Categories
สัตว์บก

สล็อต 2 นิ้ว สิ่งมีชีวิตที่เชื่องช้าแต่สามารถละลายใจของคุณได้ดี

หากคุณเป็นคนที่ชื่นชอบเรื่องราวเกี่ยวกับ สัตว์โลก อยู่แล้วเชื่อว่าคุณจะต้องรู้จักชื่อของสล็อตอย่างแน่นอน พวกเขาเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่มีความเชื่องช้าเป็นอย่างมากจนเป็นเจ้าพ่อและต้นแบบในการใช้ชีวิตแบบสโลว์ไลฟ์ในช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมา ความเชื่องช้าของพวกเขานั้นไม่ได้ทำให้ความน่ารักของพวกเขาหายไปเลยแม้แต่น้อย แถมมันยังทำให้พวกเขาน่าสนใจและดูน่ารักมากขึ้นกว่าเดิมอีกต่างหาก แต่ความเป็นจริงแล้วพวกเขามีหลากหลายสายพันธุ์เช่นเดียวกัน อย่างเช่นที่เราจะมาแนะนำกันในวันนี้นั่นก็คือ สล็อต 2 นิ้ว นั่นเอง พวกเขาคือใครและมีพฤติกรรมอย่างไรไปดูกัน 

mammal1

ทำความรู้จัก สล็อต 2 นิ้ว สัตว์ที่มีชีวิตสดเชื่องช้าแถมมาพร้อมกับการชูสองนิ้ว

สล็อต 2 นิ้ว ที่เราจะมาแนะนำกันในวันนี้มีความโดดเด่นตรงที่พวกเขามีเพียงแค่ 2 นิ้วเท่านั้น ลักษณะร่างกายรวมไปถึงสีขนภายนอกของพวกเขาทั้งตัวผู้และตัวเมียนั้นจะไม่ได้แตกต่างกัน พวกเขามีหัวที่สั้นและกลม ใบหน้าแบ ปากและจมูกจะยื่นออกมาเล็กน้อยและเป็นส่วนที่ไม่มีขน พวกเขามีใบหูกลมซ่อนอยู่เอาไว้ภายในขน เมื่อโตเต็มที่พวกเขาจะมีขนสีเทาและสีน้ำตาลอ่อนทั้งตัว ขนของพวกเขานั้นมี 2 ชั้น ด้านในจะมีความนุ่มนิ่มในขณะที่ด้านนอกนั้นจะยาวปกคลุมร่างกายและมีความหยาบเทียบเท่ากับสก๊อตไบร์ท พวกเขามี 2 นิ้วก็จริงแต่ก็มีเล็บที่ยาวและสามารถใช้ในการเกาะกิ่งไม้ได้เป็นอย่างดี โดยปกติแล้ว สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม นั้นมีถิ่นกำเนิดอยู่ในทวีปอเมริกาใต้รวมไปถึงอเมริกากลาง มักอาศัยอยู่บนยอดไม้ภายในป่าดิบชื้น ที่ราบ รวมไปถึงบนภูเขา อาหารหลักของพวกเขานั้นจะเป็นใบไม้ ใบอ่อน กิ่งอ่อน ดอกไม้ และผลไม้เนื่องจากเป็น สัตว์กินพืช ในแต่ละวันพวกเขาจะกินอาหารอยู่ที่ประมาณ 350 กรัมเท่านั้น นั่นก็เป็นเพราะว่าพวกเขาย่อยใบพืชได้ กว่าที่อาหารจะเดินทางผ่านทางเดินอาหารไปจนสุดต้องใช้เวลากว่า 2 วันครึ่ง 

mammal2

บทสรุป

เรียกได้ว่าช้าทั้งการเคลื่อนที่รวมไปถึงการย่อยอาหารกันเลยทีเดียว พวกเขาใช้ชีวิตอยู่บนต้นไม้ไม่ว่าจะเป็นการกินหรือการนอน แม้แต่ตอนตกลูกพวกเขาก็จะขึ้นไปยังบนกิ่งไม้เช่นเดียวกัน โดยปกติแล้ว สัตว์ป่า ชนิดนี้จะใช้ชีวิตอยู่ตัวเดียว จะมีอยู่ช่วงเวลาหนึ่งที่อยู่ร่วมกันนั่นก็คือเวลาแม่คลอดลูก พวกเขามีพฤติกรรมการหากินในตอนกลางคืนประมาณ 1 ชั่วโมงหลังจากที่พระอาทิตย์ตกดินเป็นที่เรียบร้อยแล้วและจะจบลงหลังพระอาทิตย์ขึ้น ในขณะที่ตอนกลางวันพวกเขาจะทำเพียงแค่เกาะอยู่บริเวณกึ่งกลางของกิ่งไม้เท่านั้น พวกเขาเคลื่อนที่เชื่องช้าเป็นอย่างมากวันหนึ่งไปไม่ไกลกว่า 36 เมตร ครั้งหนึ่งจะเคลื่อนที่เฉลี่ยอยู่เพียงแค่ 1 ฟุตเท่านั้น นอกจากนี้พวกเขายังไม่สามารถรักษาอุณหภูมิร่างกายให้คงที่ได้อีกด้วย โชคดีที่ขนเป็นสิ่งที่สามารถช่วยเขารักษาอุณหภูมิในร่างกายได้ ถึงแม้ว่าจะเป็นสัตว์ที่ดูเชื่องช้าและไม่น่าเอาชีวิตรอดในป่าที่เต็มไปด้วยอันตรายได้ แต่พวกเขาก็มีอายุเฉลี่ยถึง 12 ปีเลยทีเดียว และหากเลี้ยงใน สวนสัตว์ ก็มีอายุเฉลี่ยกว่า 31 ปีอีกต่างหาก animal2you.com

 

