ่และไม่มีพิษอีกด้วย มันจึงชอบการกินมดและแมลงเล็กๆเป็นอาหารซึ่งมันสามารถกินมดได้เป็นพันตัวต่อวันเลยทีเดียว นอกจากนี้ธรรมชาติยังสร้างให้มันมีเกล็ดคล้ายกับลักษณะของเกล็ดมังกร คือมีรูปทรงกรวยมีความแหลมคมเอาไว้ใช้ป้องกันตัวจากศัตรูต่างๆที่อาจจะเข้าจู่โจมมันได้ทุกเมื่อ และมันยังมีวิธีการดื่มน้ำที่แปลกมากเลยก็คือมันสามารถใช้เกล็ดที่ตัวเก็บน้ำผ่านผิวหนังแทนการดื่มน้ำได้อีกด้วย เรียกว่าเป็นการเก็บน้ำไว้ใต้เกล็ดแล้วให้ผิวค่อยๆดูดซึมเอาน้ำเข้าสู่ร่างกายแทนการดื่มน้ำแบบปกตินั่นเอง นอกจากนี้มันจะมีการวางไข่ในช่วงเดือนกันยายน – ธันวามคม ของทุกปี โดยจะมีการขุดโพรงลึกราวๆ 30 เซนติเมตร เตรียมเอาไว้เพื่อวางไข่ และในการวางไข่แต่ละครั้งก็จะมีไข่ฟักประมาณ 3-10 ฟองขึ้นไป ซึ่งมันจะใช้เวลาในการฟักไข่ 3- 4 เดือน จากนั้นก็จะมีตัวอ่อนฟักออกมาลืมตาดูโลก โดยจะมีแม่คอยดูแลลูกในช่วงวัยอนุบาล เมื่อแข็งแรงแล้วก็จะปล่อยให้ลูกดูแลตัวเองและออกไปสู่โลกกว้างต่อไป

 

Categories
สัตว์เลื้อยคลาน

เขียดงู เจ้าจะเป็นงู หรือจะเป็นเขียดกันแน่นะ

สัตว์เลื้อยคลาน

เขียดงู เจ้าจะเป็นงู หรือเป็นเขียดกันแน่

ในตอนนี้เราจะมาแนะนำสัตว์แปลกที่มีรูปร่างคล้ายงู แต่ความจริงแล้วคือเขียดชนิดหนึ่ง ที่เราเรียกว่า เขียดงู แต่หากคุณอยากรู้ว่าตัวไหนเป็นงู ตัวไหนเป็นเขียด คุณต้องอ่านต่อไปจนจบเพราะเรากำลังจะบอกเล่าเรื่องราวของเจ้าเขียดงู ใน เขียดงู เจ้าเป็นงู หรือเป็นเขียด ได้ที่นี่

ลักษณะเขียดงู

เขียดงู เป็นสัตว์ครึ่งบก ครึ่งน้ำในตระกูลเขียด ชอบอาศัยอยู่ในบริเวณที่ชื้นแชะ หรือตามริมแม่น้ำลำธาร และใต้ดิน หากเราดูเผินๆ พวกมันมีลักษณะที่คล้ายงูมาก แต่ถ้าคุณต้องเผชิญหน้ากับมัน อย่าเพิ่งตีหรือทำอันตรายมันนะ เพราะเขียดงูไม่ได้เป็นสัตว์มีพิษ หรือ จะทำอันตรายคุณได้ ที่น่าตื่นเต้นกว่านั้นก็คือเขียดงูเป็นสัตว์ที่มีชีวิตมาตั้งแต่สมัยดึกดำบรรพ์ ตั้งแต่จุลลาสสิค ลักษณะแตกต่างที่ทำให้พวกมันไม่เหมือนงูก็คือ พวกมันมีตาที่เล็กมากจนเราแทบจะมองไม่เห็น เขียดงูจะไม่มีเกล็ด มีลำตัวเป็นเมือกลื่นคล้ายปลาไหล

เขียดงูจะไม่มีเกล็ด มีลำตัวเป็นเมือกลื่นคล้ายปลาไหล

เราสามารถพบเขียดงูได้กว่า 200 ชนิดในบริเวณภูมิภาคเขตร้อน ลำตัวของพวกมันจะเรียวยาว มีลักษณะเป็นปล้อง มีหางที่เล็กมากจนเราแทบจะสังเกตุไม่เห็น เขียดงูส่วนใหญ่ใช้ ตา จมูก หนวด รวมถึงช่องเปิดตรงบริเวณศรีษะของบางสายพันธุ์เป็นประสาทสัมผัส

ลูกเขียดงู โตมาได้ด้วยความเสียสละของแม่

เขียดงูบางชนิดจะออกลูกเป็นไข่ แต่เขียดงูส่วนใหญ่ออกลูกเป็นตัว

แม้ว่าเขียดงูบางชนิดจะออกลูกเป็นไข่ แต่เขียดงูส่วนใหญ่ออกลูกเป็นตัว โดยตัวอ่อนของเขียดงูจะกินอาหาร และได้รับสารอาหารจากท่อลำไข่ และเมื่อลูกเขียดงู คลอดออกมาพวกมันจะยังต้องอาศัยอยู่กับตัวแม่ เพราะแม่เขียดงูจะต้องมีหน้าที่เลี้ยงดูลูกโดยใช้เนื้อของตัวมันเอง เนื่องจากลูกเขียดงูที่คลอดออกมาใหม่ๆ จะมีเฉพาะฟันน้ำนมที่ไม่แข็งแรง ดังนั้นลูกเขียดงูจะต้องกัดแทะเนื้อหนังของตัวแม่เพื่อเป็นอาหารในการเติบโต จนกว่าฟันน้ำนมของพวกมันจะหลุดไป และมีฟันแท้ที่แข็งแรงกว่าขึ้นมาแทนเพื่อที่จะอาหารเองได้ ทำให้แม่เขียดงูต้องเสียสละและยอมเจ็บ ให้ลูกๆ แทะผิวหนังของตัวเอง อีกทั้งยังต้องมีหน้าที่ในการสร้างผิวหนังของตัวเองขึ้นมาเรื่อย เพื่อให้เพียงพอต่อการเลี้ยงดูลูกๆ ของมัน

คำว่า แม่ ไม่ว่าจะเป็นคน หรือสัตว์ ก็ล้วนแล้วแต่จะต้องเสียสละเพื่อลูกทั้งนั้น มนุษย์ อาจจะต้องใช้เลือดจากอก หรือที่เรียกว่าน้ำนมในการเลี้ยงลูก แต่สัตว์อย่างเขียดงู ก็ต้องเสียสละผิวหนังของตัวเองในการเลี้ยงดูลูกเขียดงูเช่นกัน

เขียดงู ถึงแม้จะมีหน้าตาคล้ายงู แต่พวกมันไม่มีพิษ หากเราต้องเผชิญหน้ากับพวกมันโดยบังเอิญ เราก็ไม่ควรจะต้องทำร้ายมัน เพราะเขียดงูไม่มีอะไรที่จะสามารถทำร้ายเราได้เช่นกัน

Categories
สัตว์เลื้อยคลาน

จระเข้ สัตว์เลื้อยคลานเปลี่ยนเพศได้ ที่แทบจะไม่มีศัตรู

สัตว์เลื้อยคลาน

จระเข้ สัตว์เลื้อยคลานเปลี่ยนเพศได้ ที่แทบจะไม่มีศัตรู

ถ้าเราจะพูดถึงสัตว์ในวงศ์ของสัตว์เลื้อยคลาน สัตว์ตัวแรกที่คุณนึกถึงก็น่าจะเป็นงู แต่คุณรู้หรือไม่ว่าพี่เบิ้มแห่งหนองน้ำอย่างจระเข้ ก็นับว่าเป็นสัตว์เลื้อยคลานเช่นกัน แต่ที่น่าประหลาดใจไปกว่านั้น คุณรู้หรือไม่ว่าเพศของจระเข้จะถูกกำหนดได้จากอุณหภูมิ นี่อาจจะทำให้คุณเริ่มอยากรู้เรื่องราวของจระเข้มากขึ้นแล้ว ถ้าเป็นเช่นนั้นคุณจะต้องอาจบทความนี้ไปจนจบ แล้วคุณจะรู้ว่ายังมีเรื่องราวของจระเข้อีกมากที่คุณยังไม่รู้