บทความเพิ่มเติม

Categories
สัตว์บก

ลีเมอร์ สัตว์ใกล้สูญพันธุ์ที่หลายคนตกหลุมรักเจาะภาพยนตร์เรื่องมาดากัสการ์

ภาพยนตร์อนิเมชั่นเรื่อง MADAGASCAR เป็นภาพยนตร์ที่เล่าถึงเรื่องราวของชีวิตสัตว์ป่าที่ถูกจับมาอยู่ในสวนสัตว์และต้องการจะเดินทางกลับไปใช้ชีวิตในธรรมชาติอีกครั้ง และการเดินทางของพวกเขาก็ทำให้พวกเขาได้พบเข้าลีเมอร์ สัตว์เล็กสุดน่ารักที่เต็มไปด้วยความสนุกสนานเฮฮาแถมยังชอบเต้นและร้องเพลง ด้วยเหตุนี้หลายคนจึงตกหลุมรักพวกเขาแบบถอนตัวไม่ขึ้น แต่ทราบหรือไม่ว่าในธรรมชาติพวกเขาจัดเป็นสัตว์ใกล้สูญพันธุ์แล้ว ดังนั้นเราจึงจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับพวกเขาให้มากขึ้นกัน

ทำความรู้จักกับลีเมอร์ สัตว์ยอดนิยมที่กำลังเสี่ยงสูญพันธุ์

ลีเมอร์นับว่าเป็นตัวแย่งซีนในภาพยนตร์อนิเมชั่นเรื่อง MADAGASCAR ก็ว่าได้ นั่นก็เป็นเพราะว่าพวกเขาได้รับการออกแบบมาให้มีคาแรคเตอร์ที่สนุกสนานและน่ารักน่าชัง เต็มไปด้วยมุกตลกมากมาย ในขณะเดียวกันเองรูปลักษณ์ภายนอกของพวกเขาก็เป็นสัตว์เล็กน่ารักอีกด้วย ดูผิวเผินมีความคล้ายคลึงกับลิงไม่น้อยแต่มีหางยาวเป็นพวงเหมือนกับกระรอก พวกเขานับเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในอันดับไพรเมต ใบหน้าและส่วนหัวของพวกเขาจะคล้ายกับของสุนัขจิ้งจอก มีดวงตากลมโตแต่จมูกและปากจะแหลมยื่นยาวออกมา ปกติแล้วขนาดตัวของพวกเขานั้นจะเท่ากับแมวบ้านโดยมีน้ำหนักเพียงแค่ 9 กิโลกรัม พื้นที่อยู่อาศัยจะกระจายสายพันธุ์เฉพาะบนเกาะมาดากัสการ์เท่านั้นซึ่งตั้งอยู่บริเวณชายฝั่งแอฟริกันตะวันออก เนื่องจากเกาะแห่งนี้ห่างไกลทำให้สัตว์หลายสายพันธุ์มีการวิวัฒนาการเป็นของตัวเองและยังไม่มีสัตว์กินเนื้อขนาดใหญ่บนห่วงโซ่อาหารที่มาคอยคุกคามอีกด้วย

mammal1

บทสรุป

ปกติแล้วพวกเขาจะอยู่ในป่าดิบอาศัยบนต้นไม้ขนาดใหญ่ ออกหากินในตอนกลางวันและนอนหลับในช่วงกลางคืน พวกเขามีการรวมฝูงอยู่ด้วยกัน และเมื่ออยู่ด้วยกันก็ต้องมีการสื่อสารโดยพวกเขาจะใช้วิธีการสื่อสารผ่านเสียงร้องที่มีหลากหลายแถมยังดังไปทั่วอีกด้วย อาหารของพวกเขานั้นก็มีหลายประเภทตั้งแต่ผักผลไม้ไปจนถึงแมลงหรือไข่นกและสัตว์ขนาดเล็ก พวกเขามีขาหน้าที่ทำหน้าที่ได้เหมือนกับมือในการหยิบหรือขุดคุ้ย ปัจจุบันสามารถจำแนกได้มากกว่า 100 ชนิดแต่ที่น่าเสียดายก็คือมีอยู่หลายชนิดเลยทีเดียวที่ได้สูญพันธุ์ไปแล้ว ปัจจุบันทางสหภาพนานาชาติเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติและทรัพยากรธรรมชาติได้ออกมาระบุว่าพวกเขากำลังตกอยู่ภายใต้ภาวะถูกคุกคามแถมยังมีความเสี่ยงสูญพันธุ์เข้าขั้นวิกฤตกว่า 52 ชนิดอีกด้วย หากเราไม่ดูแลรักษาธรรมชาติอนาคตพวกเขาอาจจะไม่ได้อยู่ให้ลูกหลานเราได้รับชมความน่ารักก็เป็นได้เช่นเดียวกัน animal2you.com

mammal2

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

Categories
สัตว์บก

นางอาย สัตว์ตัวเล็กสุดน่ารักที่หลายคนอยากจะลองเลี้ยงเป็นของตัวเอง

บนโลกใบนี้มีสัตว์สายพันธุ์แปลกๆ ที่หน้าตาน่ารักมากมายเต็มไปหมด บางสายพันธุ์ก็ถูกนำเอามาเลี้ยงในขณะที่บางสายพันธุ์นั้นก็ยังคงถูกปล่อยให้อาศัยอยู่ในธรรมชาติตามเดิม ซึ่งสาเหตุที่มีคนไม่เอาพวกเขามาเลี้ยงก็มีหลายประการเช่นเดียวกัน อย่างเช่นในประเทศไทยเรานั้นนิยมนางอายเป็นอย่างมากเพราะพวกเขาเป็นสัตว์ขนาดเล็กสุดแสนจะน่ารักที่มีดวงตากลมโตและดูเหมาะสำหรับการเลี้ยงแบบสุดๆ แต่เพราะเหตุใดคุณจึงไม่ควรจับเขาจากธรรมชาติมาเลี้ยงในบ้านวันนี้เราจะพาไปหาคำตอบกัน 