ลักษณะจระเข้

จระเข้ สัตว์เลื้อยคลานเปลี่ยนเพศได้ ที่แทบจะไม่มีศัตรู

จระเข้เป็นสัตว์เลื้อยคลานขนาดใหญ่ ที่บางสายพันธุ์สามารถมีอายุยืนยาวได้ถึง 100 ปี พวกมันนับว่าเป็นสิ่งมีชีวิตชนิดแรกๆ ที่ได้กำเนิดขึ้นมาบนโลกนี้ และยังสามารถดำรงเผ่าพันธุ์ได้มาจนถึงปัจจุบัน จระเข้เป็นสัตว์เลื้อยคลานที่ออกลูกเป็นไข่ เหมือนกับสัตว์เลื้อยคลานชนิดอื่นๆ ทั่วไปส่วนใหญ่ ตอนที่ลูกจะเข้ฟักออกมาใหม่ๆ จะยังไม่ต้องกินอาหารอะไรเนื่องจากพวกมันยังมีไข่แดงที่มีสารอาหารครบถ้วนหลงเหลืออยู่ แต่หลังจากนั้นสัก 7 วันพวกมันจะเริ่มหาอาหาร เป็นสัตว์ตัวเล็กๆ อย่างพวกลูกปลา ลูกกบ เป็นต้น ในตอนที่ลูกจระเข้ยังอยู่ในไข่ที่ออกมาใหม่ๆ จะเป็นเพศเมียทั้งหมด แต่เพศของจระเข้ในไข่จะเปลี่ยนไปขึ้นอยู่กับอุณหภูมิในขณะที่พวกมันฟักตัว ไข่จระเข้ที่ถูกเก็บไว้ที่อุณภูมิที่สูงกว่า 34 องศาเซลเซียสส่วนใหญ่จะออกมาเป็นตัวผู้ทั้งหมด

ถึงแม้จระเข้เป็นสัตว์กินเนื้อ แต่พวกมันไม่ได้มีฟันไว้เคี้ยว พวกมันจึงจำเป็นจะต้องกิน และกลืนหินลงไปด้วยเพื่อช่วยในการย่อยอาหาร จระเข้จะใช้วิธีการล่าเหยื่อด้วยการพรางตัวนิ่งๆ อยู่บนผิวน้ำ จากนั้นพวกมนจะค่อยๆ ลอยเข้าหาเหยื่ออย่างช้าๆ ก่อนทีจะโผล่ขึ้นงับเหยื่อของมันอย่างโหดเหี้ยม หรือในบางครั้งพวกมันอาจจะต้องใช้หางในการฟาดฟันเหยื่อ เพื่อไม่ใช้เหยื่อสามารถต่อสู้ได้ ด้วยทั้งความฉลาดในการล่าเหยื่อ รวมไปถึงความดุร้ายทำให้จะเข้ แทบจะไม่มีศัตรูตามธรรมชาติที่จะสามารถต่อกร กับมันได้เลย

โลลอง จระเข้ยักษ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก

โลลอง จระเข้ยักษ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก

ถ้าเราจะพูดถึงความเป็นพี่เบิ้มของจระเข้ เราก็คงต้องพูดถึงจระเข้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ที่ชื่อว่า “โลลอง” เจ้าโลลองเป็นจระเข้น้ำเค็มที่ถูกพบในเขตป่าของประเทศฟิลิปปินส์ จากนั้นมันได้ถูกจับและส่งไปยังศูนย์อนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าบุนาวัน โลลองมีขนาดความยาวอยู่ที่ 6.17 เมตร มีน้ำหนักอยู่ที่ประมาณ 1 ตัน และต้องใช้คนถึง 100 คนในการไล่ล่ามัน แต่น่าเสียดายที่เมื่อปี 2556 ทางศูนย์อนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าบุนาวันได้ออกมาประกาศว่าเจ้าโลลองได้เสียชีวิตแล้วด้วยภาวะปอดอักเสบและหัวใจวาย

แม้ว่าจระเข้จะเป็นสัตว์ที่สามารถปรับตัวและดำรงชีวิตมาได้ตั้งแต่สมัยยุคสมัยดึกดำบรรพ์ แต่ในปัจจุบันมีจระเข้บางสายพันธุ์ที่มีจำนวนลดลง ใกล้สูญพันธุ์แล้วด้วยการไล่ล่าของมนุษย์ เราควรหยุดการกรำเหล่านี้เพื่อให้เจ้าสัตว์โบราณนี้ได้มีชีวิตคงอยู่เรื่อยไปจนชั่วลูกชั่วหลาน

Categories
สัตว์เลื้อยคลาน

งู เป็นสัตว์ที่น่ากลัวจริงหรือ?

สัตว์เลื้อยคลาน

งู” คำง่ายๆ สั้นๆ ที่หลายคนเพียงแค่ได้ยินก็ทำให้ขนลุกได้ เนื่องจากเรื่องเล่าเกี่ยวกับงูส่วนใหญ่ มักจะกล่าวถึงงูว่าเป็นสัตว์เลื้อยคลาน มีพิษ และเป็นอันตราย แต่ในโลกแห่งความจริงนี้ “งู” เป็นสัตว์ที่น่ากลัวจริงหรือไม่เราลองมาดูกัน

งู เป็นสัตว์ที่น่ากลัวจริงหรือ?

งูออกหากินตอนไหน

          หากเราจะพูดถึงความอันตรายของ “งู” เราก็ต้องมาดูกันตอนที่พวกมันออกล่าเหยื่อ เนื่องจากโดยทั่วไปแล้ว งูจะเป็นสัตว์ที่ค่อนข้างขี้กลัว ชอบหลบหลีกหนีจากผู้คน ถึงแม้ว่างูจะมีการเคลื่อนที่ที่ปราดเปรียวและว่องไว มีประสาทสัมผัสรับรู้ที่ดี แต่พวกมันจะไม่กัด ยกเว้น หากพวกมันรู้สึกว่าโดนรุกราน และในขณะที่พวกมันกำลังหิว

งูมักจะออกหากินในเวลากลางคืน

          งูมักจะออกหากินในเวลากลางคืน พวกมันจะชอบที่ชื้นแฉะ หรือบริเวณแหล่งน้ำต่าง ๆ และสิ่งที่คุณควรรู้ไว้อีกอย่างคือ งูทุกตัวจะว่ายน้ำได้ อาหารที่โปรดปรานของเจ้างูทั้งหลายก็คือ สัตว์ทุกชนิดที่ตัวเล็กกว่า ไปจนถึงสัตว์ขนาดใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น จิ้งจก หนู กระต่าย ไปจนถึงเก้ง หรือกวาง ยิ่งพวกมันกินสัตว์ที่ตัวใหญ่มากแค่ไหน การออกหาอาหารครั้งต่อไปจะยิ่งทิ้งช่วงห่างมากแค่นั้น

ชนิดของงู

เราสามารถแบ่งงูออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆ ก็คือ งูมีพิษ และงูไม่มีพิษ

          งูมีพิษ ก็คืองูที่จะใช้พิษในการป้องกันตัวไม่ว่าจะเป็นตอนที่มันรู้สึกว่าถูกคุกคาม หรือแม้แต่ตอนที่พวกมันออกล่าเหยื่อ ซึ่งความร้ายแรงของพิษงูจะขึ้นอยู่กับชนิดของงู ซึ่งงูมีพิษบางชนิดอาจทำให้เหยื่อของมันที่มีขนาดใหญ่กว่าถึงแก่ชีวิตได้ภายในไม่กี่นาที งูมีพิษที่เราจะคุ้นชินกันดี ได้แก่ งูเห่า งูจงอาง งูสามเหลี่ยม เป็นต้น

งูมีพิษ ก็คืองูที่จะใช้พิษในการป้องกันตัว

          งูไม่มีพิษ คือ งูที่ไม่มีต่อมในการผลิตพิษและไม่มีเขี้ยวพิษ แต่งูไม่มีพิษจะมีฟันที่แหลมคม และใช้กล้ามเนื้อที่แข็งแรงมากของมันในการบีบรัดเหยื่อจนทำให้เหยื่อ หรือสัตว์ที่คุกคามมันถึงแก่ชีวิต ทำให้งูไม่มีพิษส่วนใหญ่จะมีขนาดที่ใหญ่กว่างูที่มีพิษ อย่างเช่น งูเหลือม งูหลาม หรืองูแสงอาทิตย์

งูไม่มีพิษ คือ งูที่ไม่มีต่อมในการผลิตพิษและไม่มีเขี้ยวพิษ

          เราอาจเคยได้รับความรู้ว่าให้หนีห่างออกจากงูให้ได้มากที่สุด บางคนเลือกที่จะทำร้ายพวกมัน เหมือนคำที่เราเคยได้ยินบ่อย ๆ ว่า “ตีงู ต้องตีให้ตาย” แต่จริง ๆ แล้ว งู ก็ไม่ได้อยากทำร้ายเรา เช่นเดียวกับสัตว์อื่น ๆ ที่ต้องป้องกันตัวเมื่อพวกมันรู้สึกถูกคุกคาม ดังนั้นหากเราต้องเผชิญหน้ากับงู เราก็ไม่จำเป็นต้องทำร้ายมัน เพียงเราต้องศึกษาวิธีการหลีกเลี่ยง วิธีปฏิบัติที่จะทำให้เจ้างูทั้งหลายรู้สึกว่าเราไม่ได้กำลังคุกคามพวกมัน หรือวิธีที่ดีที่สุด คือ คุณควรจะโทรขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ ที่มีความชำนาญในการจัดการกับงูเหล่านั้น