loris

ทำความรู้จักกับนางอาย สัตว์สุดแสนน่ารักที่มาพร้อมกับพิษอันตราย

นางอายเป็นที่รู้จักกันในอีกชื่อหนึ่งว่าลิงลม พวกเขาจัดเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่อยู่ในอันดับไพรเมตและที่สำคัญพวกเขายังเป็นลิงเพียงแค่ชนิดเดียวเท่านั้นที่เป็นสัตว์มีพิษอีกด้วย เราสามารถพบพวกเขาได้ทั่วไปในบริเวณภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียใต้ รวมไปถึงในประเทศไทยของเราเองเช่นเดียวกันซึ่งจะถูกแบ่งออกเป็น 2 สายพันธุ์ประกอบไปด้วยสายพันธุ์เหนือและสายพันธุ์ใต้ พวกเขาจะมีรูปร่างขนาดค่อนข้างเล็กและภายนอกดูเหมือนกับลิง มีขนนุ่มฟูสั้นๆ เหมือนกับกำมะหยี่สีน้ำตาลตลอดทั้งตัวจากหัวไปจนถึงสันหลัง มีใบหน้าสั้น ดวงตากลมโตเป็นพิเศษ มีใบหูขนาดเล็กที่จะจมลงไปในขน ที่สำคัญพวกเขายังเป็นลิงที่ไม่มีหางอีกด้วย พวกเขามักหากินตามต้นไม้โดยเฉพาะในช่วงเวลากลางคืนและมักจะอยู่ตามลำพังยกเว้นในช่วงเวลาที่พวกเขามีลูกอ่อน พวกเขาจะให้ลูกกอดติดตัวไปไหนมาไหนด้วย ในช่วงเวลากลางวันพวกเขามักจะหลบซ่อนตัวอยู่ในโพรงไม้หรือใช้ใบไม้หลบจากแสงแดดรวมไปถึงนักล่า

mammal

บทสรุปนางอาย

ถึงแม้ว่าพวกเขาจะเป็นสัตว์ป่าที่สุดแสนน่ารักและน่าเก็บมาเลี้ยงเป็นอย่างมากแต่ความจริงแล้วพวกเขามีพิษภัยค่อนข้างอันตรายเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นเขี้ยวและฟันที่มีความแหลมคมจนสามารถกัดเหยื่อจนเสียชีวิตได้ นอกจากนี้พวกมันยังมีต่อมพิษที่หลั่งออกมาบริเวณใต้รักแร้ที่พวกมันจะเลียก่อนกัดเหยื่อเพื่อให้พิษไปผสมกับน้ำลายจนทำให้เหยื่อแผลหายช้าและตายในที่สุด หากพวกเขากับมนุษย์อย่างเราแล้วเกิดอาการแพ้อย่างรุนแรงก็ถึงขั้นเสียชีวิตได้เช่นเดียวกัน ดังนั้นเราจึงไม่ควรจับพวกเขามาเลี้ยงแต่อย่างใด เพราะถึงแม้ว่าตอนเด็กจะเชื่องแต่สุดท้ายแล้วเมื่อโตขึ้นพวกเขาก็จะมีสัญชาตญาณที่ดุร้ายแสดงออกมาให้เห็น ถึงเวลานั้นต่อให้เรานำเอาพวกเขาไปปล่อยในธรรมชาติพวกเขาก็ไม่สามารถหากินได้ด้วยตัวเองแต่อย่างใดและต้องจบชีวิตลงอย่างแน่นอน ที่สำคัญพวกเขายังเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองที่อยู่ในสถานะเสียงใกล้สูญพันธุ์อีกด้วย ไม่สามารถครอบครองหรือเลี้ยงได้ตามกฎหมายแต่อย่างใด animal2you.com

poisonous animal

อ่านบทความเพิ่มเติม

Categories
สัตว์บก

คาปิบารา หมามะพร้าวที่กำลังได้รับความนิยมบนโลกอินเตอร์เน็ตในขณะนี้ 

คนไทยเรานั้นเป็นคนที่ช่างเปรียบเปรยเสียเหลือเกิน บางสิ่งบางอย่างเมื่อพูดเปรียบเปรยออกมามันก็ทำให้เราเห็นภาพได้อย่างชัดเจนจนอดขำออกมาไม่ได้เช่นเดียวกัน อย่างเช่นสัตว์ที่เราจะมาแนะนำกันในวันนี้นั่นก็คือ คาปิบารา หรือที่คนบนโลกอินเตอร์เน็ตเรียกกันว่าหมามะพร้าวนั่นเอง ในช่วงเวลานี้พวกเขาได้รับความนิยมเป็นอย่างมากบนโลกอินเตอร์เน็ตและหลายคนก็ให้ความสนใจไม่น้อย ที่สำคัญเรายังสามารถเลี้ยงพวกเขาได้อีกต่างหาก สำหรับใครที่สนใจเราจะพาทุกคนไปดูกันว่าพวกเขาเป็นใครมาจากไหนกันแน่ 

ทำความรู้จักกับ คาปิบารา หนูที่มีขนาดตัวใหญ่ที่สุดในโลก

คาปิบารา

คาปิบารานั้นเป็นที่รู้จักกันในฐานะของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่ชิลสุดใจ พวกมันใช้ชีวิตแบบไม่สนฟ้าสนฝนอะไรเลยถึงขั้นที่สามารถนอนอยู่ท่ามกลางฝูงจระเข้ได้ บางครั้งบางคราวพวกมันยังขี่จระเข้เป็นเรือไปไหนมาไหนตามแม่น้ำราวกับไม่เกรงกลัวสัตว์นักล่าประจำลุ่มแม่น้ำเลยแม้แต่นิดเดียว ถึงพวกมันจะมีขนาดตัวใหญ่กว่าสุนัขบ้านทั่วไปแต่ความเป็นจริงแล้วพวกมันเป็นสัตว์ฟันแท้จำพวกหนูที่มีขนาดตัวใหญ่ที่สุดในโลก ถึงแม้ว่าภายนอกจะดูเหมือนสัตว์บกแต่พวกเขามักจะใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ภายในน้ำ

คาปิบารา

ด้วยเหตุนี้สัตว์ฟันแทะสายพันธุ์ดังกล่าวจึงวิวัฒนาการให้มีแผ่นหนังอยู่บริเวณนิ้วเพื่อที่ให้สามารถเคลื่อนที่ใต้น้ำได้สะดวกคล่องแคล่วมากขึ้นกว่าเดิม นอกจากนี้ดวงตาและจมูกยังจะอยู่บริเวณด้านบนของส่วนหัวอีกด้วยช่วยให้พวกเขาสามารถมองเห็นและหายใจในระหว่างที่ว่ายน้ำได้ และพวกเขายังสามารถดำน้ำได้นานถึง 5 นาทีเลยทีเดียว พวกเขามีขนเส้นเล็กที่หยาบพอๆ กับสก๊อตไบร์ท แต่มันก็ช่วยให้ขนของพวกเขาสามารถแห้งได้อย่างรวดเร็วหลังจากขึ้นมาจากน้ำ 