Categories
สัตว์เลื้อยคลาน

กิล่ามอนสเตอร์ สัตว์ประะหลาดที่น่าขนลุก จริงหรือ?

สัตว์เลื้อยคลาน

หากจะพูดถึงสัตว์ที่น่าเกลียด น่ากลัวที่คนส่วนใหญ่พยายามอยู่ให้ห่างมากที่สุด ก็คงจะไม่พ้นสัตว์ที่อยู่ในประเภทเลื้อยคลาน แต่ในบรรดาสัตว์เลื้อยคลานทั้งหลายที่ดูน่าขนลุกนั้น คงไม่มีสัตว์เลื้อยคลานตัวไหนน่ากลัวเท่าเจ้ากิล่ามอนสเตอร์อีกแล้ว นอกจากหน้าตาของมันที่ดูชวนขนลุกแล้ว พวกมันจะน่ากลัวสมกับคำว่า “มอนสเตอร์” ชื่อเรียกของมันหรือไม่ เรากำลังจะได้รู้กันใน กิล่ามอนสเตอร์ สัตว์ประหลาดที่น่าขนลุก จริงหรือ

กิล่ามอนสเตอร์ สัตว์ประหลาดที่น่าขนลุก จริงหรือ

ลักษณะกิล่ามอนสเตอร์

กิล่ามอนสเตอร์ หรือ Gila Monster มีรูปร่างหน้าตาที่ชวนขนลุก แต่ในความจริงพวกมันเป็นกิ้งก่าชนิดหนึ่งที่อาศัยอยู่ในแถบแอริโซน่าหรือเม็กซิโก พวกมันมีร่างกายที่เป็นตะปุ่มตะป่ำที่ทำหน้าที่เหมือนเกราะให้กับมัน กิล่ามอนสเตอร์มีลำตัวสีดำตัดด้วยสีส้มหรือสีเหลือง หางของกิล่ามอนสเตอร์จะมีลักษณะอ้วนกลม มีความยาวได้ถึง 2 ฟุต แต่พวกมันจะมีขาสัตว์อยู่ทั้ง 2 ข้างของลำตัว หรือหากจะอธิบายให้คุณได้เห็นภาพง่ายๆ ก็คือ พวกมันมีลักษณะคล้ายๆ กับตุ๊กแก นั่นอาจจะช่วยให้คุณนึกถึงความน่าขนลุกของพวกมันได้ง่ายขึ้น

Gila Monster มีรูปร่างหน้าตาที่ชวนขนลุก

พิษของกิล่ามอนสเตอร์

พิษของกิล่ามอนสเตอร์ ร้ายแรงพอๆ กับงูหางกระดิ่ง นี่อาจเป็นอีกหนึ่งความเชื่อที่หลายคนมักจะนึกถึงเมื่อมีการกล่าวถึงพวกมัน เป็นเรื่องจริงที่กิล่ามอนสเตอร์มีต่อมพิษอยู่ที่ต่อมน้ำลาย นั่นหมายถึงพวกมันจะสามารถสร้างพิษได้เอง พิษของกิล่ามอนสเตอร์จะมีความรุนแรงส่งผลต่อระบบประสาท แต่พิษของกิล่ามอนสเตอร์อาจไม่ได้ร้ายแรงพอที่จะทำให้มนุษย์ถึงแก่ชีวิต แต่ก็สามารถส่งผลให้มนุษย์บาดเจ็บร้ายแรงได้เลยทีเดียว พิษของพวกมันจะถูกส่งผ่านกรามที่แข็งแรงในขณะที่กำลังต่อสู้กับเหยื่ออาหาร ที่ส่วนใหญ่มักจะเป็นสัตว์จำพวกนกขนาดเล็ก จิ้งจก กบ แมลง ไปจนถึงไข่ของสัตว์ชนิดต่างๆ