คาปิบารา

พื้นที่อาศัยของพวกเขาส่วนใหญ่จะอยู่บริเวณริมแม่น้ำหรือทะเลสาบภายในทุ่งหญ้า ป่าดิบชื้น รวมไปถึงป่าโปร่งสะวันนา พวกเขามักอาศัยอยู่รวมกันเป็นฝูงโดยจำนวนสมาชิกจะมีประมาณ 10 ตัวไปจนถึง 20 ตัว จะมีตัวผู้เป็นจ่าฝูงและสมาชิกที่เหลือจะเป็นตัวเมียและลูกของพวกมัน ในขณะที่ตัวผู้ซึ่งเป็นอันดับรองลงมาในฝูงก็จะอยู่รวมฝูงเช่นเดียวกันแต่พวกเขามักจะเลือกอยู่บริเวณพื้นที่นอกวงของฝูงมากกว่าและทำหน้าที่เป็นยามคอยเตือนภัยคนในฝูงหากมีอันตรายใกล้เข้ามา

คาปิบารา

พวกเขาเป็นสัตว์กินพืชดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องล่าสัตว์แต่อย่างใดและมันก็ทำให้พวกเขาไม่ได้เป็นอันตรายต่อมนุษย์ถึงแม้ว่าจะมีฟันที่ค่อนข้างแหลมคมก็ตาม ในปัจจุบันผู้คนนิยมพวกเขาเป็นอย่างมากในฐานะสัตว์ EXOTIC  เนื่องจากเราสามารถเลี้ยงพวกเขาเป็นสัตว์เลี้ยงได้อย่างถูกกฎหมาย เพียงแต่ว่าในช่วงเวลานี้ที่พวกเขาได้รับความนิยมและหาเลี้ยงค่อนข้างยากราคาก็อาจจะค่อนข้างสูงสักเล็กน้อย อายุเฉลี่ยของพวกเขาจะอยู่ที่ประมาณ 6-12 ปีเลยทีเดียวซึ่งถือว่าค่อนข้างนานกว่าสัตว์ประเภทหนูด้วยกัน นอกจากนี้ยังสามารถมีน้ำหนักได้สูงสุดถึง 70 กิโลกรัมอีกด้วย ใครคิดจะเลี้ยงพวกเขาจึงต้องเตรียมความพร้อมให้ดีและยังต้องมีพื้นที่น้ำให้พวกเขาได้เล่นเช่นเดียวกัน 

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
สัตว์บก

ควอกก้า สัตว์หน้ายิ้มที่มีความสุขมากที่สุดในโลก 

ถึงแม้ว่าในช่วงเวลานี้คาปิบาร่าจะกลายมาเป็นดาวเด่นในโลกโซเชียล แต่ก่อนหน้านี้มีสัตว์อีกสายพันธุ์หนึ่งที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กันนั่นก็คือ ควอกก้า นั่นเอง พวกเขาเป็นสัตว์เล็กที่มีใบหน้ายิ้มแย้มอยู่ตลอดเวลาแถมยังมีหูทรงกลมเหมือนกับหมีตัวน้อยๆ อีกด้วย นับว่าเป็นสัตว์โลกอีกชนิดหนึ่งที่ดูแล้วรู้สึกเหมือนมีความสุขอยู่ตลอดเวลาจนทำให้หลายคนยิ้มตามออกมาได้อย่างง่ายดาย ด้วยเหตุนี้เราจึงจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับพวกเขากัน 

ควอกก้า สัตว์หน้ายิ้มที่หลายคนยังไม่รู้ว่าพวกเขานั้นเป็นญาติกับจิงโจ้ 

ควอกก้า

ควอกก้าเป็นสัตว์หน้ายิ้มที่หลายคนเห็นรูปแล้วก็เข้าใจผิดว่าพวกเขาเหมือนกับหมีขนาดเล็ก นั่นก็เป็นเพราะว่าพวกเขามีดวงตาที่กลมโต มีจมูกสีดำขนาดใหญ่ที่ยื่นยาวออกมาเล็กน้อย มีริมฝีปากที่ยกเหมือนยิ้มอยู่ตลอดเวลาจนแค่ได้เห็นก็รู้สึกมีความสุขตาม และที่สำคัญเลยก็คือหูทรงกลมขนาดเล็กที่เข้ากับใบหน้ายิ้มๆ ของพวกเขาได้เป็นอย่างดี

ควอกก้า

แต่ในความเป็นจริงแล้วพวกเขาเป็นญาติกับจิงโจ้และมีอีกชื่อเรียกหนึ่งว่าจิงโจ้แคระ นั่นก็เป็นเพราะว่าพวกเขาเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมและยังเป็นสัตว์มีกระเป๋าหน้าท้องอีกด้วย พวกเขามีขนาดค่อนข้างเล็กโดยความยาวตั้งแต่หัวไปจนถึงหางจะอยู่ที่ประมาณ 85 เซนติเมตรเท่านั้น ตลอดทั้งร่างกายจะมีขนสีน้ำตาลปกคลุมอยู่บางๆ ทำให้ดูเหมือนจะนุ่มแต่ความจริงแล้วเป็นคนที่ค่อนข้างหยาบเลยทีเดียว 

ควอกก้า

มีการค้นพบครั้งแรกโดยชาวยุโรปตั้งแต่ในปี 1658 คำอธิบายแรกก็คือพวกเขาคล้ายกับตัวชะมดแต่มีขนสีน้ำตาล จนกระทั่งในปี 1696 ก็มีผู้ค้นพบพวกเขาอีกครั้งและนำเอาชื่อพวกเขาไปตั้งชื่อเกาะบนออสเตรเลีย แต่ความจริงแล้วพวกเขาอยู่บนเกาะบอลด์และพื้นที่บริเวณตะวันตกเฉียงใต้ของทางออสเตรเลียต่างหาก พวกเขาเป็นสัตว์กินพืชที่จะกินใบไม้และหญ้าเป็นส่วนใหญ่