นอกจากนั้นการจู่โจมของ Gila Monster ช่างน่าสะพรึงด้วย โดยมีคำเล่าลือว่าหากใครที่โดนเจ้ากิล่ามอนสเตอร์เข้า ก็นับว่าโชคร้ายมากเพราะพวกมันจะไม่ปล่อยจนกว่าตะวันจะตกดิน นอกจากเจ้ากิล่ามอนสเตอร์ นับว่าเป็นกิ้งก่าพิษชนิดหนึ่งแล้ว พวกมันยังนับว่าเป็นสัตว์เลื้อยคลานที่มีการจู่โจมที่ค่อนข้างร้ายกาจมากด้วย ในขณะที่พวกมันโกรธหรือพยายามป้องกันตัว กิล่ามอนสเตอร์จะพองตัวของมันและอ้าปากใส่พร้อมด้วยเสียงขู่ฟ่อๆ ที่น่าขนลุก

ถึงแม้ว่าเจ้ากิล่ามอนสเตอร์ จะดูร้ายกาจ หรือน่าขนลุกสักแค่ไหน แต่บรรดาผู้ที่ชื่นชอบการเลี้ยงสัตว์แนวเอ็กโซติกก็คงไม่พลาดการได้ครอบครองเจ้ากิ้งก่าสายพันธุ์นี้สักตัวหนึ่ง เพราะหากคุณรู้วิธีที่จะจัดการกับมันอย่างถูกต้องแล้ว เจ้ากิล่ามอนสเตอร์ก็ดูเหมือนจะเป็นสัตว์เลี้ยงที่ดูน่าเกรงขามไม่น้อยเลยทีเดียว

กิล่ามอนสเตอร์มีต่อมพิษอยู่ที่ต่อมน้ำลาย
Categories
สัตว์เลื้อยคลาน

กิ้งก่า สัตว์เลี้ยงเลื้อยคลานอันแสนน่าทึ่ง

สัตว์เลื้อยคลาน

ในสมัยก่อนหากเราพูดถึงกิ้งก่า เราคงจะนึกถึงสัตว์เลื้อยคลานสี่ขา หางยาว วิ่งปราดเปรียว กินแมลงเป็นอาหาร แต่ในยุคปัจจุบันเรากลับสามารถพบกิ้งก่าได้มากมายตามร้านขายสัตว์เลี้ยงแนวแปลก หรือที่เราเรียกว่า สัตว์เอ็กโซติก

กิ้งก่า
กิ้งก่า สัตว์สี่ขา หางยาว และปราดเปรียว

กิ้งก่ามีลักษณะเป็นอย่างไร

ลักษณะของกิ้งก่าโดยทั่วไปมี 4 ขาที่มีลักษณะเป็นปล้อง มีเกล็ดแข็งปกคลุม แต่ยังมีกิ้งก่าบางชนิดที่อาจไม่มีขา หรือมีขาที่เล็กมาก หรือที่เราเรียกว่าจิ้งเหลน กิ้งก่าเหล่านี้กินแมลงเป็นอาหาร สามารถพบได้ทั่วไปทั่วโลก ยกเว้นแถบขั้วโลก มีบางคนคิดว่ากิ้งก่าสามารถเปลี่ยนสีตัวเองได้ตามสภาพแวดล้อมเพื่ออำพรางตัว แต่อันที่จริงแล้วเจ้ากิ้งก่าจะเปลี่ยนสีไปตามอารมณ์ หรือตามอุณหภูมิมากกว่า

กิ้งก่าไทย

ในประเทศไทยสามารถพบกิ้งก่าได้หลายชนิด และสามารถพบได้ตามป่าดิบชื้นต่าง ๆ บริเวณน้ำตก และภาคอิสานของไทยเป็นส่วนใหญ่ เรายังสามารถพบกิ้งก่าไทยแบบที่มีปีกด้วย ที่เราเรียกว่า กิ้งก่าบิน หรือกะปอมปีก กิ้งก่าบินมีความสามารถในการร่อนได้ไกลถึง 60 เมตร และทิ้งตัวดิ่งลงมาได้ถึง 10 เมตร กิ้งก่าไทยมีทั้งขนาดที่ใหญ่มากอย่างเช่น ตะกวด หรือ ขนาดเล็กมาก ๆ อย่างพวกจิ้งเหลน