ควอกก้า

ดังนั้นจึงสามารถพบได้ทั่วไปในบริเวณที่ใกล้แหล่งน้ำและมีต้นไม้หนาแน่น พวกเขาสามารถปรับตัวได้เป็นอย่างดีและอยู่ได้โดยที่ไม่มีน้ำและอาหารเป็นระยะเวลายาวนาน แต่น่าเสียดายที่ในช่วง 10 ปีให้หลังมานี้ประชากรของพวกเขากลับลดลงเนื่องจากแหล่งอาหารของพวกเขาน้อยลงไปด้วย ดังนั้นหากเรายังคงต้องการจะเห็นพวกเขาสร้างความน่ารักและความสุขอยู่บนโลกใบนี้ต่อไปก็ต้องหันมาใส่ใจดูแลสิ่งแวดล้อมกันให้มากขึ้นกว่าเดิม เพื่อที่พวกเขานั้นจะได้มีรอยยิ้มให้เราได้เห็นบ้างผ่านทางโลกอินเตอร์เน็ตในช่วงเวลาที่เลวร้าย 

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
สัตว์บก

โคอาล่า สัตว์ตัวเล็กสุดน่ารักที่เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์

บนโลกใบนี้มีสัตว์หลากหลายชนิดที่ถูกเรียกด้วยชื่อผิดๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นปลาโลมาที่ความเป็นจริงแล้วไม่ใช่ปลา หรือจะหมี โคอาล่า ที่เราจะมาแนะนำกันในวันนี้ความเป็นจริงแล้วก็ไม่ใช่หมีแต่อย่างใด พวกเขาเป็น สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ที่มีหน้าตาและรูปร่างน่ารักเป็นอย่างมาก

โคอาล่า

จนเชื่อว่าหลายคนคงกังวลไม่น้อยว่าเวลาอยู่ตามธรรมชาติพวกเขาจะสามารถเอาชีวิตรอดท่ามกลางความโหดร้ายได้อย่างไร และมันก็เป็นอย่างที่หลายคนกังวลเพราะพวกเขามีความ เสี่ยงสูญพันธุ์ ไม่น้อยเลยทีเดียว เราจึงจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับพวกเขาให้มากขึ้นกัน 

ทำความรู้จักกับ โคอาล่า สัตว์ที่หลายคนเข้าใจผิดว่าเป็นหมี

โคอาล่า

โคอาล่าเป็น สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ที่หลายคนเข้าใจผิดว่าเป็นหมีเพราะเรามักเรียกชื่อพวกเขาต่อหลังคำว่าหมีนั่นเอง แต่ความเป็นจริงแล้วพวกเขาไม่ใช่หมีแถมยังเป็นสัตว์เลี้ยงลูกที่มีกระเป๋าหน้าท้องอีกด้วย พวกเขาถูกจัดอยู่ในจำพวกเดียวกับพอสซัม ตัวเมียนั้นจะมีกระเป๋าหน้าท้องเอาไว้ให้ลูกที่เพิ่งคลอดอาศัยอยู่

โคอาล่า

ย้อนกลับไปในปี 1798 ได้มีการบันทึกว่าค้นพบ สัตว์น่ารัก ชนิดดังกล่าวเป็นครั้งแรกโดยนักธรรมชาติวิทยาชาวฝรั่งเศสคนหนึ่ง หลังจากนั้นพวกเขาก็กลายเป็นที่รู้จักและคนทั้งโลกก็ได้ชื่นชมความน่ารักของพวกเขามากขึ้นกว่าเดิม ความแปลกของสัตว์ชนิดนี้ก็คือพวกเขานั้นไม่จำเป็นต้องดื่มน้ำเลยแม้แต่น้อย พวกเขาสามารถกินใบยูคาลิปตัสและนำน้ำจากใบไม้มาใช้หล่อเลี้ยงร่างกายได้อย่างเพียงพอ

โคอาล่า

ด้วยเหตุนี้มันจึงช่วยพวกเขาไม่จำเป็นต้องลงมาจากต้นไม้เพื่อเผชิญหน้ากับอันตรายในธรรมชาติแต่อย่างใด พวกเขานั้นสามารถมีส่วนสูงได้สูงสุดถึง 78 เซนติเมตรและน้ำหนักตัวมากสุดประมาณ 12 กิโลกรัมในขณะที่ตัวเมียนั้นจะมีความสูงและน้ำหนักที่น้อยกว่า ลักษณะภายนอกของพวกเขานั้นจะแตกต่างกันตามถิ่นที่อยู่ อย่างเช่นหากอาศัยอยู่ทางตอนใต้ก็จะทำให้พวกเขามีขนหนาเหมือนกับขนของแกะ

โคอาล่า

แต่หากเป็นพวกที่อยู่ทางตอนเหนือก็จะมีขนที่สั้นกว่า ถิ่นอาศัยของพวกเขานั้นจะเป็นป่าที่มีต้นยูคาลิปตัสอย่างเช่นในรัฐ NEW SOUTH WELL VICTORIA SOUTH AUSTRALIA หรือ QUEENSLAND ศัตรูที่สำคัญมากที่สุดสำหรับพวกเขาในธรรมชาตินั้นไม่ใช่ สัตว์ป่า ด้วยกันแต่เป็นมนุษย์ที่ต้องการล่าพวกเขาเพื่อเอาขนจนทำให้พวกเขาเกือบสูญพันธุ์ในปี 1963 และทำให้มีกฎหมายห้ามล่าพวกเขาตามมา แต่ถึงแม้จะมีกฎหมายควบคุมพฤติกรรมมนุษย์พวกเขาก็ยังคงถูกคุกคามจากไฟป่าอยู่ดี 

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
สัตว์บก

สลอธ สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่มีเสน่ห์เป็นความเชื่องช้า

หากพูดถึงสัตว์ที่มีความเชื่องช้าที่สุดในโลก หลายคนก็คงจะนึกถึง สลอธ อย่างแน่นอน สล็อธ เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม จัดอยู่ในสัตว์ประเภทเดียวกันกับตัวนิ่มและนางอาย มีขนาดพอดีไม่เล็กไม่ใหญ่เกินไป

โดยมีขนาดตัวประมาณ 23 นิ้วและมีน้ำหนักราว 4 กิโลกรัม เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่มีเสน่ห์เฉพาะตัวได้แก่ความเชื่องช้า อาจเป็นเสน่ห์ที่ฟังแล้วแปลก แต่ความเชื่องช้านี้ ถือเป็นสัญลักษณ์ของสัตว์ชนิดนี้มาอย่างยาวนาน

สลอธ มีถิ่นกำเนิดในทวีปอเมริกาเหนือ

สลอธ

สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่มีความเชื่องช้าที่สุดในโลกนี้มีถิ่นกำเนิดจากบริเวณทวีปอเมริกาเหนือ ปัจจุบัน สามารถพบ สลอธ ได้มากในเขตป่าฝนร้อนชื้นของอเมริกากลางและอเมริกาใต้

สลอธ

โดยที่พบได้ในปัจจุบันมีทั้งหมด 2 สายพันธุ์ ได้แก่ สลอธ 2 นิ้ว และ สลอธ 3 นิ้ว ถึงแม้ว่าจะพบได้ไม่ยากนัก แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น สลอธ จัดอยู่ในกลุ่มสัตว์ใกล้สูญพันธ์ ลักษณะนิสัยของสลอธคือ จะชอบห้อยตัวอยู่บนต้นไม้สูง และกิจกรรมทุกอย่างที่มันทำก็ทำบนต้นไม้ทั้งสิ้น

แม้แต่ตอนมันตายก็ยังห้อยโหนอยู่บนต้นไม้ สลอธ เป็นสัตว์ที่รักความส่วนตัว ไม่ชอบเข้าสังคมชีวิตของวันในแต่ละวันจะหมดไปกับการนอน โดยจะใช้เวลานอนมากถึง 15 ถึง 20 ชั่วโมงต่อวัน

สลอธ

หลายคนคงแปลกใจว่าสัตว์ชนิดนี้มีการเข้าสังคมอย่างไร หากสัตว์ชนิดอื่นการเข้าสังคมหมายถึงการที่ช่วยกันหาอาหาร การเข้าสังคมของสัตว์ที่รักการนอนอย่างสลอธก็คงจะเป็น การที่พวกมันได้นอนรวมตัวกันอยู่บนต้นไม้ต้นเดียวกันเท่านั้นเอง

ดังที่ได้กล่าวไปข้างต้นว่ากิจกรรมทุกอย่างของสลอธ ล้วนแล้วแต่ทำบนต้นไม้ทั้งสิ้น ไม่เว้นแม้แต่การผสมพันธุ์และการคลอดลูก เป็นปกติของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมส่วนใหญ่ที่สามารถมีลูกได้แค่ครั้งละตัว

สลอธ

โดยจะตั้งครรภ์ห้าถึงหกเดือน มาถึงอาหารการกิน สลอธ กินใบไม้และผลไม้เป็นอาหารหลัก เนื่องจากพวกมันอาศัยอยู่บนต้นไม้ทำให้การล่าสัตว์หรือการออกไปหาพันธุ์พืชก็ไม่มีความจำเป็นอีกต่อไป ส่วนน้ำที่พวกมันกินจะเป็นน้ำที่ได้มาจากพืชชุมน้ำ

โดยมีข้อมูลว่าพืชที่ตัวสลอธชอบกิน เป็นพืชที่ไม่ค่อยมีสารอาหารครบถ้วนเท่าไหร่นัก นี่อาจจะเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้พวกมันเคลื่อนที่ช้า จนได้รับฉายาว่าเป็นสัตว์ที่เชื่องช้าที่สุดในโลก

สล็อธ ความสวยงามของความขี้เกียจ

สลอธ

หลายคนมองว่า สลอธ เป็นสัตว์ที่ขี้เกียจที่สุดในโลก วันๆ อยู่แต่บนต้นไม้ไม่ออกหากินเหมือนสัตว์ชนิดอื่น แต่ความเชื่องช้าและความขี้เกียจนี้ถือเป็นเสน่ห์อันสวยงามของสลอธ เพราะ สลอธ ไม่เคยทำร้ายใคร แม้ว่ามันอาจจะไม่สร้างประโยชน์ให้กับระบบนิเวศมากมายนัก

ในทางกลับกันมันก็ไม่เคยสร้างปัญหาให้กับเพื่อนร่วมโลก อีกทั้งยังสร้างสีสัน เป็นสัตว์ที่มีความแตกต่างอย่างสิ้นเชิงจากสัตว์ชนิดอื่น และถึงแม้ว่าหลายคนมองว่ามันเป็นสัตว์ที่มีความอ่อนแอ

แต่กรงเล็บของมันมีความแข็งแรงทำให้สามารถห้อยตัวอยู่บนต้นไม้ได้อย่างสบาย ถือเป็นความสวยงามของสัตว์โลกอีกหนึ่งชนิด ที่หากสูญหายไปก็จะทำให้สีสันของผืนป่าหายไปเช่นเดียวกัน

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
สัตว์บก

ประวัติ ม้าลาย จัดอยู่ในสกุลม้า (EGUUS ) มีขนาดเล็กกว่าม้าทั่วไป

ม้าลายมีลักษณะของหางคล้ายกับหางของลา มีขนที่คอเป็นแผงสั้นตั้งขึ้นเหมือนขนแปรง ลำตัวมีสีสันโดดเด่น คือ มีสีขาวสลับกับสีดำทั้งตัว ประวัติ ม้าลาย ซึ่งถ้าอิงตามความเชื่อของชาวพื้นเมืองของทวีปแอฟริกาจะมีความเชื่อว่า ม้าลายมีพื้นขนสีดำและมีสีขาวเป็นลายพาดผ่าน และมันมักจะอยุ่รวมกันเป็นฝูง โดยในฝูงหนึ่งสามารถมีม้าลายตั้งแต่ 100 ตัว-1,000 ตัวเลยทีเดียว มีถิ่นกำเนิดในทวีปแอฟริกาทางตอนใต้ของทะเลทรายซาฮาร่า ชอบอาศัยอยู่ตามพื้นที่ราบโล่งหรือบริเวณที่มีลักษณะเป็นทุ่งกว้าง โดยจะเล็มกินหญ้าและยอดอ่อนของต้นไม้บางชนิดเป็นอาหาร ม้าลายเป็นสัตว์ที่ถือว่ามีอันตรายรอบด้าน ทั้งยังเป็นสัตว์ที่สายตาไม่ค่อยดีมีเพียงจมูกที่รับกลิ่นได้ดีและฟันที่ค่อนข้างคม มันต้องอาศัยคอยสังเกตอาการของสัตว์ใกล้เคียงเพื่อเตือนภัย