กิ้งก่าไทยที่เรียกว่าจิ้งเหลน เป็นกิ้งก่าที่มีขนาดเล็ก

กิ้งก่าคาเมเลี่ยน สัตว์เลี้ยงเอ็กโซติก

ในปัจจุบันคุณจะต้องเคยเห็นกิ้งก่าวางขายตามร้านขายสัตว์ ต่าง ๆ โดยเฉพาะบรรดาร้านจำหน่ายสัตว์สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการเลี้ยงสัตว์เอ็กโซติก โดยเฉพาะ กิ้งก่าคาเมเลี่ยน ซึ่งเป็นกิ้งก่าสายพันธุ์ที่คนนิยมหาซื้อมาเลี้ยงมากที่สุด พวกมันมีถิ่นกำเนิดอยู่แถบประเทศแอฟริกา และอาจด้วยสีสันและหน้าตาของกิ้งก่าคาเมเลี่ยนที่ดูมีเสน่ห์ที่ทำให้เจ้าคาเมเลี่ยนกลายเป็นสัตว์เลี้ยงที่ดูน่าทึ่ง กิ้งก่าคาเมเลี่ยนสามารถเปลี่ยนได้ตามอารมณ์และสภาพอากาศเช่น เมื่อมันรู้สึกโกรธเจ้ากิ้งก่าคาเมเลี่ยน จะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองสดใส จากที่มันมีสีเขียวในสภาวะปกติ อีกส่วนหนึ่งที่ทำให้เจ้ากิ้งก่าคาเมเลี่ยนดูน่าสนใจก็คือ “หาง” ซึ่งหางของเจ้าคาเมเลี่ยนจะมีลักษณะที่ยาวและม้วนเป็นวงกลมแปลกตา ที่จะช่วยให้พวกมันสามารถยึดเกาะกิ่งไม้ได้อย่างมั่นคง

กิ้งก่าคาเมเลี่ยนมีสีสันและลักษณะที่มีเสน่ห์

อย่างไรก็ตามหากคุณเป็นอีกคนที่กำลังมองหาเจ้าคาเมเลี่ยนมาเลี้ยงสักตัว เราขอแนะนำว่าคุณควรศึกษานิสัย และความเป็นอยู่ของเจ้าคาเมเลี่ยนนี้ให้ดีเสียก่อน เพราะสำหรับการเลี้ยงเจ้ากิ้งก่าคาเมเลี่ยนคุณจะต้องมีการเตรียมสถานที่ไว้ให้มันอย่างเหมาะสม กรงกิ้งก่าคาเมเลี่ยนจะต้องมีการควบคุมอุณหภูมิให้ดี เราเชื่อว่าคุณคงไม่อยากให้มันต้องมาตายด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของตัวคุณเอง

Categories
สัตว์เลื้อยคลาน ไม่มีหมวดหมู่

ตัวเงินตัวทอง ชื่อเป็นมงคล แต่ทำไมใคร ๆ ก็รังเกียจ

สัตว์เลื้อยคลาน

ตัวเงินตัวทอง หรือ “เหี้ย“ นี่ไม่ใช่คำหยาบแต่เป็นชื่อเรียกของสัตว์เลื้อยคลานชนิดหนึ่ง คุณเคยสงสัยหรือไม่ว่า ใคร ๆ ก็พากันรังเกียจ ตัวเงินตัวทอง เหล่านี้ทั้งที่บางทีพวกมันก็ไม่ได้ทำความเดือดร้อนอะไรให้เลย หรือแม้แต่มีคนนำชื่อของมันอย่าง “เหี้ย“ มาให้เป็นคำหยาบที่ใช้ด่ากันทั่วไป แต่คุณรู้หรือไม่ว่าในความจริงแล้ว “เหี้ย“ ไม่ได้น่ารังเกียจอย่างที่คุณคิด

ตัวเงินตัวทอง มีถึง 7 ชนิดทั่วโลก พวกมันมีสีและลักษณะที่ต่างกัน

คุณรู้หรือไม่ว่าตัวเงินตัวทองมีกี่ชนิด?

หากคุณสังเกตดี ๆ คุณจะเห็นว่าตัวเงินตัวทองที่คุณเห็นอยู่ทั่วไปนั้นมีลักษณะและลวดลายที่ไม่เหมือนกัน นั่นเพราะพวกมันมีอยู่ถึง 7 ชนิดทั่วโลก พวกมันอาศัยอยู่กระจัดกระจายอยู่ในทุกประเทศในเขตตะวันออกเฉียงใต้ ไม่ว่าจะเป็นแถบเอเชีย อินเดีย หรือไปจนถึงทวีปออสเตรเลีย ซึ่งคุณสามารถพบเห็นได้ถึง 3 ชนิดตามแหล่งน้ำในประเทศไทย ได้แก่ เห่าช้าง, เหี้ยดำ และเหี้ยลายดอก คุณสามารถเห็นตัว “เหี้ย“ ได้ตามแหล่งน้ำจืดทั่วประเทศไทย และรวมถึงใจกลางเมืองหลวงอย่างกรุงเทพมหานครด้วยเช่นกัน

ตัวเงินตัวทองกินอะไร?

คุณอาจเคยได้ยินชื่อเสียงที่ไม่ดีของตัวเงินตัวทองเหล่านี้ที่ชอบขโมยของกินตามบ้านเรือน หรือตามไร่นาของชาวบ้าน แต่จริงแล้วเจ้าตัวเงินตัวทองพวกนี้ชอบกินปลาชนิดต่าง ๆ นก หนู ไปจนถึงซากสัตว์เน่าเปื่อย จึงทำให้พวกมันส่วนใหญ่ชอบอาศัยอยู่ตามแหล่งน้ำ ที่เป็นแหล่งอาหารของมัน ซึ่งเราอาจจะได้ยินอยู่บ่อย ๆ ว่าตัวเงินตัวทองเหล่านี้ ชอบแอบมาขโมยอาหาร ขโมยสัตว์เลี้ยงตัวเล็ก ๆ ของเรา โดยเฉพาะเกษตรกรที่เลี้ยงปลา ไก่ โดยเฉพาะไข่ไก่ และลูกเจี๊ยบ ที่พวกมันชอบมาก ทำให้หลายคนตั้งฉายาให้มันอีกชื่อว่า “ตัวกินไก่“ อาจจะกล่าวได้ว่า ตัวเงินตัวทองเหล่านี้เป็นสัตว์ที่กินไม่เลือก แต่นั่นเป็นผลดีต่อระบบนิเวศ เพราะตัวเงินตัวทองเหล่านี้มีส่วนช่วยในการกำจัด และย่อยสลายซากสัตว์ในระบบนิเวศด้วย

ตัวเงินตัวทอง-1
ตัวเงินตัวทองชอบอาหารตามบริเวณแหล่งน้ำ

ตัวเงินตัวทองกลัวอะไร?

อันที่จริงแล้วตัวเงินตัวทองเหล่านี้เป็นสัตว์ที่รักความสงบ รักสันโดษ หากเราจะสังเกตได้คือ ตัวเงินตัวทองเหล่านี้มักจะหากินตัวเดียว แต่จะรวมกลุ่มกันเฉพาะเมื่อเจออาหาร พวกมันค่อนข้างจะมีนิสัยขี้กลัว เพียงแค่เราไล่มันก็จะหนีไปไกลแล้ว แต่สำหรับคนที่รังเกียจพวกมันจริง ๆ วิธีการที่ดีที่สุดก็คือการป้องกัน ดูแลทำความสะอาดบ้าน และรอบ ๆ ตัวบ้านให้สะอาดเรียบร้อย หรืออาจจะทำรั้วและทำประตูที่ปิดมิดชิด

ตัวเงินตัวทอง-2
ตัวเงินตัวทองชอบอาหารตามบริเวณแหล่งน้ำ

ถึงตัวเงินตัวทอง จะเป็นสัตว์เลื้อยคลานที่มีรูปร่าง หน้าตา ที่น่ารังเกียจ แต่ปัจจุบัน พวกมันกลายเป็นสัตว์เศรษฐกิจของประเทศไปแล้ว ไม่ว่าเนื้อที่สามารถส่งออกได้ และหนังที่สามารถนำมาใช้ทำเครื่องหนัง ได้เช่นเดียวกับจระเข้ และแน่นอนราคาของพวกมันก็ไม่น้อยเลยทีเดียว สมกับชื่อ “ตัวเงินตัวทอง“ เลยทีเดียว แต่หากคุณต้องเผชิญหน้ากับมันด้วยเหตุบังเอิญ หรือมันได้มาเยี่ยมตามใต้หลังคาหรือซอกมุมใดของตัวบ้านคุณในแบบที่ไม่ได้รับเชิญ คุณสามารถโทรศัพท์แจ้งกู้ภัยให้มาช่วยจับมันไปยังที่ปลอดภัยอื่นได้