ประวัติ ม้าลาย เป็นสัตว์ที่มักจะกัดแทะกินบริเวณส่วนโคนและลำต้นของต้นไม้หรือหญ้า 

ประวัติ ม้าลาย

และจะปล่อยให้แอนทีโลปหรือสัตว์อื่นกินยอดหญ้าแทน นับว่าเป็นการแสดงน้ำใจก็ว่าได้ เพราะสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมนั้นลึกๆแล้วมักจะมีความอ่อนโยนอยู่ภายในจิตใจไม่มากก็น้อย ประวัติม้าลาย โดยปกติม้าลายจะมีอายุอยู่ได้ประมาณ 25-30 ปี และเมื่ออายุครบ 2 ปี เป็นวัยกำลังเจริญพันธุ์ก็จะเริ่มมีการผสมพันธุ์ เมื่อมีการผสมพันธุ์กันแล้ว ม้าลายตัวเมียจะใช้เวลาตั้งท้องนานประมาณ 345-390 วัน ซึ่งถือว่าใช้เวลาค่อนข้างนานมากเลยทีเดียวสำหรับการให้ลูก 1 ตัวต่อ 1 ครั้ง เมื่อครบกำหนดคลอดละคลอดลูกม้าออกมาลักษณะลูกม้าแรกเกิดจะมีขนนุ่มฟู ลวดลายตามลำตัวจะเป็นสีน้ำตาลสลับกับสีขาว

ประวัติ ม้าลาย

ซึ่งอาจเป็นเพราะเพิ่งคลอดทำให้สีขนยังไม่ชัดเท่าไหร่นักเมื่อเวลาผ่านไปสีจะค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีขาวดำชัดขึ้นเอง และเพียงไม่นานลูกม้าตัวน้อยก็จะสามารถเดินและวิ่งได้อย่างคล่องแคล่วโดยในช่วงที่ลูกม้าเล็กจะอาศัยกินนมแม่เป็นก่อนแล้วจึงค่อยๆเปลี่ยนไปกินหญ้าทีหลัง ซึ่งก็ถือว่าเป็นลักษณะพิเศษของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมทั่วไป ม้าลายไม่นิยมนำมาฝึกเพื่อใช้งานสักเท่าไหร่นักเนื่องจากเป็นสัตว์ที่มีอารมณ์ฉุนเฉียวง่าย แต่ก็พบเห็นได้บ้างว่ามีการนำม้าลายมาลากรถให้คนนั่ง เช่น ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ฯลฯ นอกจากนี้ก็มักจะเป็นการนำไปแสดงหรือโชว์ลวดลายอันสวยงามในงานต่างๆ ด้วยลวดลายอันโดดเด่นของม้าลาย นำไปใช้เป็นสัญลักษณ์ต่างๆ เช่น ทางม้าลาย บนพื้นถนนสำหรับการข้ามถนนของผู้คนที่เดินสัญจรปกตินั่นเอง

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
สัตว์บก

สตอรี่ของช้าง ช้างถือว่ามีความสำคัญมากในระบบนิเวศเป็นอย่างมาก 

สตอรี่ของช้าง เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนม ขนาดใหญ่ในวงศ์ Elephantidae ปัจจุบันรับรองว่ามีอยู่ 3 สปีชีส์ คือ ช้างแอฟริกา, ช้างป่าแอฟริกา และช้างเอเชีย วงศ์ Elephantidae เป็นวงศ์เดียวที่ยังไม่สูญพันธุ์ในอันดับ Proboscidea สมาชิกที่สูญพันธุ์ไปแล้ว เช่น มาสโตดอน (mastodon) วงศ์ Elephantidae ยังมีกลุ่มที่บัดนี้สูญพันธุ์ไปแล้วหลายกลุ่ม รวมทั้งช้างแมมมอธ และช้างงาตรง ช้างแอฟริกามีหูขนาดใหญ่กว่าและหลังเว้า ส่วนช้างเอเชียมีหูขนาดเล็กกว่าและมีหลังนูนหรือราบ ลักษณะเด่นของช้างทุกชนิดได้แก่ งวงยาว หูกางขนาดใหญ่ ขาใหญ่ และผิวหนังที่หนาแต่ละเอียดอ่อนงวงใช้สำหรับการหายใจ หยิบจับอาหารและน้ำเข้าปา และคว้าวัตถุ งาซึ่งดัดแปลงมาจากฟันตัด ใช้เป็นทั้งอาวุธและเครื่องมือสำหรับเคลื่อนย้ายวัตถุและขุดดิน หูกางขนาดใหญ่ช่วยในการคงอุณหภูมิกายให้คงที่ เช่นเดียวกับใช้ในการสื่อสาร ขาใหญ่เหมือนเสาเพื่อรองรับน้ำหนักตัวของมันเอง 

สตอรี่ของช้าง เป็นสัตว์บก ที่เลี้ยงลูกด้วยน้ำนม ที่มีขนาดใหญ่

สตอรี่ของช้าง

ถ้าพูดถึงสตอรี่ของช้าง สัตว์ที่มีขนาดใหญ่ ทุกคนคงจะนึกถึงช้างเป็นอันดับแรกๆ ช้างสามารถสร้างประโยชน์ให้แก่สัตว์ป่าต่าง ๆ มากมาย เช่น ขนาดตัวที่ใหญ่ของมันช่วยเดินเปิดเส้นทางให้สัตว์สายพันธุ์อื่น ๆ การสร้างแหล่งน้ำโดยการใช้งาขุดเจาะพื้นดินเพื่อให้สัตว์อื่น ๆ มีแหล่งน้ำใช้ อีกทั้งยังมีส่วนช่วยในการกระจายเมล็ดพันธุ์พืชไปยังส่วนต่าง ๆ ของผืนป่าผ่านการขับถ่ายปัจจุบันจำนวนที่อยู่อาศัยของช้างมีจำนวนลดลง

สตอรี่ของช้าง

เนื่องจากการบุกรุกพื้นที่ป่าของมนุษย์ ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของช้าง ส่งผลให้พื้นที่อาศัยของพวกมันไม่ปลอดภัยอย่างที่เคยเป็น จนก่อให้เกิดความขัดแย้งระหว่างคนกับช้าง ปัญหาเหล่านี้ยิ่งทำให้คุณภาพชีวิตของช้างแย่ลง อีกสาเหตุสำคัญที่ก่อให้เกิดการบุกรุกพื้นที่ป่าก็คือ โรงงานอุตสาหกรรมไม่ว่าจะเป็นความต้องการด้านทรัพยากร หรือการซื้อที่ดินเพื่อทำกิจกรรมต่างๆ ดังนั้นจึงทำให้ช้างและสัตว์สายพันธุ์อื่นๆต้องเผชิญกับปัญหาการถูกรุกรานเอาเปรียบและมีความเสี่ยงสูงที่จะสูญพันธุ์ในที่สุด 

สตอรี่ของช้าง

ช้างนับว่าเป็นสัตว์ที่มีความสำคัญต่อประเทศชาติของเราเป็นอย่างมาก ถือได้ว่าเป็นสัญลักษณ์ของประเทศไทยทีเดียว ท่านคงจะทราบมาบ้างแล้วว่า สมัยก่อนที่เราจะใช้ธงไตรรงค์นั้นเราก็เคยใช้ธงแดงมีรูปช้างสีขาวอยู่ตรงกลางเป็นธงชาติไทยมาก่อน แม้กระทั่งปัจจุบันนี้ธงราชนาวีของไทยก็ยังคงใช้ธงไตรรงค์มีรูปช้างอยู่กลางผืนธงเป็นสัญลักษณ์อยู่ 

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
สัตว์บก

เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับวัว วัวที่นับว่าเป็นสัตว์ที่มีอยู่ทุกประเทศทั่วโลก

เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับวัว ที่เราทุกคนต่างก็รู้จักกันเป็นอย่างดี วัวเป็นสัตว์มีกีบเท้า ที่เป็นสัตว์เลี้ยงขนาดใหญ่ ชนิดที่สามัญที่สุด วัวถูกเลี้ยงเป็นปศุสัตว์เพื่อเอาเนื้อ เพื่อเอานมและผลิตภัณฑ์นมอื่น ๆ และเป็นสัตว์ลากเทียม ผลิตภัณฑ์อื่นจากวัวมีหนังและมูลเพื่อใช้เป็นปุ๋ยคอกหรือเชื้อเพลิง ในบางประเทศ เช่น อินเดีย วัวเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ สัตว์ที่มนุษย์ยกย่องไม่มีสัตว์ใดเกินกว่าวัวตั้งแต่อดีตจวบจนทุกวันนี้ โดยเฉพาะในประเทศอินเดีย วัวเป็นสัตว์ที่ชาวฮินดูนับถือเหมือนหนึ่งพระเจ้า วัวไม่เพียงแต่ช่วยไถนา ลากเกวียน ใช้แรงงานอื่นๆ แล้ว วัวยังเป็นอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการอีกด้วย ประวัติศาสตร์ของหลายๆ ประเทศ วัวเคยมีบทบาทในสมรภูมิสงครามและรบได้ชัยชนะมาหลายครั้ง ประโยชน์ของวัวนั้นมีมากมาย

เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับวัว เป็นสัตว์ที่มนุษย์นั้นใช้ในการทำอาหาร และยังสามารถใช้เป็นแรงงานได้อีกด้วย

เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับวัว

วัว หรือ โค ปศุสัตว์สำคัญที่ให้ประโยชน์กับมนุษย์มาช้านาน ทั้งเป็นอาหารและใช้แรงงาน เอ่ยถึงวัว อันดับแรกที่นึกถึงคือเนื้อวัวและนมวัว แหล่งโปรตีนและแคลเซียมที่หาได้ง่ายที่สุด ปัจจุบันวัวก็ยังคงเป็นปศุสัตว์สำคัญของมนุษย์ วัว (Cow) หรือโค จัดเป็นสัตว์มีกระดูกสันหลัง และเลี้ยงลูกด้วยนม ในอดีตมนุษย์เลี้ยงวัวใว้เพื่อเอาใว้ใช้แรงงาน รวมทั้งเพื่อการบริโภคทั้งเนื้อและนม แต่เมื่อเทคโนโลยีก้าวหน้ามากขึ้น การใช้แรงงานจากวัวจึงค่อยๆ ลดบทบาทไปจนแทบไม่เหลือ การเลี้ยงวัวในปัจจุบันจึงเลี้ยงเพื่อการบริโภคเป็นหลัก และเนื่องจากวัวเป็นแหล่งอาหารโปรตีนให้กับมนุษย์มาช้านาน จึงมีการพัฒนาสายพันธุ์วัวให้ดียิ่งขึ้นและเหมาะสมกับสภาพภูมิอากาศของท้องถิ่นนั้นๆจนเดี๋ยวนี้มีวัวหลายร้อยสายพันธุ์ แต่แบ่งได้เป็น 2 กลุ่มใหญ่คือ วัวเนื้อ และวัวนม ตัวอย่างสายพันธุ์วัวที่รู้จักกันดี ได้แก่ โคเนื้อพันธุ์บราห์มัน พันธุ์ชาโรเล่ย์ พันธุ์กำแพงแสนโคนมพันธุ์เรดซินดี้ พันธุ์โฮลสไตน์ฟรีเชียน เป็นต้น และวัวก็ไม่ได้ให้ประโยชน์ต่อมนุษย์เพียงแค่เป็นอาหาร หรือใช้แรงงานเท่านั้น แต่ยังเอื้อประโยชน์ต่องานทางวิทยาศาสตร์อีกด้วย

เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับวัว

เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับวัวนั้นนอกจากเป็นสัตว์ที่ใช้แรงงานทำงานให้กับมนุษย์แล้ว ยังอุทิศทุกส่วนของร่างกายเพื่อเป็นประโยชน์ของมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นทางอุตสาหกรรมหรือใช้ทำเป็นยา แต่มนุษย์นั้นเมื่อตายจากไปไม่มีสิ่งใดหลงเหลืออยู่ให้ใช้เป็นประโยชน์ได้เหมือนกับวัว มีแต่ความดีที่สร้างไว้เท่านั้น ที่จะทำให้ทุกคนได้รำลึกนึกถึง

อ่านบทความอื่นๆ: